ตอนที่ ๙. กลิ่นน้ำหอมของคุณ
รุ่งเช้าของวันนี้นคินทร์กับชัยมาส่งคุณประพันธ์กับชินดนัยที่บริษัทอัครกูลกรุปซึ่งเป็นบริษัทธุรกิจภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ขนาดใหญ่ นคินทร์ติดตามท่านประพันธ์มาที่นี่หลายครั้งด้วยหน้าที่ของผู้ช่วยคุณประพันธ์และติดตามในวันนัดสำคัญนอกสถานที่ พนักงานที่นี่รู้จักและคุ้นเคยกับนคินทร์เป็นอย่างดี พวกเขากำลังยืนต้อนรับท่านประธานบริษัทกับลูกชายของท่าน คุณชินดนัยซึ่งเป็นชายหนุ่มลูกครึ่ง นอกจากใบหน้าหล่อเหลาแล้วอัธยาศัยยังดีมีสีหน้ายิ้มแย้มให้กับทุกคนอย่างไม่ถือตัวเป็นที่ประทับใจของคนที่ได้พบเห็น
หลังจากที่ผู้เป็นประธานบริษัทได้แนะนำลูกชายคนเดียวให้เป็นที่รู้จักแล้วก็ให้ทุกคนกลับไปทำงานตามปกติ พวกพนักงานทั้งชายหญิงต่างก็พูดคุยกันถึงลูกชายของท่านประธานที่มาในวันนี้อย่างชื่นชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มพนักงานสาว ๆ ที่ออกอาการชื่นชมเป็นพิเศษเพราะได้เห็นเจ้านายลูกครึ่งหนุ่มหล่อแถมดูนิสัยดี
ประตูห้องทำงานใหญ่ถูกเปิดออก ท่านประพันธ์พาชินดนัยเข้ามาที่ห้องทำงานซึ่งได้จัดเตรียมไว้ให้ลูกชาย ภายในห้องทำงานแห่งนี้ถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายในแบบที่ ชินดนัยมองแล้วถูกใจ สบายตา มีโต๊ะตัวใหญ่กับเก้าอี้พนักพิงสูงและเฟอร์นิเจอร์อื่นโทนสีเรียบขรึมที่เข้าชุดกันอย่างลงตัว ในห้องนี้จะมองเห็นวิวของบรรยากาศในกรุงเทพฯ อยู่สองด้านที่ตกแต่งด้วยกระจกโปร่งนิรภัยปรับแสง
ประพันธ์ผู้เป็นประธานได้มอบหมายให้นคินทร์เป็นธุระช่วยแนะนำชินดนัยทำความรู้จักกับกลุ่มทีมบอดี้การ์ดคนอื่น ๆ ด้วยโดยให้ใช้บ้านพักตากอากาศส่วนตัวเพื่อเป็นที่พักผ่อนและเป็นการผ่อนคลายก่อนที่จะเริ่มภารกิจกันในลำดับต่อไป เมื่อเสร็จธุระท่านก็บอกอนุญาตให้นคินทร์กับชัยไปทำธุระส่วนตัวแล้วท่านก็พาลูกชายไปเดินชมกิจการของบริษัทต่อ เมื่อนคินทร์กับชัยเดินออกมาแล้ว ชายหนุ่มร่างสูงขึ้นขับบิ๊กไบค์ที่เขาจอดรอไว้ที่นี่ ชัยขึ้นนั่งซ้อนท้าย นคินทร์ขับทะยานเจ้าสายฟ้ามุ่งหน้าตรงสู่จุดนัดหมายตามที่ได้นัดเพื่อนเอาไว้
ในโกดังแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ภายในโรงงานที่คุณประพันธ์ถือหุ้นส่วนกับเพื่อนสนิท พวกเขาได้รับการอนุญาตให้มาใช้สถานที่ด้วยขนาดพื้นที่ของโกดังใหญ่พร้อมลานกว้าง ขนาดที่ว่ารถสิบแปดล้อพร้อมรถพ่วงสามารถกลับรถได้สบายภายในครั้งเดียว พวกของนคินทร์ ใช้ที่นี่เป็นสถานทดสอบสมรรถนะและทักษะทางการขับรถ ท็อปซึ่งเป็นนายช่างฝีมือดีในทีมได้นำรถยนต์สองคันที่เขาแต่งกับเพื่อนนายช่างด้วยกันมาทดสอบการขับรถดริ๊ฟ ซึ่งเป็นการพยายามควบคุมรถให้ได้ เมื่อรถต้องอยู่ในลักษณะที่กำลังเสียจังหวะ พวกเขามักจะนัดกันมาที่นี่ครั้งหรือสองครั้งต่อสัปดาห์
“ไอ้ท็อป แกเอามาเลยพันนึง” โจอี้พูดพร้อมแบมือไปที่ท็อป เพื่อนหัวโจกถามว่าค่าอะไร โจอี้ต้องอธิบายให้ไอ้คนที่แกล้งเฉไฉ เพื่อระลึกความทรงจำเรื่องที่พวกเขาเคยบอกพนันกันในหมู่เพื่อนว่า นคินทร์จะได้สมหวังกับใคร
“ก็แกบอกว่าถือข้างคุณริน เอามาซะดี ๆ “โจอี้พูดย้ำเพราะตอนนี้เมรินได้แต่งงานกับหมอปวรปรัชญ์ไปแล้ว
“พวกแกเอาจริงเหรอวะ นึกว่าพูดกันเล่น” ท็อปพูดทั้งยังให้เหตุผลต่อว่ายังไม่รู้ผลแพ้ชนะที่แน่นอน หากว่าไอ้เพื่อนรักนคินทร์ชวดทั้งคู่ งานนี้ไม่ต้องมีใครจ่าย เสียงตบดัง ผัวะ! แม้จะไม่หนักมากแต่ก็ต้องทำให้หนุ่มนายช่างต้องร้องสะดุ้งจนต้องหันมองหาฝ่ามือปริศนาที่บรรจงฟาดลงมาที่ศีรษะของเขาเมื่อสักครู่ เป็นจอนนี่นั่นเอง โทษที่เพื่อนทำท่าจะเบี้ยวไม่ยอมจ่ายงานนี้
“แต่ฉันทุ่มหมดหน้าตักเลย พวกแกรู้ไหม? เวลาที่สองคนนี้อยู่ใกล้กัน เจ้าประคุณเอ๋ย!” เสียงของจอนนี่ทำมือประกอบการบรรยายเสียจนเพื่อนอีกสองคนต้องรีบกระแซตัวยื่นหน้ากันเข้ามาถามว่ารู้ได้ยังไง เจ้าเพื่อนที่กำลังออกอาการบรรยายอยู่บอกว่าชัยเป็นคนเล่าให้ฟังอีกที เจ้าสองคนที่กำลังตั้งใจฟังบอก “ปัดโธ่! นึกว่ารู้’
“ใช่! ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไอ้คินมันต้องได้กับคุณเมรัน ท็อปแกเตรียมจ่ายพวกเราได้เลย” ชัยทื่ยืนฟังไอ้พวกเพื่อนนินทาเพื่อนกันอยู่ก็อดที่จะร่วมวงพูดเสริมไม่ได้จนไอ้เพื่อนขาเม้าท์ก่อนหน้าทั้งสามคนต้องเปลี่ยนมากระแซเข้าไปหาชัยกระซิบถามว่าเป็นยังไงอีกด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"มีใครได้อะไรกัน? " เสียงนคินทร์ดังแทรกมา ในมือข้างนึงหิ้วถุงใส่ขวดน้ำมาด้วย พวกเพื่อนสี่คนที่กำลังจับกลุ่มนินทาเพื่อนรักอยู่ รีบพากันเดินสลายตัวออกจากวงนินทาไปด้วยความเร็วแต่ด้วยความที่ไวกว่าแขนแข็งแรงอีกข้างของนคินทร์ก็คว้าหมับไปที่ไหล่ของท็อปไว้ได้ทัน
“เดี๋ยวสิ พอฉันมาพวกนายก็แตกตื่น นี่มันส่อพิรุธชัดเจนเลย” นคินทร์พาดแขนไว้ที่ไหล่ของเพื่อน เขาถามท็อปคุยเรื่องอะไรให้บอกมา หนุ่มนายช่างได้แต่ยิ้มแหะจนชัยต้องกู้สถานการณ์ตะโกนบอกว่าไอ้ท๊อปมันปากเสียบอกกับเพื่อนว่าวันนี้มันต้องชนะนคินทร์ให้ได้ นคินทร์เลิกคิ้วมองหน้าเจ้าเพื่อนที่กำลังถูกเขาล็อกคออยู่ ท็อปพยักหน้ายิ้มให้ นคินทร์จึงคลายมือปล่อยเพื่อนไป นายช่างหนุ่มจับคอตัวเอง
“ไอ้คินมือหนักชะมัดนี่แค่ขนาดล้อเล้น” ท็อปรอดตัวเดินกลับไปรวมกับกลุ่มเพื่อน
“เป็นไง? เจอไอ้คินสอบสวนที จ๋อยเลยสิ” ชัยเห็นเพื่อนเดินมา ท็อปกระซิบแล้วหัวเราะ เขาบอกว่าเรื่องคนอื่นเม้าท์ไม่มันเท่าคุยเรื่องของนคินทร์เพราะไม่ค่อยมีเรื่องผู้หญิงให้เพื่อน ๆ ได้เม้าท์กัน เพื่อนคนอื่นต่างพยักหน้าเห็นด้วยแล้วก็เดินกันไป เพื่อเตรียมตัวและตรวจเช็คความพร้อมรถยนต์ที่จอดอยู่
“เฮ้ย! ไอ้จอนนี่ ให้มาเช็คลมยาง ไอ้นี่ล่อแฮมเบอร์เกอร์อีกแล้ว” ท็อปพูดหันไปเห็น จอนนี่บอกเพื่อนว่ากองทัพเดินด้วยท้อง เขามีมาเผื่อด้วยถ้าไม่กินจะเก็บไว้กินคนเดียว หนุ่มนายช่างเลยต้องรีบขอโทษเพื่อนแล้วรีบยื่นมือไปรับแฮมเบอร์เกอร์ แต่ไม่ทันมือปริศนาที่ยื่นมาคว้าแฮมเบอร์เกอร์ไปเฉยเลย
นายช่างหนุ่มที่ถูกแย่งของไปเหลียวตามมือมองตาเขียว เป็นเจ้าโจอี้ที่คว้ามันไปจะเอาเข้าปาก จนท๊อปต้องวิ่งตามไล่ล่าแฮมเบอร์เกอร์กลับมา โดยมีเพื่อนคนอื่นมองส่งเสียงเชียร์ว่าใครจะได้แฮมเบอร์เกอร์ชิ้นนั้นไป นคินทร์ยิ้มยืนกอดอกมองและรอลุ้น ทั้งสองคนวิ่งไล่กันไป อีกคนยึดเอาไว้ อีกคนจะดึงเอามา ผลัดกันยื้อแย่ง ผลปรากฏว่าแฮมเบอร์เกอร์ถูกดึงกันไปได้คนละครึ่งในสภาพที่ไม่แน่ใจว่าทั้งคู่จะกินกันได้อร่อยหรือเปล่าเพราะท็อปได้ส่วนขนมปังติดผักไป ส่วนโจอี้มือดีได้ส่วนผักกับเนื้อไป
เสียงชัยผู้เป็นกรรมการจำเป็นตะโกนบอกเพื่อนว่าเสมอกัน สร้างความน่าทึ่งให้กับเพื่อนทั้งสามคนที่ส่งเสียงตบมือเชียร์กันอยู่ แต่ดูเหมือนท็อปจะยืนมือสั่น น้ำตาเล็ดมองผลการตัดสินในมือที่เขาคว้าได้แต่ขนมปังมาแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้เลย
เมื่อทุกคนต่างพร้อมกันแล้วท็อปแนะนำรถยนต์สองคันที่ลงเครื่องใหม่ ให้พวกเพื่อนช่วยเช็คสภาพความพร้อมอีกครั้ง เพื่อเตรียมพารถสะบัดท้ายโชว์ความเท่กันได้เลย ทั้งหมดแยกกันประจำที่รถตรวจสอบความพร้อมของรถในเบื้องต้นแล้วทดสอบอุ่นกำลังเครื่องก่อน เมื่อเตรียมเสร็จแล้ว ก็ขึ้นประจำรถของแต่คนตามที่ได้คุยกันไว้ คันนึงมีนคินทร์เป็นคนขับชัยนั่งด้านข้าง ส่วนรถยนต์อีกคันท็อปทำหน้าที่ขับมีจอนนี่กับโจอี้นั่งด้วย โดยนายช่างหนุ่มเป็นฝ่ายนำหน้าและให้นคินทร์เป็นฝ่ายตาม
รถยนต์ทั้งสองคันอยู่ที่จุดเริ่มต้น เสียงดังกระหึ่มก่อนที่จะเคลื่อนตัวออกไปอย่างเร็ว รถยนต์ของพวกเขาขับตามกันมาด้วยความเร็วผ่านโกดังหลายหลังที่ตั้งขนานอยู่สองข้าง ท็อปขับมาด้วยความเร็วก่อนที่ถึงทางแยกด้าน หน้า เขาเหยียบคลัทช์ ดึงเบรกมือ หมุนพวงมาลัยไปทางซ้ายก่อนหมุนขวาแตะคันเร่งส่งให้ท้ายรถเคลื่อนสะบัดเอียงไปทางซ้าย มองดูเหมือนรถกำลังสไลด์ขวางทางอย่างสวยงามก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวกลับลำมุ่งทางตรงไปทางขวา นคินทร์ที่ขับตามมาในลักษณะเดียวกัน เขาตามไปติดๆ ท็อปซึ่งอยู่ในรถคันหน้าขับไปเจอทางแยกด้านหน้าอีกครั้ง ท้ายรถของเขาสะบัดเอียงไปทางขวาก่อนที่จะมุ่งไปสู่ทางตรงไปทางซ้าย ทั้งคู่ขับเคี่ยวกันเหมือนตำรวจตามจับคนร้าย
ทั้งหมดเพลิดเพลินกับการขับไล่กวดกันอยู่อย่างนี้ ขับผ่านประตูโกดังหนึ่งไปยังประตูอีกโกดังที่เปิดอยู่อีกฝั่งนึง เสียงเอี๊ยด! ของล้อที่เสียดสีกับพื้นผิวอย่างรวดเร็ว ควันที่เกิดจากการสไลด์พุ่งขึ้นเหมือนเป็นหมอกปกคลุม
รถยนต์ทั้งสองคันขับไล่ตามกันอยู่ด้านในโกดังที่ว่างเปล่า ท้ายของรถยนต์ทั้งสองคันสะบัดสไลด์ตามกันไปทางซ้ายแล้วทั้งสองคนขับรถไล่กันเป็นวงกลมก่อนที่จะหยุดจอดรถในลักษณะที่สองคันประจันหน้ากัน ทั้งหมดพากันลงจากรถตบมือเฮฮา ทุกคนล้วนแต่เคยผ่านการฝึกมาก่อน พวกเขายังคงผลัดเปลี่ยนกันทำหน้าขับรถอย่างสนุกสนานกับกิจกรรมนี้
คฤหาสน์อัครกูล
วันนี้นคินทร์ออกไปธุระข้างนอกกับคุณพ่อและเพื่อน ๆ เสมือนเป็นทางสะดวกที่เมรันจะถือโอกาสนี้มาสำรวจบางอย่างที่เธอเฝ้ารอ เธอได้รหัสจากป้าเยือนซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาที่ห้องของนคินทร์เพื่อทำความสะอาดอาทิตย์ละสองครั้ง โดยเมรันบอกกับป้าเยือนว่าชายหนุ่มเจ้าของห้องโทรมาว่าลืมของเธอจะไปช่วยหาให้พอดีกับที่เขารีบและเธอก็ไม่ได้ถามต่อ
ป้าเยือนเห็นว่าเมรันเป็นบุตรสาวเจ้าของบ้านไม่ใช่คนอื่นก็เลยบอกรหัสให้เธอไป เมรันดีใจโผล่ตัวเข้ากอดขอบคุณแล้วก็ต้องแอบบอกขอโทษป้าเยือนในใจ
ร่างบางเดินมาที่เรือนทางด้านตะวันออก วันนี้เจ้าของห้องไม่อยู่ ทางสะดวกที่เธอจะเดินตรงไปที่ห้องของเขาแล้วเริ่มกดรหัส เมื่อประตูเปิดออกหญิงสาวก้าวเข้ามาอย่างเบาที่สุด
ภายในห้องของนคินทร์ถูกจัดแต่งอย่างเรียบง่ายและมีเฟอร์นิเจอร์อยู่ไม่กี่ชิ้นมีตู้เสื้อผ้า โต๊ะเตียงนอน ทีวีตามปกติ ภายในห้องดูสะอาดสะอ้านเรียบร้อยจนหญิงสาวคิดในใจดูเรียบร้อยเสียยิ่งกว่าห้องของเธอซะอีก
หญิงสาวกวาดตามองถัดจากเตียงนอน มีโต๊ะทำงานที่ข้างโต๊ะมีชั้นหนังสือใหญ่ซึ่งวางหนังสือเป็นหมวดและดูเป็นระเบียบ บ่งบอกถึงอุปนิสัยของเจ้าของห้องนี้ได้เป็นอย่างดี บนชั้นหนังสือนั้นแถวบนสุดมีรูปของสามเณรกับพระผู้ใหญ่ใบหน้าเมตตาและชายมีอายุคนหนึ่ง ถัดไปทางขวาเป็นกองหนังสือและแฟ้มที่วางในแนวนอนเป็นระเบียบ
เมรันลองหยิบแฟ้มหนึ่งมาเปิดอ่านพบว่าเป็นภาพข่าวที่เขาตัดเก็บไว้แปะอยู่บนกระดาษอีกที ซึ่งมีอยู่มากพอสมควรทั้งในประเทศและข่าวต่างประเทศถูกเก็บแยกไว้อย่างเรียบร้อย เธอพลิกดูแบบผ่านๆ บางภาพชวนให้หวาดเสียวทำให้เธอไม่กล้าพลิกดูต่ออีกจนต้องรีบเก็บแฟ้มเข้าที่เดิมแล้วกวาดตามองตามชั้นลงถัดมาที่มีหนังสืออยู่อีกมากทีเดียว
มือสวยของเธอกวาดนิ้วเรียวยาวไล่ไปตามแนวหนังสือที่อยู่บนชั้น เป็นเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับ
การสืบสวนสอบสวน รวมทั้งวรรณกรรมเชอร์ล็อค โฮล์ม หนังสือการ์ตูน การวิจัย จิตวิทยา ภูมิศาสตร์ วรรณกรรมสามก๊ก ชีวประวัติบุคคล วิถีธรรมชาติ หนังสือธรรมะ ปรัชญา ฯลฯ ซึ่งทำให้เธอยิ้มเมื่อเห็นว่าเขาเองก็ยังอ่านการ์ตูนอยู่เหมือนกัน แต่ที่สร้างความแปลกใจมากกว่าเพราะไม่เคยคิดภาพคนที่ท่าทางบู๊และดูกวนประสาทแบบเขาจะสนใจอ่านหนังสือธรรมะด้วย อัตราส่วนของหนังสือธรรมะที่เธอคาดคะเนจากที่เห็นมีไม่น้อยเลยทีเดียว ดูแล้วน่าจะมีเกือบสี่สิบเปอร์เซ็นต์ของหมวดหนังสือที่เขาวางอยู่บนชั้นทั้งหมดนี้เห็นจะได้
นคินทร์ที่รัก (ตอนที่ ๙. กลิ่นน้ำหอมของคุณ)
รุ่งเช้าของวันนี้นคินทร์กับชัยมาส่งคุณประพันธ์กับชินดนัยที่บริษัทอัครกูลกรุปซึ่งเป็นบริษัทธุรกิจภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ขนาดใหญ่ นคินทร์ติดตามท่านประพันธ์มาที่นี่หลายครั้งด้วยหน้าที่ของผู้ช่วยคุณประพันธ์และติดตามในวันนัดสำคัญนอกสถานที่ พนักงานที่นี่รู้จักและคุ้นเคยกับนคินทร์เป็นอย่างดี พวกเขากำลังยืนต้อนรับท่านประธานบริษัทกับลูกชายของท่าน คุณชินดนัยซึ่งเป็นชายหนุ่มลูกครึ่ง นอกจากใบหน้าหล่อเหลาแล้วอัธยาศัยยังดีมีสีหน้ายิ้มแย้มให้กับทุกคนอย่างไม่ถือตัวเป็นที่ประทับใจของคนที่ได้พบเห็น
หลังจากที่ผู้เป็นประธานบริษัทได้แนะนำลูกชายคนเดียวให้เป็นที่รู้จักแล้วก็ให้ทุกคนกลับไปทำงานตามปกติ พวกพนักงานทั้งชายหญิงต่างก็พูดคุยกันถึงลูกชายของท่านประธานที่มาในวันนี้อย่างชื่นชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มพนักงานสาว ๆ ที่ออกอาการชื่นชมเป็นพิเศษเพราะได้เห็นเจ้านายลูกครึ่งหนุ่มหล่อแถมดูนิสัยดี
ประตูห้องทำงานใหญ่ถูกเปิดออก ท่านประพันธ์พาชินดนัยเข้ามาที่ห้องทำงานซึ่งได้จัดเตรียมไว้ให้ลูกชาย ภายในห้องทำงานแห่งนี้ถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายในแบบที่ ชินดนัยมองแล้วถูกใจ สบายตา มีโต๊ะตัวใหญ่กับเก้าอี้พนักพิงสูงและเฟอร์นิเจอร์อื่นโทนสีเรียบขรึมที่เข้าชุดกันอย่างลงตัว ในห้องนี้จะมองเห็นวิวของบรรยากาศในกรุงเทพฯ อยู่สองด้านที่ตกแต่งด้วยกระจกโปร่งนิรภัยปรับแสง
ประพันธ์ผู้เป็นประธานได้มอบหมายให้นคินทร์เป็นธุระช่วยแนะนำชินดนัยทำความรู้จักกับกลุ่มทีมบอดี้การ์ดคนอื่น ๆ ด้วยโดยให้ใช้บ้านพักตากอากาศส่วนตัวเพื่อเป็นที่พักผ่อนและเป็นการผ่อนคลายก่อนที่จะเริ่มภารกิจกันในลำดับต่อไป เมื่อเสร็จธุระท่านก็บอกอนุญาตให้นคินทร์กับชัยไปทำธุระส่วนตัวแล้วท่านก็พาลูกชายไปเดินชมกิจการของบริษัทต่อ เมื่อนคินทร์กับชัยเดินออกมาแล้ว ชายหนุ่มร่างสูงขึ้นขับบิ๊กไบค์ที่เขาจอดรอไว้ที่นี่ ชัยขึ้นนั่งซ้อนท้าย นคินทร์ขับทะยานเจ้าสายฟ้ามุ่งหน้าตรงสู่จุดนัดหมายตามที่ได้นัดเพื่อนเอาไว้
ในโกดังแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ภายในโรงงานที่คุณประพันธ์ถือหุ้นส่วนกับเพื่อนสนิท พวกเขาได้รับการอนุญาตให้มาใช้สถานที่ด้วยขนาดพื้นที่ของโกดังใหญ่พร้อมลานกว้าง ขนาดที่ว่ารถสิบแปดล้อพร้อมรถพ่วงสามารถกลับรถได้สบายภายในครั้งเดียว พวกของนคินทร์ ใช้ที่นี่เป็นสถานทดสอบสมรรถนะและทักษะทางการขับรถ ท็อปซึ่งเป็นนายช่างฝีมือดีในทีมได้นำรถยนต์สองคันที่เขาแต่งกับเพื่อนนายช่างด้วยกันมาทดสอบการขับรถดริ๊ฟ ซึ่งเป็นการพยายามควบคุมรถให้ได้ เมื่อรถต้องอยู่ในลักษณะที่กำลังเสียจังหวะ พวกเขามักจะนัดกันมาที่นี่ครั้งหรือสองครั้งต่อสัปดาห์
“ไอ้ท็อป แกเอามาเลยพันนึง” โจอี้พูดพร้อมแบมือไปที่ท็อป เพื่อนหัวโจกถามว่าค่าอะไร โจอี้ต้องอธิบายให้ไอ้คนที่แกล้งเฉไฉ เพื่อระลึกความทรงจำเรื่องที่พวกเขาเคยบอกพนันกันในหมู่เพื่อนว่า นคินทร์จะได้สมหวังกับใคร
“ก็แกบอกว่าถือข้างคุณริน เอามาซะดี ๆ “โจอี้พูดย้ำเพราะตอนนี้เมรินได้แต่งงานกับหมอปวรปรัชญ์ไปแล้ว
“พวกแกเอาจริงเหรอวะ นึกว่าพูดกันเล่น” ท็อปพูดทั้งยังให้เหตุผลต่อว่ายังไม่รู้ผลแพ้ชนะที่แน่นอน หากว่าไอ้เพื่อนรักนคินทร์ชวดทั้งคู่ งานนี้ไม่ต้องมีใครจ่าย เสียงตบดัง ผัวะ! แม้จะไม่หนักมากแต่ก็ต้องทำให้หนุ่มนายช่างต้องร้องสะดุ้งจนต้องหันมองหาฝ่ามือปริศนาที่บรรจงฟาดลงมาที่ศีรษะของเขาเมื่อสักครู่ เป็นจอนนี่นั่นเอง โทษที่เพื่อนทำท่าจะเบี้ยวไม่ยอมจ่ายงานนี้
“แต่ฉันทุ่มหมดหน้าตักเลย พวกแกรู้ไหม? เวลาที่สองคนนี้อยู่ใกล้กัน เจ้าประคุณเอ๋ย!” เสียงของจอนนี่ทำมือประกอบการบรรยายเสียจนเพื่อนอีกสองคนต้องรีบกระแซตัวยื่นหน้ากันเข้ามาถามว่ารู้ได้ยังไง เจ้าเพื่อนที่กำลังออกอาการบรรยายอยู่บอกว่าชัยเป็นคนเล่าให้ฟังอีกที เจ้าสองคนที่กำลังตั้งใจฟังบอก “ปัดโธ่! นึกว่ารู้’
“ใช่! ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไอ้คินมันต้องได้กับคุณเมรัน ท็อปแกเตรียมจ่ายพวกเราได้เลย” ชัยทื่ยืนฟังไอ้พวกเพื่อนนินทาเพื่อนกันอยู่ก็อดที่จะร่วมวงพูดเสริมไม่ได้จนไอ้เพื่อนขาเม้าท์ก่อนหน้าทั้งสามคนต้องเปลี่ยนมากระแซเข้าไปหาชัยกระซิบถามว่าเป็นยังไงอีกด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"มีใครได้อะไรกัน? " เสียงนคินทร์ดังแทรกมา ในมือข้างนึงหิ้วถุงใส่ขวดน้ำมาด้วย พวกเพื่อนสี่คนที่กำลังจับกลุ่มนินทาเพื่อนรักอยู่ รีบพากันเดินสลายตัวออกจากวงนินทาไปด้วยความเร็วแต่ด้วยความที่ไวกว่าแขนแข็งแรงอีกข้างของนคินทร์ก็คว้าหมับไปที่ไหล่ของท็อปไว้ได้ทัน
“เดี๋ยวสิ พอฉันมาพวกนายก็แตกตื่น นี่มันส่อพิรุธชัดเจนเลย” นคินทร์พาดแขนไว้ที่ไหล่ของเพื่อน เขาถามท็อปคุยเรื่องอะไรให้บอกมา หนุ่มนายช่างได้แต่ยิ้มแหะจนชัยต้องกู้สถานการณ์ตะโกนบอกว่าไอ้ท๊อปมันปากเสียบอกกับเพื่อนว่าวันนี้มันต้องชนะนคินทร์ให้ได้ นคินทร์เลิกคิ้วมองหน้าเจ้าเพื่อนที่กำลังถูกเขาล็อกคออยู่ ท็อปพยักหน้ายิ้มให้ นคินทร์จึงคลายมือปล่อยเพื่อนไป นายช่างหนุ่มจับคอตัวเอง
“ไอ้คินมือหนักชะมัดนี่แค่ขนาดล้อเล้น” ท็อปรอดตัวเดินกลับไปรวมกับกลุ่มเพื่อน
“เป็นไง? เจอไอ้คินสอบสวนที จ๋อยเลยสิ” ชัยเห็นเพื่อนเดินมา ท็อปกระซิบแล้วหัวเราะ เขาบอกว่าเรื่องคนอื่นเม้าท์ไม่มันเท่าคุยเรื่องของนคินทร์เพราะไม่ค่อยมีเรื่องผู้หญิงให้เพื่อน ๆ ได้เม้าท์กัน เพื่อนคนอื่นต่างพยักหน้าเห็นด้วยแล้วก็เดินกันไป เพื่อเตรียมตัวและตรวจเช็คความพร้อมรถยนต์ที่จอดอยู่
“เฮ้ย! ไอ้จอนนี่ ให้มาเช็คลมยาง ไอ้นี่ล่อแฮมเบอร์เกอร์อีกแล้ว” ท็อปพูดหันไปเห็น จอนนี่บอกเพื่อนว่ากองทัพเดินด้วยท้อง เขามีมาเผื่อด้วยถ้าไม่กินจะเก็บไว้กินคนเดียว หนุ่มนายช่างเลยต้องรีบขอโทษเพื่อนแล้วรีบยื่นมือไปรับแฮมเบอร์เกอร์ แต่ไม่ทันมือปริศนาที่ยื่นมาคว้าแฮมเบอร์เกอร์ไปเฉยเลย
นายช่างหนุ่มที่ถูกแย่งของไปเหลียวตามมือมองตาเขียว เป็นเจ้าโจอี้ที่คว้ามันไปจะเอาเข้าปาก จนท๊อปต้องวิ่งตามไล่ล่าแฮมเบอร์เกอร์กลับมา โดยมีเพื่อนคนอื่นมองส่งเสียงเชียร์ว่าใครจะได้แฮมเบอร์เกอร์ชิ้นนั้นไป นคินทร์ยิ้มยืนกอดอกมองและรอลุ้น ทั้งสองคนวิ่งไล่กันไป อีกคนยึดเอาไว้ อีกคนจะดึงเอามา ผลัดกันยื้อแย่ง ผลปรากฏว่าแฮมเบอร์เกอร์ถูกดึงกันไปได้คนละครึ่งในสภาพที่ไม่แน่ใจว่าทั้งคู่จะกินกันได้อร่อยหรือเปล่าเพราะท็อปได้ส่วนขนมปังติดผักไป ส่วนโจอี้มือดีได้ส่วนผักกับเนื้อไป
เสียงชัยผู้เป็นกรรมการจำเป็นตะโกนบอกเพื่อนว่าเสมอกัน สร้างความน่าทึ่งให้กับเพื่อนทั้งสามคนที่ส่งเสียงตบมือเชียร์กันอยู่ แต่ดูเหมือนท็อปจะยืนมือสั่น น้ำตาเล็ดมองผลการตัดสินในมือที่เขาคว้าได้แต่ขนมปังมาแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้เลย
เมื่อทุกคนต่างพร้อมกันแล้วท็อปแนะนำรถยนต์สองคันที่ลงเครื่องใหม่ ให้พวกเพื่อนช่วยเช็คสภาพความพร้อมอีกครั้ง เพื่อเตรียมพารถสะบัดท้ายโชว์ความเท่กันได้เลย ทั้งหมดแยกกันประจำที่รถตรวจสอบความพร้อมของรถในเบื้องต้นแล้วทดสอบอุ่นกำลังเครื่องก่อน เมื่อเตรียมเสร็จแล้ว ก็ขึ้นประจำรถของแต่คนตามที่ได้คุยกันไว้ คันนึงมีนคินทร์เป็นคนขับชัยนั่งด้านข้าง ส่วนรถยนต์อีกคันท็อปทำหน้าที่ขับมีจอนนี่กับโจอี้นั่งด้วย โดยนายช่างหนุ่มเป็นฝ่ายนำหน้าและให้นคินทร์เป็นฝ่ายตาม
รถยนต์ทั้งสองคันอยู่ที่จุดเริ่มต้น เสียงดังกระหึ่มก่อนที่จะเคลื่อนตัวออกไปอย่างเร็ว รถยนต์ของพวกเขาขับตามกันมาด้วยความเร็วผ่านโกดังหลายหลังที่ตั้งขนานอยู่สองข้าง ท็อปขับมาด้วยความเร็วก่อนที่ถึงทางแยกด้าน หน้า เขาเหยียบคลัทช์ ดึงเบรกมือ หมุนพวงมาลัยไปทางซ้ายก่อนหมุนขวาแตะคันเร่งส่งให้ท้ายรถเคลื่อนสะบัดเอียงไปทางซ้าย มองดูเหมือนรถกำลังสไลด์ขวางทางอย่างสวยงามก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวกลับลำมุ่งทางตรงไปทางขวา นคินทร์ที่ขับตามมาในลักษณะเดียวกัน เขาตามไปติดๆ ท็อปซึ่งอยู่ในรถคันหน้าขับไปเจอทางแยกด้านหน้าอีกครั้ง ท้ายรถของเขาสะบัดเอียงไปทางขวาก่อนที่จะมุ่งไปสู่ทางตรงไปทางซ้าย ทั้งคู่ขับเคี่ยวกันเหมือนตำรวจตามจับคนร้าย
ทั้งหมดเพลิดเพลินกับการขับไล่กวดกันอยู่อย่างนี้ ขับผ่านประตูโกดังหนึ่งไปยังประตูอีกโกดังที่เปิดอยู่อีกฝั่งนึง เสียงเอี๊ยด! ของล้อที่เสียดสีกับพื้นผิวอย่างรวดเร็ว ควันที่เกิดจากการสไลด์พุ่งขึ้นเหมือนเป็นหมอกปกคลุม
รถยนต์ทั้งสองคันขับไล่ตามกันอยู่ด้านในโกดังที่ว่างเปล่า ท้ายของรถยนต์ทั้งสองคันสะบัดสไลด์ตามกันไปทางซ้ายแล้วทั้งสองคนขับรถไล่กันเป็นวงกลมก่อนที่จะหยุดจอดรถในลักษณะที่สองคันประจันหน้ากัน ทั้งหมดพากันลงจากรถตบมือเฮฮา ทุกคนล้วนแต่เคยผ่านการฝึกมาก่อน พวกเขายังคงผลัดเปลี่ยนกันทำหน้าขับรถอย่างสนุกสนานกับกิจกรรมนี้
คฤหาสน์อัครกูล
วันนี้นคินทร์ออกไปธุระข้างนอกกับคุณพ่อและเพื่อน ๆ เสมือนเป็นทางสะดวกที่เมรันจะถือโอกาสนี้มาสำรวจบางอย่างที่เธอเฝ้ารอ เธอได้รหัสจากป้าเยือนซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาที่ห้องของนคินทร์เพื่อทำความสะอาดอาทิตย์ละสองครั้ง โดยเมรันบอกกับป้าเยือนว่าชายหนุ่มเจ้าของห้องโทรมาว่าลืมของเธอจะไปช่วยหาให้พอดีกับที่เขารีบและเธอก็ไม่ได้ถามต่อ
ป้าเยือนเห็นว่าเมรันเป็นบุตรสาวเจ้าของบ้านไม่ใช่คนอื่นก็เลยบอกรหัสให้เธอไป เมรันดีใจโผล่ตัวเข้ากอดขอบคุณแล้วก็ต้องแอบบอกขอโทษป้าเยือนในใจ
ร่างบางเดินมาที่เรือนทางด้านตะวันออก วันนี้เจ้าของห้องไม่อยู่ ทางสะดวกที่เธอจะเดินตรงไปที่ห้องของเขาแล้วเริ่มกดรหัส เมื่อประตูเปิดออกหญิงสาวก้าวเข้ามาอย่างเบาที่สุด
ภายในห้องของนคินทร์ถูกจัดแต่งอย่างเรียบง่ายและมีเฟอร์นิเจอร์อยู่ไม่กี่ชิ้นมีตู้เสื้อผ้า โต๊ะเตียงนอน ทีวีตามปกติ ภายในห้องดูสะอาดสะอ้านเรียบร้อยจนหญิงสาวคิดในใจดูเรียบร้อยเสียยิ่งกว่าห้องของเธอซะอีก
หญิงสาวกวาดตามองถัดจากเตียงนอน มีโต๊ะทำงานที่ข้างโต๊ะมีชั้นหนังสือใหญ่ซึ่งวางหนังสือเป็นหมวดและดูเป็นระเบียบ บ่งบอกถึงอุปนิสัยของเจ้าของห้องนี้ได้เป็นอย่างดี บนชั้นหนังสือนั้นแถวบนสุดมีรูปของสามเณรกับพระผู้ใหญ่ใบหน้าเมตตาและชายมีอายุคนหนึ่ง ถัดไปทางขวาเป็นกองหนังสือและแฟ้มที่วางในแนวนอนเป็นระเบียบ
เมรันลองหยิบแฟ้มหนึ่งมาเปิดอ่านพบว่าเป็นภาพข่าวที่เขาตัดเก็บไว้แปะอยู่บนกระดาษอีกที ซึ่งมีอยู่มากพอสมควรทั้งในประเทศและข่าวต่างประเทศถูกเก็บแยกไว้อย่างเรียบร้อย เธอพลิกดูแบบผ่านๆ บางภาพชวนให้หวาดเสียวทำให้เธอไม่กล้าพลิกดูต่ออีกจนต้องรีบเก็บแฟ้มเข้าที่เดิมแล้วกวาดตามองตามชั้นลงถัดมาที่มีหนังสืออยู่อีกมากทีเดียว
มือสวยของเธอกวาดนิ้วเรียวยาวไล่ไปตามแนวหนังสือที่อยู่บนชั้น เป็นเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับ การสืบสวนสอบสวน รวมทั้งวรรณกรรมเชอร์ล็อค โฮล์ม หนังสือการ์ตูน การวิจัย จิตวิทยา ภูมิศาสตร์ วรรณกรรมสามก๊ก ชีวประวัติบุคคล วิถีธรรมชาติ หนังสือธรรมะ ปรัชญา ฯลฯ ซึ่งทำให้เธอยิ้มเมื่อเห็นว่าเขาเองก็ยังอ่านการ์ตูนอยู่เหมือนกัน แต่ที่สร้างความแปลกใจมากกว่าเพราะไม่เคยคิดภาพคนที่ท่าทางบู๊และดูกวนประสาทแบบเขาจะสนใจอ่านหนังสือธรรมะด้วย อัตราส่วนของหนังสือธรรมะที่เธอคาดคะเนจากที่เห็นมีไม่น้อยเลยทีเดียว ดูแล้วน่าจะมีเกือบสี่สิบเปอร์เซ็นต์ของหมวดหนังสือที่เขาวางอยู่บนชั้นทั้งหมดนี้เห็นจะได้