สวัสดีครับ ก็จบไปแล้วนะครับสำหรับบทขุนพลแห่งสายพละ ต่อไปจะเข้าสู่บทศึกชิงขุนพลสายศิลป์ ซึ่งเป็นเรื่องราวความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในสายศิลป์ของโรงเรียนประจิมสวัสดิ์ที่ตอนนี้ไม่มีขุนพล ลองอ่านกันนะครับ
ตอนที่ผ่านมา
ตอนที่ 1 : จักรพรรดิ
https://pantip.com/topic/37958523
ตอนที่ 2 : สาวห้าวผมทอง
https://pantip.com/topic/37967906
ตอนที่ 3 : สายอุตสาหกรรม (1)
https://pantip.com/topic/37978268
ตอนที่ 4 : สายอุตสาหกรรม (2)
https://pantip.com/topic/37991931
ตอนที่ 5 : เสนาธิการคนใหม่
https://pantip.com/topic/38012815
ตอนที่ 6 : นักกีฬา
https://pantip.com/topic/38021632
ตอนที่ 7 : แจ็คเก็ตอาดิดาส
https://pantip.com/topic/38034222
ตอนที่ 8 : บุรุษแจ็คเก็ตอาดิดาส ปะทะ สู้คราใดต้องปราชัย
https://pantip.com/topic/38043278
ตอนที่ 9 : ตัวจริงของบุรุษเสื้อแจ็คเก็ตอาดิดาส
https://pantip.com/topic/38053542
====================================================================================
ตอนที่ 10 : สายศิลป์
สายศิลป์
สายศิลป์ของโรงเรียนประจิมสวัสดิ์นั้นแบ่งออกได้อีกสองสาย
หนึ่งคือ สายศิลป์-ภาษา
อีกหนึ่งคือ สายศิลป์-คำนวณ
ทั้งสองสายนี้มีจำนวนนักเรียนและจำนวนห้องเรียนพอ ๆ กัน ทั้งยังตั้งอยู่ที่ตึกสองเช่นเดียวกันด้วย
แน่นอนว่านักเรียนทั้งสองสายต้องเคยพบหน้ากันเป็นเรื่องธรรมดา ในเมื่อเรียนอยู่ตึกเดียวกัน จนพอมีบางคนที่รู้จักกันดี
แต่ในเมื่อรู้จักกัน ใช่ว่าทั้งสองสายจะไม่มีการกระทบกระทั่งกันเลย
ทั้งสองสายย่อมมีกลุ่มนักเรียนนักเลงที่คอยควบคุมและดูแลสายของตนอยู่ กลุ่มนักเรียนนักเลงเหล่านั้นก็ต้องมีความต้องการที่จะควบคุมสายศิลป์ทั้งหมด จึงมีเรื่องกระทบกระทั่ง แย่งชิงอำนาจกันเสมอ
แต่ปัญหาของการกระทบกระทั่งและต่อสู้กันเหล่านั้น ถูกหยุดได้ด้วยการกระทำของบุคคลคนหนึ่ง
ผู้นั้นคือ สี่ขุนพล
สี่ขุนพลที่ดูแลสายศิลป์นี้เป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง สามารถจัดสรร แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านั้นได้อย่างยอดเยี่ยม จนนักเลงของสายศิลป์ทั้งสองไม่อาจต่อสู้กันเองได้อีก
ฝีมือในการต่อสู้ของสี่ขุนพลผู้นี้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าสี่ขุนพลคนอื่นใดเลย ลูกเตะของคนผู้นี้โจมตีออกมารวดเร็วและแม่นยำ สามารถผันแปรเปลี่ยนแปลงมิอาจคาดเดาได้ จนเรียกได้ว่าเป็นผู้ที่มีการเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโรงเรียนประจิมสวัสดิ์แห่งนี้ก็ว่าได้
ฉายาของสี่ขุนพลผู้นี้คือ เอ็มเพรส
เอ็มเพรสที่แปลว่า จักรพรรดินีหรือจักรพรรดิหญิง
ฉะนั้น สี่ขุนพลผู้นี้ต้องเป็นผู้หญิง
แม้เธอจะเป็นผู้หญิง แต่ระดับฝีมือนั้นมิใช่ธรรมดา สามารถกำราบเหล่านักเลงผู้ชายในสายศิลป์จนขึ้นมาเป็นสี่ขุนพลได้อย่างไม่มีผู้ใดคัดค้าน
ผมอันดำขลับยาวสลวยของเธอส่องประกายเจิดจ้าสวยงามเสมอ ถึงเธอจะชอบรัดผมไว้ แต่มันก็ยังเตะตาผู้คนที่พบเห็น ยามที่เธอต่อสู้ หน้าตาอันไร้ริ้วรอยและรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ส่งความสวยแบบธรรมชาติจนผู้ชายหลงใหล เรียกได้ว่าคู่ต่อสู้ของเธอบางคนแพ้ตั้งแต่เห็นหน้าเธอแล้ว
แต่ว่าสี่ขุนพลฉายาเอ็มเพรสผู้นี้ไม่มีอีกต่อไปแล้ว ด้วยเหตุการณ์หนึ่ง เธอได้ละทิ้งตำแหน่งสี่ขุนพล หายเงียบ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ของเหล่านักเรียนนักเลงอีก
ไม่มีผู้ใดเห็นหญิงสาวผมดำยาว เจ้าของฉายาเอ็มเพรสนี้อีกเลย
สายศิลป์จึงไม่มีสี่ขุนพล
เมื่อไม่มีสี่ขุนพลผู้ดูแลและจัดการปัญหาต่าง ๆ ในสาย ปัญหาระหว่างสายศิลป์-ภาษากับศิลป์–คำนวณจึงบังเกิด
ทั้งสองสายเรียนตึกเดียวกัน สายศิลป์–ภาษาจะมีห้องเรียนประจำอยู่ชั้นสอง ส่วนสายศิลป์–คำนวณอยู่ที่ชั้นสาม พอทั้งสองสายมาเจอกันกัน จึงมีการกระทบกระทั่งกัน จนผู้นำของทั้งสองสายต้องออกมาควบคุม
ซึ่งผู้นำของสายศิลป์–ภาษาตอนนี้คือ เร
บุรุษสองร่าง เร
ชายหนุ่มหน้าสวยรูปหน้าคล้ายผู้หญิง รูปร่างไม่อ้อนแอ้น ไม่สูงใหญ่ ไม่บอบบาง ไม่ล่ำบึก แต่เขาก็คือ ผู้นำของสายศิลป์–ภาษาขณะนี้
ยามเขาอยู่กับเพื่อนผู้หญิงจะอ่อนโยน ดูแล้วเหมือนไม่กล้าแม้จะรังแกใคร แต่ยามใดที่เขาอยู่ในกลุ่มผู้ชายหรือยามต่อสู้ เขาจะดูดุดัน เด็ดขาดขึ้นมา ราวกับว่ากลายเป็นนักสู้ผู้มีประสบการณ์ขึ้นมาทันที
นี่แหละคือที่มาของฉายา บุรุษสองร่าง เร
เนื่องจากเขาอยู่สายศิลป์–ภาษา ซึ่งในสายจะมีนักเรียนหญิงเป็นส่วนมาก และเขาก็เคยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับสี่ขุนพลเอ็มเพรสมาก่อน นักเรียนส่วนใหญ่จึงแต่งตั้งให้เขาเป็นผู้นำของสายศิลป์ เพื่อเป็นคนนำทีมไว้ต่อกรกับพวกสายศิลป์–คำนวณ
ทางสายศิลป์–คำนวณมีผู้นำของสายคือ เอก
ยักษ์วัดแจ้ง เอก
นักเรียนหนุ่มร่างยักษ์ รูปร่างอ้วนใหญ่ สูงถึง 190 เซนติเมตร นิสัยดื้อด้าน ขี้โมโห เอะอะอะไรก็ใช้กำลัง แต่เขาก็เป็นผู้นำของสายศิลป์ – คำนวณในตอนนี้
แม้เขาจะเป็นคนชอบใช้กำลังตัดสิน แต่พลังกายก็มีมากล้น ขนาดที่สามารถยกคนลอยเหนือหัวอย่างสบาย ๆ แถมยังเคยร่วมต่อสู้ช่วยเหลือกับเอ็มเพรสมาแล้วอีกด้วย จนผู้คนเรียกเขาว่ายักษ์วัดแจ้ง
แต่เหตุใดจึงเป็นยักษ์วัดแจ้ง หาใช่ยักษ์วัดโพธิ์
นั่นก็เพราะหน้าตาดุร้ายเขี้ยวยาว จึงไม่อาจเป็นยักษ์จีนแบบยักษ์วัดโพธิ์ได้ ต้องเป็นยักษ์แบบยักษ์วัดแจ้งเท่านั้น
ซึ่งในวันนี้ทั้งสองมาเผชิญหน้ากัน เพราะมีปัญหาระหว่างสายศิลป์–ภาษากับศิลป์–คำนวณขึ้นอีกแล้ว
เรก้าวนำออกมาจากลุ่มนักเรียนสายศิลป์–ภาษา เดินออกมาประจันหน้ากับเอกที่ก้าวออกมาจากกลุ่มนักเรียนสายศิลป์–คำนวณ
โดยตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ลานข้างตึกสอง ซึ่งเป็นพื้นที่ว่างให้นักเรียนได้มาเล่นกีฬาหรือพักผ่อนกัน
“ทำไมพวกนายต้องมาปิดบันไดด้านซีกซ้ายไม่ให้พวกฉันขึ้น” เรพูดขึ้น เขาจ้องหน้าเอก “แถมยังแซวเพื่อนผู้หญิงสายฉันอีกด้วย”
เอกมองหน้า พูดตอบว่า “แล้วพวกแกล่ะ ...ส่งเสียงวี๊ดว๊าย โวยวาย แล้วยังยึดห้องน้ำไปใช้ ไม่ยอมให้พวกฉันเข้าอีก”
“ทำไมล่ะ ..ก็พวกฉันผู้หญิงเยอะกว่า อยากได้ห้องน้ำที่สะอาด ๆ ไม่อยากให้พวกสกปรกมาใช้ห้องน้ำหรอก”
“นายว่าพวกฉันสกปรกงั้นเหรอ แล้วทีพวกแกล่ะ แต่ละคนดัดจริต แต่งตัวกันเหลือเกิน มันดีนักเหรอ ..แถมยังชอบทะเลาะกันเพราะแย่งผู้ชายอีกด้วย”
“หือ... แล้วทำไม ...ถึงฉันจะเป็นผู้ชาย แต่สายฉันมันผู้หญิงเยอะกว่า มีเรื่องอย่างนี้มันก็เรื่องธรรมดา ...ตอนเอ็มเพรสยังอยู่ พวกนายก็ไม่เห็นว่าอะไรเลยนี่”
“มันก็ใช่ ถึงตอนนั้นพวกฉันจะไม่ว่าอะไร แต่ก็ใช่ว่าจะเห็นด้วยกับการกระทำของพวกแก ฉันเห็นแก่เอ็มเพรสต่างหากเล่า เพราะเค้าช่วยเหลือพวกฉันไว้ตลอด”
“งั้นเหรอ... พอไม่มีเอ็มเพรส นายก็เลยยอมไม่ได้แล้วสิ” เรพูดใส่
เอกจ้องหน้าเร “เออสิว่ะ ตอนเอ็มเพรสอยู่ พวกแกเคยทำแบบตอนนี้มั้ยล่ะ ..ก็ไม่เห็นทำกันเลย ...พอไม่อยู่ พวกแกก็เอาทีเดียว”
“แล้วจะให้ทำยังไง?”
“ฉันว่าถึงเวลาที่พวกฉันต้องควบคุมพวกแกแล้ว” เอกบอก
“นายว่างั้นเหรอ..” เรพูดสวน “พวกฉันต่างหากเล่าที่จะคุมพวกนาย”
“หนอย....” ว่าแล้วเอกออกหมัดชกสวนออกไป
เรหลบหมัดนั้นได้ เขาถีบตัวถอยหลัง หลบหลีกหมัดได้อย่างทันท่วงที
จากนั้นพรรคพวกของทั้งสองฝ่ายก็กรูเข้าหากันทันที
(มีต่อครับ)
TWO TOP สองอันตราย - [ศึกชิงขุนพลสายศิลป์] - ตอนที่ 10 : สายศิลป์
ตอนที่ผ่านมา
ตอนที่ 1 : จักรพรรดิ
https://pantip.com/topic/37958523
ตอนที่ 2 : สาวห้าวผมทอง
https://pantip.com/topic/37967906
ตอนที่ 3 : สายอุตสาหกรรม (1)
https://pantip.com/topic/37978268
ตอนที่ 4 : สายอุตสาหกรรม (2)
https://pantip.com/topic/37991931
ตอนที่ 5 : เสนาธิการคนใหม่
https://pantip.com/topic/38012815
ตอนที่ 6 : นักกีฬา
https://pantip.com/topic/38021632
ตอนที่ 7 : แจ็คเก็ตอาดิดาส
https://pantip.com/topic/38034222
ตอนที่ 8 : บุรุษแจ็คเก็ตอาดิดาส ปะทะ สู้คราใดต้องปราชัย
https://pantip.com/topic/38043278
ตอนที่ 9 : ตัวจริงของบุรุษเสื้อแจ็คเก็ตอาดิดาส
https://pantip.com/topic/38053542
====================================================================================
ตอนที่ 10 : สายศิลป์
สายศิลป์
สายศิลป์ของโรงเรียนประจิมสวัสดิ์นั้นแบ่งออกได้อีกสองสาย
หนึ่งคือ สายศิลป์-ภาษา
อีกหนึ่งคือ สายศิลป์-คำนวณ
ทั้งสองสายนี้มีจำนวนนักเรียนและจำนวนห้องเรียนพอ ๆ กัน ทั้งยังตั้งอยู่ที่ตึกสองเช่นเดียวกันด้วย
แน่นอนว่านักเรียนทั้งสองสายต้องเคยพบหน้ากันเป็นเรื่องธรรมดา ในเมื่อเรียนอยู่ตึกเดียวกัน จนพอมีบางคนที่รู้จักกันดี
แต่ในเมื่อรู้จักกัน ใช่ว่าทั้งสองสายจะไม่มีการกระทบกระทั่งกันเลย
ทั้งสองสายย่อมมีกลุ่มนักเรียนนักเลงที่คอยควบคุมและดูแลสายของตนอยู่ กลุ่มนักเรียนนักเลงเหล่านั้นก็ต้องมีความต้องการที่จะควบคุมสายศิลป์ทั้งหมด จึงมีเรื่องกระทบกระทั่ง แย่งชิงอำนาจกันเสมอ
แต่ปัญหาของการกระทบกระทั่งและต่อสู้กันเหล่านั้น ถูกหยุดได้ด้วยการกระทำของบุคคลคนหนึ่ง
ผู้นั้นคือ สี่ขุนพล
สี่ขุนพลที่ดูแลสายศิลป์นี้เป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง สามารถจัดสรร แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านั้นได้อย่างยอดเยี่ยม จนนักเลงของสายศิลป์ทั้งสองไม่อาจต่อสู้กันเองได้อีก
ฝีมือในการต่อสู้ของสี่ขุนพลผู้นี้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าสี่ขุนพลคนอื่นใดเลย ลูกเตะของคนผู้นี้โจมตีออกมารวดเร็วและแม่นยำ สามารถผันแปรเปลี่ยนแปลงมิอาจคาดเดาได้ จนเรียกได้ว่าเป็นผู้ที่มีการเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโรงเรียนประจิมสวัสดิ์แห่งนี้ก็ว่าได้
ฉายาของสี่ขุนพลผู้นี้คือ เอ็มเพรส
เอ็มเพรสที่แปลว่า จักรพรรดินีหรือจักรพรรดิหญิง
ฉะนั้น สี่ขุนพลผู้นี้ต้องเป็นผู้หญิง
แม้เธอจะเป็นผู้หญิง แต่ระดับฝีมือนั้นมิใช่ธรรมดา สามารถกำราบเหล่านักเลงผู้ชายในสายศิลป์จนขึ้นมาเป็นสี่ขุนพลได้อย่างไม่มีผู้ใดคัดค้าน
ผมอันดำขลับยาวสลวยของเธอส่องประกายเจิดจ้าสวยงามเสมอ ถึงเธอจะชอบรัดผมไว้ แต่มันก็ยังเตะตาผู้คนที่พบเห็น ยามที่เธอต่อสู้ หน้าตาอันไร้ริ้วรอยและรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ส่งความสวยแบบธรรมชาติจนผู้ชายหลงใหล เรียกได้ว่าคู่ต่อสู้ของเธอบางคนแพ้ตั้งแต่เห็นหน้าเธอแล้ว
แต่ว่าสี่ขุนพลฉายาเอ็มเพรสผู้นี้ไม่มีอีกต่อไปแล้ว ด้วยเหตุการณ์หนึ่ง เธอได้ละทิ้งตำแหน่งสี่ขุนพล หายเงียบ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ของเหล่านักเรียนนักเลงอีก
ไม่มีผู้ใดเห็นหญิงสาวผมดำยาว เจ้าของฉายาเอ็มเพรสนี้อีกเลย
สายศิลป์จึงไม่มีสี่ขุนพล
เมื่อไม่มีสี่ขุนพลผู้ดูแลและจัดการปัญหาต่าง ๆ ในสาย ปัญหาระหว่างสายศิลป์-ภาษากับศิลป์–คำนวณจึงบังเกิด
ทั้งสองสายเรียนตึกเดียวกัน สายศิลป์–ภาษาจะมีห้องเรียนประจำอยู่ชั้นสอง ส่วนสายศิลป์–คำนวณอยู่ที่ชั้นสาม พอทั้งสองสายมาเจอกันกัน จึงมีการกระทบกระทั่งกัน จนผู้นำของทั้งสองสายต้องออกมาควบคุม
ซึ่งผู้นำของสายศิลป์–ภาษาตอนนี้คือ เร
บุรุษสองร่าง เร
ชายหนุ่มหน้าสวยรูปหน้าคล้ายผู้หญิง รูปร่างไม่อ้อนแอ้น ไม่สูงใหญ่ ไม่บอบบาง ไม่ล่ำบึก แต่เขาก็คือ ผู้นำของสายศิลป์–ภาษาขณะนี้
ยามเขาอยู่กับเพื่อนผู้หญิงจะอ่อนโยน ดูแล้วเหมือนไม่กล้าแม้จะรังแกใคร แต่ยามใดที่เขาอยู่ในกลุ่มผู้ชายหรือยามต่อสู้ เขาจะดูดุดัน เด็ดขาดขึ้นมา ราวกับว่ากลายเป็นนักสู้ผู้มีประสบการณ์ขึ้นมาทันที
นี่แหละคือที่มาของฉายา บุรุษสองร่าง เร
เนื่องจากเขาอยู่สายศิลป์–ภาษา ซึ่งในสายจะมีนักเรียนหญิงเป็นส่วนมาก และเขาก็เคยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับสี่ขุนพลเอ็มเพรสมาก่อน นักเรียนส่วนใหญ่จึงแต่งตั้งให้เขาเป็นผู้นำของสายศิลป์ เพื่อเป็นคนนำทีมไว้ต่อกรกับพวกสายศิลป์–คำนวณ
ทางสายศิลป์–คำนวณมีผู้นำของสายคือ เอก
ยักษ์วัดแจ้ง เอก
นักเรียนหนุ่มร่างยักษ์ รูปร่างอ้วนใหญ่ สูงถึง 190 เซนติเมตร นิสัยดื้อด้าน ขี้โมโห เอะอะอะไรก็ใช้กำลัง แต่เขาก็เป็นผู้นำของสายศิลป์ – คำนวณในตอนนี้
แม้เขาจะเป็นคนชอบใช้กำลังตัดสิน แต่พลังกายก็มีมากล้น ขนาดที่สามารถยกคนลอยเหนือหัวอย่างสบาย ๆ แถมยังเคยร่วมต่อสู้ช่วยเหลือกับเอ็มเพรสมาแล้วอีกด้วย จนผู้คนเรียกเขาว่ายักษ์วัดแจ้ง
แต่เหตุใดจึงเป็นยักษ์วัดแจ้ง หาใช่ยักษ์วัดโพธิ์
นั่นก็เพราะหน้าตาดุร้ายเขี้ยวยาว จึงไม่อาจเป็นยักษ์จีนแบบยักษ์วัดโพธิ์ได้ ต้องเป็นยักษ์แบบยักษ์วัดแจ้งเท่านั้น
ซึ่งในวันนี้ทั้งสองมาเผชิญหน้ากัน เพราะมีปัญหาระหว่างสายศิลป์–ภาษากับศิลป์–คำนวณขึ้นอีกแล้ว
เรก้าวนำออกมาจากลุ่มนักเรียนสายศิลป์–ภาษา เดินออกมาประจันหน้ากับเอกที่ก้าวออกมาจากกลุ่มนักเรียนสายศิลป์–คำนวณ
โดยตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ลานข้างตึกสอง ซึ่งเป็นพื้นที่ว่างให้นักเรียนได้มาเล่นกีฬาหรือพักผ่อนกัน
“ทำไมพวกนายต้องมาปิดบันไดด้านซีกซ้ายไม่ให้พวกฉันขึ้น” เรพูดขึ้น เขาจ้องหน้าเอก “แถมยังแซวเพื่อนผู้หญิงสายฉันอีกด้วย”
เอกมองหน้า พูดตอบว่า “แล้วพวกแกล่ะ ...ส่งเสียงวี๊ดว๊าย โวยวาย แล้วยังยึดห้องน้ำไปใช้ ไม่ยอมให้พวกฉันเข้าอีก”
“ทำไมล่ะ ..ก็พวกฉันผู้หญิงเยอะกว่า อยากได้ห้องน้ำที่สะอาด ๆ ไม่อยากให้พวกสกปรกมาใช้ห้องน้ำหรอก”
“นายว่าพวกฉันสกปรกงั้นเหรอ แล้วทีพวกแกล่ะ แต่ละคนดัดจริต แต่งตัวกันเหลือเกิน มันดีนักเหรอ ..แถมยังชอบทะเลาะกันเพราะแย่งผู้ชายอีกด้วย”
“หือ... แล้วทำไม ...ถึงฉันจะเป็นผู้ชาย แต่สายฉันมันผู้หญิงเยอะกว่า มีเรื่องอย่างนี้มันก็เรื่องธรรมดา ...ตอนเอ็มเพรสยังอยู่ พวกนายก็ไม่เห็นว่าอะไรเลยนี่”
“มันก็ใช่ ถึงตอนนั้นพวกฉันจะไม่ว่าอะไร แต่ก็ใช่ว่าจะเห็นด้วยกับการกระทำของพวกแก ฉันเห็นแก่เอ็มเพรสต่างหากเล่า เพราะเค้าช่วยเหลือพวกฉันไว้ตลอด”
“งั้นเหรอ... พอไม่มีเอ็มเพรส นายก็เลยยอมไม่ได้แล้วสิ” เรพูดใส่
เอกจ้องหน้าเร “เออสิว่ะ ตอนเอ็มเพรสอยู่ พวกแกเคยทำแบบตอนนี้มั้ยล่ะ ..ก็ไม่เห็นทำกันเลย ...พอไม่อยู่ พวกแกก็เอาทีเดียว”
“แล้วจะให้ทำยังไง?”
“ฉันว่าถึงเวลาที่พวกฉันต้องควบคุมพวกแกแล้ว” เอกบอก
“นายว่างั้นเหรอ..” เรพูดสวน “พวกฉันต่างหากเล่าที่จะคุมพวกนาย”
“หนอย....” ว่าแล้วเอกออกหมัดชกสวนออกไป
เรหลบหมัดนั้นได้ เขาถีบตัวถอยหลัง หลบหลีกหมัดได้อย่างทันท่วงที
จากนั้นพรรคพวกของทั้งสองฝ่ายก็กรูเข้าหากันทันที
(มีต่อครับ)