หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] กว่า 45 กก. เปลี่ยนชีวิต แค่เดินข้ามสะพานลอยแล้วเหนื่อย!
กระทู้รีวิว
ลดความอ้วน
ออกกำลังกาย
ฟิตเนส
อาหารเพื่อสุขภาพ
โภชนาการ
กว่า 45 กก. เปลี่ยนชีวิต แค่เดินข้ามสะพานลอยแล้วเหนื่อย!
จริงๆเราอยากเขียนอะไรแบบนี้มานานแล้ว แต่เราก็ไม่ได้คิดจะจริงจังเขียนสักที
ไม่พูดพล่ำทำเพลงเลยแล้วกัน เราชื่อพลอย อายุ 25 ปี สูง 160 ซม. น้ำหนักตอนนี้ก็ 49-50 กก. โดยประมาณ อยากเล่าให้เป็นแรงบันดาลใจกับคนทุกคนที่กำลังพยายามลด และคนที่ยังไม่ได้ลด เราเชื่อว่าเราทำได้ทุกคนก็ต้องทำได้ เพราะเราเคยมีช่วงชีวิตที่หนัก 95 กก.มาแล้ว
พลอยเป็นเด็กอ้วนป้อมมาตั้งแต่เด็กตอนเด็กๆ เคยมั้ยคะ...อุดมสมบูรณ์มาตลอด ยายทำกับข้าวอร่อย รสมือแม่ที่เราต้องกินทุกวัน อ้วนสะสมมาตั้งแต่เด็ก ใครแซวก็ไม่รู้สึกอะไร ช่วงม.ปลายเป็นช่วงที่เริ่มอ้วนแบบจริงจังคือน้ำหนัก70กว่า จนขึ้นปี3 มหาลัยน้ำหนักขึ้นมาพีคสุดคือ 95 กิโลกรัม ก็เรียกว่าจ้ำม่ำ หน้ากลมเลยแหละ ก่อนหน้านี้คนรอบข้างมักจะแซวว่าอ้วนดำๆ บางคนก็เตือนว่าอ้วนแล้วนะลดได้แล้ว แม่ก็บ่นอยู่ทุกวันให้ลดน้ำหนัก โกรธก็โกรธ เจ็บก็เจ็บ แต่ก็ไม่ฟังใครทั้งนั้น!!!
วันนึงนั่งดูตัวเองที่หน้ากระจกคิดทบทวนว่านี่เราน้ำหนักจะ 100 กก. แล้วนะ เสื้อผ้าก็หาใส่ยาก ใส่ได้เเค่เสื้อยืดไซส์ผู้ชายตัวยักษ์ๆ กับกางเกงสแล็กเอวเกือบ 44 นิ้ว เดินขึ้นสะพานลอยก็เหนื่อย ทำอะไรนิดหน่อยก็เหนื่อย อยากมีชีวิตปกติเหมือนคนอื่นๆ อยากแต่งตัวสวยๆ และแน่นอนอ้วนแบบนี้แฟนเฟินไม่ต้องหวังว่าจะมี
จุดนี้ทำให้เราฮึดหันมาลดน้ำหนัก ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ภายในระยะเวลา 6 เดือน เราน้ำหนักลงมาอยู่ที่ 65 กก. เราดีใจมาก เอวลดลงมาเกือบ 10 นิ้ว เสื้อผ้าหาใส่ง่ายขึ้น แล้วพอน้ำหนักลงเราก็กลับมาใช้ชีวิตแบบเดิม กินแบบเดิม ไม่ได้ไปออกกำลังกาย น้ำหนักก็ขึ้นมาอยู่ที่ 72 กก.
ช่วงเริ่มกลับมาคิดทบทวนอีกครั้งว่าเราจะกลับมาอ้วนอีกแล้วนะ เราจะรอให้มันกลับมา 95 กก. อีกหรอ?
เริ่มต้นช่วงกลางปี 2559 ก็ถือว่าเป็นการคัมแบ็คน้ำหนักเริ่มต้นที่ 72 กก. กลับมาเอาจริงกับการลดน้ำหนักอีกครั้ง รอบนี้มีเป้าหมายที่จริงจังมากกว่าเดิม จริงๆเรามีนิสัยเสียอย่างนึงที่เป็นเด็กดื้อไม่ฟังใคร และอยากทำอะไรจะทำด้วยตัวเองไม่ชอบให้ใครมาบังคับ กลับมารอบนี้พลอยเริ่มจากเลือกกิน แรกๆคือทำอาหารแบบงูๆปลาๆซื้อบ้าง แล้วศึกษาการทำกับข้าวการเลือกวัตถุดิบบลาบลาบลา ลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ จะเรียกว่ากินคลีนก็ไม่เชิง เพราะปกติเราเป็นคนกินรสจัด เค็มจัด เรียกว่าติดรสชาติอะแหละ ก็ปรับตัวจากการลดความจัดของรสชาติลง เมื่อก่อนผักกินแค่บางอย่าง เป็นคนเรื่องมากเรื่องกินมากๆ เลยค่อยๆปรับตัว พอทำมันบ่อยๆสกิลการทำอาหารก็มีอัพเลเวลนิดหน่อย อยากกินสปาเก็ตตี้ น้ำพริกอ่อง หรือเมนูแปลกๆก็เปิด google ลอกเค้าเอา 555
พอทำกับข้าวกินเองสักพัก ก็มีการเริ่มคิดอยากจะออกกำลังกาย เลย walk in เข้าไปสมัครฟิตเนสอย่างทันท่วงที ไม่มีเซลล์โทรมาขายคอร์สแต่อย่างใด ช่วงแรกๆก็ทำอะไรเป็นเลยเข้าไปออกกำลังกายเเบบมึนๆงงๆ เข้าคลาสงูๆปลาๆ แปปๆก็เหนื่อยละ สควอซยังทำไม่เป็นเล้ยยยยย คิดดู้ววว!!! ก็พยาพยามไปทุกวันหลังเลิกงานให้ชิน พอเข้าไปสักพักเราก็เริ่มมีกลุ่มเพื่อนในฟิตเนสบ้าง ได้มีการพูดคุยกับเทรนเนอร์ในฟิตเนสบ้าง จากแต่ก่อนเข้าวันละคลาสก็เหนื่อย ก็เพิ่มเป็น 2 3 4 5 คลาส เริ่มคลั่งการออกกำลังกายขึ้นเรื่อยๆ จากที่ออกแค่ตอนเย็น ก็ผลันตัวมาออกกำลังกายตอนเช้าก่อนไปทำงานอี๊กกกก (เหตุผลคือการออกกำลังกายตอนเช้าเราจะได้ weight training แบบเต็มที่เพราะเป็นช่วงเวลาที่คนน้อย ทุกเครื่องเล่นเป็นของเรา) ในส่วนของตอนเย็นเราก็เบิร์นเองบ้าง เข้าคลาสจักรยาน ,bodypump ,core abs ,functional training สลับๆกันไป เรื่องอาหารการกินก็เป็นบ้าหอบฟางเเบกกล่องข้าววันละ 2 กล่องไปทำงาน กินมื้อเช้าที่ฟิตเนส มื้อเที่ยงที่ออฟฟิต ตอนเย็นมาออกกำลังกาย ออกกำลังกานเสร็จก็มาจ่ายตลาดซื้อของที่ supermarket ทำจนเป็นชีวิตประจำวัน
น้ำหนักเราก็ลงมาๆเรื่อยๆ จนมาถึงขั้นน้ำหนักน้อยที่สุดในชีวิต คือ 48.8 กก. รอบเอวเหลือ 25 นิ้ว พอมาถึงวันนี้เรารู้สึกมันเป็นวันของเรา จริงๆการเริ่มเปลี่ยนแปลงของเรามันมีโมเม้นต์ต่างๆเยอะแยะมากมายจากไม่เคยแต่งหน้า ก็มีพี่สอนแต่งหน้า จากแต่งตัวน้อยๆเสื้อยืด กางเกงสแล็ก ทุกวันนี้เราความสุขกับการแต่งตัว อยากใส่อะไรก็ใส่ มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เมื่อก่อนเป็นคนกลัวกล้องแอบกล้องอยู่หลังเพื่อนบ้าง ทุกวันนี้ก็เรียกว่าบ้ากล้องก็ได้ แต่เราเชื่อว่าการถ่ายรูปเก็บไว้มันก็เป้นไดอารี่ที่ดีในการเก็บเรื่องราวในชีวิตเหมือนกัน เวลาย้อนกลับไปดูว่าเราเคยผ่านอะไรมาบ้าง เราว่ามันก็ดีนะ
เราเชื่อว่าคนทุกคนทำแบบเราได้ ทุกคนผอมได้ หลายคนถามพลอยว่า พลอยทำยังไงพลอยลดยังไง ออกกำลังกายยังไง กินอะไรบ้าง (ปล.มีอย่างนึงนะหลายคนถามว่ากินยารึป่าว โกรธเหมือนกันเวลามีคนถาม555 แฮร่ๆ) จริงๆการลดน้ำหนักมันไม่ได้มีสูตรลดอะไรทั้งนั้นแหละ มั่นแค่คำว่า “ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย” แค่นั้นจริงๆนะ เราว่าทุกคนก็ทำได้ถ้าใจแข็ง และมีวินัยในตัวเองมากพอ รักตัวเองให้มากๆนะ ขอให้ทุกคนหุ่นดี มีสุขภาพที่แข็งแรงนะครัช
จากเด็กอ้วนๆดำๆน้ำหนัก 95 กก.
ชื่อสินค้า:
ลดน้ำหนัก
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ลดความอ้วน
ออกกำลังกาย
ฟิตเนส
อาหารเพื่อสุขภาพ
โภชนาการ
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 43.7 พัน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] กว่า 45 กก. เปลี่ยนชีวิต แค่เดินข้ามสะพานลอยแล้วเหนื่อย!
จริงๆเราอยากเขียนอะไรแบบนี้มานานแล้ว แต่เราก็ไม่ได้คิดจะจริงจังเขียนสักที
ไม่พูดพล่ำทำเพลงเลยแล้วกัน เราชื่อพลอย อายุ 25 ปี สูง 160 ซม. น้ำหนักตอนนี้ก็ 49-50 กก. โดยประมาณ อยากเล่าให้เป็นแรงบันดาลใจกับคนทุกคนที่กำลังพยายามลด และคนที่ยังไม่ได้ลด เราเชื่อว่าเราทำได้ทุกคนก็ต้องทำได้ เพราะเราเคยมีช่วงชีวิตที่หนัก 95 กก.มาแล้ว
วันนึงนั่งดูตัวเองที่หน้ากระจกคิดทบทวนว่านี่เราน้ำหนักจะ 100 กก. แล้วนะ เสื้อผ้าก็หาใส่ยาก ใส่ได้เเค่เสื้อยืดไซส์ผู้ชายตัวยักษ์ๆ กับกางเกงสแล็กเอวเกือบ 44 นิ้ว เดินขึ้นสะพานลอยก็เหนื่อย ทำอะไรนิดหน่อยก็เหนื่อย อยากมีชีวิตปกติเหมือนคนอื่นๆ อยากแต่งตัวสวยๆ และแน่นอนอ้วนแบบนี้แฟนเฟินไม่ต้องหวังว่าจะมี
จุดนี้ทำให้เราฮึดหันมาลดน้ำหนัก ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ภายในระยะเวลา 6 เดือน เราน้ำหนักลงมาอยู่ที่ 65 กก. เราดีใจมาก เอวลดลงมาเกือบ 10 นิ้ว เสื้อผ้าหาใส่ง่ายขึ้น แล้วพอน้ำหนักลงเราก็กลับมาใช้ชีวิตแบบเดิม กินแบบเดิม ไม่ได้ไปออกกำลังกาย น้ำหนักก็ขึ้นมาอยู่ที่ 72 กก.
ช่วงเริ่มกลับมาคิดทบทวนอีกครั้งว่าเราจะกลับมาอ้วนอีกแล้วนะ เราจะรอให้มันกลับมา 95 กก. อีกหรอ?
เริ่มต้นช่วงกลางปี 2559 ก็ถือว่าเป็นการคัมแบ็คน้ำหนักเริ่มต้นที่ 72 กก. กลับมาเอาจริงกับการลดน้ำหนักอีกครั้ง รอบนี้มีเป้าหมายที่จริงจังมากกว่าเดิม จริงๆเรามีนิสัยเสียอย่างนึงที่เป็นเด็กดื้อไม่ฟังใคร และอยากทำอะไรจะทำด้วยตัวเองไม่ชอบให้ใครมาบังคับ กลับมารอบนี้พลอยเริ่มจากเลือกกิน แรกๆคือทำอาหารแบบงูๆปลาๆซื้อบ้าง แล้วศึกษาการทำกับข้าวการเลือกวัตถุดิบบลาบลาบลา ลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ จะเรียกว่ากินคลีนก็ไม่เชิง เพราะปกติเราเป็นคนกินรสจัด เค็มจัด เรียกว่าติดรสชาติอะแหละ ก็ปรับตัวจากการลดความจัดของรสชาติลง เมื่อก่อนผักกินแค่บางอย่าง เป็นคนเรื่องมากเรื่องกินมากๆ เลยค่อยๆปรับตัว พอทำมันบ่อยๆสกิลการทำอาหารก็มีอัพเลเวลนิดหน่อย อยากกินสปาเก็ตตี้ น้ำพริกอ่อง หรือเมนูแปลกๆก็เปิด google ลอกเค้าเอา 555
พอทำกับข้าวกินเองสักพัก ก็มีการเริ่มคิดอยากจะออกกำลังกาย เลย walk in เข้าไปสมัครฟิตเนสอย่างทันท่วงที ไม่มีเซลล์โทรมาขายคอร์สแต่อย่างใด ช่วงแรกๆก็ทำอะไรเป็นเลยเข้าไปออกกำลังกายเเบบมึนๆงงๆ เข้าคลาสงูๆปลาๆ แปปๆก็เหนื่อยละ สควอซยังทำไม่เป็นเล้ยยยยย คิดดู้ววว!!! ก็พยาพยามไปทุกวันหลังเลิกงานให้ชิน พอเข้าไปสักพักเราก็เริ่มมีกลุ่มเพื่อนในฟิตเนสบ้าง ได้มีการพูดคุยกับเทรนเนอร์ในฟิตเนสบ้าง จากแต่ก่อนเข้าวันละคลาสก็เหนื่อย ก็เพิ่มเป็น 2 3 4 5 คลาส เริ่มคลั่งการออกกำลังกายขึ้นเรื่อยๆ จากที่ออกแค่ตอนเย็น ก็ผลันตัวมาออกกำลังกายตอนเช้าก่อนไปทำงานอี๊กกกก (เหตุผลคือการออกกำลังกายตอนเช้าเราจะได้ weight training แบบเต็มที่เพราะเป็นช่วงเวลาที่คนน้อย ทุกเครื่องเล่นเป็นของเรา) ในส่วนของตอนเย็นเราก็เบิร์นเองบ้าง เข้าคลาสจักรยาน ,bodypump ,core abs ,functional training สลับๆกันไป เรื่องอาหารการกินก็เป็นบ้าหอบฟางเเบกกล่องข้าววันละ 2 กล่องไปทำงาน กินมื้อเช้าที่ฟิตเนส มื้อเที่ยงที่ออฟฟิต ตอนเย็นมาออกกำลังกาย ออกกำลังกานเสร็จก็มาจ่ายตลาดซื้อของที่ supermarket ทำจนเป็นชีวิตประจำวัน
น้ำหนักเราก็ลงมาๆเรื่อยๆ จนมาถึงขั้นน้ำหนักน้อยที่สุดในชีวิต คือ 48.8 กก. รอบเอวเหลือ 25 นิ้ว พอมาถึงวันนี้เรารู้สึกมันเป็นวันของเรา จริงๆการเริ่มเปลี่ยนแปลงของเรามันมีโมเม้นต์ต่างๆเยอะแยะมากมายจากไม่เคยแต่งหน้า ก็มีพี่สอนแต่งหน้า จากแต่งตัวน้อยๆเสื้อยืด กางเกงสแล็ก ทุกวันนี้เราความสุขกับการแต่งตัว อยากใส่อะไรก็ใส่ มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เมื่อก่อนเป็นคนกลัวกล้องแอบกล้องอยู่หลังเพื่อนบ้าง ทุกวันนี้ก็เรียกว่าบ้ากล้องก็ได้ แต่เราเชื่อว่าการถ่ายรูปเก็บไว้มันก็เป้นไดอารี่ที่ดีในการเก็บเรื่องราวในชีวิตเหมือนกัน เวลาย้อนกลับไปดูว่าเราเคยผ่านอะไรมาบ้าง เราว่ามันก็ดีนะ
เราเชื่อว่าคนทุกคนทำแบบเราได้ ทุกคนผอมได้ หลายคนถามพลอยว่า พลอยทำยังไงพลอยลดยังไง ออกกำลังกายยังไง กินอะไรบ้าง (ปล.มีอย่างนึงนะหลายคนถามว่ากินยารึป่าว โกรธเหมือนกันเวลามีคนถาม555 แฮร่ๆ) จริงๆการลดน้ำหนักมันไม่ได้มีสูตรลดอะไรทั้งนั้นแหละ มั่นแค่คำว่า “ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย” แค่นั้นจริงๆนะ เราว่าทุกคนก็ทำได้ถ้าใจแข็ง และมีวินัยในตัวเองมากพอ รักตัวเองให้มากๆนะ ขอให้ทุกคนหุ่นดี มีสุขภาพที่แข็งแรงนะครัช
จากเด็กอ้วนๆดำๆน้ำหนัก 95 กก.
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้