ซ่อนรักพรางใจ (ตอนที่ 22)

ซ่อนรักพรางใจ


ตอนที่  22  ที่ใหม่ๆคนใหม่ๆ    
  

                            

…..ทะเล   คือชื่อเล่นของศิวาภพโดยเจ้าตัวได้อธิบายว่าสาเหตุที่ตนเองชื่อนี้เพราะว่าพ่อกับแม่เขาเจอกันครั้งแรกที่ชายทะเลแถวนี้เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้วจึงกลายเป็นสถานที่แห่งความทรงจำจนกลายมาเป็นชื่อเล่นของเขา  ปณาลียิ้มหวานเมื่อนึกถึงความโรแมนติกของพ่อแม่ศิวาภพ

“ นี่ถ้าคุณพ่อคุณแม่คุณทะเลเจอกันที่น้ำตกหรือบนดอยก็คง… ”  ปณาลีขำ  ศิวาภพจึงหัวเราะจนหน้าแดง

“ ฮ่าๆๆ  ผมไม่ชื่อชายหาดหรือปะการังก็ถือว่าบุญมากแล้วครับ ”

“ ลูกๆก็เลยเรียกว่าเค็ม  เพราะน้ำทะเลมันเค็มนะเหรอคะ ”  นึกถึงสองแสบที่กำลังช่วยกันฉีดน้ำขัดเรือลำเล็กอย่างสนุกสนานโดยมีผู้ใหญ่อีกคนคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ  ศิวาภพชวนปณาลีมาทานของว่างในออฟฟิศที่ทำงานทำให้เธอรู้ว่าศิวาภพเป็นเจ้าของเรือเช่าส่วนบุคคลที่มีอยู่เกือบสี่สิบลำ  

“ เจ้าสองแสบนั่นไม่ใช่ลูกผมหรอกครับ  ผมรับอุปการะหลังจากที่พ่อแม่พวกเขาเกิดอุบัติเหตุโดนพายุพัดจมหายไปในทะเลตอนออกหาปลา ”  ศิวาภพเล่าเรื่องของพ่อแม่ของขวดและปลาทูให้หญิงสาวฟัง  

“ ผมรู้จักพวกเขาเพราะซื้ออาหารทะเลด้วยบ่อยๆ  พ่อแม่มาตายไปแบบนี้เด็กๆก็คงลำบากไม่น้อย ”  ศิวาภพเล่าไปยิ้มไปก่อนจะหันไปตะโกนเรียกผู้ช่วยที่กำลังดูแลสองแสบให้พาเด็กๆกลับเข้าร่มเพราะเกรงว่าจะไม่สบายกัน

“ แล้วคุณหนูลีมาเที่ยวเหรอครับ  อ้อ  ประทานโทษมากับใครหรือเปล่าครับ ”  พอถูกถามแบบนั้นปณาลีก็อุทานขึ้นอย่างตกใจ   เธอลืมพี่ชาย!




     ปกรณ์สบตาน้องสาวด้วยอารมณ์หงุดหงิด  ซึ่งจะไม่ให้เขาโมโหได้อย่างไรก็เขาอุตส่าห์บอกให้เดินเล่นแถวชายหาดหน้าบ้านรอระหว่างที่เขาเดินปิดบ้านแล้วจู่ๆน้องสาวก็มาหายตัวไป  พี่ชายอย่างเขาก็ต้องลนลานเป็นห่วงเพราะน้องสาวเขาก็ไม่ใช่คนตัวคนเดียว

“ หายไปไม่บอกกล่าว  แล้วแอบมาอยู่กับผู้ชายเนี่ยนะ ”  ปกรณ์ทำเสียงงอน  ปณาลีจึงเข้าไปกอดแขนออดอ้อนพี่ชายให้ยกโทษให้

“ โธ่  พี่อ้อมของน้อง  อย่างอนเลยนะลีจะไม่หายไปแบบนี้อีกแล้ว  สัญญาๆ ”  ศิวาภพที่เป็นคนนอกนั่งมองภาพตรงหน้าอย่างพูดไม่ออก  เหมือนว่าเขาจะเป็นต้นเหตุบางส่วนด้วยจึงเอ่ยขอโทษออกมา

“ ผมต้องขอโทษด้วยครับที่พาคุณหนูลีมาแบบไม่ได้ขออนุญาต  ผมไม่ทราบว่าเธอ…เอ่อ ”

“ ไม่เป็นไรหรอกครับน้องสาวผมก็ชอบทำเรื่องยุ่งอยู่แล้ว  ยังไงก็ขอบคุณที่อุตส่าห์ดูแลให้นะครับ ”  ปกรณ์หันไปยิ้มตอบเพราะเขาไม่ได้โทษชายหนุ่มตรงหน้าแต่สำหรับน้องสาวเขาคงต้องไปเคลียร์กันภายหลัง  ตอนนี้ทั้งสามคนอยู่ในร้านอาหารทะเลริมหาดโดยศิวาภพที่ถือว่าเป็นเจ้าบ้านเพราะเป็นคนในพื้นที่มานานได้ถือโอกาสเลี้ยงต้อนรับเพื่อนบ้านใหม่เสียเลย  ศิวาภพอดทึ่งกับการกินแบบเจริญอาหารของผู้หญิงตัวบางๆอย่างปณาลีไม่ได้  เมื่อหันไปสบตากับปกรณ์ก็ได้รับรอยยิ้มอ่อนๆกลับมา  เมื่อหญิงสาวคนเดียวในโต๊ะลุกไปเข้าห้องน้ำปกรณ์จึงเอ่ยขึ้น

“ ยัยลีกำลังท้องน่ะครับก็เลยเจริญอาหารมากเป็นพิเศษ ”  ศิวาภพเลิกคิ้วสงสัย  ปากอยากจะถามแต่ก็ไม่อยากเสียมารยาท

“ ถ้าคุณอยากถามเรื่องพ่อเด็กคงต้องไปง้างปากเจ้าตัวเขาเอาเองเพราะผมเองก็ไม่รู้ ”  ปกรณ์บอกยิ้มๆ

“ โอ้  ผมไม่อยากรู้จะดีกว่าครับ  มันคงไม่เหมาะสำหรับคนนอกแบบผม ”  เขาโบกมือบอก

“ เราเป็นเพื่อนบ้านกันแล้วครับคงต้องฝากฝีฝากไข้อีกนาน  ก็จนกว่ายัยลีจะเข้มแข็ง ”  เขาถอนหายใจ

“ ยินดีครับ  เจ้าสองแสบคงดีใจใหญ่ที่จะมีน้องเล็กๆให้ก่อกวน ”  เอ่ยถึงเด็กที่รับอุปการะไว้ทั้งสองคนก็พูดคุยกันไปเรื่อยๆจนปณาลีกลับมาร่วมวงสนทนาและทานของหวานต่อ   หลังอาหารเที่ยงศิวาภพก็เดินตามมาส่งสองพี่น้องที่บ้านหลังสีขาวหลังน้อย

“ ว่างๆผมกับน้องจะไปอุดหนุนเรือสักลำไว้ขับเที่ยวเกาะแถวนี้นะครับ ”

“ พี่อ้อมขับเรือเป็นด้วยหรอ ”  ปณาลีหันมาถามพี่ชาย

“ เปล่า ”  ตอบแบบหน้าตาย

“ อ้าว! ”  ปณาลีและศิวาภพอุทานพร้อมกัน

“ เข้าไปพักเถอะเราน่ะ  ขอบคุณอีกครั้งนะครับ ”  หันไปขอบคุณศิวาภพอีกครั้ง

“ ยินดีครับ ”  เขาค้อมหัวให้เล็กน้อยก่อนจะเดินกลับไปทางเดิม






สองพี่น้องเดินเข้ามาบ้านปณาลีก็เอนหลังลงบนเก้าอี้ยาวเตรียมจะหลับกลางวัน  ปกรณ์จึงเดินไปหยิบโน้ตบุคมาเปิดเช็คงาน

“ เขาดูท่าจะจีบเราหรือเปล่าน่ะหนูลี ”  ปกรณ์ถามขึ้นลอยๆ  ปณาลีลืมตาขึ้นมางงๆ

“ จีบอะไรพี่อ้อม  ไม่มีท่าทีแบบนั้นซะหน่อย ”  

“ ถ้าเขามาจีบก็ดูให้ดีๆล่ะ ”  พี่ชายพูดแค่นั้น

“ ถ้าเขาเป็นคนดีล่ะ ”  ปณาลีทำตาปริบๆ  ปกรณ์จึงละสายตาจากหน้าจอมามองน้องสาว  จะเป็นแม่คนอยู่แล้วยังทำเป็นเด็กไม่หาย

“ ถ้าเขาดีจริงใจกว้างพอ รักและดูแลเราได้พี่ก็ไม่ห่วง ”  ขยี้ผมน้องสาวก่อนจะหันมาดูจอคอมต่อ “ นอนพักไปเลยยัยตัวยุ่ง ”
ปณาลีนอนมองพี่ชายทำงานเพลินจนค่อยๆหลับไปท่ามกลางเสียงคลื่นและสายลมเย็นๆ






…..ลัลนาเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าถือเมื่อติดต่อปณาลีแล้วไม่รับสาย  เธอหันมามองดูสามีที่กำลังเดินตรวจดูรอบร้านโดยมีช่างที่จ้างมาช่วยดูว่าจะเริ่มทำการปรับปรุงส่วนไหนของร้านบ้างซึ่งวันนี้ไม่มีลูกค้าเพราะเป็นวันที่ร้านหยุด

“ นินาไปนั่งเล่นในห้องทำงานก่อนก็ได้นะ  ตรงนี้พี่จะจัดการเอง ”  เหมรัศนิ์หันไปมาบอกภรรยาสาวที่ยืนอยู่ไม่ไกล

“ ถ้าอย่างนั้นนินาไปช่วยพี่ตาลดีกว่าค่ะ ”  ลัลนาบอกสามีก่อนจะเดินเข้าไปในส่วนของห้องครัวที่หัทยากำลังตรวจดูแลวัตถุดิบที่เตรียมไว้สำหรับวันเปิดร้านในวันถัดไป  

“ นินามาพอดีเลย  ช่วยพี่ดูหน่อยสิว่าปลาตัวนี้ยังทำอาหารได้อยู่ไหม ”  หัทยาวานน้องสะใภ้ช่วยดูให้

“ มีกลิ่นนิดหน่อยนะคะ  สงสัยคนขายแช่น้ำยามาแน่เลยสีก็เลยยังดูสด ”  ลัลนาพลิกปลาดูก่อนจะตัดสินใจแยกออกมาไว้ต่างหาก

“ เห็นปลาแล้วคิดถึงหนูลี  ไม่รู้เป็นยังไงบ้าง ”  ลัลนาบ่นเบาๆ

“ อ้าว  ติดต่อหนูลีไม่ได้หรอ  นี่ก็สองวันแล้วไปอยู่ไหนของเขานะ ”  หัทยาเองก็รู้สึกคิดถึงเสียงใสๆที่ชอบมาอ้อนให้ทำของกินให้

“ คงยังไม่เรียบร้อยดีมั้งคะ  เดี๋ยวก็คงติดต่อมาเอง ”  ลัลนาคิดอย่างนั้นก่อนจะเดินตรวจดูของสดชนิดอื่นๆต่อ  หัทยาตรวจดูของสดอีกฟากรู้สึกเอะใจบางอย่างก่อนที่ดวงตาคมจะกระตุกเล็กน้อยเมื่อพอนึกออกว่าเรื่องปณาลีนั้นพอจะถามใครได้

“ ไม่ๆ ไม่เด็ดขาด  อิตาหน้าเข้มนั่นนะเหรอ ”  หัทยาส่ายหน้าก่อนจะไล่ความคิดนั้นออกจากสมองไป  แต่พอตรวจดูข้าวของเรียบร้อยแล้วเดินกลับมาในห้องทำงานเพื่อตรวจบัญชีต่อก็ต้องหัวเสีย

“ ไม่น่าเก็บมาไว้หลอกหลอนตัวเองเลย  เฮ้อ… ”   กล่องแว่นตาของคนที่เธอไม่อยากนึกถึงวางเด่นอยู่ในลิ้นชักเก็บเอกสาร  มือขาวหยิบมันขึ้นมาเปิดดูก็เห็นแว่นตาเลนส์ใสที่เลนส์ข้างหนึ่งแตกไม่เป็นชิ้นแต่อีกข้างมีรอยแตกมุมแว่น  เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้แว่นตาอันนี้ต้องมีสภาพเป็นอย่างนี้หัทยาก็หน้าร้อนวูบ  อกที่ทั้งกว้างและอุ่นแบบนั้น….  หัทยานั่งคิดอะไรอยู่สักครู่ก็ผุดลุกขึ้น

“ อิตานั่นไปตัดแว่นใหม่หรือยังนะ ”  คว้ากระเป๋าถือได้ก็เดินลิ่วออกจากร้าน

“ พี่ตาลไปไหนพี่ ”  เหมรัศนิ์เห็นพี่สาวก้าวเร็วๆผ่านไปจึงร้องทัก

“ ไปตัดแว่น ”  หัทยาบอกน้องชายรีบๆก่อนร่างเพรียวจะออกจากร้านไป

“ ตัดแว่น?  พี่ตาลนี่นะจะตัดแว่น ”  คิ้วของเขาขมวดอย่างงงงวย




“ ฮัดเช้ย! ”  ปรัชญ์จามลั่นขณะที่กำลังยืนสอนนักศึกษาในชั้นเรียน  ขยับจมูกเล็กน้อยก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นหวัดแต่ทำไมถึงจาม

“ อาจารย์ไหวไหมครับ ”  นักศึกษาชายคนหนึ่งยกมือขึ้นถาม  เขาจึงโบกมือว่าไม่เป็นไร

“ สงสัยจะมีสาวคิดถึง  ฮิ้ววว ” ใครคนหนึ่งส่งเสียงขึ้น  ปรัชญ์ส่ายหน้าขำว่าใครจะมานึกถึงเขาเอาตอนนี้  แต่สักครู่ก็มีนักศึกษาคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องเรียน  

“ อาจารย์คะมีคนมาหา ”  ปรัชญ์แปลกใจเพราะถ้าเป็นคนรู้จักก็คงโทรมาก่อน  แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเด็กที่มาบอกเพราะคงเป็นเรื่องด่วน  

“ ใครเหรอ ”  ถามไปแล้วนักศึกษาคนนั้นก็ชี้มือไปหน้าห้องที่มีผู้หญิงสวยคนหนึ่งยืนอยู่ด้วยท่าทางตกใจ  นักศึกษาคนเดิมร้องลั่นห้อง

“ เฮ้ย  พวกเรา  แฟนอาจารย์ปรัชญ์สวยโคตร ”  แล้วคนที่ถูกทักว่าเป็นแฟนอาจารย์ปรัชญ์ก็หันหลังวิ่งออกไปด้วยอาการหน้าแดงจัด...







นานาซื้อของ
มุกตามัน
****************************************************************************************************************************************
ตอนที่แล้ว
ตอนที่ 1 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 2 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 3 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 4 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 5 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 6 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 7 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 8 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 9 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 10 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 11 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 12 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 13 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 14 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 15 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 16 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 17 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 18 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 19 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 20 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 21 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่