Cr.Youtube
หัวใจสลายที่ปลายฟ้า (33)...White Christmas
สาว ๆ แต่งตัวสวยทุกคน แม้แต่พี่น้อยซึ่งไม่ค่อยสนใจแต่งตัวนัก ก็ใช้ชุดหมีตาสกอตเขียวขาว และเสื้อยืดสีแดง ชุดซึ่งพี่หนอยแซวแกที่ใส่
ในวันขอบคุณพระเจ้า พี่น้อยแต่งหน้าบาง ๆ ดูน่ารัก มีคนไปร่วมงานทั้งหมด สิบห้าคน เฉพาะหอโดมิโน มีน้าวิว พี่ศิริ พี่น้อย สุดา ดวงเนตร วิศาลและ
ภาคภูมิ หนุ่ม ๆ จากสงขลาทั้งสี่คนแต่งตัวซะเฟี้ยวสุด ๆ
พี่หนอยใส่สูทสีน้ำเงินเข้ม ผ้าเนื้อดีบอกถึงราคาผ้าและค่าตัด นานครั้งที่หนอยจะเอามาใส่ เสื้อตัวในเป็นเชิร์ตแขนยาว สีเขียวอ่อนริ้วขาว ถึง
ขนาดเจ๊ใหญ่อดที่จะชมไม่ได้
“หล่อจังเลยเสี่ยน้อย”
รวมพลกันที่หอโดมิโน แล้วค่อย ๆ ทยอยขับกันออกไป รถวิ่งผ่านบ้านหลายหลังมองดูสวยงามเห็นผ่านหน้าต่างทุกหลังประดับด้วยต้นคริสต์
มาส และดวงไฟกระพริบระยิบต่างดวงดาว ทั้งหมดมาถึงบ้านพี่วรรณเวลาหกโมงครึ่ง ฟ้ามืดแล้ว...พี่วรรณและสามีออกมารับหน้าบ้าน ทักทายด้วยการ
ยกมือไหว้ และกล่าวคำ “Merry Christmas” ทุกคนช่วยกันขนของเข้าไปในบ้าน
คริสต์มาสต้นใหญ่ประดับด้วยเครื่องประดับและดวงไฟสลับสี อยู่ที่ห้องนั่งเล่นซึ่งค่อนข้างกว้าง ทุกคนช่วยกันเอากล่องของขวัญที่จะจับ
ฉลากมาวางรอบ ๆ ต้นคริสต์มาส เลยไปหน่อยจอร์ชกำลังจุดเตาผิงประกายสีแสดของกองไฟในเตาผิงดูได้บรรยากาศและอารมณ์ของเทศกาลมาก
พี่วรรณคุยกับทุกคนและเลยมาที่ดวงเนตร เธอยกมือไหว้พี่วรรณอีกรอบ
“ไม่แต่งก็สวย แต่พอแต่งดูเลิศเลยนะหนู”
“วันนี้พี่วรรณก็สวยค่ะ”
“เอ! ชุดนี้มีสปอนเซอร์หรือเปล่านะ”
“สปอนเซอร์ไม่มีครับมีแต่บอดี้การ์ด” หนอยช่วยตอบให้
“บอดี้การ์ดหล่อ ๆ เนตรไปหามาจากที่ไหนนะ” พี่วรรณแซวดวงเนตรยื่นบูเค่พวงงามให้พี่วรรณ
“Merry Christmas ค่ะ”
“สวยมากเลย ทำเองแน่ขอบใจจ้ะ” พี่วรรณเอามือดวงเนตรมาบีบ แล้วดึงตัวเข้ามาโอบ กระซิบเบา ๆ
“Merry Christmas my little angle ..สุขสันต์วันคริสต์มาสนางฟ้าน้อย”
หลังจากทักทายกันทั่วแล้ว พวกผู้ชายก็รวมกันอยู่ในห้องรับแขก เริ่มเปิดไวน์ที่น้าวิวเอามา
“เชิญดื่มกันตามสบาย ยกเว้น! ใครมีหน้าที่ขับรถไม่ต้องนะจ๊ะ” เจ๊ใหญ่สั่ง พวกผู้หญิงเข้าไปช่วยพี่วรรณจัดโต๊ะอาหาร แยกเป็นสองโต๊ะ แล้วเรา
ก็ได้ยินเสียงน้าวิวอุทานขึ้น
“โอ้พระเจ้า! เร็ว ๆ มาดูหิมะกำลังตกสวยมาก” ทุกคนมาอออยู่ตามหน้าต่าง ผู้คนและทุกบ้านหวังที่จะเห็นหิมะตกในวันนี้ มันเป็นไวท์คริสต์มาส
ซึ่งสวยงามไปด้วยหิมะที่โปรยปรายลงบนพื้นสนาม ต้นไม้และหลังคาที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน เทศกาลนี้เป็นการรวมตัวกันของสมาชิกใน
ครอบครัว พี่วรรณกล่าวว่า
“น้อง ๆ ทุกคนก็เปรียบเหมือนสมาชิกในครอบครัวเรา ใช่ไหมที่รัก” พี่วรรณหันไปยิ้มกับจอร์จ
“ใช่ครับและรวมดิกกี้อีกตัวด้วยครับ” จอร์จพยายามพูดภาษาไทย แต่ภาษาไทยของจอร์จไม่แข็งแรงสำเนียงพูดของจอร์จเรียกเสียงเฮ และ
หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน จอร์จเปิดเพลงคริสต์มาสเบา ๆ มีทั้งจิงเกิลเบลล์ จอยทูเดอะเวิร์ด ไวท์คริสต์มาส และ ไซเรนไนท์ เสียงเพลง หิมะ เตาผิง
ของขวัญ เสียงหัวเราะและอาหารอร่อย เป็นความสุขที่ทุกคนเก็บเกี่ยวไว้ให้ได้นึกถึงยามที่ต้องตรากตรำกับการเรียนที่หนัก แล้วเวลาอาหารก็เริ่ม มี
ทั้งสลัด ซุปเห็ดร้อน ๆ ขนมปังกระเทียม สเต็กหมู ขนมอบไส้ถั่วของดวงเนตร และ ฟรุตพั้นซ์
บ่อยครั้งที่ภาคภูมิและวิศาลอดที่จะมองดวงเนตรไม่ได้ ชุดแดงเข้มของเธอและใบหน้ายิ้มละไมสวยงามนัก ทั้งคู่ถอนใจแล้วหันมายักไหล่
ถึงเวลาจับฉลากแลกของขวัญกันแล้ว จอร์จเตรียมเบอร์ไว้เรียบร้อย น้าวิวเดินไปจับกล่องของหนอย
“ทำไมมันหนัก ๆ นะ ถ้าน้าวิวจับได้แล้วมันเป็นก้อนหินจะโยนคืนให้เจ้าของเลย” ทุกคนยิ้มกับท่าทางของเธอ รางวัลค่อย ๆ ทยอยออกมา
พี่น้อยได้ถุงมือเป็นผ้าฝ้ายหนาผสมขนสัตว์สีสดใส เจ๊ใหญ่จับได้ของพี่พล และสุดท้ายเหลือพี่หน่อยยังไม่ได้จับกับดวงเนตร พี่วรรณหันไปทาง
สามีแก ถามว่า
“จอร์จยูเล่นตุกติกอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าไอไม่รู้”
“ถ้าทั้งสองคนจับได้ของตัวเองก็ต้องเอามาแลกกัน แต่ถ้าได้ของกันและกันเอง พี่วรรณจะทำโทษโดยการให้เล่นเกม ถ้าใครชนะจอร์จมีราง
วัลให้หนึ่งร้อยเหรียญ ทุกคนลุ้นเกมต่อเพราะตกลงต่างคนได้ของกันและกัน
บทลงโทษเริ่มจากจอร์จผูกตาหนอยและพี่วรรณผูกตาดวงเนตร จับหมุนสามรอบแล้วให้หนอยจับตัวดวงเนตรให้ได้แล้วจะได้รางวัลแต่ถ้า
ดวงเนตรรอดมาได้รางวัลหนึ่งร้อยเหรียญนั้นจะเป็นของดวงเนตร...ทุกคนมีลุ้น ยกเว้นสองหนุ่มแฝดที่กระซิบกันว่า
“เล่นอะไรไร้สาระ มีแต่ได้กับได้ก็รู้อยู่” น้าวิวยืนอยู่ข้างหลังได้ยินเลือดขึ้นหน้า พี่น้อยดึงเสื้อเอาไว้แล้วส่ายหน้าห้าม เธอพูดกัดฟันพอให้
เข้าหูสองหนุ่ม
“ไอ้พวกหมาเห่า ใบตองแห้ง” พอปล่อยคู่แข่งทั้งคู่ ต่างก็มีกองเชียร์ เสียงน้าวิวดังกว่าเพื่อน ไอ้หนุ่มสงขลาพลอยสนุกด้วยส่งเสียงกำกับ
เส้นทาง
“ขวา ๆ มาซ้ายแล้วก้มต่ำหน่อย” น้าวิว พี่น้อย พี่ศิริก็คอยบอกทางให้เนตรหลบ
“หลบซ้าย ก้มตัวลง” พี่หนอยพลาดไปหลายที่คว้าได้แต่ลม ทั้งคู่สูสีกันเพราะเป็นนักกีฬา การได้กลิ่นและการได้ยินดีทั้งสองคน หนอยตะ
แคงหูฟังเสียงเดินกับกลิ่นที่คุ้นเคยหันกลับซ้ายคว้าหมับจับได้แขนและดึงเข้าหาตัวทุกคนเฮและเป่าปากดังลั่น ดวงเนตรรีบดึงผ้าออกแล้วผละออก
จากวงแขนหน้าแดง น้าวิวโวยวายที่พลาดท่าเข้า สรุปเกมนี้สนุกทั้งคนลุ้นรอบสนามและคนเล่นโดยเฉพาะหนอย
ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกลา แต่ก่อนจะลาเจ๊ใหญ่กล่าว
“ขอบคุณพี่วรรณและคุณจอร์จที่ให้ความช่วยเหลืออย่างดีมาตลอด เราได้เตรียมของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มามอบให้ค่ะ” พี่พลเป็นคนมอบให้
กับพี่วรรณ ๆ แกะดู แล้วโชว์อวดทุกคนจานสวยมากพร้อมแก้วเจียระไนอีกหนึ่งเซต จากนั้นทุกคนก็รวมแรงกันเก็บของทุกอย่างจนเรียบร้อยแล้วลา
กลับ รถทยอยออก เสียงตะโกน ”Merry Christmas and Happy New Year....”
งานคริสต์มาสเพิ่งผ่านไปเมื่อคืนทุกคนสนุกสนานกันทั่วหน้า เย็นวันรุ่งขึ้นดวงเนตรมีนัดกินข้าวกับอาจารย์ เลี้ยงฉลองสำหรับเด็กที่ทำ
คะแนนสูงสุดในห้อง มีทั้งหมดห้าคนคือมิชิโกะจากญี่ปุ่น ดวงเนตรและจินซู...ชาวสิงคโปร์ กับนักศึกษาอเมริกันสองคนได้แก่เดวิส และเคน
“ดีแล้ว ระวังตัวด้วยนะ” น้าวิวกำชับแล้วกำชับอีก
แจคกี้ขับรถมารับโดยนัดทุกคนที่หอโดมิโน เขาเรียกให้ดวงเนตรมานั่งข้างหน้าคู่กัน แต่เธอดันจินซูเข้าไปนั่งแทน ส่วนเธอนั่งหลังคู่กับ
มิชิโกะ ทุกคนไปถึงที่นัดตรงเวลา
ดอกเตอร์จินนี่สั่งอาหารไว้เรียบร้อย หลังจากทักทายกันเสร็จ เธอมองอย่างสงสัยที่เห็นแจกกี้มากับคนอื่นด้วย จินซูบอกว่า
“พวกเราไม่มีรถเลยให้แจกกี้มาส่ง ถ้าเขามาร่วมรับประทานอาหารด้วยคงไม่เป็นไรนะคะ” ดอกเตอร์จินนี่ยิ้มที่มุมปาก ก้มศีรษะเล็กน้อย
อาหารเย็นที่แสนอร่อยเริ่มนำมาเสิร์ฟ แจคกี้พยายามจะนั่งติดดวงเนตร เธอรู้อยู่แล้วเธอจึงเข้าไปขอนั่งติดกับดอกเตอร์จินนี่ โดยกล่าวขออนุญาต
“เชิญเลยจ้ะ มา ๆ นั่งติดกันมิชิโกะมานั่งฝั่งซ้ายดวงเนตรก็ได้จ้ะ” อาจารย์เป็นคนจัดสรรที่นั่งเรียบร้อย
“คุณครูเลี้ยงพวกเราครั้งนี้เพราะทั้งห้าคนทำคะแนนได้ดีมาก” เธอยิ้มแต่ปลายหางตาไปทางแขกที่ไม่ได้เชิญ
“เอาล่ะ ลงมือกินกันตามสบายนะจ๊ะ” นักศึกษากล่าวขอบคุณ อาหารอร่อย ออกมาเป็นชุด ๆ ตบท้ายด้วยบลูเบอร์รีชีสเค้ก
“ชอบใช่ไหม” ดอกเตอร์จินนี่ยิ้มอย่างเอ็นดูกับท่าทางอร่อยของดวงเนตร
“ชอบมากค่ะ”
ดอกเตอร์จินนี่สอนการตลาด และเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของดวงเนตรด้วย เทอมหน้าก็ต้องเจอเธออีก ดวงเนตรคิด
’เธอเป็นครูที่ดีมาก เอา
ใจใส่นักศึกษาและชั่วโมงว่างจะอยู่ที่ออฟฟิศเสมอเผื่อใครแวะมาถามเรื่องเรียน’
หลังจากกินอาหารเสร็จแล้วทุกคนก็กล่าวลาแยกกันไป นักศึกษาอเมริกันสองหนุ่มไปเที่ยวต่อ ที่เหลือขึ้นรถกลับกันสี่คน ดวงเนตรรู้สึกไม่
ค่อยสบายใจบอกไม่ถูก
'เอาน่า..น้าวิวและพี่หนอยรู้เวลาที่เราต้องกลับถึงหอ ที่ไม่บอกร้านเพราะดอกเตอร์จินนี่ไม่ได้แจ้ง' ดวงเนตรคิดปลอบตัวเอง
ทางหอโดมิโน พี่หนอยนั่งไม่ติด เดินไปมา
“น้าวิวน่าจะถ่วงเวลาสักหน่อยเพราะช้าอีกนิดผมก็ไปส่งเขาทัน”
“ฉันจะไปรู้เหรอ เออ ๆ ! หยุดเดินเถอะเวียนหัว” พี่พลแวะเอาของมาพอดี เรื่องความเป็นห่วงดวงเนตรถูกถ่ายทอดจากพี่น้อยให้พลทราบ
“ไอ้นี่มันร้ายนะครับ ขนาดเพื่อนผมยังย้ายหนีเลย ผมว่าพี่น้อยกับพี่ศิริรออยู่หน้าหอ ส่วนผมกับหนอยและน้าวิวจะไปตามเนตรที่บ้านไอ้แจคกี้
ผมรู้จักดีไม่ไกลจากที่นี่หรอก”
“ไปหนอยเอารถพี่ไปเร็ว”
หัวใจสลายที่ปลายฟ้า (33)...White Christmas
Cr.Youtube
หัวใจสลายที่ปลายฟ้า (33)...White Christmas
สาว ๆ แต่งตัวสวยทุกคน แม้แต่พี่น้อยซึ่งไม่ค่อยสนใจแต่งตัวนัก ก็ใช้ชุดหมีตาสกอตเขียวขาว และเสื้อยืดสีแดง ชุดซึ่งพี่หนอยแซวแกที่ใส่
ในวันขอบคุณพระเจ้า พี่น้อยแต่งหน้าบาง ๆ ดูน่ารัก มีคนไปร่วมงานทั้งหมด สิบห้าคน เฉพาะหอโดมิโน มีน้าวิว พี่ศิริ พี่น้อย สุดา ดวงเนตร วิศาลและ
ภาคภูมิ หนุ่ม ๆ จากสงขลาทั้งสี่คนแต่งตัวซะเฟี้ยวสุด ๆ
พี่หนอยใส่สูทสีน้ำเงินเข้ม ผ้าเนื้อดีบอกถึงราคาผ้าและค่าตัด นานครั้งที่หนอยจะเอามาใส่ เสื้อตัวในเป็นเชิร์ตแขนยาว สีเขียวอ่อนริ้วขาว ถึง
ขนาดเจ๊ใหญ่อดที่จะชมไม่ได้
“หล่อจังเลยเสี่ยน้อย”
รวมพลกันที่หอโดมิโน แล้วค่อย ๆ ทยอยขับกันออกไป รถวิ่งผ่านบ้านหลายหลังมองดูสวยงามเห็นผ่านหน้าต่างทุกหลังประดับด้วยต้นคริสต์
มาส และดวงไฟกระพริบระยิบต่างดวงดาว ทั้งหมดมาถึงบ้านพี่วรรณเวลาหกโมงครึ่ง ฟ้ามืดแล้ว...พี่วรรณและสามีออกมารับหน้าบ้าน ทักทายด้วยการ
ยกมือไหว้ และกล่าวคำ “Merry Christmas” ทุกคนช่วยกันขนของเข้าไปในบ้าน
คริสต์มาสต้นใหญ่ประดับด้วยเครื่องประดับและดวงไฟสลับสี อยู่ที่ห้องนั่งเล่นซึ่งค่อนข้างกว้าง ทุกคนช่วยกันเอากล่องของขวัญที่จะจับ
ฉลากมาวางรอบ ๆ ต้นคริสต์มาส เลยไปหน่อยจอร์ชกำลังจุดเตาผิงประกายสีแสดของกองไฟในเตาผิงดูได้บรรยากาศและอารมณ์ของเทศกาลมาก
พี่วรรณคุยกับทุกคนและเลยมาที่ดวงเนตร เธอยกมือไหว้พี่วรรณอีกรอบ
“ไม่แต่งก็สวย แต่พอแต่งดูเลิศเลยนะหนู”
“วันนี้พี่วรรณก็สวยค่ะ”
“เอ! ชุดนี้มีสปอนเซอร์หรือเปล่านะ”
“สปอนเซอร์ไม่มีครับมีแต่บอดี้การ์ด” หนอยช่วยตอบให้
“บอดี้การ์ดหล่อ ๆ เนตรไปหามาจากที่ไหนนะ” พี่วรรณแซวดวงเนตรยื่นบูเค่พวงงามให้พี่วรรณ
“Merry Christmas ค่ะ”
“สวยมากเลย ทำเองแน่ขอบใจจ้ะ” พี่วรรณเอามือดวงเนตรมาบีบ แล้วดึงตัวเข้ามาโอบ กระซิบเบา ๆ
“Merry Christmas my little angle ..สุขสันต์วันคริสต์มาสนางฟ้าน้อย”
หลังจากทักทายกันทั่วแล้ว พวกผู้ชายก็รวมกันอยู่ในห้องรับแขก เริ่มเปิดไวน์ที่น้าวิวเอามา
“เชิญดื่มกันตามสบาย ยกเว้น! ใครมีหน้าที่ขับรถไม่ต้องนะจ๊ะ” เจ๊ใหญ่สั่ง พวกผู้หญิงเข้าไปช่วยพี่วรรณจัดโต๊ะอาหาร แยกเป็นสองโต๊ะ แล้วเรา
ก็ได้ยินเสียงน้าวิวอุทานขึ้น
“โอ้พระเจ้า! เร็ว ๆ มาดูหิมะกำลังตกสวยมาก” ทุกคนมาอออยู่ตามหน้าต่าง ผู้คนและทุกบ้านหวังที่จะเห็นหิมะตกในวันนี้ มันเป็นไวท์คริสต์มาส
ซึ่งสวยงามไปด้วยหิมะที่โปรยปรายลงบนพื้นสนาม ต้นไม้และหลังคาที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน เทศกาลนี้เป็นการรวมตัวกันของสมาชิกใน
ครอบครัว พี่วรรณกล่าวว่า
“น้อง ๆ ทุกคนก็เปรียบเหมือนสมาชิกในครอบครัวเรา ใช่ไหมที่รัก” พี่วรรณหันไปยิ้มกับจอร์จ
“ใช่ครับและรวมดิกกี้อีกตัวด้วยครับ” จอร์จพยายามพูดภาษาไทย แต่ภาษาไทยของจอร์จไม่แข็งแรงสำเนียงพูดของจอร์จเรียกเสียงเฮ และ
หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน จอร์จเปิดเพลงคริสต์มาสเบา ๆ มีทั้งจิงเกิลเบลล์ จอยทูเดอะเวิร์ด ไวท์คริสต์มาส และ ไซเรนไนท์ เสียงเพลง หิมะ เตาผิง
ของขวัญ เสียงหัวเราะและอาหารอร่อย เป็นความสุขที่ทุกคนเก็บเกี่ยวไว้ให้ได้นึกถึงยามที่ต้องตรากตรำกับการเรียนที่หนัก แล้วเวลาอาหารก็เริ่ม มี
ทั้งสลัด ซุปเห็ดร้อน ๆ ขนมปังกระเทียม สเต็กหมู ขนมอบไส้ถั่วของดวงเนตร และ ฟรุตพั้นซ์
บ่อยครั้งที่ภาคภูมิและวิศาลอดที่จะมองดวงเนตรไม่ได้ ชุดแดงเข้มของเธอและใบหน้ายิ้มละไมสวยงามนัก ทั้งคู่ถอนใจแล้วหันมายักไหล่
ถึงเวลาจับฉลากแลกของขวัญกันแล้ว จอร์จเตรียมเบอร์ไว้เรียบร้อย น้าวิวเดินไปจับกล่องของหนอย
“ทำไมมันหนัก ๆ นะ ถ้าน้าวิวจับได้แล้วมันเป็นก้อนหินจะโยนคืนให้เจ้าของเลย” ทุกคนยิ้มกับท่าทางของเธอ รางวัลค่อย ๆ ทยอยออกมา
พี่น้อยได้ถุงมือเป็นผ้าฝ้ายหนาผสมขนสัตว์สีสดใส เจ๊ใหญ่จับได้ของพี่พล และสุดท้ายเหลือพี่หน่อยยังไม่ได้จับกับดวงเนตร พี่วรรณหันไปทาง
สามีแก ถามว่า
“จอร์จยูเล่นตุกติกอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าไอไม่รู้”
“ถ้าทั้งสองคนจับได้ของตัวเองก็ต้องเอามาแลกกัน แต่ถ้าได้ของกันและกันเอง พี่วรรณจะทำโทษโดยการให้เล่นเกม ถ้าใครชนะจอร์จมีราง
วัลให้หนึ่งร้อยเหรียญ ทุกคนลุ้นเกมต่อเพราะตกลงต่างคนได้ของกันและกัน
บทลงโทษเริ่มจากจอร์จผูกตาหนอยและพี่วรรณผูกตาดวงเนตร จับหมุนสามรอบแล้วให้หนอยจับตัวดวงเนตรให้ได้แล้วจะได้รางวัลแต่ถ้า
ดวงเนตรรอดมาได้รางวัลหนึ่งร้อยเหรียญนั้นจะเป็นของดวงเนตร...ทุกคนมีลุ้น ยกเว้นสองหนุ่มแฝดที่กระซิบกันว่า
“เล่นอะไรไร้สาระ มีแต่ได้กับได้ก็รู้อยู่” น้าวิวยืนอยู่ข้างหลังได้ยินเลือดขึ้นหน้า พี่น้อยดึงเสื้อเอาไว้แล้วส่ายหน้าห้าม เธอพูดกัดฟันพอให้
เข้าหูสองหนุ่ม
“ไอ้พวกหมาเห่า ใบตองแห้ง” พอปล่อยคู่แข่งทั้งคู่ ต่างก็มีกองเชียร์ เสียงน้าวิวดังกว่าเพื่อน ไอ้หนุ่มสงขลาพลอยสนุกด้วยส่งเสียงกำกับ
เส้นทาง
“ขวา ๆ มาซ้ายแล้วก้มต่ำหน่อย” น้าวิว พี่น้อย พี่ศิริก็คอยบอกทางให้เนตรหลบ
“หลบซ้าย ก้มตัวลง” พี่หนอยพลาดไปหลายที่คว้าได้แต่ลม ทั้งคู่สูสีกันเพราะเป็นนักกีฬา การได้กลิ่นและการได้ยินดีทั้งสองคน หนอยตะ
แคงหูฟังเสียงเดินกับกลิ่นที่คุ้นเคยหันกลับซ้ายคว้าหมับจับได้แขนและดึงเข้าหาตัวทุกคนเฮและเป่าปากดังลั่น ดวงเนตรรีบดึงผ้าออกแล้วผละออก
จากวงแขนหน้าแดง น้าวิวโวยวายที่พลาดท่าเข้า สรุปเกมนี้สนุกทั้งคนลุ้นรอบสนามและคนเล่นโดยเฉพาะหนอย
ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกลา แต่ก่อนจะลาเจ๊ใหญ่กล่าว
“ขอบคุณพี่วรรณและคุณจอร์จที่ให้ความช่วยเหลืออย่างดีมาตลอด เราได้เตรียมของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มามอบให้ค่ะ” พี่พลเป็นคนมอบให้
กับพี่วรรณ ๆ แกะดู แล้วโชว์อวดทุกคนจานสวยมากพร้อมแก้วเจียระไนอีกหนึ่งเซต จากนั้นทุกคนก็รวมแรงกันเก็บของทุกอย่างจนเรียบร้อยแล้วลา
กลับ รถทยอยออก เสียงตะโกน ”Merry Christmas and Happy New Year....”
งานคริสต์มาสเพิ่งผ่านไปเมื่อคืนทุกคนสนุกสนานกันทั่วหน้า เย็นวันรุ่งขึ้นดวงเนตรมีนัดกินข้าวกับอาจารย์ เลี้ยงฉลองสำหรับเด็กที่ทำ
คะแนนสูงสุดในห้อง มีทั้งหมดห้าคนคือมิชิโกะจากญี่ปุ่น ดวงเนตรและจินซู...ชาวสิงคโปร์ กับนักศึกษาอเมริกันสองคนได้แก่เดวิส และเคน
“ดีแล้ว ระวังตัวด้วยนะ” น้าวิวกำชับแล้วกำชับอีก
แจคกี้ขับรถมารับโดยนัดทุกคนที่หอโดมิโน เขาเรียกให้ดวงเนตรมานั่งข้างหน้าคู่กัน แต่เธอดันจินซูเข้าไปนั่งแทน ส่วนเธอนั่งหลังคู่กับ
มิชิโกะ ทุกคนไปถึงที่นัดตรงเวลา
ดอกเตอร์จินนี่สั่งอาหารไว้เรียบร้อย หลังจากทักทายกันเสร็จ เธอมองอย่างสงสัยที่เห็นแจกกี้มากับคนอื่นด้วย จินซูบอกว่า
“พวกเราไม่มีรถเลยให้แจกกี้มาส่ง ถ้าเขามาร่วมรับประทานอาหารด้วยคงไม่เป็นไรนะคะ” ดอกเตอร์จินนี่ยิ้มที่มุมปาก ก้มศีรษะเล็กน้อย
อาหารเย็นที่แสนอร่อยเริ่มนำมาเสิร์ฟ แจคกี้พยายามจะนั่งติดดวงเนตร เธอรู้อยู่แล้วเธอจึงเข้าไปขอนั่งติดกับดอกเตอร์จินนี่ โดยกล่าวขออนุญาต
“เชิญเลยจ้ะ มา ๆ นั่งติดกันมิชิโกะมานั่งฝั่งซ้ายดวงเนตรก็ได้จ้ะ” อาจารย์เป็นคนจัดสรรที่นั่งเรียบร้อย
“คุณครูเลี้ยงพวกเราครั้งนี้เพราะทั้งห้าคนทำคะแนนได้ดีมาก” เธอยิ้มแต่ปลายหางตาไปทางแขกที่ไม่ได้เชิญ
“เอาล่ะ ลงมือกินกันตามสบายนะจ๊ะ” นักศึกษากล่าวขอบคุณ อาหารอร่อย ออกมาเป็นชุด ๆ ตบท้ายด้วยบลูเบอร์รีชีสเค้ก
“ชอบใช่ไหม” ดอกเตอร์จินนี่ยิ้มอย่างเอ็นดูกับท่าทางอร่อยของดวงเนตร
“ชอบมากค่ะ”
ดอกเตอร์จินนี่สอนการตลาด และเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของดวงเนตรด้วย เทอมหน้าก็ต้องเจอเธออีก ดวงเนตรคิด ’เธอเป็นครูที่ดีมาก เอา
ใจใส่นักศึกษาและชั่วโมงว่างจะอยู่ที่ออฟฟิศเสมอเผื่อใครแวะมาถามเรื่องเรียน’
หลังจากกินอาหารเสร็จแล้วทุกคนก็กล่าวลาแยกกันไป นักศึกษาอเมริกันสองหนุ่มไปเที่ยวต่อ ที่เหลือขึ้นรถกลับกันสี่คน ดวงเนตรรู้สึกไม่
ค่อยสบายใจบอกไม่ถูก
'เอาน่า..น้าวิวและพี่หนอยรู้เวลาที่เราต้องกลับถึงหอ ที่ไม่บอกร้านเพราะดอกเตอร์จินนี่ไม่ได้แจ้ง' ดวงเนตรคิดปลอบตัวเอง
ทางหอโดมิโน พี่หนอยนั่งไม่ติด เดินไปมา
“น้าวิวน่าจะถ่วงเวลาสักหน่อยเพราะช้าอีกนิดผมก็ไปส่งเขาทัน”
“ฉันจะไปรู้เหรอ เออ ๆ ! หยุดเดินเถอะเวียนหัว” พี่พลแวะเอาของมาพอดี เรื่องความเป็นห่วงดวงเนตรถูกถ่ายทอดจากพี่น้อยให้พลทราบ
“ไอ้นี่มันร้ายนะครับ ขนาดเพื่อนผมยังย้ายหนีเลย ผมว่าพี่น้อยกับพี่ศิริรออยู่หน้าหอ ส่วนผมกับหนอยและน้าวิวจะไปตามเนตรที่บ้านไอ้แจคกี้
ผมรู้จักดีไม่ไกลจากที่นี่หรอก”
“ไปหนอยเอารถพี่ไปเร็ว”