หัวใจสลายที่ปลายฟ้า (23)...Talk of the town

กระทู้คำถาม

Cr.Net
หัวใจสลายที่ปลายฟ้า (23)...Talk of the town

            รถสองคันมาจอดที่หน้าบ้านพี่วรรณ ด้านหน้าบ้านมีต้นเมเปิลใหญ่สองต้น กำลังเริ่มทิ้งใบรับฤดูใบไม้ร่วง สวนหญ้าหน้าบ้านเขียวขจี มีรั้ว
ไม้สีขาวกั้นไม่สูงเป็นแนวเฉพาะส่วนหน้าที่ติดถนน
            พี่วรรณออกมารับแขกพร้อมสามีเธอ
            “อ้าว! นึกว่าใครมาซะเย็นเลย เข้ามาข้างในกันเลยตามสบาย พี่วรรณยังไม่ได้ทำอาหารเย็นเลย”
            "ไม่ต้องหรอกค่ะเราเอาพิซซ่ากับขนมปังกระเทียมมาตั้งห้ากล่องใหญ่” น้าวิวเอ่ยพร้อมยกมือสวัสดีทั้งสามีและภรรยา ทุกคนทำตามส่วนพี่
พลมัวเล่นกับไอ้ดิกกี้หมาตัวใหญ่ ขนปุกปุยอยู่หน้าสนาม
            
            ทุกคนขออนุญาตเจ้าบ้าน แล้วเดินหอบของตามพี่วรรณเข้าไปยังห้องครัวเพื่อจัดเตรียมโต๊ะกินข้าว พี่หนอยแวะคุกับจอร์จ...เรื่องบาสเกต
บอลแชมเปี้ยนชิพปีนี้ เสียงทั้งสองคนหัวเราะประสานกันค่อนข้างดังออกมาจากห้องรับแขก พี่หนอยเป็นคนคุยได้ทุกประเด็น แถมสำเนียงอเมริกัน
นี่หาใครเทียบยาก ยกเว้น! น้าวิวคนเดียว เธอเคยค่อนแคะหนอยว่า
            “มันมีวิธีเรียนลัด ควงแหม่มไม่ซ้ำหน้าเลย”
            “ตั้งแต่พอเขาเริ่มสนใจเนตร ขนาดในช่วงแรก เขางดกิจกรรมอื่นที่ว่าหมดเลยนะคะ” พี่น้อยคอยเป็นไม้เปิดทางให้หนอยตลอด...เลยรอด
ตัวไป
             “หนุ่ม ๆ อาหารขึ้นโต๊ะแล้ว” เสียงพี่วรรณเรียก ทุกคนมานั่งพร้อมกันโดยมีเก้าอี้เสริมให้พี่พลนั่งติดกับพี่สาว ดวงเนตรนั่งกลางขนาบด้วยน้าวิว
และพี่น้อย หนอยนั่งฝั่งตรงข้ามตรงกันกับสาวน้อย น้าวิวค้อนให้วงใหญ่
            ‘เอาจนได้นะไอ้ตี๋’ เจ๊ใหญ่คิด
            “วันนี้ดวงเนตรใส่ชุดหมีน่ารักมากพี่วรรณชอบ จะใส่เองก็ไม่ได้แล้วเพราะอายุเรามากขึ้นทุกปี”
            “พี่วรรณยังไม่แก่เลยค่ะใช่ไหมจอร์ช” ดวงเนตรเอ่ยถามสามีพี่วรรณ
            “ใช่! ยังไม่แก่และสวยด้วย” ทุกคนพากันเฮเพราะการทำคะแนนของเขา พออาหารเริ่มหมด น้าวิวเลยถือโอกาสเปิดประเด็น
            “วันนี้คนมาที่บูธเราเยอะมาก แถมสาวสวยหนุ่มหล่อก็โดนตากล้องมหาวิทยาลัยกดไปหลายภาพ คนเข้ามาชื่นชมกับชุดไทยเรามากมาย”
            “แหมก็ทั้งสองคนนั้นเขาทั้งหล่อและสวยน้อยกว่าใครที่ไหน” พี่วรรณพูด
                                           
            “วิวจะมาขอปรึกษาพี่วรรณค่ะ” เจ๊ใหญ่พุ่งตรงเข้าเป้า
            “ว่าจะให้ทั้งคู่เป็นพรีเซนเตอร์ต่ออีกสองวันแต่หาชุดไม่ได้”
            พี่วรรณพูดแทรกขึ้น “อ้าว! แล้ววันสุดท้ายไม่เอาด้วยเหรอ เรื่องชุดไม่ต้องห่วงของพี่วรรณมีเพียบ แต่ทำไมไม่แต่งถึงวันสุดท้ายด้วยล่ะ”
            “วันสุดท้ายจะส่งดวงเนตรขึ้นแสดงโชว์ค่ะ” 
            “ดวงเนตรรำไทยเป็นเหรอจ๊ะ”  พี่วรรณยังงง! อยู่ แล้วยิ่งงง! เข้าไปใหญ่  เมื่อน้องชายบอกว่าจะส่งดวงเนตรขึ้นโชว์แม่ไม้มวยไทย
            “Oh! My God”  จอร์จอุทาน ทั้งคู่จ้องมองหน้าหวานของเธอแทบไม่กระพริบตา แล้วเรื่องราวของสาวน้อยหน้าหวานที่ซ่อนอาวุธร้ายไว้กับตัว
ก็ถูกเอามาเล่าให้พี่วรรณและจอร์จฟังอีกรอบ
            “เยี่ยมยอดไปเลย” จอร์จพูดได้ไม่กี่คำ แต่คำนี้เขาพูดจนติดปาก
            “พรุ่งนี้พลไปรับน้องมาแต่เช้าเหมือนวันนี้ แล้วที่เหลือพี่วรรณจะจัดการให้เลิศเลย”
            “โอ้โฮ! ทุกคนเป็นห่วงแต่เนตรนะครับ เอาผมไปทิ้งไว้ไหนเนี่ย” หนอยเอ่ยอย่างน้อยใจ 
             “สุดหล่อของพี่น้อยใครจะเอาไปทิ้งที่ไหนล่ะคะ รอเดี๋ยวทีละคนนะ” ดวงเนตรอดหัวเราะไม่ได้  หนอยแหย่
            “หัวเราะซะหวานเป็นเสียงระฆังเชียวน้องหนู” พี่วรรณเห็นด้วยกับคำเปรยของหนอย
            “ของหนอยมีเหลือที่หออีกชุดเดียว แล้วอีกชุดจะเอาที่ไหนดีครับพี่วรรณ”
             “พี่นึกออกแล้วก็ยืมของจอร์จที่ใส่ตอนแต่งงานสิ...นะที่รัก” มีหรือจอร์จจะไม่ให้เพราะเขาสองคนมาทีไรต้องจ้อกันแต่เรื่องกีฬา เมื่อพิซซ่าหมด
ก็ช่วยกับเก็บล้าง แล้วลาเจ้าของบ้านกลับ ทุกคนจะได้พักผ่อนไวหน่อย
            “พี่วรรณกับจอร์จไปดูด้วยนะคะวันสุดท้าย วิวจะจ้องแถวหน้าสุดให้”
            “ได้เลย Bye.”
 
            วันที่สองของงานทุกคนตั้งใจรอดูว่า คู่พระคู่นางวันนี้จะใส่ชุดอะไร แล้วรถพี่พลก็มาจอด คนที่อยากเห็นที่สุดคือตากล้องของมหาวิทยาลัย
คนเดิม หนอยเดินนำมาด้วยชุดพระราชทานคอตั้งสองชั้นเป็นไหมสีขาวนวลทั้งตัว คอชั้นในเป็นสีชมพูอ่อนตรงตำแหน่งคอปักเป็นเกลียวดิ้นทอง
กางเกงสแล็ก สีเดียวกับเสื้อ สวมรองเท้าหนังคู่เดิมขัดเป็นเงา ชุดสีขาวนวลทำให้หนอยน่าดูไปอีกแบบคือประมาณว่าหล่อเนี้ยบ
            ดวงเนตรเดินตามมาในชุดไทยจักรพรรดิสีชมพูโอรส  มีลักษณะคล้ายชุดเมื่อวาน ห่มสไบเฉียงปักเกลียวไหมสีทอง สไบจีบรองสไบทึบ
ปักลายลงละเอียดกว่าขุดไทยจักรี  เกล้าผมสูงกว่าเมื่อวาน สวมรัดเกล้าครอบอยู่ด้านหน้า แต่งด้วยต่างหู สร้อยคอ และสร้อยข้อมือ ทั้งหมดคืองาน
ถักด้วยมือเป็นลายดอกพิกุลทองทั้งชุด ใบหน้าดวงเนตรแต่งไว้บางๆ  แตะบลัชออนสีส้มอมชมพูบนโหนกแก้ม ริมฝีปากเรียวสวยทาด้วยลิปสีชมพูอ่อน
กว่าจะฝ่าฝูงชนมาถึงบูธก็ตาลายเพราะแสงแฟลซ  ทุกคนที่รออยู่ปรบมือกันเกรียว นำโดยน้าวิวซึ่งหน้าบานไม่หุบเลย ส่วนพี่น้อยยังอ้าปากค้างอยู่
พึ่ศิริเข้ามากอดดวงเนตร
            “ทำบุญด้วยอะไรจ๊ะถึงได้งามขนาดนี้” เธอยิ้มหวานให้ทั้งคู่ยกมือไหว้สวัสดี เพราะชุดดวงเนตรพอดีตัวมาก การไหว้จึงดูนุ่มนวลสวยงามยิ่งนัก
            “จะมีใครสักคนเข้ามากอดผมบ้างไหมนี่” หนอยโวยวาย
             “รู้สึกเหมือนโดดเดี่ยวผู้น่าสงสารจังเลย” พี่น้อยยกมือขึ้นคนแรก แล้วหันมาเหมือนขออนุญาตจากดวงเนตร เธอพูดกับพี่น้อย
             “เนตรยกให้เลยนะคะ”
             “อ้าว ๆ ! ห้ามเปลี่ยนใจนะจ๊ะ” ทุกคนหัวเราะชอบใจต้อนรับวันใหม่อีกวัน

             หนังสือพิมพ์มหาวิทยาลัย พาดหัวข้อใหญ่ของงานเทศกาลนักศึกษานานาชาติ ด้วยข้อความว่า “HOW AMAZING 0F TRADITIONAL
THAI DRESSES”...ความงามอย่างน่าอัศจรรย์ของชุดไทย พี่น้อยเป็นคนไปหยิบหนังสือพิมพ์จากหน้างาน ทุกคนที่มาแต่เช้ากำลังกินข้าวกล่องกัน
อยู่
            “อุ๊ย!สวยมาก ๆ เลยค่ะ ชุดไทยเราได้ลงหน้าหนึ่งวันนี้” เสียงพี่น้อยดังขึ้น แล้วบรรยากาศไทยมุงก็เกิดขึ้น รูปที่ทุกคนเห็นเป็นภาพหนอย
และดวงเนตรในชุดไทยเต็มตัว หนอยยืนเอามือโอบเอวดวงเนตรไว้ ดวงเนตรเอียงใบหน้ายิ้มหวาน ทั้งสองคนกำลังมองสบตากันอยู่
            พี่ศิริพูดขึ้นคนแรก
            “โอ้โฮ! อย่างกับถ่ายจาก Wedding Studio เลย” น้าวิวเอ่ยขึ้นแบบเห็นด้วย 
             “ได้อารมณ์จริง ๆ ”
             “อารมณ์ที่คนกำลังอยู่ในความรักนะคะ” พี่น้อยเสริมขึ้นอีกคน ดวงเนตรกับหนอยยืนดูอยู่ด้วย หนอยเอ่ย “ถ้ามันเป็นเรื่องจริง เจ้าสาวผมก็สวย
ที่สุดล่ะครับ”
            “อย่าเพิ่งตู่สิคะ แล้วถ่ายตอนไหนก็ไม่รู้ตัว แถมมือพี่หนอยเอาไว้เฉย ๆ ไม่ได้หรือไง ถ้าทำอีกทีเนตรโกรธจริง ๆ นะ” พูดซะยาวด้วยความ
โมโหแถมยังทำหน้างอใส่พี่หนอยอีกต่างหาก คนที่กำลังชื่นชมภาพอยู่กะจะเม้าท์กันต่อเลยต้องติดเบรก เพราะน้องหมวยหน้าบอกบุญไม่รับแล้ว
และไม่รับทั้งซองกฐินและผ้าป่าด้วย น้าวิวเข้าส่งถ้วยกาแฟร้อนให้
            พี่น้อยเห็นสองคนนี้ทีไรเป็นปลื้ม เพราะดวงเนตรเข้ามาชดเชยสิ่งที่ขาดหายไปของน้าวิวหลายอย่างโดยเจ้าตัวไม่ทันรู้สึก  
             “ดวงเนตรอย่าทำหน้างอไม่สวยนะ แล้วเลิกโมโหหนอยได้แล้วนะ...นะจ๊ะ” น้าวิวเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ เธอรับกาแฟมาพร้อมกล่าวขอบ
คุณ เข้าช่วงสายหน่อยภาพนั้นกลายเป็นประเด็นร้อน...Talk of the town คนเข้ามาเดินชมตามบูธต่าง ๆ มากขึ้นกว่าเมื่อวาน วันนี้น้าวิวเกณฑ์นัก
ศึกษาเพิ่มเข้ามาช่วยผ่อนแรง เพราะชุดแรกทั้งเด็กและผู้อาวุโสอย่างน้าวิว พี่น้อยและพี่ศิริเริ่มล้าแล้ว...ผู้อาวุโสเป็นสรรพนามที่พี่หนอยตั้งขึ้นไว้
เรียกพี่ ๆ โดยเฉพาะกับน้าวิว
            ทีมเวิร์คทั้งทีมของพี่ไทยเราไม่มีใครได้หยุดเลย ส่วนพี่พลเป็นกองเสบียงคอยส่งข้าวและน้ำ ใครว่างก็เบรกกินข้าวกลางวัน แล้วเข้ามาสลับ
คนอื่นออกไป สุดาเดินตามพรีเซนเตอร์ต้อย ๆ คอยเติมเครื่องหน้าให้น้องหมวย ดีอย่างที่หน้าดวงเนตรไม่มัน ถ้ามันสุดาคงไม่คอยได้หยุดพัก
เพราะต้องคอยซับแล้วเติมคิ้วคางแก้มตลอดแน่ 
            "จบงานนี้ก็ไปรับจ้างแต่งหน้าเจ้าสาวได้เลยนะ” สุดายิ้มเป็นคำตอบ เพราะในกลุ่มสุดาจะทำหน้าที่ฟังเป็นส่วนใหญ่ กับถ้าเจอมุกเด็ดของ
ใครก็หัวเราะไปกับเขาด้วย
            “แต่งหน้าให้คู่ของผมตอนงานแต่งก่อนเป็นคู่แรกก็ได้นะสุดา” หนอยเอ่ย
            “คนอย่างแกหาคู่ได้แล้วเหรอ” น้าวิวเบรก
            “ยืนอยู่นั้นไงครับ” เขาชี้ไปที่ดวงเนตร
            “โอ๊ย! น้าวิวจะฆ่าผมเหรอ...เจ็บนะครับ เล่นทุบเอา ๆ เกิดพรุ่งนี้เป็นไข้มาไม่ได้แล้วจะหนาวนะครับ”
            “แกก็หนาวไปคนเดียวสิ ไม่สบายจะให้นอนอยู่บ้าน เอาดวงเนตรมาคนเดียวก็พอ”
            “น้าวิว” เสียงอ้อนอยู่ข้างหลัง
            “มาด้วยกันทั้งหมดล่ะค่ะ เราทำงานเป็นทีมนะคะ” พี่น้อยเข้ามาเป็นคนกลาง
            “จ้า! น้องหนู...ทำตัวเป็นแม่ไก่กางปีกป้องลูกเลยนะ” ดวงเนตรเข้าไปกอดเจ๊ใหญ่ด้านหลัง
            “อย่าน้อยใจนะคะ เนตรรักน้าวิวนะ” เธอยิ้มไล้มือไปตามเรียวแขนนิ่ม ๆ ได้กลิ่นหอมจางจากตัวดวงเนตร
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่