ตอนที่ผ่านมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ 1 : จักรพรรดิ
https://pantip.com/topic/37958523
ตอนที่ 2 : สาวห้าวผมทอง
https://pantip.com/topic/37967906
ตอนที่ 3 : สายอุตสาหกรรม (1)
https://pantip.com/topic/37978268
ตอนที่ 4 : สายอุตสาหกรรม (2)
https://pantip.com/topic/37991931
ตอนที่ 5 : เสนาธิการคนใหม่
https://pantip.com/topic/38012815
ตอนที่ 6 : นักกีฬา
https://pantip.com/topic/38021632
ตอนที่ 7 : แจ็คเก็ตอาดิดาส
https://pantip.com/topic/38034222
ตอนที่ 8 : บุรุษแจ็คเก็ตอาดิดาส ปะทะ สู้คราใดต้องปราชัย
https://pantip.com/topic/38043278
ตอนที่ 9 : ตัวจริงของบุรุษเสื้อแจ็คเก็ตอาดิดาส
https://pantip.com/topic/38053542
ตอนที่ 10 : สายศิลป์
https://pantip.com/topic/38066629
ตอนที่ 11 : ศึกชิงตำแหน่งสี่ขุนพล
https://pantip.com/topic/38076746
ตอนที่ 12 : หวนคืน
https://pantip.com/topic/38090265
ตอนที่ 13 : เอ็มเพรส ปะทะ ผู้ฆ่ายักษ์
https://pantip.com/topic/38106739
ตอนที่ 14 : ผู้ยิ่งใหญ่
https://pantip.com/topic/38114464
ตอนที่ 15 : การต่อสู้ของเสนาธิการ
https://pantip.com/topic/38143494
ตอนที่ 16 : ผู้คุมกฎของจักรวรรดิบูรพา
https://pantip.com/topic/38154752
ตอนที่ 17 : ผู้มาเยือน
https://pantip.com/topic/38163963
ตอนที่ 18 : ฤาษีต่อสู้
https://pantip.com/topic/38188242
ตอนที่ 19 : มือข้างซ้าย
https://pantip.com/topic/38206504
ตอนที่ 20 : ร้านเบเกอรี่
https://pantip.com/topic/38217743
ตอนที่ 21 : ยูยะ
https://pantip.com/topic/38240757
======================================================================================
ตอนที่ 22 : ปฏิบัติการเก็บวิทย์ประจิม
“เรื่องนี้มันส์ดีเนอะ”
นักเรียนชายคนหนึ่งหันไปคุยกับเพื่อนวัยเดียวกันที่เดินขนาบข้างมาด้วยกัน ทั้งสองเพิ่งจะเดินออกมาจากร้านหนังสือแห่งหนึ่ง
ซึ่งถ้าดูจากชุดนักเรียนที่ทั้งสองสวมใส่ พวกเขาต้องเรียนอยู่ที่โรงเรียนประจิมสวัสดิ์แน่
“ใช่” นักเรียนประจิมสวัสดิ์อีกคนตอบ “เขียนได้สนุกจริง ๆ”
เรื่องที่ทั้งสองพูดถึงคือ เรื่องเกี่ยวกับนิยายเรื่องหนึ่ง
เรื่องนั้นมีชื่อว่า ปลาย นักสืบจำเป็น
(หน้าปกเรื่อง ปลาย นักสืบจำเป็น พื้นที่โฆษณา)
พวกเขาเพิ่งซื้อนิยายเรื่องนี้มาจากร้านหนังสือ แล้วเปิดมันอ่านพลางคุยกันขณะที่เดินไปเรื่อย ๆ
แน่นอนว่าเรื่องที่สองนักเรียนนี้คุยก็ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับนิยายเรื่อง ปลาย นักสืบจำเป็นนี้
“ปลาย โคตรฉลาดเลย”
“ใช่” นักเรียนอีกคนพยักหน้าเห็นด้วย “ฉันชอบนะ ไอ้คำว่า ‘ถึงเวลาสรุปผลการทดลอง’ เนี่ย”
“ไอ้คำที่ปลายพูดตอนพร้อมที่จะสรุปคดีใช่มั้ยล่ะ อืม... กวน ๆ ดี”
ในขณะที่ทั้งคู่พูดคุยอย่างออกรสออกชาตินั้น ก็มีบุคคลสี่คนเดินเข้ามาขวางหน้าพวกเขาไว้
“หยุดก่อน!” หนึ่งในสี่คนนั้นพูดใส่นักเรียนประจิมสวัสดิ์ทั้งสอง
สองนักเรียนจึงหันหน้ามองดูผู้ที่มาขวางพวกเขา
เมื่อสายตาจับจ้องจนมองเห็นผู้มาขวางทางทั้งสี่อย่างชัดเจน ทั้งสองก็ต้องกลืนน้ำลายดังเฮือก สีหน้าแปรเปลี่ยนไป
เพราะผู้ที่เข้ามาขวางทั้งสี่คนสวมเสื้อช็อปสีเทา
ทั้งสี่ก็คือ นักเรียนของโรงเรียนเทคนิคจักรวรรดิบูรพานั่นเอง
“มีอะไรครับ?” หนึ่งในสองนักเรียนประจิมสวัสดิ์พยายามตั้งสติ ถามกลับไป
ผู้ที่พูดว่า “หยุดก่อน” มองหน้าทั้งสองคน แล้วถามกลับไปว่า “พวกแกอยู่สายวิทย์-คณิตใช่มั้ย?”
ทั้งสองพยักหน้าพร้อมกัน
“งั้นดีเลย...” อีกคนในสี่คนของเทคนิคจักรวรรดิบูรพาพูดแทรกขึ้นมา
“ดียังไงครับ?” นักเรียนประจิมสวัสดิ์ถาม
แต่ไม่มีผู้ใดพูดตอบ
เพราะคำตอบของทั้งสี่ไม่ใช่คำพูด หากเป็นหมัดและเท้าที่พุ่งเข้าใส่ทั้งคู่
แต่เหตุใดอยู่ดี ๆ ทั้งสี่จึงโจมตีทั้งสอง
ถึงทั้งสองจะพอรู้ตัวว่าอาจโดนทำร้าย แต่ก็ใช่ว่าจะหลบหลีกการจู่โจมของทั้งสี่พ้น สี่ต่อสอง ผลมันย่อมรู้อยู่แล้ว นักเรียนทั้งสองโดนกระหน่ำทำร้ายเข้าใส่อย่างหนักหน่วง
ไม่นานทั้งสองก็นอนนิ่งลงที่พื้น หนังสือนิยายเรื่อง ปลาย นักสืบจำเป็น ที่เพิ่งซื้อมาฉีกขาดหลุดลุ่ยเสียหายไม่มีชิ้นดี
“เรียบร้อย” หนึ่งในสี่ของจักรวรรดิบูรพาพูดขึ้น แล้วเขาก็ค่อย ๆ ย่อตัวเข้าใกล้ ๆ นักเรียนประจิมสวัสดิ์ที่นอนอ่อนแรงทั้งสองคนนั้น
“หึ.. ฝากเตือนพวกแกสายวิทย์-คณิตของประจิมฯไว้ด้วย ต่อไปจะไปไหนมาไหนระวังตัวให้ดีล่ะ เพราะปฏิบัติการเก็บวิทย์ประจิมของพวกฉันเริ่มต้นขึ้นแล้ว”
ที่แท้แล้วที่กลุ่มนักเรียนเทคนิคจักรวรรดิบูรพาเข้าทำร้ายนักเรียนสายวิทย์-คณิตของโรงเรียนประจิมสวัสดิ์ก็เพราะทำตามปฏิบัติการของพวกเขานั่นเอง
ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้มีชื่อว่า ปฏิบัติการเก็บวิทย์ประจิม
ปฏิบัติการเก็บวิทย์ประจิม
แน่นอนว่าปฏิบัติการนี้เกี่ยวข้องกับโรงเรียนสองโรงเรียน
หนึ่งคือ โรงเรียนเทคนิคจักรวรรดิบูรพา เพราะโรงเรียนนี้เป็นผู้ริเริ่มและลงมือกระทำในปฏิบัติการนี้
สองคือ โรงเรียนประจิมสวัสดิ์ โรงเรียนนี้เป็นฝ่ายถูกกระทำจากโรงเรียนเทคนิคจักรวรรดิบูรพา
ซึ่งชื่อของปฏิบัติการเก็บวิทย์ประจิม ก็มาจากลักษณะของเหยื่อที่ลงมือ เพราะเหยื่อที่ทางฝ่ายเทคนิคจักรวรรดิบูรพาจะจัดการมีเฉพาะนักเรียนสายวิทย์-คณิตของประจิมสวัสดิ์เท่านั้น สายอื่นจะไม่โดนทำร้ายเลย ดังนั้น ชื่อปฏิบัติการนี้จึงเป็น เก็บวิทย์ประจิมนั่นเอง
แต่เหตุใดถึงต้องลงมือเฉพาะนักเรียนสายวิทย์-คณิตเพียงอย่างเดียว หาได้ยุ่งเกี่ยวกับนักเรียนประจิมสวัสดิ์ในสายอื่นเลย
นั่นเพราะทางจักรวรรดิบูรพาทราบดีว่าที่ประจิมสวัสดิ์สายวิทย์-คณิตเป็นสายที่มีฝีมืออ่อนด้อยที่สุด เนื่องจากนักเรียนในสายนี้ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องเรียนมากกว่าสิ่งใด ทำให้ผู้มีฝีมือกล้าแข็งในสายวิทย์-คณิตมีน้อยนิด อีกทั้งยังมีเหตุผลหนึ่งที่ทำให้สายวิทย์-คณิตต้องอ่อนด้อยกว่าสายอื่นอีกด้วย
นั่นคือ สายนี้ไม่มีสี่ขุนพลอยู่
แต่ก็แค่ไม่มีสี่ขุนพลอยู่ หาใช่ไม่มีสี่ขุนพล เพราะในโรงเรียนประจิมสวัสดิ์ทุกสายต้องมีสี่ขุนพลดูแล สายวิทย์-คณิตก็เช่นกัน
ซึ่งผู้ดูแลสายวิทย์-คณิตอยู่ในขณะนี้คือ แอล เจ้าของฉายา อัจฉริยะที่สอง
หนุ่มผมยาว ใบหน้าซีดขาว นั่งเก้าอี้รถเข็นตลอดเวลา นักเรียนคนนี้คือ ผู้ดูแลสายวิทย์-คณิตในตอนนี้ เขาได้รับฉายาว่า อัจฉริยะที่สอง เนื่องจากหนุ่มนั่งรถเข็นผู้นี้มีมันสมองที่ฉลาดปราดเปรื่อง ขบคิดอันใดมิเคยผิดพลาด จนผู้คนยกย่องเรียกหาว่า อัจฉริยะ แต่เพราะเจ้าตัวยังยึดถือว่ามีผู้เป็นอัจฉริยะมากกว่าตนเองอยู่ จึงเพิ่มเติมในฉายาของตัวเองเป็น อัจฉริยะที่สอง ขึ้นมา
ฉะนั้น หากมีอัจฉริยะที่สอง ก็ต้องมีอัจฉริยะที่หนึ่ง
แต่ว่าอัจฉริยะที่หนึ่งคือผู้ใดเล่า?
ถึงแอลจะเป็นผู้ดูแลสายวิทย์-คณิตในขณะนี้ แต่เขาก็เป็นเพียงผู้รักษาการณ์แทนสี่ขุนพลเท่านั้น มิใช่สี่ขุนพลที่แท้จริง
เพราะสี่ขุนพลที่แท้จริงคือ ผู้ที่แอลยึดถือเป็นอัจฉริยะที่หนึ่งเหนือกว่าตนเอง
คนผู้นี้ชื่อ แจ็ค
ผู้มีฉายาว่า โปรเฟสเซอร์ ที่แปลว่า ศาสตราจารย์
แจ็ค หนุ่มสวมแว่นท่าทางเคร่งครัด ภายใต้ทรงผมแสกกลางและกรอบแว่นของเขานั้น แฝงไปด้วยความรู้และความร้ายกาจมากมาย ฟังว่าเขามีไอคิวสูงถึง 180 เลยทีเดียว
เขาคือ สี่ขุนพลแห่งสายวิทย์-คณิตที่กำราบเหล่านักเลงและดูแลนักเรียนในสายเป็นอย่างดี
แต่ตอนนี้สี่ขุนพลผู้นี้ไม่อยู่แล้ว เนื่องเพราะแจ็คได้ถูกทางโรงเรียนประจิมสวัสดิ์มอบหมายให้ไปศึกษาต่อเพิ่มเติมที่ต่างประเทศ ตอนนี้เขาจึงไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทย มิอาจดูแลนักเรียนในสายวิทย์-คณิตได้
ซึ่งอีกไม่นานเขาก็จะกลับมา เพราะใกล้ครบกำหนดที่ต้องกลับมาเรียนที่โรงเรียนประจิมสวัสดิ์ตามเดิมแล้ว อีกแค่สองเดือนเท่านั้น
แต่ตอนนี้กลับเกิดเรื่องขึ้นกับสายวิทย์-คณิตเสียก่อน
เมื่อโปรเฟสเซอร์ แจ็คไม่อยู่ จึงเป็นหน้าที่ของผู้รักษาการณ์แทนอย่างอัจฉริยะที่สอง แอลต้องจัดการแทน ซึ่งเขาก็กำลังปรึกษาเรื่องนี้อยู่กับปรีและเจ เนื่องจากทั้งสองก็อยู่ในสายวิทย์-คณิตเช่นเดียวกัน
“เริ่มมีนักเรียนสายวิทย์-คณิตที่โดนทำร้ายมากขึ้นแล้วนะ” เจพูดขึ้นมา
“อืม..” แอลพยักหน้ารับ มีเขาเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่บนรถเข็น ส่วนคนอื่นนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่โต๊ะในพื้นที่ของตึกสี่สายวิทย์-คณิต
หนุ่มผมยาวผู้นั่งรถเข็นเอ่ยต่อ “นี่ต้องเป็นแผนการอะไรบางอย่างของพวกจักรวรรดิบูรพาแน่”
“อือ... ฉันก็คิดเช่นนั้น” ปรีก็พยักหน้าเช่นกัน “เห็นทีเรื่องนี้จะเป็นปัญหาใหญ่ของสายวิทย์-คณิตแล้ว..” เขาหยุดพูดไปสักพัก คล้ายจะนึกอะไรออก จึงพูดค่อยขึ้นต่อ “เอ่อ.. แอล แจ็คจะกลับมาเมื่อไหร่นะ?”
“จากที่ฉันติดต่อ เค้าว่าอีกสองเดือนน่ะ” แอลบอก “แต่ตอนนี้คงรอแจ็คไม่ได้หรอก ..ฉันเป็นผู้รักษาการณ์แทนก็ต้องหาทางจัดการกับเรื่องนี้เอง”
“อืม.. ก็ดีนะ แต่ระวังตัวด้วยละกัน” ปรีพูดอีก “ยังไม่รู้ว่าคราวนี้พวกจักรวรรดิบูรพาจะมาไม้ไหน”
“หึ ไม่ต้องกลัวหรอก” แอลยิ้มให้ “นายก็รู้นี่ ว่าฉันคือใคร?”
“เออ... ใช่ นายคือ อัจฉริยะที่สอง แอล สุดยอดนักเรียนระดับมันสมองของโรงเรียน”
“อืม..” แอลยิ้มกว้างอีก “ดังนั้น ไม่ต้องห่วง ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง”
หนุ่มผมยาวผู้นั่งรถเข็นพูดคุยกับปรีและเจอีกเล็กน้อย แล้วก็หมุนล้อเลื่อนเคลื่อนรถเข็นออกจากที่นี่ไป
ซึ่งเมื่อแอลไปแล้ว เจก็พูดขึ้นว่า “ปรี... นายว่าแอลจะจัดการกับเรื่องนี้ได้เหรอ... เขาต้องนั่งรถเข็นตลอดเวลา ถ้าเจอพวกนั้นเค้าจะสู้ได้หรือ?”
“หึ หึ...” ปรีมองหน้าเสนาธิการผู้เป็นเพื่อน “นายเพิ่งย้ายมา คงไม่รู้สินะว่าฉายาอัจฉริยะที่สองมันหมายว่าอย่างไร?”
“หือ?” เจมองหน้าปรีอย่างสงสัย
“เออ.. เอาเถอะ อีกไม่นานนายก็รู้เอง เพราะดูท่าครั้งนี้แอลต้องลงมือเองแน่”
(มีต่อครับ)
TWO TOP สองอันตราย - [บทความวุ่นวายในประจิม] - ตอนที่ 22 : ปฏิบัติการเก็บวิทย์ประจิม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
======================================================================================
ตอนที่ 22 : ปฏิบัติการเก็บวิทย์ประจิม
“เรื่องนี้มันส์ดีเนอะ”
นักเรียนชายคนหนึ่งหันไปคุยกับเพื่อนวัยเดียวกันที่เดินขนาบข้างมาด้วยกัน ทั้งสองเพิ่งจะเดินออกมาจากร้านหนังสือแห่งหนึ่ง
ซึ่งถ้าดูจากชุดนักเรียนที่ทั้งสองสวมใส่ พวกเขาต้องเรียนอยู่ที่โรงเรียนประจิมสวัสดิ์แน่
“ใช่” นักเรียนประจิมสวัสดิ์อีกคนตอบ “เขียนได้สนุกจริง ๆ”
เรื่องที่ทั้งสองพูดถึงคือ เรื่องเกี่ยวกับนิยายเรื่องหนึ่ง
เรื่องนั้นมีชื่อว่า ปลาย นักสืบจำเป็น
พวกเขาเพิ่งซื้อนิยายเรื่องนี้มาจากร้านหนังสือ แล้วเปิดมันอ่านพลางคุยกันขณะที่เดินไปเรื่อย ๆ
แน่นอนว่าเรื่องที่สองนักเรียนนี้คุยก็ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับนิยายเรื่อง ปลาย นักสืบจำเป็นนี้
“ปลาย โคตรฉลาดเลย”
“ใช่” นักเรียนอีกคนพยักหน้าเห็นด้วย “ฉันชอบนะ ไอ้คำว่า ‘ถึงเวลาสรุปผลการทดลอง’ เนี่ย”
“ไอ้คำที่ปลายพูดตอนพร้อมที่จะสรุปคดีใช่มั้ยล่ะ อืม... กวน ๆ ดี”
ในขณะที่ทั้งคู่พูดคุยอย่างออกรสออกชาตินั้น ก็มีบุคคลสี่คนเดินเข้ามาขวางหน้าพวกเขาไว้
“หยุดก่อน!” หนึ่งในสี่คนนั้นพูดใส่นักเรียนประจิมสวัสดิ์ทั้งสอง
สองนักเรียนจึงหันหน้ามองดูผู้ที่มาขวางพวกเขา
เมื่อสายตาจับจ้องจนมองเห็นผู้มาขวางทางทั้งสี่อย่างชัดเจน ทั้งสองก็ต้องกลืนน้ำลายดังเฮือก สีหน้าแปรเปลี่ยนไป
เพราะผู้ที่เข้ามาขวางทั้งสี่คนสวมเสื้อช็อปสีเทา
ทั้งสี่ก็คือ นักเรียนของโรงเรียนเทคนิคจักรวรรดิบูรพานั่นเอง
“มีอะไรครับ?” หนึ่งในสองนักเรียนประจิมสวัสดิ์พยายามตั้งสติ ถามกลับไป
ผู้ที่พูดว่า “หยุดก่อน” มองหน้าทั้งสองคน แล้วถามกลับไปว่า “พวกแกอยู่สายวิทย์-คณิตใช่มั้ย?”
ทั้งสองพยักหน้าพร้อมกัน
“งั้นดีเลย...” อีกคนในสี่คนของเทคนิคจักรวรรดิบูรพาพูดแทรกขึ้นมา
“ดียังไงครับ?” นักเรียนประจิมสวัสดิ์ถาม
แต่ไม่มีผู้ใดพูดตอบ
เพราะคำตอบของทั้งสี่ไม่ใช่คำพูด หากเป็นหมัดและเท้าที่พุ่งเข้าใส่ทั้งคู่
แต่เหตุใดอยู่ดี ๆ ทั้งสี่จึงโจมตีทั้งสอง
ถึงทั้งสองจะพอรู้ตัวว่าอาจโดนทำร้าย แต่ก็ใช่ว่าจะหลบหลีกการจู่โจมของทั้งสี่พ้น สี่ต่อสอง ผลมันย่อมรู้อยู่แล้ว นักเรียนทั้งสองโดนกระหน่ำทำร้ายเข้าใส่อย่างหนักหน่วง
ไม่นานทั้งสองก็นอนนิ่งลงที่พื้น หนังสือนิยายเรื่อง ปลาย นักสืบจำเป็น ที่เพิ่งซื้อมาฉีกขาดหลุดลุ่ยเสียหายไม่มีชิ้นดี
“เรียบร้อย” หนึ่งในสี่ของจักรวรรดิบูรพาพูดขึ้น แล้วเขาก็ค่อย ๆ ย่อตัวเข้าใกล้ ๆ นักเรียนประจิมสวัสดิ์ที่นอนอ่อนแรงทั้งสองคนนั้น
“หึ.. ฝากเตือนพวกแกสายวิทย์-คณิตของประจิมฯไว้ด้วย ต่อไปจะไปไหนมาไหนระวังตัวให้ดีล่ะ เพราะปฏิบัติการเก็บวิทย์ประจิมของพวกฉันเริ่มต้นขึ้นแล้ว”
ที่แท้แล้วที่กลุ่มนักเรียนเทคนิคจักรวรรดิบูรพาเข้าทำร้ายนักเรียนสายวิทย์-คณิตของโรงเรียนประจิมสวัสดิ์ก็เพราะทำตามปฏิบัติการของพวกเขานั่นเอง
ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้มีชื่อว่า ปฏิบัติการเก็บวิทย์ประจิม
ปฏิบัติการเก็บวิทย์ประจิม
แน่นอนว่าปฏิบัติการนี้เกี่ยวข้องกับโรงเรียนสองโรงเรียน
หนึ่งคือ โรงเรียนเทคนิคจักรวรรดิบูรพา เพราะโรงเรียนนี้เป็นผู้ริเริ่มและลงมือกระทำในปฏิบัติการนี้
สองคือ โรงเรียนประจิมสวัสดิ์ โรงเรียนนี้เป็นฝ่ายถูกกระทำจากโรงเรียนเทคนิคจักรวรรดิบูรพา
ซึ่งชื่อของปฏิบัติการเก็บวิทย์ประจิม ก็มาจากลักษณะของเหยื่อที่ลงมือ เพราะเหยื่อที่ทางฝ่ายเทคนิคจักรวรรดิบูรพาจะจัดการมีเฉพาะนักเรียนสายวิทย์-คณิตของประจิมสวัสดิ์เท่านั้น สายอื่นจะไม่โดนทำร้ายเลย ดังนั้น ชื่อปฏิบัติการนี้จึงเป็น เก็บวิทย์ประจิมนั่นเอง
แต่เหตุใดถึงต้องลงมือเฉพาะนักเรียนสายวิทย์-คณิตเพียงอย่างเดียว หาได้ยุ่งเกี่ยวกับนักเรียนประจิมสวัสดิ์ในสายอื่นเลย
นั่นเพราะทางจักรวรรดิบูรพาทราบดีว่าที่ประจิมสวัสดิ์สายวิทย์-คณิตเป็นสายที่มีฝีมืออ่อนด้อยที่สุด เนื่องจากนักเรียนในสายนี้ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องเรียนมากกว่าสิ่งใด ทำให้ผู้มีฝีมือกล้าแข็งในสายวิทย์-คณิตมีน้อยนิด อีกทั้งยังมีเหตุผลหนึ่งที่ทำให้สายวิทย์-คณิตต้องอ่อนด้อยกว่าสายอื่นอีกด้วย
นั่นคือ สายนี้ไม่มีสี่ขุนพลอยู่
แต่ก็แค่ไม่มีสี่ขุนพลอยู่ หาใช่ไม่มีสี่ขุนพล เพราะในโรงเรียนประจิมสวัสดิ์ทุกสายต้องมีสี่ขุนพลดูแล สายวิทย์-คณิตก็เช่นกัน
ซึ่งผู้ดูแลสายวิทย์-คณิตอยู่ในขณะนี้คือ แอล เจ้าของฉายา อัจฉริยะที่สอง
หนุ่มผมยาว ใบหน้าซีดขาว นั่งเก้าอี้รถเข็นตลอดเวลา นักเรียนคนนี้คือ ผู้ดูแลสายวิทย์-คณิตในตอนนี้ เขาได้รับฉายาว่า อัจฉริยะที่สอง เนื่องจากหนุ่มนั่งรถเข็นผู้นี้มีมันสมองที่ฉลาดปราดเปรื่อง ขบคิดอันใดมิเคยผิดพลาด จนผู้คนยกย่องเรียกหาว่า อัจฉริยะ แต่เพราะเจ้าตัวยังยึดถือว่ามีผู้เป็นอัจฉริยะมากกว่าตนเองอยู่ จึงเพิ่มเติมในฉายาของตัวเองเป็น อัจฉริยะที่สอง ขึ้นมา
ฉะนั้น หากมีอัจฉริยะที่สอง ก็ต้องมีอัจฉริยะที่หนึ่ง
แต่ว่าอัจฉริยะที่หนึ่งคือผู้ใดเล่า?
ถึงแอลจะเป็นผู้ดูแลสายวิทย์-คณิตในขณะนี้ แต่เขาก็เป็นเพียงผู้รักษาการณ์แทนสี่ขุนพลเท่านั้น มิใช่สี่ขุนพลที่แท้จริง
เพราะสี่ขุนพลที่แท้จริงคือ ผู้ที่แอลยึดถือเป็นอัจฉริยะที่หนึ่งเหนือกว่าตนเอง
คนผู้นี้ชื่อ แจ็ค
ผู้มีฉายาว่า โปรเฟสเซอร์ ที่แปลว่า ศาสตราจารย์
แจ็ค หนุ่มสวมแว่นท่าทางเคร่งครัด ภายใต้ทรงผมแสกกลางและกรอบแว่นของเขานั้น แฝงไปด้วยความรู้และความร้ายกาจมากมาย ฟังว่าเขามีไอคิวสูงถึง 180 เลยทีเดียว
เขาคือ สี่ขุนพลแห่งสายวิทย์-คณิตที่กำราบเหล่านักเลงและดูแลนักเรียนในสายเป็นอย่างดี
แต่ตอนนี้สี่ขุนพลผู้นี้ไม่อยู่แล้ว เนื่องเพราะแจ็คได้ถูกทางโรงเรียนประจิมสวัสดิ์มอบหมายให้ไปศึกษาต่อเพิ่มเติมที่ต่างประเทศ ตอนนี้เขาจึงไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทย มิอาจดูแลนักเรียนในสายวิทย์-คณิตได้
ซึ่งอีกไม่นานเขาก็จะกลับมา เพราะใกล้ครบกำหนดที่ต้องกลับมาเรียนที่โรงเรียนประจิมสวัสดิ์ตามเดิมแล้ว อีกแค่สองเดือนเท่านั้น
แต่ตอนนี้กลับเกิดเรื่องขึ้นกับสายวิทย์-คณิตเสียก่อน
เมื่อโปรเฟสเซอร์ แจ็คไม่อยู่ จึงเป็นหน้าที่ของผู้รักษาการณ์แทนอย่างอัจฉริยะที่สอง แอลต้องจัดการแทน ซึ่งเขาก็กำลังปรึกษาเรื่องนี้อยู่กับปรีและเจ เนื่องจากทั้งสองก็อยู่ในสายวิทย์-คณิตเช่นเดียวกัน
“เริ่มมีนักเรียนสายวิทย์-คณิตที่โดนทำร้ายมากขึ้นแล้วนะ” เจพูดขึ้นมา
“อืม..” แอลพยักหน้ารับ มีเขาเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่บนรถเข็น ส่วนคนอื่นนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่โต๊ะในพื้นที่ของตึกสี่สายวิทย์-คณิต
หนุ่มผมยาวผู้นั่งรถเข็นเอ่ยต่อ “นี่ต้องเป็นแผนการอะไรบางอย่างของพวกจักรวรรดิบูรพาแน่”
“อือ... ฉันก็คิดเช่นนั้น” ปรีก็พยักหน้าเช่นกัน “เห็นทีเรื่องนี้จะเป็นปัญหาใหญ่ของสายวิทย์-คณิตแล้ว..” เขาหยุดพูดไปสักพัก คล้ายจะนึกอะไรออก จึงพูดค่อยขึ้นต่อ “เอ่อ.. แอล แจ็คจะกลับมาเมื่อไหร่นะ?”
“จากที่ฉันติดต่อ เค้าว่าอีกสองเดือนน่ะ” แอลบอก “แต่ตอนนี้คงรอแจ็คไม่ได้หรอก ..ฉันเป็นผู้รักษาการณ์แทนก็ต้องหาทางจัดการกับเรื่องนี้เอง”
“อืม.. ก็ดีนะ แต่ระวังตัวด้วยละกัน” ปรีพูดอีก “ยังไม่รู้ว่าคราวนี้พวกจักรวรรดิบูรพาจะมาไม้ไหน”
“หึ ไม่ต้องกลัวหรอก” แอลยิ้มให้ “นายก็รู้นี่ ว่าฉันคือใคร?”
“เออ... ใช่ นายคือ อัจฉริยะที่สอง แอล สุดยอดนักเรียนระดับมันสมองของโรงเรียน”
“อืม..” แอลยิ้มกว้างอีก “ดังนั้น ไม่ต้องห่วง ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง”
หนุ่มผมยาวผู้นั่งรถเข็นพูดคุยกับปรีและเจอีกเล็กน้อย แล้วก็หมุนล้อเลื่อนเคลื่อนรถเข็นออกจากที่นี่ไป
ซึ่งเมื่อแอลไปแล้ว เจก็พูดขึ้นว่า “ปรี... นายว่าแอลจะจัดการกับเรื่องนี้ได้เหรอ... เขาต้องนั่งรถเข็นตลอดเวลา ถ้าเจอพวกนั้นเค้าจะสู้ได้หรือ?”
“หึ หึ...” ปรีมองหน้าเสนาธิการผู้เป็นเพื่อน “นายเพิ่งย้ายมา คงไม่รู้สินะว่าฉายาอัจฉริยะที่สองมันหมายว่าอย่างไร?”
“หือ?” เจมองหน้าปรีอย่างสงสัย
“เออ.. เอาเถอะ อีกไม่นานนายก็รู้เอง เพราะดูท่าครั้งนี้แอลต้องลงมือเองแน่”
(มีต่อครับ)