หัวใจสลายที่ปลายฟ้า (56)...ทำไม
ดวงเนตรก้าวตามมาเรีย เมื่อเปิดประตูออก ดวงเนตรทรุดตัวลงทันทีที่เห็นภาพวาดดินสอและลงแรงเงาไว้อย่างประณีต เป็นรูปของเธอเอง
“พี่หนอย” น้ำตาหยาดรินรดร่วงพร้อมเสียงสะอื้นไห้เหมือนจะขาดใจ น้าวิวถึงกับผงะ ใต้ภาพเขียนว่า “Love Yoy Always...รักนิรันดร์ บ้านที่พี่หนอย
เช่ามีเฟอร์นิเจอร์ครบ ภายในตู้มีเสื้อผ้าแขวนไว้ไม่กี่ชุด น้าวิวเดินสำรวจน้ำตายังเปรอะไปทั่วใบหน้า “โธ่เอ๋ยหนอย แกทำไมไม่ให้เราเจอแกนะ...
เป็นอะไรหรือ” น้าวิวคร่ำครวญ โต๊ะหนังสือมีหนังสือและกองหนังสือพิมพ์จัดเก็บอย่างเป็นระบบ มาเรียเข้าไปคุกเข่ากอดดวงเนตรไว้
“ทำใจดี ๆ ไว้ เธอต้องเข้มแข็ง อีกไม่นานเราจะต้องหาเขาเจอแน่นอน” ทั้งสามมองหน้ากัน
“น้าวิวว่าให้ดอกเตอร์แฮรี่และนิคกี้เขียนโน้ตทิ้งไว้ให้เขาไปพบเราที่บ้านพี่ภัทรนะ...ทั้งสองคนเป็นคนที่เขาใส่ใจและรักมากที่สุด ดอกเตอร์แฮรี่
ก็ยังเล่าว่าเขาดูแลอาจารย์อย่างดีระหว่างทำงานร่วมกัน ทั้งสองผูกพันกันมาก ส่วนนิคกี้คือหัวใจทั้งดวงของแนท”
“ต้องลองดู เอาอย่างนี้ฉันจะรออยู่ที่นี่ นิคกี้ตั้งสติให้ดีนะ พอขับรถไหวไหม”
“ได้ค่ะ”
“ขับไปกับน้าวิวแล้วเชิญดอกเตอร์แฮรี่มาที่นี่ ฉันจะรอ”
“ค่ะ” ดวงเนตรรับคำ
ดวงเนตรกลับมา พี่พลเห็นรถมาจอดเขารีบลงมาเปิดประตู เขาเดาว่าน่าจะเป็นข่าวดี เพราะดวงเนตรยังตาแดงอยู่ “เจอแล้วค่ะ” ดอกเตอร์แฮรี่
ตามลงมาพอดี
“เจอบ้านที่แนทเช่าอยู่แล้ว แต่เขาออกไปตั้งแต่เช้า มาเรียให้มาเชิญอาจารย์ค่ะ”
“ไปด้วยกันหมดนี่แหละ มาพี่พลจะขับรถให้” พี่พลมาตามเส้นทางที่ดวงเนตรบอกไม่นานก็ถึง
มาเรียยืนคุยอยู่กับลุงบราวน์ ดอกเตอร์แฮรี่รีบเดินตรงไปหามาเรีย เธอแนะนำลุงบราวน์กับดอกเตอร์แฮรี่และพี่พล”
“ดอกเตอรแฮรี่สอนอยู่ที่SIU คาร์บอนเดล เป็นอาจารย์ที่ทำงานทีมเดียวกับแนทค่ะ” มาเรียขยายความให้ลุงบราวน์รับรู้ ดอกเตอร์แฮรี่ขอ
กระดาษและปากกาจากลุงบราวน์ เขาเขียนถึงแนทว่า”ตั้งแต่เกิดอุบติเหตุขึ้น แล้วเราหาเธอไม่เจอ ทุก ๆ คืนผ่านไปอย่างยากลำบากสำหรับทุกคน
ที่อยู่และเฝ้ารอให้เธอกลับมา สำหรับฉันมันเป็นความรู้สึกผิด ที่ไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้ เป็นเพราะฉันเอง...เธอถึงได้ลำบากเพียงนี้ ฉันกับเธอ
เราทำงานร่วมกันมานาน...นานพอที่ฉันจะรักเธอเหมือนลูกชายของฉันคนหนึ่ง ฉันจำความสุภาพและเอื้ออาทรที่เธอให้กับคนรอบตัว และฉันด้วย
ที่มีโอกาสดีเช่นคนอื่น ๆ กรุณาเถอะอย่าให้ฉันต้องทนทรมาณกับความรู้สึกเช่นนี้อีกต่อไปเลย มาหาเราที่บ้านคุณแพท อาจารย์จะรอ ....แฮรี่
“ดวงเนตรเธอเขียนอีกคนนะ” มาเรียพูดพร้อมกับยื่นปากกาให้ ดวงเนตรรับมาน้ำตาหยดลงบนกระดาษเป็นดวง
***โอ้ว่าฟ้าเอ๋ย เดือนเอ๋ย ดาวเอ๋ย
โปรดเอื้อนเอ่ย วาจา ให้ข้าบ้าง
บอกข้าเพียง แห่งหน และเส้นทาง
แม้ต้องกางแผ่นฟ้าหาตะวัน***
***ลมเอ๋ยพัดโบกมา ช่วยพาข้าไปข้างกาย
หนาวไหมฤาร้อนไหม เจ็บตรงไหนช่วยบอกที
ข้างตัวยังคงมี ดาวดวงนี้อยู่ข้างใจ
หิวไหมเหนื่อยไหม ข้าเข้าใจไม่เหินห่าง
ความรักบ่จืดจาง แม้นสิ้นเดือนสิ้นตะวัน
ทุกวันอยู่ข้างพี่ ทุกวันนี้ยังรอคอย***
เธอเขียนกลอนที่มากความหมายและลงท้ายว่า “พี่หนอย ไม่เคยเลยแม้เพียงวินาทีเดียวที่เนตรจะลืมพี่หนอย กลับมาหาเนตรนะคะ อย่าทำ
ร้ายความรู้สึกเนตรอีกต่อไปเลย...ดวงเนตร
มาเรียเดินมาที่มิสเตอร์บราวน์ “คุณช่วยส่งโน้ตนี้ให้แนทกับมือได้ไหม”
“ได้สิถ้าผมมีส่วนช่วยผมยินดี”
“อีกเรื่องถ้าเขาเข้ามาต้องเดินผ่านหน้าบ้านคุณ คุณช่วยกรุณาโทรบอกเราด้วยนะคะ มาเรียจดเบอร์บ้านภัทรให้ แล้วลากลับ
ทุกคนกลับมาถึงบ้านภัทร มาเรียขอตัวกลับก่อน ช่วงที่เหลือคือเวลาที่ต้องรอ พี่พลโทรแจ้งการแกะรอยตามหาบ้านที่หนอยเช่าอยู่เจอแล้ว
เสียงพี่ภัทรดีใจและบอกพี่พลว่า
“เอาไว้ไปคุยต่อตอนเลิกงาน” เพียงแต่คำถามที่ค้างอยู่ในใจทุกคนคือพี่หนอยจะมาหรือไม่ การรอคอยเป็นสิ่งที่ทรมานมากสำหรับคนรอ แต่
ละนาทีผ่านไปอย่างช้า ๆ ทั้งหมดรอเสียงโทรศัพท์อยู่ที่ห้องรับแขก ส่วนดวงเนตรเข้าไปในบ้านแล้วเอาขนมปัง ชีส และอะโวคาโด หอบมาบ้านพี่
ภัทร เข้าไปในครัว...กลับออกมาพร้อมถาดแซนวิชอะโวคาโดชีสที่ทำเสร็จใหม่ ๆ
“ดอกเตอร์แฮรี่คะ ทานกลางวันกันก่อนนะคะ พี่ ๆ คะ เชิญค่ะ” ดวงเนตรเสิร์ฟทุกคนด้วยน้ำแครนเบอรี่ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย มี
เหยือกใส่น้ำเปล่าเตรียมไว้ให้พร้อม ดอกเตอร์แฮรี่มองเธอเงียบ ๆ ดวงเนตรค่อนข้างนิ่ง แม้ภายในใจจะพลุ่งพล่านไม่ต่างจากคนอื่น เธอทำงานอย่างคล่องแคล่ว เขาถาม “นิคกี้ชินแล้วค่ะ เพราะเมื่อก่อนอยู่ที่เมืองไทย ก็ต้องดูแลน้องหลายคน ทางคุณพ่อส่งเราไปเรียนที่เชียงใหม่ ต้องจัดเตรียม
อาหารและผลไม้ไว้ให้น้อง ๆ และทุกคนมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบและกฎระเบียบในบ้านด้วย” ดวงเนตรตอบความสงสัยของเขา“
“ลูกของพ่อสมใจพ่อทุกคนเพราะไม่มีใครเกเร สองคนถัดจากนิคกี้ เรียนหมอจวนจะจบแล้ว ตอนนี้คนเล็กกำลังเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยค่ะ”
ดวงเนตรเล่าให้ดอกเตอร์แฮรี่ฟัง
ดวงตาที่แห้งแล้งอย่างหมดหวัง เป็นประกายขึ้นแวบหนึ่งเมื่อพูดถึงครอบครัว ‘เธอคงภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ได้ดี ก็น่าหรอกขนาดเธอวุ่นวายตาม
หาแนท แต่เธอก็จัดการชีวิตการเรียนได้อย่างวิเศษ แนทเธอช่างโชคดี ที่มีนิคกี้อยู่เคียงข้าง โอ้!พระเจ้าโปรดทรงเมตตาด้วยเถิด’ ดอกเตอร์แฮรี่คิด
และยิ้มให้เธออย่างอบอุ่น ทุกคนรับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อยดวงเนตรกับน้าวิวช่วยกันเอาของไปเก็บล้าง “คนเอเชียเป็นอย่างนี้หรือ ผู้หญิง
ทำงานบ้านแล้วยูนั่งเฉย ๆ ”
“ไม่หรอกครับ เราทำงานนอกบ้านทั้งคู่ พอกลับมาที่บ้าน หลายครอบครัวจะแบ่งหน้าที่กัน บางทีสามีก็ช่วยงานบ้าน หรือช่วยดูแลลูก ๆ ครับ
ส่วนพวกเราที่SIU ทุกครั้งหลังสอบเสร็จเราจะไปรวมกันที่ห้องน้าวิว” พี่พลตอบข้อสงสัยและให้รายละเอียด
“ผู้หญิงคนที่ตัวเล็ก ๆ ใช่ไหม” ดอกเตอร์ถาม
“ครับผม...เธอเก่งมากเป็นพี่ใหญ่ประจำหอโดมิโน ผมเป็นประธานนักศึกษาไทย”
“คุณชื่อพลใช่ไหม”
“ครับ” พี่พลตอบ
“แนทพูดถึงคุณบ่อย ๆ เขาชอบเล่นกีต้าร์มาก เขาบอกว่าส่วนใหญ่จะเล่นคู่กับคุณ”
“ครับผม”
“บางครั้งผมก็ขอให้แนทเอากีต้าร์ไปด้วยที่บ้าน ถ้าเราเชิญเขาไปดินเนอร์ ภรรยาผมชอบเสียงเขามาก และเขาร้องเพลงของจอนห์ เดนเวอร์
กับเคนนี่ โรเจอร์ได้เพราะมาก เขาเกิดมากับพรสวรรค์หลายอย่างจริงๆ เขาเคยเขียนภาพภรรยาผมด้วยดินสอและแรงเงาออกมาได้สวยงาม เขาเป็น
ลูกศิษย์คนโปรดของผมเลยล่ะ ตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งนั้น เธอร้องไห้คิดถึงเขาบ่อย ๆ ผมยิ่งเสียใจมากกว่า” ดอกเตอร์แฮรี่เล่าให้ทุกคนฟัง
“ความคิดถึงและห่วงหาของทุกคนที่มีต่อพี่หนอยน่าอบอุ่นนัก แต่เขาอยู่ที่ไหน เขารู้ไหมว่าทุกคนรออยู่” ดวงเนตรคิด จากบ่ายเป็นสี่โมงเย็น
ทุกคนยังคงเฝ้ารออยู่ที่ห้องรับแขก น้าวิวหันมาทางดวงเนตร
“ไปอาบน้ำให้สดชื่นก่อนไหมจ๊ะ นะแล้วค่อยกลับมาเปลี่ยนน้าวิว”
หัวใจสลายที่ปลายฟ้า (56)...ทำไม
ดวงเนตรก้าวตามมาเรีย เมื่อเปิดประตูออก ดวงเนตรทรุดตัวลงทันทีที่เห็นภาพวาดดินสอและลงแรงเงาไว้อย่างประณีต เป็นรูปของเธอเอง
“พี่หนอย” น้ำตาหยาดรินรดร่วงพร้อมเสียงสะอื้นไห้เหมือนจะขาดใจ น้าวิวถึงกับผงะ ใต้ภาพเขียนว่า “Love Yoy Always...รักนิรันดร์ บ้านที่พี่หนอย
เช่ามีเฟอร์นิเจอร์ครบ ภายในตู้มีเสื้อผ้าแขวนไว้ไม่กี่ชุด น้าวิวเดินสำรวจน้ำตายังเปรอะไปทั่วใบหน้า “โธ่เอ๋ยหนอย แกทำไมไม่ให้เราเจอแกนะ...
เป็นอะไรหรือ” น้าวิวคร่ำครวญ โต๊ะหนังสือมีหนังสือและกองหนังสือพิมพ์จัดเก็บอย่างเป็นระบบ มาเรียเข้าไปคุกเข่ากอดดวงเนตรไว้
“ทำใจดี ๆ ไว้ เธอต้องเข้มแข็ง อีกไม่นานเราจะต้องหาเขาเจอแน่นอน” ทั้งสามมองหน้ากัน
“น้าวิวว่าให้ดอกเตอร์แฮรี่และนิคกี้เขียนโน้ตทิ้งไว้ให้เขาไปพบเราที่บ้านพี่ภัทรนะ...ทั้งสองคนเป็นคนที่เขาใส่ใจและรักมากที่สุด ดอกเตอร์แฮรี่
ก็ยังเล่าว่าเขาดูแลอาจารย์อย่างดีระหว่างทำงานร่วมกัน ทั้งสองผูกพันกันมาก ส่วนนิคกี้คือหัวใจทั้งดวงของแนท”
“ต้องลองดู เอาอย่างนี้ฉันจะรออยู่ที่นี่ นิคกี้ตั้งสติให้ดีนะ พอขับรถไหวไหม”
“ได้ค่ะ”
“ขับไปกับน้าวิวแล้วเชิญดอกเตอร์แฮรี่มาที่นี่ ฉันจะรอ”
“ค่ะ” ดวงเนตรรับคำ
ดวงเนตรกลับมา พี่พลเห็นรถมาจอดเขารีบลงมาเปิดประตู เขาเดาว่าน่าจะเป็นข่าวดี เพราะดวงเนตรยังตาแดงอยู่ “เจอแล้วค่ะ” ดอกเตอร์แฮรี่
ตามลงมาพอดี
“เจอบ้านที่แนทเช่าอยู่แล้ว แต่เขาออกไปตั้งแต่เช้า มาเรียให้มาเชิญอาจารย์ค่ะ”
“ไปด้วยกันหมดนี่แหละ มาพี่พลจะขับรถให้” พี่พลมาตามเส้นทางที่ดวงเนตรบอกไม่นานก็ถึง
มาเรียยืนคุยอยู่กับลุงบราวน์ ดอกเตอร์แฮรี่รีบเดินตรงไปหามาเรีย เธอแนะนำลุงบราวน์กับดอกเตอร์แฮรี่และพี่พล”
“ดอกเตอรแฮรี่สอนอยู่ที่SIU คาร์บอนเดล เป็นอาจารย์ที่ทำงานทีมเดียวกับแนทค่ะ” มาเรียขยายความให้ลุงบราวน์รับรู้ ดอกเตอร์แฮรี่ขอ
กระดาษและปากกาจากลุงบราวน์ เขาเขียนถึงแนทว่า”ตั้งแต่เกิดอุบติเหตุขึ้น แล้วเราหาเธอไม่เจอ ทุก ๆ คืนผ่านไปอย่างยากลำบากสำหรับทุกคน
ที่อยู่และเฝ้ารอให้เธอกลับมา สำหรับฉันมันเป็นความรู้สึกผิด ที่ไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้ เป็นเพราะฉันเอง...เธอถึงได้ลำบากเพียงนี้ ฉันกับเธอ
เราทำงานร่วมกันมานาน...นานพอที่ฉันจะรักเธอเหมือนลูกชายของฉันคนหนึ่ง ฉันจำความสุภาพและเอื้ออาทรที่เธอให้กับคนรอบตัว และฉันด้วย
ที่มีโอกาสดีเช่นคนอื่น ๆ กรุณาเถอะอย่าให้ฉันต้องทนทรมาณกับความรู้สึกเช่นนี้อีกต่อไปเลย มาหาเราที่บ้านคุณแพท อาจารย์จะรอ ....แฮรี่
“ดวงเนตรเธอเขียนอีกคนนะ” มาเรียพูดพร้อมกับยื่นปากกาให้ ดวงเนตรรับมาน้ำตาหยดลงบนกระดาษเป็นดวง
***โอ้ว่าฟ้าเอ๋ย เดือนเอ๋ย ดาวเอ๋ย
โปรดเอื้อนเอ่ย วาจา ให้ข้าบ้าง
บอกข้าเพียง แห่งหน และเส้นทาง
แม้ต้องกางแผ่นฟ้าหาตะวัน***
***ลมเอ๋ยพัดโบกมา ช่วยพาข้าไปข้างกาย
หนาวไหมฤาร้อนไหม เจ็บตรงไหนช่วยบอกที
ข้างตัวยังคงมี ดาวดวงนี้อยู่ข้างใจ
หิวไหมเหนื่อยไหม ข้าเข้าใจไม่เหินห่าง
ความรักบ่จืดจาง แม้นสิ้นเดือนสิ้นตะวัน
ทุกวันอยู่ข้างพี่ ทุกวันนี้ยังรอคอย***
เธอเขียนกลอนที่มากความหมายและลงท้ายว่า “พี่หนอย ไม่เคยเลยแม้เพียงวินาทีเดียวที่เนตรจะลืมพี่หนอย กลับมาหาเนตรนะคะ อย่าทำ
ร้ายความรู้สึกเนตรอีกต่อไปเลย...ดวงเนตร
มาเรียเดินมาที่มิสเตอร์บราวน์ “คุณช่วยส่งโน้ตนี้ให้แนทกับมือได้ไหม”
“ได้สิถ้าผมมีส่วนช่วยผมยินดี”
“อีกเรื่องถ้าเขาเข้ามาต้องเดินผ่านหน้าบ้านคุณ คุณช่วยกรุณาโทรบอกเราด้วยนะคะ มาเรียจดเบอร์บ้านภัทรให้ แล้วลากลับ
ทุกคนกลับมาถึงบ้านภัทร มาเรียขอตัวกลับก่อน ช่วงที่เหลือคือเวลาที่ต้องรอ พี่พลโทรแจ้งการแกะรอยตามหาบ้านที่หนอยเช่าอยู่เจอแล้ว
เสียงพี่ภัทรดีใจและบอกพี่พลว่า
“เอาไว้ไปคุยต่อตอนเลิกงาน” เพียงแต่คำถามที่ค้างอยู่ในใจทุกคนคือพี่หนอยจะมาหรือไม่ การรอคอยเป็นสิ่งที่ทรมานมากสำหรับคนรอ แต่
ละนาทีผ่านไปอย่างช้า ๆ ทั้งหมดรอเสียงโทรศัพท์อยู่ที่ห้องรับแขก ส่วนดวงเนตรเข้าไปในบ้านแล้วเอาขนมปัง ชีส และอะโวคาโด หอบมาบ้านพี่
ภัทร เข้าไปในครัว...กลับออกมาพร้อมถาดแซนวิชอะโวคาโดชีสที่ทำเสร็จใหม่ ๆ
“ดอกเตอร์แฮรี่คะ ทานกลางวันกันก่อนนะคะ พี่ ๆ คะ เชิญค่ะ” ดวงเนตรเสิร์ฟทุกคนด้วยน้ำแครนเบอรี่ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย มี
เหยือกใส่น้ำเปล่าเตรียมไว้ให้พร้อม ดอกเตอร์แฮรี่มองเธอเงียบ ๆ ดวงเนตรค่อนข้างนิ่ง แม้ภายในใจจะพลุ่งพล่านไม่ต่างจากคนอื่น เธอทำงานอย่างคล่องแคล่ว เขาถาม “นิคกี้ชินแล้วค่ะ เพราะเมื่อก่อนอยู่ที่เมืองไทย ก็ต้องดูแลน้องหลายคน ทางคุณพ่อส่งเราไปเรียนที่เชียงใหม่ ต้องจัดเตรียม
อาหารและผลไม้ไว้ให้น้อง ๆ และทุกคนมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบและกฎระเบียบในบ้านด้วย” ดวงเนตรตอบความสงสัยของเขา“
“ลูกของพ่อสมใจพ่อทุกคนเพราะไม่มีใครเกเร สองคนถัดจากนิคกี้ เรียนหมอจวนจะจบแล้ว ตอนนี้คนเล็กกำลังเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยค่ะ”
ดวงเนตรเล่าให้ดอกเตอร์แฮรี่ฟัง
ดวงตาที่แห้งแล้งอย่างหมดหวัง เป็นประกายขึ้นแวบหนึ่งเมื่อพูดถึงครอบครัว ‘เธอคงภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ได้ดี ก็น่าหรอกขนาดเธอวุ่นวายตาม
หาแนท แต่เธอก็จัดการชีวิตการเรียนได้อย่างวิเศษ แนทเธอช่างโชคดี ที่มีนิคกี้อยู่เคียงข้าง โอ้!พระเจ้าโปรดทรงเมตตาด้วยเถิด’ ดอกเตอร์แฮรี่คิด
และยิ้มให้เธออย่างอบอุ่น ทุกคนรับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อยดวงเนตรกับน้าวิวช่วยกันเอาของไปเก็บล้าง “คนเอเชียเป็นอย่างนี้หรือ ผู้หญิง
ทำงานบ้านแล้วยูนั่งเฉย ๆ ”
“ไม่หรอกครับ เราทำงานนอกบ้านทั้งคู่ พอกลับมาที่บ้าน หลายครอบครัวจะแบ่งหน้าที่กัน บางทีสามีก็ช่วยงานบ้าน หรือช่วยดูแลลูก ๆ ครับ
ส่วนพวกเราที่SIU ทุกครั้งหลังสอบเสร็จเราจะไปรวมกันที่ห้องน้าวิว” พี่พลตอบข้อสงสัยและให้รายละเอียด
“ผู้หญิงคนที่ตัวเล็ก ๆ ใช่ไหม” ดอกเตอร์ถาม
“ครับผม...เธอเก่งมากเป็นพี่ใหญ่ประจำหอโดมิโน ผมเป็นประธานนักศึกษาไทย”
“คุณชื่อพลใช่ไหม”
“ครับ” พี่พลตอบ
“แนทพูดถึงคุณบ่อย ๆ เขาชอบเล่นกีต้าร์มาก เขาบอกว่าส่วนใหญ่จะเล่นคู่กับคุณ”
“ครับผม”
“บางครั้งผมก็ขอให้แนทเอากีต้าร์ไปด้วยที่บ้าน ถ้าเราเชิญเขาไปดินเนอร์ ภรรยาผมชอบเสียงเขามาก และเขาร้องเพลงของจอนห์ เดนเวอร์
กับเคนนี่ โรเจอร์ได้เพราะมาก เขาเกิดมากับพรสวรรค์หลายอย่างจริงๆ เขาเคยเขียนภาพภรรยาผมด้วยดินสอและแรงเงาออกมาได้สวยงาม เขาเป็น
ลูกศิษย์คนโปรดของผมเลยล่ะ ตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งนั้น เธอร้องไห้คิดถึงเขาบ่อย ๆ ผมยิ่งเสียใจมากกว่า” ดอกเตอร์แฮรี่เล่าให้ทุกคนฟัง
“ความคิดถึงและห่วงหาของทุกคนที่มีต่อพี่หนอยน่าอบอุ่นนัก แต่เขาอยู่ที่ไหน เขารู้ไหมว่าทุกคนรออยู่” ดวงเนตรคิด จากบ่ายเป็นสี่โมงเย็น
ทุกคนยังคงเฝ้ารออยู่ที่ห้องรับแขก น้าวิวหันมาทางดวงเนตร
“ไปอาบน้ำให้สดชื่นก่อนไหมจ๊ะ นะแล้วค่อยกลับมาเปลี่ยนน้าวิว”