(ขอบคุณสำหรับคำแนะนำเรื่องการแบ่งวรรคและการใส่เครื่องหมายคำพูดโดยนักอ่านจากตอนที่แล้วค่ะ)
หวังว่าคงอ่านกันสบายตาขึ้นนะคะ
ซ่อนรักพรางใจ
ตอนที่ 13 ความค้างคาใจ
…..บ่ายโมงหลังฝนหยุดตก อคินกำลังปลดปล่อยอารมณ์ศิลปินของเขาไปตามเสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆระหว่างที่กำลังแต่งแต้มสีสันลงบนผลงานชิ้นใหม่ที่ขลุกทำมาร่วมสัปดาห์ ปัง!!!!! ปลายนิ้วที่จับพู่กันกำลังเพ่งลงบนจุดๆหนึ่งของผืนผ้าใบก็ต้องตวัดออกนอกจุดที่ตั้งใจเมื่อเสียงประตูห้องทำงานถูกเปิดเข้ามาอย่างรวดเร็วและเสียงดัง อคินตะโกนก้องไปทั้งห้องด้วยอารมณ์ฝันสลาย
“ม่ายยยย!!!!” หันไปหาตัวต้นเหตุก็เห็นใบหน้าเข้มของเพื่อนสนิทยืนทำหน้าเครียดอยู่
“ไอ้เต็ม…โอ้ ผลงานของฉัน” อคินโอดครวญ
“ธุระด่วนโว้ย โทษที” คนที่ทำฝันของอคินสลายเอ่ยเรียบๆก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้แถวนั้น
"ด่วนอะไรของเอ็งตอนนี้วะ!!! เฮ้อ…” อารมณ์ศิลปินของเขาหายวับทันที อคินเดินไปปิดเพลงที่เปิดไว้แล้วเดินหน้าหงิกเข้ามาหาเพื่อนสนิท
“คิน…เรื่องคืนนั้นมันเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาหรือเปล่า” เหมรัศนิ์ถามจริงจัง อคินเลิกคิ้วสงสัยก่อนจะ อ๋อ…
“มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่หว่าเต็ม ฉันถามเจ้าตัวแล้วก็บอกว่าเรียบร้อยดี แกคิดมากหรือเปล่า” เห็นเพื่อนสนิทยังไม่คลายสงสัยจึงถาม
“ว่าแต่แกไปรู้ไปเห็นอะไรขึ้นมาถึงมาสงสัยได้” เหมรัศนิ์ไม่ตอบคำถามแต่เงียบไปสักพัก
“จำคืนที่บ้านฉันจัดงานให้สาวๆได้ไหม ที่หนูลีไม่สบายจนต้องกลับกะทันหัน พ่อกับพี่ตาลเป็นคนพาไปส่งบ้าน”
“อ้อ ช่วงนั้นหนูลีโหมงานหนักมากฉันรู้ดี แล้วยังมาซ้อมรับปริญญาอีกก็เลยป่วย” อคินยังเข้าใจแบบนั้น
“ถ้ามันไม่เรียบร้อยล่ะ” เหมรัศนิ์พูดเสียงเข้มขึ้น
“แกจะบอกอะไรฉันก็ว่ามาไอ้เต็มอย่ามาทำยึกยัก” อคินชักโมโห
“หนูลีท้อง!!! ฉันได้ยินพ่อกับพี่ตาลคุยกัน” เขาโพล่งออกมา อคินนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยออกมา
“เรื่องนี้มีแค่เจ้าตัวที่รู้ แกจะถามเองไหม” แล้วก็เห็นแววตาสับสนของเพื่อน
“ฉัน….ไม่กล้าว่ะ เขาคงเกลียดฉันแน่ๆถ้าถามออกไปแบบนั้น” เหมรัศนิ์ตอบแล้วก็ก้มหน้าลงยกมือขึ้นมากุมหัวตัวเองอย่างคนที่ดำลังเครียดสุดๆ อคินต้องเอื้อมมือไปแตะไหล่เพื่อคลายความกังวลให้
“ฉันถามให้….แกรออยู่ที่นี่แหละ” เพื่อขจัดข้อสงสัยของทั้งสองคนอคินรับอาสาเองจึงได้ยินเสียงขอบคุณเบาๆของเหมรัศนิ์
ปณาลีกำลังคุยโทรศัพท์กับลูกค้าอยู่ในตอนที่อคินเคาะประตูแล้วค่อยๆแง้มเข้ามาเมื่อเจ้าของห้องทำงานไม่ส่งเสียงขานตอบ ปณาลีวางหูโทรศัพท์แล้วหันมายิ้มให้อคินก็เหมือนจะไปไม่ถูก
“พี่คินมีอะไรเหรอคะ อ้อ ลูกค้าโทรมาตกลงแล้วนะคะ” เห็นท่าทางอ้ำๆอึ้งๆนั้นก็หัวเราะคิก
“ว่างแล้วใช่ไหมคุยกันหน่อยสิ” ปณาลีพยักหน้างงๆก่อนจะชวนให้นั่งลงเก้าอี้หน้าโต๊ะเพราะเห็นท่าว่าจะสำคัญมาก
“พี่คิน…” เห็นยังเงียบก็เลยเรียกดู อคินเงยหน้าขึ้นมายิ้มน้อยๆเหมือนจะชั่งใจแล้วถามขึ้นเบาๆ
“หนูลี…ท้องหรือเปล่า” ปฎิกิริยาที่แสดงออกมานั้นคืออาการตกใจจากรุ่นน้องสาว ใบหน้าสวยซีดลงก่อนเจ้าตัวจะรีบปฏิเสธเสียงหนัก
“ไม่นะคะ พี่คินไปเอาที่ไหนมาพูด หนูลีน่ะเหรอคะจะ…จะท้อง” ปณาลีเสียงแผ่วลงก้มหน้าหลบอคินด้วยความเสียใจที่ต้องโกหก
“อือ ไอ้เต็มมันมาปรึกษาพี่ เอ่อ เราอย่าไปโกรธมันนะ เต็มมันแค่สงสัยน่ะเห็นเราไม่ค่อยสบาย” อคินพยายามปลอบ
“ค่ะ หนูลีแค่ตกใจ” ปณาลีฝืนยิ้ม “ หนูลีขอไปอธิบายให้พี่เต็มเข้าใจดีกว่าค่ะ ” ทำใจแข็งเมื่อพูดออกไป
เหมรัศนิ์ที่เดินวนไปรอบห้องเริ่มกระสับกระส่ายเมื่ออคินยังไม่กลับมาเสียที ร่างสูงหยุดเท้าแล้วเตรียมจะเดินออกจากห้องไปก็ต้องหยุดเมื่อประตูห้องถูกเปิดเข้ามาเสียก่อน เหมรัศนิ์ทำหน้าไม่ถูกเมื่อปณาลียืนอยู่ตรงหน้า
“เอ่อ หนูลี…” เขารู้สึกลมหายใจติดขัด
“พี่เต็มรอคำตอบจากหนูลีอยู่ใช่ไหมคะ” เห็นท่าทางรู้สึกผิดนั้นเธอก็ยิ้มหวานให้ “อย่าคิดมากเลยค่ะ เรื่องแบบนั้นไม่มีทางเกิดขึ้น”
พูดออกไปแล้วปณาลีก็อยากร้องไห้ออกมากับสีหน้าดีใจและโล่งใจของผู้ชายตรงหน้า
“พี่ก็คิดแบบนั้นอยู่แล้ว คงมีการเข้าใจผิดกัน พี่ขอโทษนะ” เหมรัศนิ์ขอโทษ
“ไม่เป็นไรค่ะ…..พี่เต็มคงจะโล่งใจมาก" ถามชายหนุ่มเสียงเบา ประตูห้องทำงานที่กำลังแง้มเปิดชะงักเมื่อคนที่กำลังจะเปิดเข้ามารู้สึกว่าจะเข้ามาผิดจังหวะจึงหยุดไว้ก่อน
“พี่ว่ามันดีที่สุดแล้วสำหรับเรา ถ้าพี่จะมีลูกก็ต้องเป็นนินา และพี่ก็ไม่อยากทำลายอนาคตของหนูลี” เหมรัศนิ์เดินเข้ามาใกล้ๆยกมือขึ้นมาวางบนไหล่กลมกลึงเบาๆ ความอบอุ่นที่สัมผัสได้ทำให้ปณาลียิ้มเศร้า เขาควรจะมีลูกกับผู้หญิงที่เขารัก…
“อย่าห่วงเลยค่ะ หนูลีไม่มีทางทำร้ายพี่เต็มกับนินา หนูลีสัญญา” ก้มหน้าลงหลบแววตาที่เฝ้าหลงนั้นเพื่อซ่อนหยดน้ำตา
ชายหนุ่มแตะปลายคางของคนตรงหน้าให้เงยหน้าขึ้นมา เขารู้สึกเสียใจที่ได้ทำลายความสดใสของผู้หญิงคนนี้ เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากดึงตัวเข้ามากอดไว้ กอดเหมือนกับที่เขาได้กอดเมื่อวันก่อน ปณาลีสะอื้นเบาๆในอกอบอุ่นของเขาซึ่งเขาก็รับรู้ได้ว่าเธอทรมานกับสิ่งที่เป็นอยู่นี้อย่างไร คนที่กำลังยืนอยู่หน้าห้องเห็นว่ายังไม่สมควรเข้ามาตอนนี้ค่อยๆปิดประตูและเดินออกไป
“พี่เต็ม…จูบหนูลีได้ไหมคะ” เหมรัศนิ์ตกใจกับคำขอนั้น เขาผละออกมาแล้วมองดูใบหน้าสวยที่ยิ้มเศร้าอยู่
“หนูลี…” เขาครางออกมา
“ไม่ต้องคิดว่าหนูลีเป็นรุ่นน้องพี่หรือเป็นเพื่อนของนินา คิดแค่ว่าหนูลีเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่รักพี่ จากนี้ต่อไปเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม”
ปณาลีรู้ดีว่าคำขอของเธอมันมากเกินตัว เธอกำลังเป็นผู้หญิงหน้าด้านที่ขอให้ผู้ชายที่กำลังจะแต่งงานทำเรื่องที่ผิด เหมรัศนิ์หลับตาลงอย่างลำบากใจกับคำขอ เขารู้ว่ามันไม่ถูกต้องแต่เขาก็อยากทำอะไรสักอย่างที่จะให้ความสัมพันธ์ขาดๆวิ่นๆนี้ให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิม
“พี่จูบหนูลีไม่ได้” ใบหน้าสวยตรงหน้าสลดลงเมื่อเขาพูดแบบนั้น “แต่พี่ทำได้ดีที่สุดเท่านี้” พูดจบเขาก็โน้มใบหน้าลงแตะริมฝีปากอุ่นร้อนลงบนหน้าผากเนียน ปณาลีกลับตาลงเพื่อซึมซับความอบอุ่นนี้ไว้ให้มากที่สุด คงเป็นครั้งแรก ครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายสำหรับเธอ…
เหมรัศนิ์จากไปแล้ว จากไปพร้อมกับความอบอุ่นที่ยังเหลืออยู่ในหัวใจของปณาลี หญิงสาวนั่งเงียบๆต่อในห้องทำงานของอคินและเมื่อเจ้าของห้องกลับเข้ามาก็เดินมานั่งลงข้างๆ อคินเอ่ยออกมาเมื่อเห็นว่าปณาลีเริ่มทำใจได้
“จบลงแบบนี้ก็ดีแล้วนะ จากนี้ต่อไปเราก็กลับมามีความสัมพันธ์แบบเดิม ยิ้มได้ หัวเราะได้ ไม่มีอะไรค้างคาใจ”
“อื้อ…ขอบคุณพี่คินมากนะคะที่คอยดูแลหนูลีมาตลอด ถ้าไม่มีพี่หนูลีคงทำอะไรไม่ถูก” ปณาลียิ้มให้
“เอาเถอะ เลิกคิดเรื่องนั้นได้แล้ว จากนี้ก็จะมีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้น” อคินพูดพลางบิดตัวไปมา
“เฮ่อ…ไอ้เต็มนะไอ้เต็ม มันจะรู้ไหมว่าผลงานที่พี่กำลังสร้างสรรค์อยู่นี้มันต้องใช้เวลาและจิตวิญญาณความเป็นอาร์ตติสแค่ไหน”
อคินเริ่มบ่นและบ่นออกมา สองเท้าก็เดินรอบๆภาพวาดของตนเองเพื่อหาวิธีแก้ไขภาพ ปณาลีจึงเพิ่งสังเกตเห็นว่ารูปภาพตรงกลางห้องเป็นสถานที่ที่คุ้นเคย ภาพทุ่งหญ้าสีเขียวขจีกว้างสุดสายตาที่มีดอกหญ้าสีขาวเล็กๆประปรายมีภูเขาเป็นฉากหลังและหมอกสีขาวกำลังปกคลุมจางๆจากยอดเขา แวบแรกที่เห็นปณาลีก็ชอบทันที เธอยิ้มกว้างก่อนจะหันมาหาอคินด้วยประกายตาอ้อนวอน
“พี่คิน…รูปนี้หนูลีขอนะ” เล่นขอดื้อๆแบบนี้อคินก็โวยลั่น
“เฮ่ย!! ได้ไงกัน รูปนี้วาดตั้งนาน ผลงานอันประเมินค่าไม่ได้นะเนี่ย” เห็นคนขอทำตาวิบวับๆ อคินก็ใจอ่อนยวบเออออไป
“ให้ก็ได้ ถือว่าเป็นของขวัญปลอบใจละกัน แต่ขอแก้ตรงที่เลอะอีกหน่อย” เหมือนอคินจะดึงอารมณ์ศิลปินกลับมาได้บ้างก็ไล่รุ่นน้องสาวออกไปเพื่อสร้างสรรค์ผลงานต่อ
…..อาหารเย็นที่แสนน่ากินตรงหน้าไม่อาจทำให้คนที่กำลังแพ้ท้องรื่นเริงได้เหมือนเมื่อก่อน ปณาลีผุดลุกผุดวิ่งเข้าห้องน้ำจนปกรณ์ต้องวิ่งเข้าครัวหัวหมุนเพื่อหาวิธีทำให้น้องสาวทานข้าวให้ได้ปล่อยให้หน้าที่ดูแลเป็นของปรัชญ์ที่กำลังถือยาดมือหนึ่งอีกมือก็ถือพัดส่ายไปมา
“แพ้หนักแบบนี้อีกหน่อยใครเขาก็ต้องสงสัย งานแต่งงานเพื่อนเราจะไปไหวเหรอ” ปรัชญ์ถาม ปณาลีลืมตาขึ้นมา
“ไหวสิคะ ต้องไหว หนูลีอยากร่วมแสดงความยินดีกับนินา…และก็หนูลีจะไม่อยู่ที่นี่แล้วพี่ปรัชญ์อย่าลืมสิคะ” ปรัชญ์ส่ายหน้าไปมา
“หาที่หลบภัยได้ก็ติดต่อพี่มาบ้างนะ จะไปรับขวัญหลาน” เห็นคนตรงหน้ายิ้มได้ปรัชญ์ก็เบาใจ ตัวเขาเองก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่คาใจแต่ก็ไม่อาจพูดหรือถามออกไปได้ แค่ปณาลียอมบอกเรื่องท้องกับคนที่ไม่ใช่ญาติอย่างเขาก็ถือว่าได้ได้รับความไว้วางใจมากแล้ว
“หนูลีมาลองทานข้าวผัดสูตรใหม่ดูซิ พี่ทำให้ออกรสเปรี้ยวน่าจะทานได้นะ” ปกรณ์เรียกน้องสาว
“ค่ะ พี่อ้อม…ขอน้ำมะนาวเพิ่มได้ไหมค๊า” น้องสาวส่งเสียงออดอ้อนพี่ชายก็เลยหันไปเปิดตู้เย็นหามะนาวสดทันที
“หมอนัดอีกทีเมื่อไหร่พี่จะไปเป็นเพื่อน” ปรัชญ์เอ่ยถามปณาลีจึงหันมามองหน้าตกใจ
“พี่จะไปทำไมคะ” ถามหน้าตื่น
“ไปเป็นพ่อให้ลูกเราไง” ปรัชญ์ตอบเรียบๆ
- มุกตามัน
*******************************************************************************************************************************************
ตอนที่แล้ว
ตอนที่ 1
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37694309
ตอนที่ 2
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37704868
ตอนที่ 3
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37710134
ตอนที่ 4
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37714469
ตอนที่ 5
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37717748
ตอนที่ 6
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37721605
ตอนที่ 7
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37726558
ตอนที่ 8
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37742970
ตอนที่ 9
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37748901
ตอนที่ 10
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37758153
ตอนที่ 11
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37761486
ตอนที่ 12
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37767915
ซ่อนรักพรางใจ (ตอนที่ 13)
หวังว่าคงอ่านกันสบายตาขึ้นนะคะ
…..บ่ายโมงหลังฝนหยุดตก อคินกำลังปลดปล่อยอารมณ์ศิลปินของเขาไปตามเสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆระหว่างที่กำลังแต่งแต้มสีสันลงบนผลงานชิ้นใหม่ที่ขลุกทำมาร่วมสัปดาห์ ปัง!!!!! ปลายนิ้วที่จับพู่กันกำลังเพ่งลงบนจุดๆหนึ่งของผืนผ้าใบก็ต้องตวัดออกนอกจุดที่ตั้งใจเมื่อเสียงประตูห้องทำงานถูกเปิดเข้ามาอย่างรวดเร็วและเสียงดัง อคินตะโกนก้องไปทั้งห้องด้วยอารมณ์ฝันสลาย
“ม่ายยยย!!!!” หันไปหาตัวต้นเหตุก็เห็นใบหน้าเข้มของเพื่อนสนิทยืนทำหน้าเครียดอยู่
“ไอ้เต็ม…โอ้ ผลงานของฉัน” อคินโอดครวญ
“ธุระด่วนโว้ย โทษที” คนที่ทำฝันของอคินสลายเอ่ยเรียบๆก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้แถวนั้น
"ด่วนอะไรของเอ็งตอนนี้วะ!!! เฮ้อ…” อารมณ์ศิลปินของเขาหายวับทันที อคินเดินไปปิดเพลงที่เปิดไว้แล้วเดินหน้าหงิกเข้ามาหาเพื่อนสนิท
“คิน…เรื่องคืนนั้นมันเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาหรือเปล่า” เหมรัศนิ์ถามจริงจัง อคินเลิกคิ้วสงสัยก่อนจะ อ๋อ…
“มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่หว่าเต็ม ฉันถามเจ้าตัวแล้วก็บอกว่าเรียบร้อยดี แกคิดมากหรือเปล่า” เห็นเพื่อนสนิทยังไม่คลายสงสัยจึงถาม
“ว่าแต่แกไปรู้ไปเห็นอะไรขึ้นมาถึงมาสงสัยได้” เหมรัศนิ์ไม่ตอบคำถามแต่เงียบไปสักพัก
“จำคืนที่บ้านฉันจัดงานให้สาวๆได้ไหม ที่หนูลีไม่สบายจนต้องกลับกะทันหัน พ่อกับพี่ตาลเป็นคนพาไปส่งบ้าน”
“อ้อ ช่วงนั้นหนูลีโหมงานหนักมากฉันรู้ดี แล้วยังมาซ้อมรับปริญญาอีกก็เลยป่วย” อคินยังเข้าใจแบบนั้น
“ถ้ามันไม่เรียบร้อยล่ะ” เหมรัศนิ์พูดเสียงเข้มขึ้น
“แกจะบอกอะไรฉันก็ว่ามาไอ้เต็มอย่ามาทำยึกยัก” อคินชักโมโห
“หนูลีท้อง!!! ฉันได้ยินพ่อกับพี่ตาลคุยกัน” เขาโพล่งออกมา อคินนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยออกมา
“เรื่องนี้มีแค่เจ้าตัวที่รู้ แกจะถามเองไหม” แล้วก็เห็นแววตาสับสนของเพื่อน
“ฉัน….ไม่กล้าว่ะ เขาคงเกลียดฉันแน่ๆถ้าถามออกไปแบบนั้น” เหมรัศนิ์ตอบแล้วก็ก้มหน้าลงยกมือขึ้นมากุมหัวตัวเองอย่างคนที่ดำลังเครียดสุดๆ อคินต้องเอื้อมมือไปแตะไหล่เพื่อคลายความกังวลให้
“ฉันถามให้….แกรออยู่ที่นี่แหละ” เพื่อขจัดข้อสงสัยของทั้งสองคนอคินรับอาสาเองจึงได้ยินเสียงขอบคุณเบาๆของเหมรัศนิ์
ปณาลีกำลังคุยโทรศัพท์กับลูกค้าอยู่ในตอนที่อคินเคาะประตูแล้วค่อยๆแง้มเข้ามาเมื่อเจ้าของห้องทำงานไม่ส่งเสียงขานตอบ ปณาลีวางหูโทรศัพท์แล้วหันมายิ้มให้อคินก็เหมือนจะไปไม่ถูก
“พี่คินมีอะไรเหรอคะ อ้อ ลูกค้าโทรมาตกลงแล้วนะคะ” เห็นท่าทางอ้ำๆอึ้งๆนั้นก็หัวเราะคิก
“ว่างแล้วใช่ไหมคุยกันหน่อยสิ” ปณาลีพยักหน้างงๆก่อนจะชวนให้นั่งลงเก้าอี้หน้าโต๊ะเพราะเห็นท่าว่าจะสำคัญมาก
“พี่คิน…” เห็นยังเงียบก็เลยเรียกดู อคินเงยหน้าขึ้นมายิ้มน้อยๆเหมือนจะชั่งใจแล้วถามขึ้นเบาๆ
“หนูลี…ท้องหรือเปล่า” ปฎิกิริยาที่แสดงออกมานั้นคืออาการตกใจจากรุ่นน้องสาว ใบหน้าสวยซีดลงก่อนเจ้าตัวจะรีบปฏิเสธเสียงหนัก
“ไม่นะคะ พี่คินไปเอาที่ไหนมาพูด หนูลีน่ะเหรอคะจะ…จะท้อง” ปณาลีเสียงแผ่วลงก้มหน้าหลบอคินด้วยความเสียใจที่ต้องโกหก
“อือ ไอ้เต็มมันมาปรึกษาพี่ เอ่อ เราอย่าไปโกรธมันนะ เต็มมันแค่สงสัยน่ะเห็นเราไม่ค่อยสบาย” อคินพยายามปลอบ
“ค่ะ หนูลีแค่ตกใจ” ปณาลีฝืนยิ้ม “ หนูลีขอไปอธิบายให้พี่เต็มเข้าใจดีกว่าค่ะ ” ทำใจแข็งเมื่อพูดออกไป
เหมรัศนิ์ที่เดินวนไปรอบห้องเริ่มกระสับกระส่ายเมื่ออคินยังไม่กลับมาเสียที ร่างสูงหยุดเท้าแล้วเตรียมจะเดินออกจากห้องไปก็ต้องหยุดเมื่อประตูห้องถูกเปิดเข้ามาเสียก่อน เหมรัศนิ์ทำหน้าไม่ถูกเมื่อปณาลียืนอยู่ตรงหน้า
“เอ่อ หนูลี…” เขารู้สึกลมหายใจติดขัด
“พี่เต็มรอคำตอบจากหนูลีอยู่ใช่ไหมคะ” เห็นท่าทางรู้สึกผิดนั้นเธอก็ยิ้มหวานให้ “อย่าคิดมากเลยค่ะ เรื่องแบบนั้นไม่มีทางเกิดขึ้น”
พูดออกไปแล้วปณาลีก็อยากร้องไห้ออกมากับสีหน้าดีใจและโล่งใจของผู้ชายตรงหน้า
“พี่ก็คิดแบบนั้นอยู่แล้ว คงมีการเข้าใจผิดกัน พี่ขอโทษนะ” เหมรัศนิ์ขอโทษ
“ไม่เป็นไรค่ะ…..พี่เต็มคงจะโล่งใจมาก" ถามชายหนุ่มเสียงเบา ประตูห้องทำงานที่กำลังแง้มเปิดชะงักเมื่อคนที่กำลังจะเปิดเข้ามารู้สึกว่าจะเข้ามาผิดจังหวะจึงหยุดไว้ก่อน
“พี่ว่ามันดีที่สุดแล้วสำหรับเรา ถ้าพี่จะมีลูกก็ต้องเป็นนินา และพี่ก็ไม่อยากทำลายอนาคตของหนูลี” เหมรัศนิ์เดินเข้ามาใกล้ๆยกมือขึ้นมาวางบนไหล่กลมกลึงเบาๆ ความอบอุ่นที่สัมผัสได้ทำให้ปณาลียิ้มเศร้า เขาควรจะมีลูกกับผู้หญิงที่เขารัก…
“อย่าห่วงเลยค่ะ หนูลีไม่มีทางทำร้ายพี่เต็มกับนินา หนูลีสัญญา” ก้มหน้าลงหลบแววตาที่เฝ้าหลงนั้นเพื่อซ่อนหยดน้ำตา
ชายหนุ่มแตะปลายคางของคนตรงหน้าให้เงยหน้าขึ้นมา เขารู้สึกเสียใจที่ได้ทำลายความสดใสของผู้หญิงคนนี้ เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากดึงตัวเข้ามากอดไว้ กอดเหมือนกับที่เขาได้กอดเมื่อวันก่อน ปณาลีสะอื้นเบาๆในอกอบอุ่นของเขาซึ่งเขาก็รับรู้ได้ว่าเธอทรมานกับสิ่งที่เป็นอยู่นี้อย่างไร คนที่กำลังยืนอยู่หน้าห้องเห็นว่ายังไม่สมควรเข้ามาตอนนี้ค่อยๆปิดประตูและเดินออกไป
“พี่เต็ม…จูบหนูลีได้ไหมคะ” เหมรัศนิ์ตกใจกับคำขอนั้น เขาผละออกมาแล้วมองดูใบหน้าสวยที่ยิ้มเศร้าอยู่
“หนูลี…” เขาครางออกมา
“ไม่ต้องคิดว่าหนูลีเป็นรุ่นน้องพี่หรือเป็นเพื่อนของนินา คิดแค่ว่าหนูลีเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่รักพี่ จากนี้ต่อไปเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม”
ปณาลีรู้ดีว่าคำขอของเธอมันมากเกินตัว เธอกำลังเป็นผู้หญิงหน้าด้านที่ขอให้ผู้ชายที่กำลังจะแต่งงานทำเรื่องที่ผิด เหมรัศนิ์หลับตาลงอย่างลำบากใจกับคำขอ เขารู้ว่ามันไม่ถูกต้องแต่เขาก็อยากทำอะไรสักอย่างที่จะให้ความสัมพันธ์ขาดๆวิ่นๆนี้ให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิม
“พี่จูบหนูลีไม่ได้” ใบหน้าสวยตรงหน้าสลดลงเมื่อเขาพูดแบบนั้น “แต่พี่ทำได้ดีที่สุดเท่านี้” พูดจบเขาก็โน้มใบหน้าลงแตะริมฝีปากอุ่นร้อนลงบนหน้าผากเนียน ปณาลีกลับตาลงเพื่อซึมซับความอบอุ่นนี้ไว้ให้มากที่สุด คงเป็นครั้งแรก ครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายสำหรับเธอ…
เหมรัศนิ์จากไปแล้ว จากไปพร้อมกับความอบอุ่นที่ยังเหลืออยู่ในหัวใจของปณาลี หญิงสาวนั่งเงียบๆต่อในห้องทำงานของอคินและเมื่อเจ้าของห้องกลับเข้ามาก็เดินมานั่งลงข้างๆ อคินเอ่ยออกมาเมื่อเห็นว่าปณาลีเริ่มทำใจได้
“จบลงแบบนี้ก็ดีแล้วนะ จากนี้ต่อไปเราก็กลับมามีความสัมพันธ์แบบเดิม ยิ้มได้ หัวเราะได้ ไม่มีอะไรค้างคาใจ”
“อื้อ…ขอบคุณพี่คินมากนะคะที่คอยดูแลหนูลีมาตลอด ถ้าไม่มีพี่หนูลีคงทำอะไรไม่ถูก” ปณาลียิ้มให้
“เอาเถอะ เลิกคิดเรื่องนั้นได้แล้ว จากนี้ก็จะมีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้น” อคินพูดพลางบิดตัวไปมา
“เฮ่อ…ไอ้เต็มนะไอ้เต็ม มันจะรู้ไหมว่าผลงานที่พี่กำลังสร้างสรรค์อยู่นี้มันต้องใช้เวลาและจิตวิญญาณความเป็นอาร์ตติสแค่ไหน”
อคินเริ่มบ่นและบ่นออกมา สองเท้าก็เดินรอบๆภาพวาดของตนเองเพื่อหาวิธีแก้ไขภาพ ปณาลีจึงเพิ่งสังเกตเห็นว่ารูปภาพตรงกลางห้องเป็นสถานที่ที่คุ้นเคย ภาพทุ่งหญ้าสีเขียวขจีกว้างสุดสายตาที่มีดอกหญ้าสีขาวเล็กๆประปรายมีภูเขาเป็นฉากหลังและหมอกสีขาวกำลังปกคลุมจางๆจากยอดเขา แวบแรกที่เห็นปณาลีก็ชอบทันที เธอยิ้มกว้างก่อนจะหันมาหาอคินด้วยประกายตาอ้อนวอน
“พี่คิน…รูปนี้หนูลีขอนะ” เล่นขอดื้อๆแบบนี้อคินก็โวยลั่น
“เฮ่ย!! ได้ไงกัน รูปนี้วาดตั้งนาน ผลงานอันประเมินค่าไม่ได้นะเนี่ย” เห็นคนขอทำตาวิบวับๆ อคินก็ใจอ่อนยวบเออออไป
“ให้ก็ได้ ถือว่าเป็นของขวัญปลอบใจละกัน แต่ขอแก้ตรงที่เลอะอีกหน่อย” เหมือนอคินจะดึงอารมณ์ศิลปินกลับมาได้บ้างก็ไล่รุ่นน้องสาวออกไปเพื่อสร้างสรรค์ผลงานต่อ
…..อาหารเย็นที่แสนน่ากินตรงหน้าไม่อาจทำให้คนที่กำลังแพ้ท้องรื่นเริงได้เหมือนเมื่อก่อน ปณาลีผุดลุกผุดวิ่งเข้าห้องน้ำจนปกรณ์ต้องวิ่งเข้าครัวหัวหมุนเพื่อหาวิธีทำให้น้องสาวทานข้าวให้ได้ปล่อยให้หน้าที่ดูแลเป็นของปรัชญ์ที่กำลังถือยาดมือหนึ่งอีกมือก็ถือพัดส่ายไปมา
“แพ้หนักแบบนี้อีกหน่อยใครเขาก็ต้องสงสัย งานแต่งงานเพื่อนเราจะไปไหวเหรอ” ปรัชญ์ถาม ปณาลีลืมตาขึ้นมา
“ไหวสิคะ ต้องไหว หนูลีอยากร่วมแสดงความยินดีกับนินา…และก็หนูลีจะไม่อยู่ที่นี่แล้วพี่ปรัชญ์อย่าลืมสิคะ” ปรัชญ์ส่ายหน้าไปมา
“หาที่หลบภัยได้ก็ติดต่อพี่มาบ้างนะ จะไปรับขวัญหลาน” เห็นคนตรงหน้ายิ้มได้ปรัชญ์ก็เบาใจ ตัวเขาเองก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่คาใจแต่ก็ไม่อาจพูดหรือถามออกไปได้ แค่ปณาลียอมบอกเรื่องท้องกับคนที่ไม่ใช่ญาติอย่างเขาก็ถือว่าได้ได้รับความไว้วางใจมากแล้ว
“หนูลีมาลองทานข้าวผัดสูตรใหม่ดูซิ พี่ทำให้ออกรสเปรี้ยวน่าจะทานได้นะ” ปกรณ์เรียกน้องสาว
“ค่ะ พี่อ้อม…ขอน้ำมะนาวเพิ่มได้ไหมค๊า” น้องสาวส่งเสียงออดอ้อนพี่ชายก็เลยหันไปเปิดตู้เย็นหามะนาวสดทันที
“หมอนัดอีกทีเมื่อไหร่พี่จะไปเป็นเพื่อน” ปรัชญ์เอ่ยถามปณาลีจึงหันมามองหน้าตกใจ
“พี่จะไปทำไมคะ” ถามหน้าตื่น
“ไปเป็นพ่อให้ลูกเราไง” ปรัชญ์ตอบเรียบๆ
- มุกตามัน
*******************************************************************************************************************************************
ตอนที่แล้ว
ตอนที่ 1 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 2 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 3 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 4 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 5 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 6 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 7 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 8 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 9 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 10 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 11 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 12 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้