TWO TOP สองอันตราย - [บทบูรพารุกราน] - ตอนที่ 18 : ฤาษีต่อสู้

ตอนที่ผ่านมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

====================================================================================

ตอนที่ 18 : ฤาษีต่อสู้    


    หนึ่งในห้าผู้คุมกฎของจักรวรรดิบูรพา ซ่อนดาบในรอยยิ้ม ชาได้ยกพวกมาบุกถึงโรงเรียนประจิมสวัสดิ์

    ลูกน้องทั้งแปดของชาจัดการยักษ์วัดแจ้งกับยักษ์วัดโพธ์ที่ออกมาขวางอย่างไม่ยากเย็น จนทำให้คนผู้หนึ่งต้องเคลื่อนไหว

    คนผู้นี้คือ หนึ่งในสี่ขุนพลของประจิมสวัสดิ์ เฮอมิต ใหญ่ นั่นเอง

    ปกติฤาษีหนุ่มผู้นี้ไม่นิยมปะทะกับผู้ใด ชื่นชอบเป็นผู้ชมมากกว่าจะลงมือสู้เอง

    แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว ใหญ่เดินล้วงกระเป๋ามาประจันหน้ากับผู้บุกรุกทั้งเก้าคน

    เมื่อใหญ่เอ่ยบอกกับสู้คราใดต้องปราชัย เชนที่ตามออกมาทีหลังให้พายักษ์วัดแจ้งกับยักษ์วัดโพธิ์ไปรักษาตัว เขาก็ก้าวขามาข้างหน้ายืนมองหน้าผู้มาเยือนทั้งหมด

    “แก..ใช่มั้ย?” ใหญ่พูดขึ้นโดยที่ปากยังคาบบุหรี่อยู่

    คำพูดนี้ของใหญ่หาได้พูดบอกกับลูกสมุนทั้งแปดของชา เพราะสายตาของฤาษีหนุ่มผู้นี้จับจ้องมองผู้คุมกฎผมเดดร็อคแต่เพียงผู้เดียว

    ใหญ่พูดต่อ “แกคือคนที่ทำร้ายแม็กกี้ใช่มั้ย?”

    ชามองหน้าชายคาบบุหรี่ แสยะยิ้มกวน ๆ ให้ “แม็กกี้ที่แกว่าใช่ไอ้คนที่ใช้ไพ่มั้ยล่ะ ...ถ้าใช่ ฉันนี่แหละคนจัดการมันเอง!”

    “เป็นแก..” ใหญ่จ้องมองด้วยแววตาดุดัน “เป็นแกที่บังอาจมาทำเพื่อนฉัน”

    “เออดิ” ชายังแสดงท่าทีกวนเบื้องล่างตอบไป

    จะเห็นได้ว่าใหญ่ไม่ได้พูดว่าแม็กกี้เป็นลูกน้อง แต่บอกว่าเป็นเพื่อนแทน

    แม้แม็กกี้หนุ่มนักเล่นเกมจะเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียน และยังเป็นหนึ่งในสองผู้คุมตึกอุตสาหกรรม ลูกน้องสายตรงของสี่ขุนพลแห่งสายอุตสาหกรรมอย่างใหญ่ แต่ว่าใหญ่ก็ยังยึดถือแม็กกี้เป็นเพื่อน มิเคยคิดว่าเป็นหนุ่มนักเล่นเกมเป็นลูกน้อง ซึ่งฤาษีหนุ่มยึดถือว่า ‘มิตรภาพไม่เกี่ยงระยะเวลาหรืออายุ’ เขาจึงคิดว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดหากยึดถือเป็นเพื่อนแล้ว คนผู้นั้นจะเป็นอะไร ยศศักดิ์แค่ไหน มีอายุมากหรือน้อยกว่าเขาเพียงใด เขาก็ไม่สน จะคงยึดถือเป็นเพื่อนอยู่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

    ผู้ใดที่เป็นเพื่อนกับใหญ่ ก็จะเป็นเพื่อนกับใหญ่ไปตลอดกาล

    “แต่แกเป็นใครกัน ถึงขนาดกล้ามาเจอกับพวกฉันคนเดียว” ชาถาม

    “ฉันคือ หนึ่งในสี่ขุนพลของโรงเรียนนี้ ฉายาเฮอมิต ชื่อใหญ่”

    “อ้อ... สี่ขุนพลหรือว่ะ... หึ หึ” ชามองหน้า “ทำไมไม่เรียกจักรพรรดิมาเลยว่ะ ระดับสี่ขุนพลไม่พอมือฉันหรอก”

    “งั้นเหรอ..” ใหญ่พูดแล้วยกมือคีบบุหรี่ขึ้น พ่นควันออกหนึ่งฟอด แล้วค่อยกลับมาสูบบุหรี่ต่อ และเอามือล้วงกระเป๋าตามเดิม

    “เออดิ อย่างแกแค่ลูกน้องฉันก็พอ” แล้วชาก็ยกมือขึ้นเป็นสัญญาณให้เหล่าลูกน้องได้รู้ “จัดการ!!”

    ทันทีที่ได้รับคำสั่ง ลูกน้องทั้งแปดของชาต่างกระชับสิ่วแกะสลักในมือขึ้นมา แล้วเคลื่อนตัวเข้าหาใหญ่อย่างรวดเร็ว

    ทั้งหมดเคลื่อนที่ล้อมรอบตัวใหญ่ วิ่งวนไปมา

    นี่คือ ค่ายกลแปดพิฆาต เป็นกระบวนท่าร่วมประสานของหน่วยพิเศษทั้งแปดของชา

    ทั้งแปดขยับตัวสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งกันอย่างรวดเร็วจนใหญ่ได้เพียงแต่มองตาม

    เริ่มมีการจู่โจมเข้าใส่ใหญ่แล้ว

    สองในแปดที่ตอนนี้อยู่ทางด้านหน้าและหลัง แทงสิ่วในมือพุ่งเข้าหาใหญ่อย่างรวดเร็ว

    ใหญ่แม้ไม่ยกมือขึ้นป้องปัดเอาแต่ล้วงกระเป๋า แต่ก็สามารถหลบหลีกได้ เขาขยับขาคล้ายเต้นฟุตเวิร์ค เคลื่อนตัวแบบวงกลมจนพ้นการโจมตีครั้งนี้ได้

    แต่มันไม่หมดเพียงเท่านั้น อีกสองในแปดที่อยู่ทางซ้ายและขวาก็แทงสิ่วแกะสลักสวนตามมาเป็นระลอกสอง

    ใหญ่เหลือบมองทัน โยกตัวพลิกไปด้านข้าง เคลื่อนที่เป็นวงกลม หลบหลีกการโจมตีในชุดที่สองนี้ได้

    เมื่อการโจมตีระลอกสองนี้ไม่ได้ผล คราวนี้สี่คนที่เหลือก็ตัดสินใจแทงสิ่วในมืออย่างพร้อมเพรียง

    ใหญ่ในครั้งนี้ไม่โยกหลบแล้ว เขาย่อตัวลงหลบสิ่วแกะสลักที่พุ่งมาทั้งสี่ให้พุ่งโดนแต่อากาศธาตุ

    การโจมตีของทั้งแปดครั้งนี้จึงไม่มีใครทำร้ายใหญ่ได้เลย




    ปรีและเจที่ตอนแรกตั้งใจจะลงไปรับมือผู้มาเยือนจากจักรวรรดิบูรพา แต่ตอนนี้พวกเขากลับเปลี่ยนใจ มายืนชมการต่อสู้ของใหญ่ร่วมกับแอลและฟ้าอยู่บนตึกสายวิทย์-คณิต

     “โอ้... ใหญ่หลบได้ไงเนี่ย” เจร้องขึ้นเมื่อเห็นใหญ่สามารถหลบการโจมตีของทั้งแปดคนนั้นได้ “ทั้งที่โดนล้อมและมีพื้นที่เพียงนิดเดียวเอง”

    “การเคลื่อนตัวเป็นวงกลมไง” จักรพรรดิ ปรีตอบ

    “ใช่ ..เป็นเพราะการเคลื่อนตัวเป็นวงกลมของใหญ่” อัจฉริยะที่สอง แอลตอบขึ้นบ้าง “ใหญ่ใช้การเคลื่อนตัวเป็นวงกลมที่หมุนไปมาอย่างต่อเนื่อง และไม่มีการเคลื่อนไหวที่สูญเปล่า จึงทำให้แม้มีพื้นที่เพียงน้อยนิดก็สามารถหมุนหลบหลีกได้ไม่ยากนัก แต่ว่าขนาดที่หลบแปดคนที่ล้อมได้นี่... คงมีแค่ใหญ่เท่านั้นแหละ ไม่มีใครทำได้หรอก”

    “อืม...” เจพยักหน้าตาม “แต่ใหญ่ก็ยังไม่ได้โจมตีกลับไปบ้างเลยนะ”

    “ไม่หรอก” คราวนี้เป็นฟ้าผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ตรงนี้เอ่ยขึ้นบ้าง “พี่ใหญ่กำลังรอบางอย่างอยู่”

    “ถูกต้อง” แอลบอกพลางมองดูการต่อสู้ทางด้านล่าง “ตอนนี้เขากำลังรอจังหวะพิฆาตอยู่”


    

    แม้ใหญ่จะหลบหลีกการโจมตีของทั้งแปดพ้น แต่เขายังไม่ได้โจมตีเลยสักครั้ง สองมือของฤาษีหนุ่มยังคงล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ตลอด

    “ถึงแกจะหลบได้ แต่ก็ไม่สามารถโจมตีได้เหมือนกันล่ะว่ะ” หนึ่งในแปดพูดขึ้นมา

    “ใช่ พอแกหลบจนเหนื่อยเมื่อไหร่ แกต้องเสร็จพวกฉันแน่” อีกคนในแปดก็พูดขึ้นมาบ้าง

    “หึ” ใหญ่จ้องมองพวกเขาตอบ

    แม้ฤาษีหนุ่มจะไม่ได้หันหน้าไปมาตามการเคลื่อนไหวของทั้งแปดคน แต่สายตาของเขาจับจ้องดูการเคลื่อนไหวของทั้งหมดโดยตลอด

    ทั้งแปดยังโจมตีเข้าใส่ใหญ่อย่างไม่ลดละ โดยไม่สนใจว่าสี่ขุนพลผู้นี้จะหลบได้หรือไม่ พวกเขาโจมตีจนใหญ่ได้เพียงแต่หลบอย่างเดียวเท่านั้น

    รอยเท้าแสดงการเคลื่อนไหวหลบหลีกของใหญ่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ จนพื้นที่ที่เรียบนั้นมีแต่รอยเท้าหมดแล้ว

    แต่แล้วการเคลื่อนไหวของใหญ่ก็เริ่มเหมือนจะช้าลง

    ใช่ การเคลื่อนไหวของใหญ่เริ่มช้าลงจริง ๆ การหลบหลีกของเขาเริ่มเปลี่ยนจากการหลบหลีกอย่างไม่ยากเย็น กลายเป็นการหลบหลีกอย่างเฉียดฉิว

    ทั้งแปดเริ่มเห็นว่าการโจมตีของพวกตนเริ่มปรากฏผลบ้างแล้ว จึงเร่งจังหวะโจมตีเข้าใส่อย่างไม่ยั้ง

    แต่แล้วก็เกิดสิ่งหนึ่งขึ้น

    ใหญ่เคลื่อนตัวแทรกระหว่างการเคลื่อนที่ของทั้งแปดอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเคลื่อนที่ตามการเคลื่อนไหวของทั้งแปดอย่างไม่ฝืนแรงด้วย

    แล้วในจังหวะนั้นใหญ่ตั้งหลักยกขาเตะทั้งที่มือยังล้วงอยู่ในกระเป๋าเข้าใส่ชายผู้ที่อยู่ใกล้ที่สุดอย่างรุนแรง

    หลังเท้าของใหญ่กระแทกเสยเข้าเต็มคางของผู้โดนจนหัวของคนผู้นั้นกระแทกกับปลายคางของคนที่อยู่ข้างหลังอย่างรุนแรง หัวของคนที่สองก็พุ่งเข้าไปกระแทกโดนปลายคางของคนที่สาม หัวของคนที่สามก็พุ่งไปกระแทกเข้าปลายคางของคนที่สี่ หัวคนที่สี่ก็กระแทกเข้าที่ปลายคางของคนที่ห้า หัวของคนที่ห้าก็กระแทกเข้าที่ปลายคางของคนที่หก หัวของคนที่หกก็กระแทกเข้าที่ปลายคางของคนที่เจ็ด หัวของคนที่เจ็ดก็พุ่งไปกระแทกโดนปลายคางของคนที่แปดจนร่างกระเด็นออกไป

    ทั้งหมดโดนกระแทกปลายคางเป็นทอด ๆ

    ร่างของคนที่แปดพุ่งกลับมาหาใหญ่ แต่สี่ขุนพลผู้นี้เพียงเอียงตัวหลบเล็กน้อย ปล่อยให้ร่างนั้นล้มลงกับพื้นไป

    ร่างของทั้งแปดล้มลง สิ่วแกะสลักในมือก็ร่วงหล่น

    ไม่มีใครลุกขึ้นมาได้เลย

    นี่มันอะไรกัน!

    นี่คือ การโจมตีของใหญ่ หนึ่งในสี่ขุนพล

    เขาโจมตีเพียงครั้งเดียวก็สามารถปราบทั้งแปดได้ แถมยังเตะในลักษณะที่ไม่น่าจะเป็นไปได้อีกด้วย

    ซึ่งการเตะครั้งนี้ของใหญ่เป็นเหมือนการล้มโดมิโน่ ใหญ่รอจังหวะที่ทั้งหมดอยู่ในตำแหน่งที่สามารถกระแทกถึงกันได้ สวนเตะแบบทั้งแปดไม่คาดคิด เพราะสองมือของฤาษีหนุ่มยังล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ แต่กลับเตะออกได้ โดยลูกเตะนั้นซัดเข้าปลายคางของคนแรกให้หัวไปกระแทกปลายคางคนที่สอง แล้วหัวของคนที่สองก็ไปกระแทกปลายคนที่สาม เป็นอย่างนี้เป็นทอด ๆ จนถึงคนที่แปดก็จะล้มลงไป

    ค่ายกลแปดพิฆาตของหน่วยพิเศษทั้งแปดถูกทำลายลงแล้ว

    ใหญ่คงเห็นว่าทั้งแปดเคลื่อนตัวเป็นวงกลมไปมาล้อมตัวเองอยู่ จึงได้คิดการเตะแบบนี้ขึ้นมา เพื่อพิฆาตเพียงครั้งเดียว

    เฮอมิตแห่งสี่ขุนพลช่างร้ายกาจจริง ๆ

    ซ่อนดาบในรอยยิ้ม ชาถึงกับยิ้มไม่ออกเมื่อเห็นลูกน้องทั้งแปดล้มลงเพียงโดนการโจมตีแค่ครั้งเดียว ซึ่งมันไม่น่าเป็นไปได้

    “ร้ายกาจ!”

    เขาหยิบสิ่วแกะสลักขึ้นมากระชับในง่ามนิ้วของตัวเองทันที เพราะเริ่มรับรู้แล้วว่าคู่ต่อสู้คนต่อไปของผู้ชายที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงหน้าก็คือ เขานั่นเอง



    “โอ้! สุดยอด!” เจร้องขึ้นมาอีกครั้ง “เป็นไปได้ไงเนี่ย เตะทีเดียวล้มได้ทั้งแปดคน”

    “หึ.. เป็นไปได้สิ” อัจฉริยะที่สอง แอลตอบ “ใหญ่รอจังหวะจะทำแบบนี้มาตั้งแต่ทีแรกแล้ว”

    “เหรอ... งั้นแสดงว่าใหญ่ก็กะจะจัดการทีเดียวแปดคนเลยสิ”

    “คงเป็นแบบนั้น” แอลบอกพลางบังคับรถเข็นหมุนหาเจเล็กน้อย “เขาใช้การที่ทั้งแปดวิ่งวนอยู่รอบ ๆ ตัวเอง ซัดเข้าใส่แบบโดมิโน่ให้ล้มทั้งหมดในทีเดียว เพราะทั้งแปดคนยืนใกล้กัน สามารถโจมตีในลักษณะนี้ได้”

    “แต่ถึงยังไงก็ไม่น่าจะกระแทกต่อเป็นทอด ๆ ได้นี่”

    “ได้สิเจ” คราวนี้จักรพรรดิปรีเอ่ยขึ้นบ้าง “สำหรับใหญ่การจับตาดูการเคลื่อนไหวและคาดคะเนอ่านการเคลื่อนไหวถัดมาของคู่ต่อสู้ เขาทำได้อยู่แล้ว”

    “อือ.. แต่ว่าการที่จะโจมตีให้ทีเดียวน็อคได้นี่ ...มันต้องรุนแรงมากไม่ใช่หรือ แค่เตะทีเดียวจะน็อคได้ไง”

    “ได้” ปรีบอกต่อ “ถ้าเตะได้ตรงจุดและรุนแรงพอ”

    “อืม..” เจพยักหน้าคิดตาม ตอนนี้เขารับรู้แล้วว่าฤาษีหนุ่มผู้ไม่ค่อยได้สู้อะไรกับใครเค้ามีฝีมือที่ยอดเยี่ยมทีเดียว


(มีต่อ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่