ซ่อนรักพรางใจ
ตอนที่ 16 งานหมั้น
…..หกโมงเช้าวันสดใส ภายในบ้านปฎิไพศาลกุลดูวุ่นวายและคึกคักไปด้วยผู้คนชายหญิงมากมาย และรอบๆบริเวณบ้านหลังใหญ่ถูกจัดสรรพื้นที่ไว้พร้อมกับอาหารและเครื่องดื่มสำหรับต้อนรับ นอกเขตบ้านขบวนแห่ขันหมากและเจ้าบ่าวได้ไปเตรียมตัวตั้งขบวนอยู่ทางเข้าหมู่บ้านส่วนทางด้านฝ่ายเจ้าสาวก็เตรียมตัวรออยู่ในห้องแต่งตัวชั้นบนของบ้าน และตอนนี้เป็นเวลาที่ใกล้จะถึงฉากสำคัญบรรดาเพื่อนของเจ้าบ่าวเจ้าสาวต่างอยู่ในชุดไทยหลากหลายรูปแบบก็เตรียมตัวรออยู่ทางขึ้นลงบันไดเพื่อรอกั้นประตูด้วยความสนุกสนาน ภายในบ้านตอนนี้ร่างสูงเพรียวของหัทยาเดินเข้าออกห้องนั้นห้องนี้วุ่นวายเพราะวันนี้เธอเป็นแม่งานดูแลอาหารการกินและความเรียบร้อยอื่นๆจนใกล้เวลาแห่ขันหมากจึงรีบวิ่งขึ้นบันไดชั้นบนของบ้านเพื่อรีบไปแต่งตัว ร่างบอบบางที่เดินเข้ามาเห็นร่างไวๆนั้นจึงร้องเรียกไว้เสียก่อน
“ พี่ตาลคะ ” เป็นเสียงของปณาลีที่เรียกไว้ก่อนที่ร่างสูงเพรียวนั้นจะวิ่งขึ้นบันไดไปลิบ
“ มาๆหนูลี นินารออยู่ ” หัทยากลับลงมาคว้าข้อมือปณาลีได้ก็ค่อยๆพาขึ้นไปส่งที่ห้องแต่งตัวของเจ้าสาว
“ เดี๋ยวลีดูแลนินาให้ค่ะ พี่ตาลไปเตรียมตัวเถอะ ” หัทยาจึงหันมาขอบคุณก่อนจะรีบเข้าห้องตนเองที่อยู่อีกฟากตึกไป
“ หนูลี โธ่ ไม่น่าตื่นมาแต่เช้าเลย เคลียร์งานเสร็จค่อยมาตอนเย็นก็ได้ ” ลัลนาลุกขึ้นยืนยิ้มในชุดเจ้าสาวสีงาช้างพาดสไบสีทองเข้าชุด ผมนุ่มสลวยถูกเกล้าขึ้นประดับปิ่นเล็กๆและดอกไม้สีหวาน ใบหน้าสวยยิ้มหวานเดินมากอดเพื่อนรักไว้
“ ต้องมาสิจ๊ะ ไว้หนูลีค่อยกลับไปนอนต่อก็ได้ ” ปณาลีหัวเราะเสียงใส มองเห็นแววตามีความสุขจนเอ่อล้นของเพื่อนรักก็ปลื้มใจไปด้วย
“ ขอบคุณที่เป็นเพื่อนกันมานะหนูลี นินาไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้จะมีเพื่อนที่ดีกับนินาได้ขนาดนี้ ”
“ ขอบคุณนินาเหมือนกันนะที่ไม่รังเกียจเพื่อนคนนี้ เพื่อนที่คิดไม่ซื่อกับคนรักของตัวเอง ” ปณาลียิ้มมีน้ำตาซึมก่อนจะออกปากห้ามเมื่อเจ้าสาวกำลังจะปล่อยโฮตาม
“ หนูลีรู้ไว้นะว่านินารักหนูลีมากๆ ” เจ้าสาวยิ้มหวาน
“ มากกว่าเจ้าบ่าวไหมจ๊ะ ” ปณาลีเย้า สองสาวจึงหัวเราะ เสียงขบวนขันหมากใกล้เข้ามาสองสาวจึงเดินไปแอบดูตรงหน้าต่าง เห็นว่าคนที่อยู่หน้าขบวนเป็นอคินที่กำลังรำป้อกับสาวๆอย่างสนุกสนาน เจ้าบ่าวในชุดผ้าไหมโจงกระเบนสีเดียวกับชุดเจ้าสาวในวันนี้สง่างามกลางกลุ่มคนหลายสิบคนกำลังยิ้มกริ่มมีความสุข
“ นินาเป็นเจ้าสาวที่โชคดีมากเลยนะ ” ปณาลีเอ่ยขึ้นและหันกลับมา
“ อยากให้หนูลีโชคดีแบบนินาจัง ” ลัลนาบอก
“ หนูลีก็โชคดีอยู่นี่ไง โชคดีที่มีเพื่อนที่แสนดีอย่างนินา เพื่อนที่ยอมให้หนูลีอยู่ใกล้พี่เต็มตลอดมา ” สองสาวกุมมือและยิ้มให้แก่กัน
“ นินากลายเป็นคนใจร้ายใช่ไหมที่พาหนูลีมาอยู่ข้างกายทั้งๆที่ก็รู้อยู่แก่ใจ ” เพื่อนรักทั้งสองต่างเปิดใจกัน
“ ไม่เลย ถ้าไม่ใช่นินา หนูลีคงได้แต่แอบมองแอบฝันไม่มีโอกาสได้มาอยู่ใกล้ๆแบบนี้ ” ปณาลีเปลี่ยนท่าทางเป็นครื้นเครง
“ คิดดูสิว่าหนูลีจะฟินแค่ไหน ได้แอบมองตาพี่เต็มแล้วจินตนาการไปเรื่อยๆ หุ่นก็ล่ำบึกน่าซบ แขนที่แข็งแรงน่ากอด โอ้ย…ฟินสุดๆ ” ลัลนาหัวเราะกับท่าทางฝันหวานของเพื่อนรัก
“ เดี๋ยวก็ถึงฤกษ์แล้ว ดูซิสวยหรือยัง ” ปณาลีหันมาสำรวจเจ้าสาวอีกครั้ง
ห้องโถงข้างล่างมีบรรดาญาติพี่น้องและแขกเหรื่อมาร่วมงานช่วงเช้ากันอย่างเนืองแน่น กลางพรมสีแดงผืนใหญ่มีพานขันหมากวางอยู่ ทั้งสินสอดทองหมั้นเครื่องประดับและแหวนแต่งงานวงงามที่เป็นแหวนประจำตระกูลปฏิไพศาลกุลที่ได้จัดทำขึ้นมาแบบเดียวกันหลายวงเพื่อให้ลูกหลานในตระกูลใช้เป็นแหวนหมั้น ส่วนแหวนแต่งงานจะใช้วงเดิมหรือซื้อเพิ่มก็ตามแต่สะดวก งานหมั้นของบุตรชายคนเล็กบ้านนั้นชายหนุ่มตั้งใจใช้แหวนเพชรวงเก่าแก่เป็นทั้งแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานเพื่อนรักษามรดกของตระกูลไว้ พ่อแม่ของบ่าวสาวดูชื่นมื่นกันด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขที่ลูกๆได้เป็นฝั่งเป็นฝา เจ้าบ่าวที่หล่อเหลาในชุดสีงาช้างก็กำลังรอเจ้าสาวด้วยหัวใจที่ตื่นเต้น
“ เจ้าสาวมาแล้วค่ะ ” เป็นเสียงของมารดาเจ้าสาวดังขึ้น เหมรัศนิ์หันไปตามเสียงก็เห็นเจ้าสาวแสนสวยในชุดสีงาช้างสไบทองเดินยิ้มลงมาจากบันได ใบหน้าสวยหวานถูกแต่งแต้มให้งดงามยิ่งขึ้นจนคนในงานส่งเสียงชื่นชม
“ ไปรับน้องมาสิลูก ” มารดาเขากระซิบบอกชายหนุ่มจึงลุกขึ้นเดินช้าๆไปรับเจ้าสาวของเขา
“ นินาของพี่สวยมากจ๊ะ ” เจ้าสาวถึงกับเขินและเอียงหน้าหลบแววตาหวานล้ำลึกคู่นั้น
งานหมั้นข้างล่างได้ฤกษ์ทำพิธีรีตองตามแบบแผนและคนที่ยังอยู่บนห้องอย่างปณาลีก็กำลังยืนพิงหลังประตูห้องแต่งตัวเจ้าสาวเพื่อฟังเสียงของความสุขความชื่นมื่นของคนข้างล่าง มือบางลูบหน้าท้องที่เริ่มนูนขึ้นมาเล็กน้อย
“ หนูมีความสุขเหมือนแม่ไหมลูก เราทำดีที่สุดแล้วนะ ” ปณาลียิ้มทั้งน้ำตา
งานช่วงเช้าผ่านพ้นไปแล้วทุกคนจึงแยกย้ายกันไปพักผ่อน ปณาลีเองก็ย่องลงบันไดมาเมื่อข้างล่างเริ่มเก็บกวาดข้าวของ
“ อ้าว หนูลี ทำไมเพิ่งลงมาข้างล่างล่ะลูก ” คุณอารีย์เห็นหลังไวๆของหญิงสาวจึงเรียกไว้
“ เอ่อ พอดีหนูลีเผลอหลับไปค่ะคุณป้า แหะๆ ตื่นมาก็เริ่มพิธีไปแล้ว ” ปณาลียิ้มแหย
“ เด็กคนนี้นะ ไปหาอะไรทานก่อนสิค่อยกลับไปพัก ” ท่านบอกอย่างเมตตา
“ ค่ะ หนูลีไปเลยนะคะ ” เห็นช่องทางหลบได้ก็รีบปลีกตัวไปทันที
ปณาลีลัดเลาะมาตามสวนข้างบ้านเพราะเกิดอาการวิงเวียนขึ้นมาแต่ไม่อยากให้ใครมาเห็นตนเองในสภาพนี้เพราะกลัวความแตก มือบางรีบกดโทรหาพี่ชายทันที
“ ไม่น่ามาเลย อุ๊บ! ” รีบปิดปากตัวเองไว้ เมื่อพี่ชายรับสายก็รีบบอกทันที
“ พี่อ้อม มารับลีที ลีไม่ไหวแล้วเวียนหัวไปหมดเลย ” ร่างสูงในชุดเจ้าบ่าวที่กำลังเดินผ่านตรงนั้นชะงักเมื่อได้ยินเสียงพูดของคนที่คล้ายจะหมดแรงกำลังอยู่หลังพุ่มไม้ เหมรัศนิ์ขมวดคิ้วก่อนจะสาวเท้าไปอ้อมไปดูแต่ก็แปลกใจเพราะไม่เห็นใครนอกจากชายผ้าลิบๆ
“ เฮ้ย เจ้าบ่าวไม่ขึ้นไปพักล่ะ กว่าจะถึงงานตอนเย็นนะ ” เป็นอคินที่เดินโผล่ออกมาจากพุ่มไม้ใกล้กัน
“ เอ้อ จะขึ้นไปแล้วล่ะ ” ตอบเพื่อนไปแล้วเขาก็หมุนตัวกลับขึ้นบ้านไป
อคินนั่งลงข้างๆคนที่ทำท่าไม่สบาย เขาเห็นปณาลีย่องผ่านสวนมาด้วยอาการแปลกๆจึงเดินตามมาด้วยความสงสัยและยิ่งเห็นว่า เหมรัศนิ์กำลังจะเดินมาที่พุ่มไม้นี้ด้วย อคินจึงรีบเข้าไปประคองคนที่ทำท่าป่วยมาหลบหลังพุ่มไม้อีกพุ่ม
“ มาตอนไหนน่ะเราทำไมสภาพเป็นอย่างนี้ ” ปณาลีไม่ตอบแต่ร้องไห้ออกมา
“ พี่คิน ลีไม่ไหวแล้ว ” เห็นรุ่นน้องสะอื้นไห้เขาก็ถอนหายใจ
“ ไม่ไหวก็ไม่น่าจะมานี่นะ แล้วจะกลับยังไงเนี่ยพี่ไปส่งไหม ” ปณาลีส่ายหน้า
“ พี่อ้อมจะมารับ ” อคินพยักหน้าก่อนจะพยุงร่างบางไปส่งที่หน้าบ้านเพื่อรอพี่ชายมารับ ผ่านไปสักยี่สิบนาทีปกรณ์ก็ขับรถมาจอดหน้าประตูรั้ว เขาวิ่งเข้ามารับน้องสาวด้วยท่าทีเป็นห่วง
“ สวัสดีครับพี่ หนูลีดูไม่สบายหนักพาไปโรงพยาบาลดีกว่าไหมครับ ” อคินเอ่ยถาม ปกรณ์หันมามองหน้าอคินแปลกๆจนเขาชักจะเริ่มงงก่อนที่ปกรณ์จะก้มลงมามองดูหน้าน้องสาวอีกครั้ง
“ กลับกันเถอะค่ะลีอยากพัก ตอนเย็นเราจะได้ไปงานเลี้ยงกัน ” ปณาลีรีบชวนกลับ
“ อืม พี่ไปก่อนนะขอบใจมาก เจอกันตอนเย็น ” ปกรณ์จึงเอ่ยลาก่อนจะพาน้องสาวขึ้นรถขับออกไป
“ อะไรวะพี่น้องคู่นี้ ไอ้คินงง ” อคินบ่นงงๆก่อนจะเตรียมตัวกลับไปพักเช่นกัน
…..เมื่อกลับมาถึงบ้านปณาลีก็วิ่งเข้าห้องน้ำเพื่ออาเจียนออกมา ปกรณ์เข้ามาช่วยลูบหลังให้และประคองพามานั่งที่โซฟา
“ อคินยังไม่รู้ล่ะสิ นินาก็คงยังไม่รู้เหมือนกัน ” เห็นท่าทางเพลียๆของน้องสาวปกรณ์ก็เปลี่ยนเป็นประคองให้นอนลงหนุนตักตัวเอง
“ ลีไม่อยากให้เรื่องนี้ทำให้ใครต้องกังวล ตอนนี้ทุกคนกำลังมีความสุข ขอเวลาลีนะคะพี่อ้อม ” เสียงของน้องสาวแผ่วเบา
“ อืม ไว้เสร็จงานนินาก่อนละกัน ถ้าลีไม่กล้าพี่จะไปด้วย ” ลูบศีรษะน้องสาวเพื่อปลอบประโลมจนหลับไปเขาจึงค่อยๆลุกออกมาเตรียมอาหารกลางวันให้
…..ประมาณห้าโมงเย็นปรัชญ์ก็มากดกริ่งเรียกที่หน้าบ้าน
“ พี่ปรัชญ์เชิญเข้ามาก่อนสิครับ ” ปกรณ์เชิญเพื่อนบ้านสนิทเข้ามา ปรัชญ์พยักหน้าให้ก่อนจะเดินเข้ามาในรั้วบ้าน เขาอยู่ในชุดสูทสีเข้มเข้ารูปดูสง่าผึ่งผาย เห็นปกรณ์อยู่ในชุดสูทสีเทาเรียบร้อยแล้วก็ถามหาน้องสาวอีกคน
“ หนูลีแต่งตัวรึยังอ้อม จะไปงานไหวหรือเปล่า ” ปรัชญ์ถามอย่างกังวลเพราะเมื่อช่วงบ่ายเขามาเยี่ยมก็เห็นว่าปณาลีนอนหลับแบบหมดสภาพ
“ เจ้าตัวเขาว่าไหวเราก็ต้องปล่อยไปครับพี่ปรัชญ์ คอยดูแลใกล้ๆก็แล้วกัน ” ปกรณ์เองก็กังวลไม่แพ้กัน
“ มาแล้วค่ะ ไปกันเลยไหมคะพี่ปรัชญ์ พี่อ้อม ” ปณาลีส่งเสียงใสๆล่วงหน้ามาก่อนตัวจะถึง
“ เสียงใสขนาดนี้ไม่น่าห่วงแล้วมั้ง ” ปกรณ์ส่ายหน้าขำๆ ทั้งสามคนจึงขึ้นรถเดินทางไปยังงานเลี้ยงแต่งงาน
- มุกตามัน
*******************************************************************************************************************************************
ตอนที่แล้ว
ตอนที่ 1
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37694309
ตอนที่ 2
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37704868
ตอนที่ 3
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37710134
ตอนที่ 4
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37714469
ตอนที่ 5
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37717748
ตอนที่ 6
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37721605
ตอนที่ 7
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37726558
ตอนที่ 8
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37742970
ตอนที่ 9
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37748901
ตอนที่ 10
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37758153
ตอนที่ 11
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37761486
ตอนที่ 12
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37767915
ตอนที่ 13
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37774736
ตอนที่ 14
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37780803
ตอนที่ 15
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37791148
ซ่อนรักพรางใจ (ตอนที่ 16 )
…..หกโมงเช้าวันสดใส ภายในบ้านปฎิไพศาลกุลดูวุ่นวายและคึกคักไปด้วยผู้คนชายหญิงมากมาย และรอบๆบริเวณบ้านหลังใหญ่ถูกจัดสรรพื้นที่ไว้พร้อมกับอาหารและเครื่องดื่มสำหรับต้อนรับ นอกเขตบ้านขบวนแห่ขันหมากและเจ้าบ่าวได้ไปเตรียมตัวตั้งขบวนอยู่ทางเข้าหมู่บ้านส่วนทางด้านฝ่ายเจ้าสาวก็เตรียมตัวรออยู่ในห้องแต่งตัวชั้นบนของบ้าน และตอนนี้เป็นเวลาที่ใกล้จะถึงฉากสำคัญบรรดาเพื่อนของเจ้าบ่าวเจ้าสาวต่างอยู่ในชุดไทยหลากหลายรูปแบบก็เตรียมตัวรออยู่ทางขึ้นลงบันไดเพื่อรอกั้นประตูด้วยความสนุกสนาน ภายในบ้านตอนนี้ร่างสูงเพรียวของหัทยาเดินเข้าออกห้องนั้นห้องนี้วุ่นวายเพราะวันนี้เธอเป็นแม่งานดูแลอาหารการกินและความเรียบร้อยอื่นๆจนใกล้เวลาแห่ขันหมากจึงรีบวิ่งขึ้นบันไดชั้นบนของบ้านเพื่อรีบไปแต่งตัว ร่างบอบบางที่เดินเข้ามาเห็นร่างไวๆนั้นจึงร้องเรียกไว้เสียก่อน
“ พี่ตาลคะ ” เป็นเสียงของปณาลีที่เรียกไว้ก่อนที่ร่างสูงเพรียวนั้นจะวิ่งขึ้นบันไดไปลิบ
“ มาๆหนูลี นินารออยู่ ” หัทยากลับลงมาคว้าข้อมือปณาลีได้ก็ค่อยๆพาขึ้นไปส่งที่ห้องแต่งตัวของเจ้าสาว
“ เดี๋ยวลีดูแลนินาให้ค่ะ พี่ตาลไปเตรียมตัวเถอะ ” หัทยาจึงหันมาขอบคุณก่อนจะรีบเข้าห้องตนเองที่อยู่อีกฟากตึกไป
“ หนูลี โธ่ ไม่น่าตื่นมาแต่เช้าเลย เคลียร์งานเสร็จค่อยมาตอนเย็นก็ได้ ” ลัลนาลุกขึ้นยืนยิ้มในชุดเจ้าสาวสีงาช้างพาดสไบสีทองเข้าชุด ผมนุ่มสลวยถูกเกล้าขึ้นประดับปิ่นเล็กๆและดอกไม้สีหวาน ใบหน้าสวยยิ้มหวานเดินมากอดเพื่อนรักไว้
“ ต้องมาสิจ๊ะ ไว้หนูลีค่อยกลับไปนอนต่อก็ได้ ” ปณาลีหัวเราะเสียงใส มองเห็นแววตามีความสุขจนเอ่อล้นของเพื่อนรักก็ปลื้มใจไปด้วย
“ ขอบคุณที่เป็นเพื่อนกันมานะหนูลี นินาไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้จะมีเพื่อนที่ดีกับนินาได้ขนาดนี้ ”
“ ขอบคุณนินาเหมือนกันนะที่ไม่รังเกียจเพื่อนคนนี้ เพื่อนที่คิดไม่ซื่อกับคนรักของตัวเอง ” ปณาลียิ้มมีน้ำตาซึมก่อนจะออกปากห้ามเมื่อเจ้าสาวกำลังจะปล่อยโฮตาม
“ หนูลีรู้ไว้นะว่านินารักหนูลีมากๆ ” เจ้าสาวยิ้มหวาน
“ มากกว่าเจ้าบ่าวไหมจ๊ะ ” ปณาลีเย้า สองสาวจึงหัวเราะ เสียงขบวนขันหมากใกล้เข้ามาสองสาวจึงเดินไปแอบดูตรงหน้าต่าง เห็นว่าคนที่อยู่หน้าขบวนเป็นอคินที่กำลังรำป้อกับสาวๆอย่างสนุกสนาน เจ้าบ่าวในชุดผ้าไหมโจงกระเบนสีเดียวกับชุดเจ้าสาวในวันนี้สง่างามกลางกลุ่มคนหลายสิบคนกำลังยิ้มกริ่มมีความสุข
“ นินาเป็นเจ้าสาวที่โชคดีมากเลยนะ ” ปณาลีเอ่ยขึ้นและหันกลับมา
“ อยากให้หนูลีโชคดีแบบนินาจัง ” ลัลนาบอก
“ หนูลีก็โชคดีอยู่นี่ไง โชคดีที่มีเพื่อนที่แสนดีอย่างนินา เพื่อนที่ยอมให้หนูลีอยู่ใกล้พี่เต็มตลอดมา ” สองสาวกุมมือและยิ้มให้แก่กัน
“ นินากลายเป็นคนใจร้ายใช่ไหมที่พาหนูลีมาอยู่ข้างกายทั้งๆที่ก็รู้อยู่แก่ใจ ” เพื่อนรักทั้งสองต่างเปิดใจกัน
“ ไม่เลย ถ้าไม่ใช่นินา หนูลีคงได้แต่แอบมองแอบฝันไม่มีโอกาสได้มาอยู่ใกล้ๆแบบนี้ ” ปณาลีเปลี่ยนท่าทางเป็นครื้นเครง
“ คิดดูสิว่าหนูลีจะฟินแค่ไหน ได้แอบมองตาพี่เต็มแล้วจินตนาการไปเรื่อยๆ หุ่นก็ล่ำบึกน่าซบ แขนที่แข็งแรงน่ากอด โอ้ย…ฟินสุดๆ ” ลัลนาหัวเราะกับท่าทางฝันหวานของเพื่อนรัก
“ เดี๋ยวก็ถึงฤกษ์แล้ว ดูซิสวยหรือยัง ” ปณาลีหันมาสำรวจเจ้าสาวอีกครั้ง
ห้องโถงข้างล่างมีบรรดาญาติพี่น้องและแขกเหรื่อมาร่วมงานช่วงเช้ากันอย่างเนืองแน่น กลางพรมสีแดงผืนใหญ่มีพานขันหมากวางอยู่ ทั้งสินสอดทองหมั้นเครื่องประดับและแหวนแต่งงานวงงามที่เป็นแหวนประจำตระกูลปฏิไพศาลกุลที่ได้จัดทำขึ้นมาแบบเดียวกันหลายวงเพื่อให้ลูกหลานในตระกูลใช้เป็นแหวนหมั้น ส่วนแหวนแต่งงานจะใช้วงเดิมหรือซื้อเพิ่มก็ตามแต่สะดวก งานหมั้นของบุตรชายคนเล็กบ้านนั้นชายหนุ่มตั้งใจใช้แหวนเพชรวงเก่าแก่เป็นทั้งแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานเพื่อนรักษามรดกของตระกูลไว้ พ่อแม่ของบ่าวสาวดูชื่นมื่นกันด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขที่ลูกๆได้เป็นฝั่งเป็นฝา เจ้าบ่าวที่หล่อเหลาในชุดสีงาช้างก็กำลังรอเจ้าสาวด้วยหัวใจที่ตื่นเต้น
“ เจ้าสาวมาแล้วค่ะ ” เป็นเสียงของมารดาเจ้าสาวดังขึ้น เหมรัศนิ์หันไปตามเสียงก็เห็นเจ้าสาวแสนสวยในชุดสีงาช้างสไบทองเดินยิ้มลงมาจากบันได ใบหน้าสวยหวานถูกแต่งแต้มให้งดงามยิ่งขึ้นจนคนในงานส่งเสียงชื่นชม
“ ไปรับน้องมาสิลูก ” มารดาเขากระซิบบอกชายหนุ่มจึงลุกขึ้นเดินช้าๆไปรับเจ้าสาวของเขา
“ นินาของพี่สวยมากจ๊ะ ” เจ้าสาวถึงกับเขินและเอียงหน้าหลบแววตาหวานล้ำลึกคู่นั้น
งานหมั้นข้างล่างได้ฤกษ์ทำพิธีรีตองตามแบบแผนและคนที่ยังอยู่บนห้องอย่างปณาลีก็กำลังยืนพิงหลังประตูห้องแต่งตัวเจ้าสาวเพื่อฟังเสียงของความสุขความชื่นมื่นของคนข้างล่าง มือบางลูบหน้าท้องที่เริ่มนูนขึ้นมาเล็กน้อย
“ หนูมีความสุขเหมือนแม่ไหมลูก เราทำดีที่สุดแล้วนะ ” ปณาลียิ้มทั้งน้ำตา
งานช่วงเช้าผ่านพ้นไปแล้วทุกคนจึงแยกย้ายกันไปพักผ่อน ปณาลีเองก็ย่องลงบันไดมาเมื่อข้างล่างเริ่มเก็บกวาดข้าวของ
“ อ้าว หนูลี ทำไมเพิ่งลงมาข้างล่างล่ะลูก ” คุณอารีย์เห็นหลังไวๆของหญิงสาวจึงเรียกไว้
“ เอ่อ พอดีหนูลีเผลอหลับไปค่ะคุณป้า แหะๆ ตื่นมาก็เริ่มพิธีไปแล้ว ” ปณาลียิ้มแหย
“ เด็กคนนี้นะ ไปหาอะไรทานก่อนสิค่อยกลับไปพัก ” ท่านบอกอย่างเมตตา
“ ค่ะ หนูลีไปเลยนะคะ ” เห็นช่องทางหลบได้ก็รีบปลีกตัวไปทันที
ปณาลีลัดเลาะมาตามสวนข้างบ้านเพราะเกิดอาการวิงเวียนขึ้นมาแต่ไม่อยากให้ใครมาเห็นตนเองในสภาพนี้เพราะกลัวความแตก มือบางรีบกดโทรหาพี่ชายทันที
“ ไม่น่ามาเลย อุ๊บ! ” รีบปิดปากตัวเองไว้ เมื่อพี่ชายรับสายก็รีบบอกทันที
“ พี่อ้อม มารับลีที ลีไม่ไหวแล้วเวียนหัวไปหมดเลย ” ร่างสูงในชุดเจ้าบ่าวที่กำลังเดินผ่านตรงนั้นชะงักเมื่อได้ยินเสียงพูดของคนที่คล้ายจะหมดแรงกำลังอยู่หลังพุ่มไม้ เหมรัศนิ์ขมวดคิ้วก่อนจะสาวเท้าไปอ้อมไปดูแต่ก็แปลกใจเพราะไม่เห็นใครนอกจากชายผ้าลิบๆ
“ เฮ้ย เจ้าบ่าวไม่ขึ้นไปพักล่ะ กว่าจะถึงงานตอนเย็นนะ ” เป็นอคินที่เดินโผล่ออกมาจากพุ่มไม้ใกล้กัน
“ เอ้อ จะขึ้นไปแล้วล่ะ ” ตอบเพื่อนไปแล้วเขาก็หมุนตัวกลับขึ้นบ้านไป
อคินนั่งลงข้างๆคนที่ทำท่าไม่สบาย เขาเห็นปณาลีย่องผ่านสวนมาด้วยอาการแปลกๆจึงเดินตามมาด้วยความสงสัยและยิ่งเห็นว่า เหมรัศนิ์กำลังจะเดินมาที่พุ่มไม้นี้ด้วย อคินจึงรีบเข้าไปประคองคนที่ทำท่าป่วยมาหลบหลังพุ่มไม้อีกพุ่ม
“ มาตอนไหนน่ะเราทำไมสภาพเป็นอย่างนี้ ” ปณาลีไม่ตอบแต่ร้องไห้ออกมา
“ พี่คิน ลีไม่ไหวแล้ว ” เห็นรุ่นน้องสะอื้นไห้เขาก็ถอนหายใจ
“ ไม่ไหวก็ไม่น่าจะมานี่นะ แล้วจะกลับยังไงเนี่ยพี่ไปส่งไหม ” ปณาลีส่ายหน้า
“ พี่อ้อมจะมารับ ” อคินพยักหน้าก่อนจะพยุงร่างบางไปส่งที่หน้าบ้านเพื่อรอพี่ชายมารับ ผ่านไปสักยี่สิบนาทีปกรณ์ก็ขับรถมาจอดหน้าประตูรั้ว เขาวิ่งเข้ามารับน้องสาวด้วยท่าทีเป็นห่วง
“ สวัสดีครับพี่ หนูลีดูไม่สบายหนักพาไปโรงพยาบาลดีกว่าไหมครับ ” อคินเอ่ยถาม ปกรณ์หันมามองหน้าอคินแปลกๆจนเขาชักจะเริ่มงงก่อนที่ปกรณ์จะก้มลงมามองดูหน้าน้องสาวอีกครั้ง
“ กลับกันเถอะค่ะลีอยากพัก ตอนเย็นเราจะได้ไปงานเลี้ยงกัน ” ปณาลีรีบชวนกลับ
“ อืม พี่ไปก่อนนะขอบใจมาก เจอกันตอนเย็น ” ปกรณ์จึงเอ่ยลาก่อนจะพาน้องสาวขึ้นรถขับออกไป
“ อะไรวะพี่น้องคู่นี้ ไอ้คินงง ” อคินบ่นงงๆก่อนจะเตรียมตัวกลับไปพักเช่นกัน
…..เมื่อกลับมาถึงบ้านปณาลีก็วิ่งเข้าห้องน้ำเพื่ออาเจียนออกมา ปกรณ์เข้ามาช่วยลูบหลังให้และประคองพามานั่งที่โซฟา
“ อคินยังไม่รู้ล่ะสิ นินาก็คงยังไม่รู้เหมือนกัน ” เห็นท่าทางเพลียๆของน้องสาวปกรณ์ก็เปลี่ยนเป็นประคองให้นอนลงหนุนตักตัวเอง
“ ลีไม่อยากให้เรื่องนี้ทำให้ใครต้องกังวล ตอนนี้ทุกคนกำลังมีความสุข ขอเวลาลีนะคะพี่อ้อม ” เสียงของน้องสาวแผ่วเบา
“ อืม ไว้เสร็จงานนินาก่อนละกัน ถ้าลีไม่กล้าพี่จะไปด้วย ” ลูบศีรษะน้องสาวเพื่อปลอบประโลมจนหลับไปเขาจึงค่อยๆลุกออกมาเตรียมอาหารกลางวันให้
…..ประมาณห้าโมงเย็นปรัชญ์ก็มากดกริ่งเรียกที่หน้าบ้าน
“ พี่ปรัชญ์เชิญเข้ามาก่อนสิครับ ” ปกรณ์เชิญเพื่อนบ้านสนิทเข้ามา ปรัชญ์พยักหน้าให้ก่อนจะเดินเข้ามาในรั้วบ้าน เขาอยู่ในชุดสูทสีเข้มเข้ารูปดูสง่าผึ่งผาย เห็นปกรณ์อยู่ในชุดสูทสีเทาเรียบร้อยแล้วก็ถามหาน้องสาวอีกคน
“ หนูลีแต่งตัวรึยังอ้อม จะไปงานไหวหรือเปล่า ” ปรัชญ์ถามอย่างกังวลเพราะเมื่อช่วงบ่ายเขามาเยี่ยมก็เห็นว่าปณาลีนอนหลับแบบหมดสภาพ
“ เจ้าตัวเขาว่าไหวเราก็ต้องปล่อยไปครับพี่ปรัชญ์ คอยดูแลใกล้ๆก็แล้วกัน ” ปกรณ์เองก็กังวลไม่แพ้กัน
“ มาแล้วค่ะ ไปกันเลยไหมคะพี่ปรัชญ์ พี่อ้อม ” ปณาลีส่งเสียงใสๆล่วงหน้ามาก่อนตัวจะถึง
“ เสียงใสขนาดนี้ไม่น่าห่วงแล้วมั้ง ” ปกรณ์ส่ายหน้าขำๆ ทั้งสามคนจึงขึ้นรถเดินทางไปยังงานเลี้ยงแต่งงาน
- มุกตามัน
*******************************************************************************************************************************************
ตอนที่แล้ว
ตอนที่ 1 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 2 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 3 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 4 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 5 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 6 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 7 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 8 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 9 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 10 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 11 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 12 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 13 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 14 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 15 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้