[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ ๑. ปฐมบทของนคินทร์ https://pantip.com/topic/37883882
ตอนที่ ๒. ความจริงที่ปรากฏ https://pantip.com/topic/37889726
ตอนที่ ๓. เธอผู้แสนดี https://pantip.com/topic/37890154
ตอนที่ ๔. บุพเพเล่นตลก https://pantip.com/topic/37893257
ตอนที่ ๕. ตกหลุมรัก https://pantip.com/topic/37893996
ตอนที่ ๖. แผนพิชิตใจนายบอดี้การ์ด https://pantip.com/topic/37894598
ตอนที่ ๗. เพิ่งได้รู้ใจ https://pantip.com/topic/37896270
ตอนที่ ๘. ใจสัมผัส https://pantip.com/topic/37897664
ตอนที่ ๙.กลิ่นน้ำหอมของคุณ https://pantip.com/topic/37898999
ตอนที่ ๑๐.ใครอยู่ในใจคุณ https://pantip.com/topic/37899045
ตอนที่ ๑๑.ปาร์ตี้ริมหาด https://pantip.com/topic/37899167
ตอนที่ ๑๒.จูบแรก https://pantip.com/topic/37900113
ตอนที่ ๑๓. วาสนาพาให้พบ https://pantip.com/topic/37883882
ตอนที่ ๑๔. เมื่อสองเราใกล้กัน https://pantip.com/topic/37908202
ตอนที่ ๑๕. มิตรภาพ https://pantip.com/topic/37908254
ตอนที่ ๑๖. ความในใจ https://pantip.com/topic/37908525
ตอนที่ ๑๗. ความลับที่ถูกเผย https://pantip.com/topic/37908779

ตอนที่ ๑๘.ปฏิบัติการของฟรังโก้
วันรุ่งขึ้น ภายในห้องทำงาน เมรันมาถึงร้านในเวลาค่อนข้างเร็วกว่าปกติ เธอนั่งอยู่ที่โซฟาตัวยาว มือเรียวยกถ้วยกาแฟขึ้นดื่มพลันรู้สึกคิดถึงคำพูดของนคินทร์ หมู่นี้ดูเหมือนเขาจะมีเรื่องในใจและบางครั้งก็พูดอะไรแปลก ๆ ทำให้ยิ่งรู้สึกกังวลมาก หลังจากที่วางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะแล้วเธอก็นั่งเหม่อนึกถึงเขา...
โรงแรมรหรูแห่งหนึ่ง ภายในห้องพัก ชายหนุ่มร่างสูงผิวคมเข้มกำลังติดกระดุมเสื้อเชิ้ต เมื่อจัดการแต่งชุดเรียบร้อย มือหนาก็ปลดสายนาฬิกาข้อมือแล้วต้องชะงัก พลันรู้สึกนึกถึงหญิงสาวนัยน์ตากลมโต วันนี้เขาจำเป็นต้องเปลี่ยนอุปกรณ์สื่อสารทุกอย่างต้องดูกลมกลืนและไม่เป็นที่ดึงดูดสายตา
ชายหนุ่มเดินกลับมานั่งลงที่เก้าอี้โซฟาพร้อมกับเอนหลังพิงพนักแล้วหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมาพิมพ์ข้อความส่งออกไป..
ห้องทำงานของเมรัน หญิงสาวเจ้าของห้องเพิ่งจะเผลองีบหลับด้วยความอ่อนเพลีย เธอก็ต้องสะดุ้งตัวตื่นจากเสียงเตือนข้อความเข้า พร้อมกับเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ขึ้นดู ดวงตาคู่สวยเบิกโตพร้อมรอยยิ้มดีใจ เธอรีบเปิดอ่านข้อความทันที หลังจากนั้นจึงตัดสินใจกดโทรศัพท์ไปหาเขา
คนปลายทางก็รีบรับสายท้นทีเช่นกัน พร้อมกับเสียงกล่าวทักทายอรุณสวัสดิ์ “บันโนส ตีเอียส”
เพียงแค่ได้ยินเสียงทุ้มที่นุ่มนวลของเขาก็ทำให้หัวใจของหญิงสาวที่ฟังอยู่เต้นแรงไม่เป็นจังหวะ
“วันนี้ตื่นแต่เช้า นอนไม่หลับเหรอครับคุณผู้หญิง” นคินทร์ยิ้มพร้อมกับเอ่ยถามเธอด้วยความแปลกใจ แต่คำถามนั้นกลับทำให้หญิงสาวที่อยู่ปลายสายถึงกับนิ่งเงียบไป.. สักครู่เธอก็เอ่ยตอบกลับมา
“รันนอนไม่หลับค่ะนคินทร์ รัน.. คิดถึงคุณ” น้ำเสียงของหญิงสาวแผ่วเบาจนเหมือนจะขาดหายไป เพราะจู่ ๆ น้ำตาก็ไหลหยดลงแก้มโดยที่เธอไม่รู้ตัว ทั้งคำพูดและน้ำเสียงสั่นเครือนั้นทำให้นคินทร์ต้องชะงักไปด้วย เขาถือโทรศัพท์แนบหูค้างไว้อย่างนั้น ต่างคนต่างก็นิ่งเงียบกันไปสักครู่.. ในที่สุดชายหนุ่มก็สูดหายใจลึกแล้วพูดขึ้น
“ผมก็คิดถึงคุณมากครับ” นคินทร์นึกในใจ ถ้าหากว่าเขาได้อยู่ใกล้กับเธอในตอนนี้ คงต้องดึงตัวเธอมากอดไว้แนบกับอกเพื่อปลอบใจเลยทีเดียว
“วันมะรืนนี้ รันจะเปิดร้านที่ห้างสรรพสินค้า คุณจะมาได้ไหมคะ” เมรันถามด้วยความรู้สึกคะนึงหา
“ผม..คงกลับไปไม่ทัน” ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงเบา คำพูดนี้ทำให้เมรันเงียบไปอีกครั้ง
นคินทร์เข้าใจความรู้สึกของเมรันได้ดี เธอคงอยากจะให้เขาอยู่เป็นกำลังใจในวันงาน ชายหนุ่มยิ้มกว้างบอกเธอ
“ใจของผมอยู่กับคุณเสมอ นางฟ้าของผม” เขาพูดด้วยความรู้สึกที่มาจากส่วนลึกในใจอย่างแท้จริง
เมรันได้ฟังประโยคนี้แล้ว เธอก็กลับมามีรอยยิ้มหวานอีกครั้ง มือสวยยกขึ้นเช็ดน้ำตาที่แก้ม “แล้วรันโทรหาคุณได้ไหมคะ”
“ให้ผมโทรหาคุณจะสะดวกกว่าครับ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงทุ้ม นุ่มนวล
“ค่ะ คุณโซโลรีบกลับมาเร็ว ๆ นะคะ” เมรันพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูสดใสขึ้น
“โซโล.. เหรอครับ?” นคินทร์ถาม คิ้วเข้มเลิกสูงขึ้น
“ก็คุณมีหนวดเรียวเหมือนกับเขา โซโลดูเซ็กซี่มากเลยค่ะ” เมรันพูดแล้วดวงตาคู่สวยปรายตามองที่โทรศัพท์ พร้อมกับนึกภาพของนคินทร์ในบทบาทของฟรังโก้ตามไปด้วย
“แต่ผมว่า.. ผมน่าจะเซ็กซี่กว่าเขานะ” คำพูดนี้ทำให้เขาได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักราวกับชอบใจดังแว่วเข้ามาในสาย
“เตเกียโร..” เมรันพูดน้ำเสียงนุ่มหวาน คนฟังอยู่ปลายสายถึงกับยิ้มกว้างหัวใจกระตุกวาบไปด้วยความปลื้มใจ เพราะเขาเองก็มีเธออยู่ในใจเช่นกัน ต่างคนต่างก็มีรอยยิ้มรู้สึกอิ่มเอิบใจ แล้วทั้งคู่วางสายกันไป
นคินทร์ลุกขึ้นตรวจดูความเรียบร้อยอีกครั้งเพื่อการเตรียมพร้อม เพราะภารกิจนี้ใกล้ตัวเป้าหมายที่สุด เมื่อใกล้ได้เวลานัด ร่างสูงก็เดินออกไปจากห้องในมาดของ 'ฟรังโก้' หนุ่มลูกครึ่งสเปน
บริเวณลาดจอดรถในโรงแรม ฟรังโก้มองเห็นรถสปอร์ตสีน้ำเงินสดคันเท่ จอดอยู่ด้านหน้านี่เอง ทันทีที่เขาเดินไปถึงรถคันนั้น ก็พบเจ้าของรถหนุ่มร่างใหญ่ที่ชื่อเจสันนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“สวัสดีครับคุณนคินทร์” เจสันยิ้มเอ่ยทักทายทันทีที่นคินทร์ขึ้นรถมาเรียบร้อยแล้ว
นคินทร์มองคู่สนทนาตรงหน้า คิ้วเข้มเลิกสูงทันที “คุณ! รู้จักผม?”
“ผมคือร้อยตำรวจเอก 'เจนสิน' ลูกน้องจะรู้จักผมในชื่อของเจสัน” หนุ่มร่างใหญ่บอกกับนคินทร์ เจสันเล่าเรื่องราวในอดีตให้นคินทร์ฟังจนกระทั่งเขาได้มาซ่อนตัวทำงานลับในคราบของนายหน้า นักเลงใหญ่เป็นเวลาหลายปี และรู้ลู่ทางการติดต่อของเสี่ยซานและคนภายในกลุ่มนี้ค่อนข้างดี เมื่อวานจึงได้ทดสอบฝีมือของนคินทร์ในระดับหนึ่งก็พอจะให้วางใจได้
“ฝีมืออย่างคุณไม่ต้องเป็นลูกน้องหรอก เป็นผู้ซื้อได้เลยถ้าใจกล้าพอ” ตำรวจรุ่นพี่เอื้อมมือไปตบไหล่อดีตนายตำรวจรุ่นน้อง
“เสี่ยซานเป็นคนช่างระแวง คุณต้องระมัดระวังตัวให้มาก” เจสันหันมาบอกกับนคินทร์
นคินทร์ซึ่งสวมบทบาทของฟรังโก้ ยิ้มตอบ พอจะได้รู้เรื่องราวของพ่อค้าคนนี้จากนายคงเหมือนกัน
เมื่อทั้งคู่ได้พูดคุยและซักซ้อมบทบาทหน้าที่กันแล้ว เจสันหันไปพูดย้ำภาระหน้าที่ให้นคินทร์เข้าใจ
“การเป็นวีรบุรุษน่ะ อายุมักไม่ค่อยยืนนะ"
หนวดเรียวบนริมฝีปากรั้งขึ้น เขาย่อมเข้าใจภารกิจนี้เป็นอย่างนี้ “ครับ งานนี้ท่าทางจะสนุก ผมขอเพลงเร้าใจสักหน่อยสิครับรุ่นพี่” ฟรังโก้พูดภาษาไทยที่ไม่ค่อยชัดเจนพร้อมกับเอียงคอทำหน้ายียวน
เจสันยิ้มเอื้อมมือกดรีโมทปุ่มเปิดเสียงเพลงตามที่หนุ่มสเปนขอ เสียงเพลงบรรเลงทุ้มบวกกับจังหวะเพลงที่เร็วกระแทกกระทั้น ผสมผสานกับลูกเล่นของดนตรีอิเล็กทรอนิคนั้น สร้างความฮึกเหิมให้กับผู้ฟังได้เป็นอย่างดี มันช่วยกระตุ้นเลือดในกายของชายผู้เป็นนักสู้ทั้งสองคน
พวกเขาพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับภารกิจที่อยู่ตรงหน้า เจสันขับรถมุ่งหน้าตรงไปสู่จุดหมาย โดยมีลูกน้องของเขาขับรถตามไปอีกคันหนึ่ง ทั้งหมดกำลังจะไปสถานที่นัดพบซึ่งเป็นที่เก็บสินค้าชั่วคราวของเสี่ยซาน
นคินทร์ที่รัก (ตอนที่ ๑๘. ปฏิบัติการของฟรังโก้)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันรุ่งขึ้น ภายในห้องทำงาน เมรันมาถึงร้านในเวลาค่อนข้างเร็วกว่าปกติ เธอนั่งอยู่ที่โซฟาตัวยาว มือเรียวยกถ้วยกาแฟขึ้นดื่มพลันรู้สึกคิดถึงคำพูดของนคินทร์ หมู่นี้ดูเหมือนเขาจะมีเรื่องในใจและบางครั้งก็พูดอะไรแปลก ๆ ทำให้ยิ่งรู้สึกกังวลมาก หลังจากที่วางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะแล้วเธอก็นั่งเหม่อนึกถึงเขา...
โรงแรมรหรูแห่งหนึ่ง ภายในห้องพัก ชายหนุ่มร่างสูงผิวคมเข้มกำลังติดกระดุมเสื้อเชิ้ต เมื่อจัดการแต่งชุดเรียบร้อย มือหนาก็ปลดสายนาฬิกาข้อมือแล้วต้องชะงัก พลันรู้สึกนึกถึงหญิงสาวนัยน์ตากลมโต วันนี้เขาจำเป็นต้องเปลี่ยนอุปกรณ์สื่อสารทุกอย่างต้องดูกลมกลืนและไม่เป็นที่ดึงดูดสายตา
ชายหนุ่มเดินกลับมานั่งลงที่เก้าอี้โซฟาพร้อมกับเอนหลังพิงพนักแล้วหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมาพิมพ์ข้อความส่งออกไป..
ห้องทำงานของเมรัน หญิงสาวเจ้าของห้องเพิ่งจะเผลองีบหลับด้วยความอ่อนเพลีย เธอก็ต้องสะดุ้งตัวตื่นจากเสียงเตือนข้อความเข้า พร้อมกับเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ขึ้นดู ดวงตาคู่สวยเบิกโตพร้อมรอยยิ้มดีใจ เธอรีบเปิดอ่านข้อความทันที หลังจากนั้นจึงตัดสินใจกดโทรศัพท์ไปหาเขา
คนปลายทางก็รีบรับสายท้นทีเช่นกัน พร้อมกับเสียงกล่าวทักทายอรุณสวัสดิ์ “บันโนส ตีเอียส”
เพียงแค่ได้ยินเสียงทุ้มที่นุ่มนวลของเขาก็ทำให้หัวใจของหญิงสาวที่ฟังอยู่เต้นแรงไม่เป็นจังหวะ
“วันนี้ตื่นแต่เช้า นอนไม่หลับเหรอครับคุณผู้หญิง” นคินทร์ยิ้มพร้อมกับเอ่ยถามเธอด้วยความแปลกใจ แต่คำถามนั้นกลับทำให้หญิงสาวที่อยู่ปลายสายถึงกับนิ่งเงียบไป.. สักครู่เธอก็เอ่ยตอบกลับมา
“รันนอนไม่หลับค่ะนคินทร์ รัน.. คิดถึงคุณ” น้ำเสียงของหญิงสาวแผ่วเบาจนเหมือนจะขาดหายไป เพราะจู่ ๆ น้ำตาก็ไหลหยดลงแก้มโดยที่เธอไม่รู้ตัว ทั้งคำพูดและน้ำเสียงสั่นเครือนั้นทำให้นคินทร์ต้องชะงักไปด้วย เขาถือโทรศัพท์แนบหูค้างไว้อย่างนั้น ต่างคนต่างก็นิ่งเงียบกันไปสักครู่.. ในที่สุดชายหนุ่มก็สูดหายใจลึกแล้วพูดขึ้น
“ผมก็คิดถึงคุณมากครับ” นคินทร์นึกในใจ ถ้าหากว่าเขาได้อยู่ใกล้กับเธอในตอนนี้ คงต้องดึงตัวเธอมากอดไว้แนบกับอกเพื่อปลอบใจเลยทีเดียว
“วันมะรืนนี้ รันจะเปิดร้านที่ห้างสรรพสินค้า คุณจะมาได้ไหมคะ” เมรันถามด้วยความรู้สึกคะนึงหา
“ผม..คงกลับไปไม่ทัน” ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงเบา คำพูดนี้ทำให้เมรันเงียบไปอีกครั้ง
นคินทร์เข้าใจความรู้สึกของเมรันได้ดี เธอคงอยากจะให้เขาอยู่เป็นกำลังใจในวันงาน ชายหนุ่มยิ้มกว้างบอกเธอ
“ใจของผมอยู่กับคุณเสมอ นางฟ้าของผม” เขาพูดด้วยความรู้สึกที่มาจากส่วนลึกในใจอย่างแท้จริง
เมรันได้ฟังประโยคนี้แล้ว เธอก็กลับมามีรอยยิ้มหวานอีกครั้ง มือสวยยกขึ้นเช็ดน้ำตาที่แก้ม “แล้วรันโทรหาคุณได้ไหมคะ”
“ให้ผมโทรหาคุณจะสะดวกกว่าครับ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงทุ้ม นุ่มนวล
“ค่ะ คุณโซโลรีบกลับมาเร็ว ๆ นะคะ” เมรันพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูสดใสขึ้น
“โซโล.. เหรอครับ?” นคินทร์ถาม คิ้วเข้มเลิกสูงขึ้น
“ก็คุณมีหนวดเรียวเหมือนกับเขา โซโลดูเซ็กซี่มากเลยค่ะ” เมรันพูดแล้วดวงตาคู่สวยปรายตามองที่โทรศัพท์ พร้อมกับนึกภาพของนคินทร์ในบทบาทของฟรังโก้ตามไปด้วย
“แต่ผมว่า.. ผมน่าจะเซ็กซี่กว่าเขานะ” คำพูดนี้ทำให้เขาได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักราวกับชอบใจดังแว่วเข้ามาในสาย
“เตเกียโร..” เมรันพูดน้ำเสียงนุ่มหวาน คนฟังอยู่ปลายสายถึงกับยิ้มกว้างหัวใจกระตุกวาบไปด้วยความปลื้มใจ เพราะเขาเองก็มีเธออยู่ในใจเช่นกัน ต่างคนต่างก็มีรอยยิ้มรู้สึกอิ่มเอิบใจ แล้วทั้งคู่วางสายกันไป
นคินทร์ลุกขึ้นตรวจดูความเรียบร้อยอีกครั้งเพื่อการเตรียมพร้อม เพราะภารกิจนี้ใกล้ตัวเป้าหมายที่สุด เมื่อใกล้ได้เวลานัด ร่างสูงก็เดินออกไปจากห้องในมาดของ 'ฟรังโก้' หนุ่มลูกครึ่งสเปน
บริเวณลาดจอดรถในโรงแรม ฟรังโก้มองเห็นรถสปอร์ตสีน้ำเงินสดคันเท่ จอดอยู่ด้านหน้านี่เอง ทันทีที่เขาเดินไปถึงรถคันนั้น ก็พบเจ้าของรถหนุ่มร่างใหญ่ที่ชื่อเจสันนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“สวัสดีครับคุณนคินทร์” เจสันยิ้มเอ่ยทักทายทันทีที่นคินทร์ขึ้นรถมาเรียบร้อยแล้ว
นคินทร์มองคู่สนทนาตรงหน้า คิ้วเข้มเลิกสูงทันที “คุณ! รู้จักผม?”
“ผมคือร้อยตำรวจเอก 'เจนสิน' ลูกน้องจะรู้จักผมในชื่อของเจสัน” หนุ่มร่างใหญ่บอกกับนคินทร์ เจสันเล่าเรื่องราวในอดีตให้นคินทร์ฟังจนกระทั่งเขาได้มาซ่อนตัวทำงานลับในคราบของนายหน้า นักเลงใหญ่เป็นเวลาหลายปี และรู้ลู่ทางการติดต่อของเสี่ยซานและคนภายในกลุ่มนี้ค่อนข้างดี เมื่อวานจึงได้ทดสอบฝีมือของนคินทร์ในระดับหนึ่งก็พอจะให้วางใจได้
“ฝีมืออย่างคุณไม่ต้องเป็นลูกน้องหรอก เป็นผู้ซื้อได้เลยถ้าใจกล้าพอ” ตำรวจรุ่นพี่เอื้อมมือไปตบไหล่อดีตนายตำรวจรุ่นน้อง
“เสี่ยซานเป็นคนช่างระแวง คุณต้องระมัดระวังตัวให้มาก” เจสันหันมาบอกกับนคินทร์
นคินทร์ซึ่งสวมบทบาทของฟรังโก้ ยิ้มตอบ พอจะได้รู้เรื่องราวของพ่อค้าคนนี้จากนายคงเหมือนกัน
เมื่อทั้งคู่ได้พูดคุยและซักซ้อมบทบาทหน้าที่กันแล้ว เจสันหันไปพูดย้ำภาระหน้าที่ให้นคินทร์เข้าใจ
“การเป็นวีรบุรุษน่ะ อายุมักไม่ค่อยยืนนะ"
หนวดเรียวบนริมฝีปากรั้งขึ้น เขาย่อมเข้าใจภารกิจนี้เป็นอย่างนี้ “ครับ งานนี้ท่าทางจะสนุก ผมขอเพลงเร้าใจสักหน่อยสิครับรุ่นพี่” ฟรังโก้พูดภาษาไทยที่ไม่ค่อยชัดเจนพร้อมกับเอียงคอทำหน้ายียวน
เจสันยิ้มเอื้อมมือกดรีโมทปุ่มเปิดเสียงเพลงตามที่หนุ่มสเปนขอ เสียงเพลงบรรเลงทุ้มบวกกับจังหวะเพลงที่เร็วกระแทกกระทั้น ผสมผสานกับลูกเล่นของดนตรีอิเล็กทรอนิคนั้น สร้างความฮึกเหิมให้กับผู้ฟังได้เป็นอย่างดี มันช่วยกระตุ้นเลือดในกายของชายผู้เป็นนักสู้ทั้งสองคน
พวกเขาพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับภารกิจที่อยู่ตรงหน้า เจสันขับรถมุ่งหน้าตรงไปสู่จุดหมาย โดยมีลูกน้องของเขาขับรถตามไปอีกคันหนึ่ง ทั้งหมดกำลังจะไปสถานที่นัดพบซึ่งเป็นที่เก็บสินค้าชั่วคราวของเสี่ยซาน