[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ ๑. ปฐมบทของนคินทร์ https://pantip.com/topic/37883882
ตอนที่ ๒. ความจริงที่ปรากฏ https://pantip.com/topic/37889726
ตอนที่ ๓. เธอผู้แสนดี https://pantip.com/topic/37890154
ตอนที่ ๔. บุพเพเล่นตลก https://pantip.com/topic/37893257
ตอนที่ ๕. ตกหลุมรัก https://pantip.com/topic/37893996
ตอนที่ ๖. แผนพิชิตใจนายบอดี้การ์ด https://pantip.com/topic/37894598
ตอนที่ ๗. เพิ่งได้รู้ใจ https://pantip.com/topic/37896270
ตอนที่ ๘. ใจสัมผัส https://pantip.com/topic/37897664
ตอนที่ ๙.กลิ่นน้ำหอมของคุณ https://pantip.com/topic/37898999
ตอนที่ ๑๐.ใครอยู่ในใจคุณ https://pantip.com/topic/37899045
ตอนที่ ๑๑.ปาร์ตี้ริมหาด https://pantip.com/topic/37899167
ตอนที่ ๑๒.จูบแรก https://pantip.com/topic/37900113
ตอนที่ ๑๓. วาสนาพาให้พบ https://pantip.com/topic/37883882
ตอนที่ ๑๔. เมื่อสองเราใกล้กัน https://pantip.com/topic/37908202
ตอนที่ ๑๕. มิตรภาพ https://pantip.com/topic/37908254
ตอนที่ ๑๖. ความในใจ https://pantip.com/topic/37908525
ตอนที่ ๑๗. ความลับที่ถูกเผย https://pantip.com/topic/37908779

ตอนที่ ๑๗. ความลับที่ถูกเผย
รถเก๋งมัสแตงปี1969 สีน้ำตาลอมส้มที่จอดอยู่ริมถนนใกล้กับสวนสาธารณะ ค่ำคืนนี้ แสงจากโคมไฟบนทางเท้าส่องแสงนวลสะท้อนความเงางามของรถยนต์สุดคลาสสิกคันนี้ บริเวณใกล้กันนั้นเป็นสถานที่รวมแหล่งบันเทิงและร้านอาหารโต้รุ่งเปิดให้บริการ ภายในรถมีชายรุ่นใหญ่ร่างท้วมหนวดหนาดก สวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลอ่อนกำลังเอนตัวพิงพนักที่นั่งคนขับ กำลังขยับริมฝีปากคล้ำหนา ร้องตามบทเพลง ‘Thai the way I like it’ ของศิลปินที่หนุ่มใหญ่ชื่นชอบ ในขณะที่สายตากำลังทอดมองไปด้านหน้ารอใครบางคน
เวลาผ่านไปไม่นานนัก เขาก็มองเห็นชายคนหนึ่ง แสงจากโคมไฟที่อยู่บนหัวเสา มีความสว่างเพียงพอที่ทำให้เห็นภาพของชายหนุ่มรูปร่างสูง สวมเสื้อเชิ้ตสีดำเข้ารูปจนเน้นไหล่กว้าง กล้ามแขน และอกแน่นผึ่งผาย กางเกงรัดรูปตัวเล็กและรองเท้าดำที่ขัดเงาวับ กำลังเร่งฝีเท้าก้าวมาทางเขา ท่าทางการเดินของพ่อหนุ่มคนนั้นมันดูช่างกวนบาทาคนที่นั่งรออยู่ในรถเสียจริง เจ้าหนุ่มนั่นอาจจะนึกว่าตัวเองเป็นดาราฮอลลีวูด หรือไม่ก็นายแบบเดินบนแคทวอลท์ แล้วร่างสูงนั้นก็เดินมาหยุดที่ด้านข้างรถ พร้อมกับยกมือเคาะที่กระจกห สักครู่กระจกหน้าต่างรถบานนั้นก็เลื่อนลง หนุ่มผมสีน้ำตาล ผิวสีคมเข้ม ก้มหน้าลงมาพร้อมกับท่าทางยียวน
“ผมขอดูใบขับขี่หน่อยสิพี่ชาย” ชายหนุ่มผิวแทนเข้มนั้นพูดพร้อมยื่นแขนแบมือออก ทำให้หนุ่มใหญ่ที่นั่งอยู่ในรถมองเห็นแขนข้างนั้นมีรอยสักยาวตามแขน
“ขอเพื่ออะไรเหรอครับ?” หนุ่มใหญ่หนวดหนาเอ่ยถาม
“ไม่มีอะไรมาก ก็แค่รถมันเตะตาเกินไป” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงลากยาว ปนเสียงหัวเราะในลำคอ แถมยังมีท่าทางยียวนกวนประสาท
“รีบขึ้นมาเลย ก่อนที่เฮียจะลงไปเตะตูดเอ็ง ไอ้รูปหล่อ” เฮียหุยรีบบอกกับนคินทร์ที่ตอนนี้ดูเหมือนชายหนุ่มกำลังยิ้มกว้างอารมณ์ดีที่ได้แซวหนุ่มรุ่นใหญ่ผู้หลงใหลรถมัสแตงคันนี้ นคินทร์เปิดประตูขึ้นรถ เฮียหุยเร่งเครื่องขับรถออกไปจากบริเวณนั้น รถคันงามแล่นอยู่บนถนนได้สักครู่ เฮียหุยหันไปมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านข้าง
“โฮล่า” เสียงของนคินทร์ทักทายเป็นภาษาสเปน นัยน์ตาที่สวมคอนแทคเลนส์สีเทาอ่อนคู่นั้นยิ่งเน้นให้ใบหน้าของชายหนุ่มดูหล่อเหลาคมเข้ม
“โห! เล่นล่อมาซะจำเกือบไม่ได้ ถ้าเอ็งเป็นนักแสดงต้องได้รับรางวัลออสการ์แน่ “เฮียหุยชื่นชมชายหนุ่มนักปลอมตัวที่นั่งข้างเขา
“ผมชอบอินดี้ อาจจะเป็นคนเร่ร่อนก็ได้” นคินทร์บอกแล้วหันไปมองคู่หูต่างวัย ต่างก็ยิ้มหัวเราะ ทำให้นึกถึงอดีตที่พวกเขาได้ทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาบนเส้นทางของการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แถมบางครั้งเขาก็ปลอมตัวเหมือนซะจนชาวบ้านต้องแจ้งตำรวจมาจับ
นคินทร์ชวนเฮียหุยเรื่องสัพเพเหระเรื่องอื่น ๆ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ แล้วเฮียหุยก็สังเกตเห็นที่แขนของชายหนุ่มรุ่นน้อง ทำให้รู้สึกสะดุดสายตาจนต้องเอ่ยถาม
“ว่าแต่ทำไมถึงมาช้านัก” เฮียหุยเอ่ยถามเพื่อนรุ่นน้อง เพราะปกตินคินทร์จะตรงเวลามาก แล้วเพื่อนรุ่นอาวุโสก็สังเกตเห็นบางอย่าง
แล้วนั่น! แขนไปโดนอะไรมา เฮียว่าเอ็งต้องถูกสาวฝากรักมาแน่เลย “เฮียหุยถาม เมื่อมองเห็นรอยแดงเป็นทางที่แขนของนคินทร์
"เฮ้ย! มีกลิ่นน้ำหอมด้วย เฮียไม่เคยเห็นเอ็งใช้น้ำหอมเลยนี่หว่า" เฮียหุยมองเหล่มาทางนคินทร์แล้วเริ่มจับพิรุธในตัวชายหนุ่มรุ่นน้องได้มากมาย ตั้งแต่ได้รู้จักกันมานคินทร์เป็นคนไม่ค่อยติดสำอางเท่าไร เฮียหุยหันไปลองสูดกลิ่นน้ำหอมเข้าจมูกอีกครั้ง ต้องถือเป็นน้ำหอมผู้ชายที่มีเอกลักษณ์ของน้ำหอมชั้นดีเลยทีเดียว
“เฮียครับ ไม่มีอะไรหรอก” นคินทร์พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยเต็มเสียงสักเท่าไร ทำให้หนุ่มใหญ่มากประสบการณ์อย่างเฮียหุยถึงกับหัวเราะในท่าทีของชายหนุ่มรุ่นน้อง จนอดไม่ได้ที่จะต้องเอ่ยปากแซวต่อ
“ให้เฮียเดามั้ย ว่าต้องเป็นคุณ… “เฮียหุยพูดยังไม่ทันจบ ก็ถูกห้ามปรามด้วยสายตาเข้มของนคินทร์
“ไม่ให้พาดพิงอย่างเปิดเผย เฮียเปลี่ยนเป็นชื่อย่อก็ได้ว่า สาวสวยคนนั้น ต้องมีอักษรย่อ ‘มอ. ม้า ‘” หนุ่มใหญ่รุ่นเก๋ายังคงพูดแซวต่อ เพราะเขาเองก็หวังจะได้เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องมีคู่ครองที่ดี และดูเหมือนกระแสข่าวที่ได้ฟังจากพวกเพื่อน ๆ ของนคินทร์ ที่มาเล่าให้เขาฟัง ทำให้ยิ่งมีความมั่นใจได้ว่า หนุ่มรุ่นน้องต้องกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความรักอย่างแน่นอน นคินทร์ได้แต่ยิ้มตอบ ไม่ได้พูดอะไร ซึ่งนั่นก็เพียงพอที่จะทำให้เฮียหุยผู้มากประสบการณ์มาก่อนเข้าใจได้ทันที
นคินทร์นึกขึ้นได้ว่า ดนุเดชได้ถูกช่วยออกมาจากมาเก๊าแล้ว จึงถามเรื่องนี้กับเฮียหุย
“เฮียครับ ดนุเดชไปอยู่ที่เมืองจีนแล้วเป็นยังไงบ้าง?” นคินทร์ถามเฮียหุย เรื่องลูกชายของพ่อเลี้ยงเดชา
“ลูกพี่ใหญ่เฮียที่มาเก๊าบอกว่า ดนุเดชดูสภาพร่างกายไม่ค่อยไหว คนที่ช่วยเขาไปอยู่ที่เมืองจีนคนนั้นคงไม่ธรรมดา” เฮียหุยบอกกับนคินทร์ นคินทร์พอจะรู้ว่าเดวิด ฟาง เป็นนักธุรกิจที่มีความกว้างขวางมากคนหนึ่ง
“ร่างกายดูไม่ไหว เขาเป็นอะไรเหรอครับ” นคินทร์ถามเพราะเขาเองก็ไม่ได้พบกับดนุเดชนานแล้ว
นคินทร์ที่รัก (ตอนที่ ๑๗. ความลับที่ถูกเผย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รถเก๋งมัสแตงปี1969 สีน้ำตาลอมส้มที่จอดอยู่ริมถนนใกล้กับสวนสาธารณะ ค่ำคืนนี้ แสงจากโคมไฟบนทางเท้าส่องแสงนวลสะท้อนความเงางามของรถยนต์สุดคลาสสิกคันนี้ บริเวณใกล้กันนั้นเป็นสถานที่รวมแหล่งบันเทิงและร้านอาหารโต้รุ่งเปิดให้บริการ ภายในรถมีชายรุ่นใหญ่ร่างท้วมหนวดหนาดก สวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลอ่อนกำลังเอนตัวพิงพนักที่นั่งคนขับ กำลังขยับริมฝีปากคล้ำหนา ร้องตามบทเพลง ‘Thai the way I like it’ ของศิลปินที่หนุ่มใหญ่ชื่นชอบ ในขณะที่สายตากำลังทอดมองไปด้านหน้ารอใครบางคน
เวลาผ่านไปไม่นานนัก เขาก็มองเห็นชายคนหนึ่ง แสงจากโคมไฟที่อยู่บนหัวเสา มีความสว่างเพียงพอที่ทำให้เห็นภาพของชายหนุ่มรูปร่างสูง สวมเสื้อเชิ้ตสีดำเข้ารูปจนเน้นไหล่กว้าง กล้ามแขน และอกแน่นผึ่งผาย กางเกงรัดรูปตัวเล็กและรองเท้าดำที่ขัดเงาวับ กำลังเร่งฝีเท้าก้าวมาทางเขา ท่าทางการเดินของพ่อหนุ่มคนนั้นมันดูช่างกวนบาทาคนที่นั่งรออยู่ในรถเสียจริง เจ้าหนุ่มนั่นอาจจะนึกว่าตัวเองเป็นดาราฮอลลีวูด หรือไม่ก็นายแบบเดินบนแคทวอลท์ แล้วร่างสูงนั้นก็เดินมาหยุดที่ด้านข้างรถ พร้อมกับยกมือเคาะที่กระจกห สักครู่กระจกหน้าต่างรถบานนั้นก็เลื่อนลง หนุ่มผมสีน้ำตาล ผิวสีคมเข้ม ก้มหน้าลงมาพร้อมกับท่าทางยียวน
“ผมขอดูใบขับขี่หน่อยสิพี่ชาย” ชายหนุ่มผิวแทนเข้มนั้นพูดพร้อมยื่นแขนแบมือออก ทำให้หนุ่มใหญ่ที่นั่งอยู่ในรถมองเห็นแขนข้างนั้นมีรอยสักยาวตามแขน
“ขอเพื่ออะไรเหรอครับ?” หนุ่มใหญ่หนวดหนาเอ่ยถาม
“ไม่มีอะไรมาก ก็แค่รถมันเตะตาเกินไป” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงลากยาว ปนเสียงหัวเราะในลำคอ แถมยังมีท่าทางยียวนกวนประสาท
“รีบขึ้นมาเลย ก่อนที่เฮียจะลงไปเตะตูดเอ็ง ไอ้รูปหล่อ” เฮียหุยรีบบอกกับนคินทร์ที่ตอนนี้ดูเหมือนชายหนุ่มกำลังยิ้มกว้างอารมณ์ดีที่ได้แซวหนุ่มรุ่นใหญ่ผู้หลงใหลรถมัสแตงคันนี้ นคินทร์เปิดประตูขึ้นรถ เฮียหุยเร่งเครื่องขับรถออกไปจากบริเวณนั้น รถคันงามแล่นอยู่บนถนนได้สักครู่ เฮียหุยหันไปมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านข้าง
“โฮล่า” เสียงของนคินทร์ทักทายเป็นภาษาสเปน นัยน์ตาที่สวมคอนแทคเลนส์สีเทาอ่อนคู่นั้นยิ่งเน้นให้ใบหน้าของชายหนุ่มดูหล่อเหลาคมเข้ม
“โห! เล่นล่อมาซะจำเกือบไม่ได้ ถ้าเอ็งเป็นนักแสดงต้องได้รับรางวัลออสการ์แน่ “เฮียหุยชื่นชมชายหนุ่มนักปลอมตัวที่นั่งข้างเขา
“ผมชอบอินดี้ อาจจะเป็นคนเร่ร่อนก็ได้” นคินทร์บอกแล้วหันไปมองคู่หูต่างวัย ต่างก็ยิ้มหัวเราะ ทำให้นึกถึงอดีตที่พวกเขาได้ทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาบนเส้นทางของการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แถมบางครั้งเขาก็ปลอมตัวเหมือนซะจนชาวบ้านต้องแจ้งตำรวจมาจับ
นคินทร์ชวนเฮียหุยเรื่องสัพเพเหระเรื่องอื่น ๆ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ แล้วเฮียหุยก็สังเกตเห็นที่แขนของชายหนุ่มรุ่นน้อง ทำให้รู้สึกสะดุดสายตาจนต้องเอ่ยถาม
“ว่าแต่ทำไมถึงมาช้านัก” เฮียหุยเอ่ยถามเพื่อนรุ่นน้อง เพราะปกตินคินทร์จะตรงเวลามาก แล้วเพื่อนรุ่นอาวุโสก็สังเกตเห็นบางอย่าง
แล้วนั่น! แขนไปโดนอะไรมา เฮียว่าเอ็งต้องถูกสาวฝากรักมาแน่เลย “เฮียหุยถาม เมื่อมองเห็นรอยแดงเป็นทางที่แขนของนคินทร์
"เฮ้ย! มีกลิ่นน้ำหอมด้วย เฮียไม่เคยเห็นเอ็งใช้น้ำหอมเลยนี่หว่า" เฮียหุยมองเหล่มาทางนคินทร์แล้วเริ่มจับพิรุธในตัวชายหนุ่มรุ่นน้องได้มากมาย ตั้งแต่ได้รู้จักกันมานคินทร์เป็นคนไม่ค่อยติดสำอางเท่าไร เฮียหุยหันไปลองสูดกลิ่นน้ำหอมเข้าจมูกอีกครั้ง ต้องถือเป็นน้ำหอมผู้ชายที่มีเอกลักษณ์ของน้ำหอมชั้นดีเลยทีเดียว
“เฮียครับ ไม่มีอะไรหรอก” นคินทร์พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยเต็มเสียงสักเท่าไร ทำให้หนุ่มใหญ่มากประสบการณ์อย่างเฮียหุยถึงกับหัวเราะในท่าทีของชายหนุ่มรุ่นน้อง จนอดไม่ได้ที่จะต้องเอ่ยปากแซวต่อ
“ให้เฮียเดามั้ย ว่าต้องเป็นคุณ… “เฮียหุยพูดยังไม่ทันจบ ก็ถูกห้ามปรามด้วยสายตาเข้มของนคินทร์
“ไม่ให้พาดพิงอย่างเปิดเผย เฮียเปลี่ยนเป็นชื่อย่อก็ได้ว่า สาวสวยคนนั้น ต้องมีอักษรย่อ ‘มอ. ม้า ‘” หนุ่มใหญ่รุ่นเก๋ายังคงพูดแซวต่อ เพราะเขาเองก็หวังจะได้เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องมีคู่ครองที่ดี และดูเหมือนกระแสข่าวที่ได้ฟังจากพวกเพื่อน ๆ ของนคินทร์ ที่มาเล่าให้เขาฟัง ทำให้ยิ่งมีความมั่นใจได้ว่า หนุ่มรุ่นน้องต้องกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความรักอย่างแน่นอน นคินทร์ได้แต่ยิ้มตอบ ไม่ได้พูดอะไร ซึ่งนั่นก็เพียงพอที่จะทำให้เฮียหุยผู้มากประสบการณ์มาก่อนเข้าใจได้ทันที
นคินทร์นึกขึ้นได้ว่า ดนุเดชได้ถูกช่วยออกมาจากมาเก๊าแล้ว จึงถามเรื่องนี้กับเฮียหุย
“เฮียครับ ดนุเดชไปอยู่ที่เมืองจีนแล้วเป็นยังไงบ้าง?” นคินทร์ถามเฮียหุย เรื่องลูกชายของพ่อเลี้ยงเดชา
“ลูกพี่ใหญ่เฮียที่มาเก๊าบอกว่า ดนุเดชดูสภาพร่างกายไม่ค่อยไหว คนที่ช่วยเขาไปอยู่ที่เมืองจีนคนนั้นคงไม่ธรรมดา” เฮียหุยบอกกับนคินทร์ นคินทร์พอจะรู้ว่าเดวิด ฟาง เป็นนักธุรกิจที่มีความกว้างขวางมากคนหนึ่ง
“ร่างกายดูไม่ไหว เขาเป็นอะไรเหรอครับ” นคินทร์ถามเพราะเขาเองก็ไม่ได้พบกับดนุเดชนานแล้ว