ซ่อนรักพรางใจ (ตอนที่ 7)

ซ่อนรักพรางใจ

ตอนที่  7  เรื่องนี้จะไม่มีใครรู้


…..ความรู้สึกหนักเพราะมีอะไรอุ่นๆกำลังทับอยู่บนตัวทำให้ปณาลีเริ่มพยายามขยับร่างกายหนีอย่างอึดอัด  แต่ยิ่งขยับหนีก็ยิ่งรู้สึกว่าถูกเจ้าสิ่งรบกวนไล่คว้าจับสัมผัสและลูบไล้ไปตามร่างกายอย่างรุกรานจนเริ่มรู้สึกกระสับกระส่ายด้วยความรำคาญ  
“ อื้ม… ” หญิงสาวครางด้วยความแปลกใหม่ในอารมณ์สักครู่ก็เริ่มรู้สึกว่าถูกจับตัวพลิกไปมาเพื่อถอดเสื้อผ้าที่น่ารำคาญนั้นออกไป  เธอรู้สึกโล่งและสบายตัวขึ้นแต่ก็ถูกเจ้าตัวรบกวนนั้นทาบทับลงมาอีกครั้งแต่ครั้งนี้รู้สึกรุ่มร้อนและถูกรุกรานร่างกายอย่างหนักกว่าเดิม  มือที่พยายามจะยกมือผลักไสออกก็ไม่มีเรี่ยวแรงและเปลือกตาที่พยายามยกขึ้นก็ยิ่งรู้สึกหนักอึ้งหลับๆตื่นๆด้วยความเมาและอารมณ์วาบหวิว  ริมฝีปากถูกไอร้อนสัมผัสจนรู้สึกสะดุ้งแล้วร่างกายก็ถูกเล้าโลมพียงไม่นานก็รู้สึกเจ็บร้าวที่จุดสัมผัสตรงกึ่งกายจนต้องกรีดร้องออกมา  หยดน้ำตาใสค่อยๆรินออกมาพร้อมกับเสียงห้าวแกร่งของใครอีกคน  ร่างทั้งร่างของเธอสะดุ้งด้วยความเจ็บก่อนที่จะเริ่มรู้สึกว่ามีความรู้สึกหวิวๆแปลกๆเข้ามาแทนที่อย่างซ่านเสียวและวาบหวิวจนร่างกายเริ่มตอบสนองไปโดยอัตโนมัติไม่รู้ตัวไม่ว่าจะถูกจับพลิกไปมาในท่วงท่าใดก็ไม่มีทางจะจดจำได้นอกจากอารมณ์ความสุขที่พาพุ่งทะยานไปอย่างยาวนานและหลายต่อหลายครั้ง


…..ผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้  แต่ที่แน่ๆอคินเริ่มรู้สึกว่าความฝันที่แสนบรรเจิดของเขากำลังถูกรบกวนจากแรงสั่นเบาๆแล้วเริ่มหนักขึ้นจนเขาต้องสะดุ้งตัวลุกขึ้นก่อนจะหันไปหาตัวต้นเหตุที่ทำลายความฝันของเขา
“ อะไรวะ….ห่ะ  เฮ้ย!!! ”  อคินแทบกระโดดลงเตียงเมื่อเห็นสภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงห่มร่างอยู่ในผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่
“ พะ พี่คิน  ฮือๆๆ ”  ปณาลีโผเข้ากอดรุ่นพี่หนุ่มพร้อมกับปล่อยเสียงสะอื้น  จากที่ยังเมาค้างอคินตาสว่างทันทีเขาตั้งสติก่อนจะจับร่างบางนั้นออกมาสำรวจดูตามเนื้อตัวที่โผล่พ้นชายผ้า  เท่าที่มองเห็นได้ในตอนนี้อคินก็ต้องอุทานออกมาอย่างตกใจ  รอยจ้ำแดงๆตามร่างกายของผู้หญิงแบบนี้ผู้ชายย่อมรู้ดีว่ามันเกิดมาจากอะไร
“ หนูลี  เกิดอะไรขึ้น!!!  พะ พี่ปล้ำแกเหรอวะ ยิ้มแล้วกู!!! ”  แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักเมื่อปณาลีพูดออกมาเสียงแผ่ว
“ ไม่ใช่พี่คิน  ไม่ใช่พี่  ฮึกๆ ”  แล้วปณาลีก็ค่อยๆลุกขึ้นจูงแขนเขาเดินช้าๆไปยังห้องพักรับรอง  อคินยังสับสนอยู่ก็ถึงกับเข่าทรุดเมื่อเดินไปถึงหน้าประตูห้อง  ความผิดเขา….เขาลืมไปได้ยังไงว่ายังมีปณาลีอยู่  อคินพยายามเรียกสติกลับมาหันไปมองใบหน้าของปณาลีอย่างเริ่มเห็นแววยุ่งยากที่กำลังจะตามมา
“ พี่เต็ม…มาได้ยังไงคะ ”  ปณาลีกล้ำกลืนความรู้สึกลงไป  อคินตัดสินใจให้ปณาลีไปอาบน้ำแต่งตัวที่ห้องของเขาโดยหาเสื้อเชิ้ตตัวยาวและกางเกงขาสั้นตัวใหม่ที่เพิ่งซื้อมาให้ใส่ไปก่อน  ปณาลีจึงรีบเก็บเสื้อผ้าและกระเป๋าออกจากห้องไปด้วยอาการเหม่อลอย
“ กูผิดๆๆ ”  อคินเดินวนไปวนมาหน้าประตูห้องก่อนที่จะเดินไปหยุดที่เตียงกว้างมองดูสภาพของเพื่อนที่นอนเปลือยเปล่าอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่  อคินหายใจลึกๆก่อนที่จะปลุกเหมรัศนิ์ขึ้นมา  ซึ่งในตอนแรกชายหนุ่มยังคงงงๆมึนๆที่ถูกปลุกทั้งๆที่เขายังไม่ตื่นดี
“ อะไรวะไอ้คิน  โห…เก้าโมง  กว่าจะได้นอนก็ตีสาม ”  เหมรัชนิ์สะบัดหน้าไปมาเมื่อมองเห็นเวลาที่นาฬิกาข้างเตียง
“ เออ ตีสาม  ฉันน่ะนอนตีสามแต่แกนอนกี่โมงวะไอ้เต็ม ”  อคินพยายามระงับอารมณ์
“ ไม่รู้สิวะ  เมื่อคืนน่าจะฝัน…ช่างมันเถอะ ”  นึกถึงสิ่งที่ตนเองจำได้ก็หยุดพูด  แล้วเขาก็ร้องเฮ้ยออกมาเมื่อเห็นสภาพตนเองเปลือยเปล่า  เมื่อเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนก็เห็นสีหน้าหนักใจของอคิน
“ ฉัน…ว่าแกไม่ได้ฝันไปว่ะ ”  อคินพูดออกมา  เหมรัศนิ์จึงเริ่มพยายามลำดับเหตุการณ์ก่อนจะเริ่มร้อนรน
“ เฮ้ย!!!  แล้วเมื่อคืน  ฉัน…กับใครวะ! ”



เหมรัศนิ์ยืนนิ่งตัวชาเมื่อออกจากห้องน้ำมาแล้วเห็นว่าอคินกำลังยืนอึ้งขณะเก็บกวาดเตียงอยู่  กลางที่นอนสีฟ้าอ่อนมีคราบสีแดงเล็กๆประปราย  อคินจึงถลกผ้าปูที่นอนออกมาแล้วโยนลงไปในตะกร้าก่อนจะหันมาหาเพื่อนสนิท
“ เจ้าตัว…เขาน่าจะอยู่ห้องครัวนะ  เมื่อคืนก็เมาหนักเลยให้นอนในห้อง ขอโทษว่ะฉันผิดที่ไม่ได้บอก  ไม่รู้ว่าจะมีคนมาฉันเองก็ไม่ได้ล็อคประตูไว้ให้เขาด้วย ”  อคินถอนหายใจก่อนที่จะกลับออกไปห้องนอนเพื่ออาบน้ำชำระร่างกายบ้าง  เหมรัศนิ์ยืนนิ่งก่อนที่จะเดินออกไปเผชิญความจริง
ร่างระหงในชุดเสื้อเชิ้ตตัวยาวถึงเข่ากำลังยืนใจลอยขณะที่กำลังกดน้ำร้อนลงในแก้วจนน้ำเอ่อล้นออกมาเกือบถูกมือบาง  เหมรัศนิ์จึงรีบเข้าไปดึงมือนั้นออกมาแล้วก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจและยิ่งทวีความเสียใจท่วมท้นเมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาวเจ้าของรอยสีแดงบนเตียงนอนชัดเจน
“ หนูลี… ”  น้ำเสียงของเขาอ่อนแรงเหมือนคนกำลังจะตาย
“ พี่เต็ม ”  หญิงสาวเอ่ยเรียกชื่อเขาเสียงแผ่ว  เหมรัศนิ์จึงคว้าร่างที่เริ่มสั่นนั้นเข้ามากอดแน่นๆ



ไม่ถึงยี่สิบนาทีต่อมาทั้งสามคนก็มานั่งรวมตัวกันในห้องนั่งเล่นด้วยอารมณ์แตกต่างกัน  อคินนั้นทั้งสงสารและเห็นใจเพื่อนรักและคนที่เป็นเหมือนน้องสาวของเขา  มาเกิดเหตุการณ์แบบนี้โดยที่เขามีส่วนต้องรับผิดชอบด้วยก็ยิ่งรู้สึกผิดไม่น้อย
“ บอกตามตรงตอนนี้คิดอะไรไม่ออกว่ะ ”  อคินสารภาพแบบหมดความคิด
“ ก็…ไม่ต้องทำอะไรค่ะ  แค่ไม่ต้องมีใครรู้เรื่องนี้ก็พอ ”  ปณาลีตัดสินใจ  สองหนุ่มจึงหันมามองหน้ากัน
“ แต่หนูลีเสียหายเพราะพี่… ”  เหมรัศนิ์พูดออกมา
“ แล้วยังไงคะ  หรือพี่เต็มจะยกเลิกงานแต่งงานกับนินามาแต่งกับลี  ทำได้เหรอคะ ”  หญิงสาวขึ้นเสียง  เขาจึงอึ้งไป
“ พี่ทำไม่ได้  ทำไม่ได้หรอกค่ะ  แค่นี้ลีก็รู้สึกว่าทำผิดกับเพื่อนตัวเองแค่ไหนแล้ว  อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้เลย  อย่าให้นินารู้…” ปณาลีเริ่มร้องไห้
“ งานแต่งแกยังไงก็ต้องเกิดในอีกสองเดือนข้างหน้า  แกแต่งงานพร้อมกับผู้หญิงทั้งสองคนไม่ได้นะไอ้เต็ม ”  อคินบอกเพื่อนสนิท  ในเมื่อไม่ทีใครมีกระจิตกระใจจะตัดสินใจเขาจึงพูดขึ้น
“ ฉันรักนินา… ”  เหมรัศนิ์เอ่ยเสียงเบา
“ ถ้าอย่างนั้นแกก็ตัดสินใจแล้ว  กลับไปเตรียมตัวแต่งงานกับนินาซะ ”  อคินลุกขึ้นพูดเสียงเด็ดขาด
“ แล้วหนูลีล่ะ  ฉันทิ้งหนูลีแบบนี้ไม่ได้ ”  แววตาปวดร้าวของหญิงสาวตรงหน้าทำให้เขาลังเล
“ กลับไปเถอะค่ะ  จากนี้เราก็ยังคงความสัมพันธ์เหมือนเดิม  แต่ไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องวันนี้อีกต่อไป ”  ปณาลีตัดใจลุกขึ้นแล้วเดินออกไปหลบหน้าในห้องนอนที่เกิดเรื่องขึ้นเมื่อคืน  เหมรัศนิ์จึงเดินคอตกออกจากห้องชุดของอคินโดยเจ้าของห้องเดินออกมาส่ง
“ ฉันรู้ว่ามันทำใจยากสำหรับหนูลีและแก  แต่อย่างที่ฉันบอก  แกไม่มีทางรับผิดชอบใครพร้อมกันได้ทั้งหมด ”
“ ดูแลหนูลีด้วยนะคิน  ฉันตอนนี้มันเป็นคนเลวไปแล้ว  ฉันจะทำยังไงเมื่อต้องพบหน้านินาและหนูลีพร้อมกัน  หนูลีควรจะพบคนที่ดีและพร้อมสำหรับเขา  ไม่ใช่ฉัน ”  อคินรู้ว่าเพื่อนรักของเขานั้นก็เจ็บปวดไม่แพ้กับหญิงสาวอีกคน  จึงได้แต่ปลอบใจ
“ ทำใจให้สบายๆซะทางนี้ฉันจะดูแลเอง ”  ตบไหล่เพื่อนเบาๆก่อนจะกลับเข้าห้องไป
“ หนูลี  พี่ขอโทษ… ”  เหมรัศนิ์ยืนอยู่หน้าประตูสักครู่ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป



ภายในห้องนอนที่เกิดเรื่อง  อคินเดินเข้ามาหยุดยืนมองก่อนจะถอนหายใจกับสภาพของคนที่นั่งเหม่อใจลอยและดวงตาตอนนี้แห้งเหือดจนไม่มีน้ำตาจะไหล
“ ตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม ”  วางมือลงบนศีรษะอย่างแผ่วเบา
“ ลีมีความสุขมากเลยนะคะพี่คิน  แต่ถ้าความสุขของลีเป็นการทำร้ายนินา  ลีไม่ทำเด็ดขาด ”  ปณาลีหันมาฝืนยิ้มให้
“ พี่นับถือน้ำใจเรา  แต่จากนี้รู้ใช้ไหมว่ามันจะไม่เหมือนเดิม ”
“ เหมือนเดิมสิคะ  แค่เราทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม  สักวันลีอาจจะพบใครสักคนที่ลีรักเขาแล้วเขารักลี  และลืมเรื่องนี้ได้หมดใจ ”
“ คิดแบบนี้ได้พี่ก็สบายใจขึ้นบ้าง  ขอโทษนะน้องรัก ”  อคินนั่งลงข้างแล้วโอบร่างบางมาซบไหล่
“ มันเกิดขึ้นแล้วค่ะพี่คิน  จากนี้มันจะไม่เกิดขึ้นอีก ”
สักพักอคินก็ลุกออกไปเตรียมอาหารเช้าที่ล่วงมาจนเที่ยงให้หญิงสาวส่วนเจ้าตัวก็นั่งซึมอยู่หน้าทีวีแบบไม่รับรู้รายการอะไร
“ หนูลีมาทานข้าวเถอะ  ข้าวต้มหมูสุดฝีมือพี่คินเลยนะเนี่ย ”  อคินพยายามสร้างบรรยากาศครึกครื้นพร้อมกับจัดการตักข้าวต้มหอมฉุยใส่ถ้วยสองใบไปวางบนโต๊ะ  ปณาลีจึงลุกออกมาช่วยเตรียมเครื่องปรุงและเทน้ำใส่แก้ว  เมื่อนั่งลงคนละฝั่งอคินก็จัดการกับอาหารตรงหน้าทันทีก่อนจะแปลกใจเมื่อเห็นว่าปณาลียังถือช้อนนิ่งเหมือนครุ่นคิดอะไรสักอย่าง
“ ไม่กินล่ะ  กำลังร้อนๆเลยนะ ”  แล้วก็ก้มลงเป่าช้อนตนเอง
“ พี่คิน! ”  ปณาลีร้องเสียงตกใจ
“ อะไรเหรอ  เรียกซะตกใจเชียว ”  อคินแทบสำลัก  ก่อนจะเห็นว่าใบหน้าเนียนซีดลง
“ เป็นอะไรหนูลี ”  อคินลุกขึ้นมายืนใกล้ๆ
“ ลี…จะท้องไหม? ”  เสียงของปณาลีสั่นเบา  แต่อคินรีบพุ่งพรวดออกจากห้องไปทันที!






**************************************************************************************************************


ไม่ต้องใช้คุกกี้  เราลองมาทำนายอนาคตกันไหม?

มุกตามัน

**************************************************************************************************************
ตอนที่แล้ว
ตอนที่ 1 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 2 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 3 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 4 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 5 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 6 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่