นคินทร์ที่รัก (ตอนที่ ๑๐. ใครอยู่ในใจคุณ)

           คฤหาสน์อัครกูล
           วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อนประพันธ์นั่งคุยกับเมรันที่ห้องรับแขก ลูกสาวคนเล็กมาปรึกษากับเขาว่าตั้งแต่ที่เธอกลับมาเมืองไทยได้สักพักแล้วอยากจะหางานทำด้านแฟชั่นที่เธอได้เรียนมาจึงอยากให้ผู้เป็นพ่อช่วยแนะนำให้ด้วย ประพันธ์มองหน้าเมรันแล้วยิ้ม เขาดีใจที่ได้ยินผู้เป็นลูกสาวเอ่ยปากออกมาว่าอยากจะทำงานและคิดคงจะได้เวลาที่เหมาะสม 

           ช่วงสายของวันนี้ ประพันธ์ให้นคินทร์ช่วยขับรถพาเขากับเมรันไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ย่านใจกลางเมือง บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของสำนักงาน ออฟฟิศ โรงแรมหรู ที่สามารถมองเห็นตึกสูงแน่นขนัด ได้ตลอดสองข้างทางเวลาที่ขับรถผ่านมา บรรยากาศริมทางค่อนข้างคึกคักด้วยผู้คนที่เดินสัญจรไปมาเพราะเป็นแหล่งชุมชนของคนทำงานและนักท่องเที่ยว

           นคินทร์ขับรถเลี้ยวเข้ามาในซอยหนึ่งที่อยู่ซ้ายมือ จากปากซอยเข้าไปแค่สองร้อยเมตรก็พบกับตึกหลังหนึ่งสูงสามชั้นที่ดูมีบริเวณกว้าง

           พนักรักษาความปลอดภัยออกมายืนทำความเข้าเคารพเมื่อเห็นรถของผู้เป็นเจ้าของสถานที่ขับเข้ามาด้านใน ด้านหน้ามีลานกว้างเป็นพื้นที่ไว้สำหรับจอดรถได้หลายคันโดยมีหลังคากันแดดคลุมตลอดแนว เมื่อรถได้จอดเรียบร้อยแล้ว เมรันเดินมากับผู้เป็นพ่อ เธอมองเข้ามาในบริเวณนี้ ฝั่งตรงข้ามกับที่จอดรถมีต้นไม้ที่ถูกปลูกเป็นแนวยาวต้นไม้นี้คือ ต้นลีลาวดีที่เธอชื่นชอบซึ่งตอนนี้กำลังออกดอกสีขาวบานสะพรั่งทำให้รอบบริเวณนี้ดูสวยงาม เธอมองชมอย่างเพลินตา หลังจากชื่นชมความงามของดอกไม้ หญิงสาวมองไปทางด้านขวามือคือตึกทรงเหลี่ยมสามชั้นซึ่งมีบริเวณกว้างมากรู้สึกแปลกใจที่คุณพ่อพามาที่นี่

           ตัวตึกด้านหน้าถูกออกแบบเป็นประตูกระจกบานใส ประพันธ์พาเมรันเดินเข้ามา ด้านในมีบริเวณกว้างโล่ง ที่ยังไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใด ๆ ด้านล่างนี้มีห้องน้ำห้องแยกชายกับหญิง เขาพาลูกสาวขึ้นชมด้านบนบริเวณชั้นสอง มีสัดส่วนแยกเป็นห้องใหญ่หนึ่งห้อง ซึ่งมีห้องน้ำในตัว และห้องว่างสามห้องเพื่อทำเป็นห้องลองเสื้อ ห้องขนาดกลางหนึ่งห้อง และพื้นที่ตรงกลางที่มีบริเวณกว้างมาก ทั้งหมดได้ก่อสร้างตามความต้องการเมรันที่ได้เคยบอกคุณพ่อของเธอไว้ ขาดแต่เพียงยังไม่ได้ตกแต่งภายใน นคินทร์ซึ่งเดินตามมาด้วยมองรอบบริเวณนี้ด้วยความสนใจ เมรันเองรู้สึกชอบที่นี่มาก เธอจึงเดินสำรวจไปรอบบริเวณ

           “ที่นี่เป็นที่ทำงานของลูก” ประพันธ์พูดโอบไหล่ลูกสาว เมรันหันไปมองหน้าผู้เป็นพ่อ หญิงสาวเข้าใจแล้วว่าที่นี่เป็นสถานที่คุณพ่อสร้างไว้ให้เพราะเมื่อสามปีที่แล้วตอนที่เธอกลับมาเมืองไทยเคยได้คุยกับพ่อว่าถ้าเธอเรียนจบเธออยากมีร้านเสื้อของตัวเองและวันนี้พ่อของเธอก็พามาที่นี่ ประพันธ์รอให้เมรันมาตกแต่งตามใจชอบให้บริหารเองแต่ถ้ามีปัญหาพ่อของเธอก็พร้อมให้คำปรึกษาได้ เมรันบอกว่าเธอจะไม่ทำให้พ่อผิดหวัง

           นี่เป็นของขวัญที่ประพันธ์ตั้งใจมอบให้ลูกสาว เมรันยิ้มน้ำตาคลอรู้สึกตื้นตันใจเข้าไปกอดผู้เป็นพ่อ ท่านประพันธ์บอกให้นคินทร์มาคอยช่วยดูแลเมรันในช่วงนี้ให้ด้วย นคินทร์ยิ้มรับคำด้วยความเต็มใจ


           จากวันนั้นเมรันก็ดูกระตือรือร้นกับการตกแต่งภายใน เธอได้ทีมมัณฑนากรซึ่งเป็นที่รู้จักของครอบครัวได้พูดคุยและบอกความต้องการให้พวกเขา หญิงสาวเน้นส่วนที่ดูผสมผสานกับลายดอกไม้ที่เธอชอบเป็นพิเศษโดยไม่เน้นให้ดูหรูหรามาก เลือกตกแต่งเป็นคลาสแบบกลางเหมาะกับลูกค้าได้หลายกลุ่มตั้งแต่คนทำงานออฟฟิศถึงคนในวงสังคม

               นคินทร์เองก็ได้ติดตามมาช่วยดูแลให้เธอ เขาเองก็เพิ่งจะได้เห็นภาพอีกมุมหนึ่งของเมรันในการทำงานที่ดูมีความตั้งใจมาก เธอมีบุคลิกที่ดูมั่นใจร่วมออกแบบพูดคุยกับมัณฑนากรอย่างคล่องแคล่ว ในตอนนี้เมรันสลัดภาพคุณหนูที่เอาแต่เที่ยวช้อปปิ้งคนนั้นไปแล้ว ขณะที่นคินทร์กำลังมองเธออยู่ หญิงสาวนักดีไซน์ก็เดินมาหาเขา

           “ระหว่างสองสีนี้คุณชอบสีไหนคะ” เมรันถามนคินทร์พร้อมกับกางแค็ตตาล็อกสีสำหรับทาภายในอาคารให้เขาดูสองสีที่เธอกำลังพูดถึง

           “อย่าแค่พยักหน้านะคะอยากให้คุณช่วยดูให้หน่อย” หญิงสาวพูดดักเขาไว้ก่อน นคินทร์ก้มมองดูตามที่เธอบอก เขาถามว่าจะต้องไปเข้ากับอะไร เธอบอกจะนำมาเข้ากับวอลล์เปเปอร์ลายดอกไม้เล็ก ๆ แล้วก็หยิบลายที่เธอเลือกให้เขาช่วยเทียบดูกับสีทั้งสองสี ชายหนุ่มมองเทียบกันไปมา สักครู่ก็เอื้อมมือไปชี้ที่สีหนึ่งที่เขาเลือก เมรันมองไปตามมือของเขา

                “ทำไมคุณถึงเลือกสีนี้คะ” เธอมองหน้าถามเขาให้เขาช่วยอธิบายให้ฟัง

           นคินทร์บอกว่า “วอลล์เปเปอร์ลายดอกไม้ที่เมรันเลือกดูสดใส ถ้าตัดกับสีนั้นจะทำให้ดูกลมกลืนกันไปดอกไม้จะไม่โดดเด่น แต่ถ้าเป็นสีที่เลือกนี้จะช่วยเพิ่มให้ดอกไม้ดูโดดเด่น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเธออยากได้แบบไหน แต่ถ้าให้เขาลองเดาเขาคิดว่าเมรันต้องชอบแบบที่เน้นลายดอกไม้ให้เด่น”

               เมรันมองหน้าเขาอีกครั้งด้วยความทึ่ง เธอนึกในใจ ไม่นึกว่าชายหนุ่มที่ดูท่าทางถนัดบู๊ ออกลุยแถมไม่ได้ใช้น้ำหอม ไม่ใช่คนสำอางจ๋าแบบเขาจะรู้เรื่องที่ละเอียดอ่อนได้ดีมากทีเดียวแถมยังเลือกสีเดียวซึ่งตรงกับที่เธอคิดไว้อีก เมรันนึกแล้วยิ้มอย่างพอใจ

                หลังจากที่ได้ใช้เวลาเลือกกำหนดวัสดุตกแต่งและตกลงแบบกันเรียบร้อย เมรันให้พี่ชายช่วยดูแลในส่วนของราคาตกแต่งจากแบบที่เธอเลือกไว้หมดแล้ว หญิงสาวก็คอยแวะมาดูแลงานตกแต่งภายในที่ได้วางดีไซน์ไว้พร้อมทั้งเตรียมออกแบบตัดเย็บคอลเลคชั่นแรกที่นำมาวางในร้านของเธอ ไม่นานนักร้านของเมรันก็ถูกตกแต่งเนรมิตให้เสร็จเรียบร้อยภายในเวลาที่กำหนดตามความต้องการ เธอได้รอให้พี่สาวกับพี่เขยพร้อมด้วยอาสาวกลับมาเพื่อจะได้ฉลองเปิดร้านใหม่ด้วยกัน


               ในงานประกวดนายแบบหนุ่มหน้าใหม่ที่จัดขึ้นประจำปี บนเวทีนายแบบสามคนกำลังยืนเรียงแถวยิ้มประชันความหล่อกันอยู่ เพื่อรอฟังผลการประกาศรายชื่อผู้ชนะรางวัลนายแบบหนุ่มสุดฮอต งานนี้เรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดาแฟนคลับที่ติดตามดูนายแบบที่พวกเขาชื่นชอบ ต่างทุ่มเสียงโหวตให้กับ นายแบบหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา สูง หุ่นล่ำ อกแน่น กล้ามสวย ผิวขาวเกลี้ยง ผู้มีดีกรีจบการศึกษาจากฝรั่งเศสเขาคือ ภูมิธเนศ ลูกชายคนเดียวของคุณทัศนะ เศรษฐีนักสังคมสงเคราะห์ชื่อดัง เขาเป็นนายแบบหนุ่มในสังกัดของเจ๊มี่และก็เป็นไปตามความคาดหมายเมื่อเสียงผลประกาศออกมาว่า ภูมิธเนศคือผู้ที่สามารถคว้ารางวัลนายแบบหนุ่มหน้าใหม่ไปด้วยคะแนนมากที่สุดโด่งดังขึ้นอันดับหนึ่งของนายแบบสุดฮอต ด้วยรูปร่าง สายตาและรอยยิ้มเรียกคะแนนยอดนิยมอย่างล้มหลาม

                ไม่นานนักภูมิธเนศได้เป็นนายแบบโฆษณารถยนต์ยี่ห้อหรู จนโด่งดังเพียงชั่วข้ามสัปดาห์ สร้างความปลาบปลื้มใจให้กับเจ๊มี่ผู้เป็นเจ้าของสังกัดเพราะก่อนหน้าไม่นานนี่เองเด็กในสังกัดของเขาอย่างไอศิกาก็คว้าตำแหน่งนางแบบยอดนิยมที่ได้ผลโหวตมากที่สุดไปแล้ว เจ๊มี่โทรเม้าท์กับเพื่อนสนิท เมรันรู้สึกดีใจและแสดงความยินดีกับเขาที่ประสบความสำเร็จในการปั้นนายแบบ นางแบบในสังกัดของเขาจนเป็นที่นิยม เธอเองก็ได้เห็นผลการประกวดผ่านการถ่ายทอดสดทางรายการโทรทัศน์ เพียงแต่ช่วงนี้เธอยุ่งอยู่กับการเตรียมตัวเปิดร้านเสื้อของเธอ เพราะถ้ามีโอกาสเมรันก็จะไม่พลาดที่จะต้องตามไปแสดงความยินดีกับเพื่อนสนิทในงานด้วยแน่นอน

                ในวันเปิดร้านของเมรัน ห้องเสื้อ "พันณริน" ของเธอก็พร้อมเปิดให้บริการกับลูกค้า วันนี้บรรยากาศคึกคักกันเป็นพิเศษ แพรวมณีและเมรินต่างก็ดูสดสวยในชุดที่เมรันออกแบบให้ เมรินผู้เป็นพี่สาวควงแขนมากับสามีคุณหมอปรัชญ์ ในงานพรั่งพร้อมด้วยแขกมากหน้า ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนของคุณพ่อที่พาบุตรชายบุตรสาวและครอบครัวมาร่วมงาน โดยประพันธ์กับชินดนัยได้ยืนคุยต้อนรับ

                ส่วนเมรินกับคุณหมอปรัชญ์ก็ยืนคุยกับแขกที่มาล้อมถามว่าเมื่อไหร่จะมีข่าวดีเรื่องมีตัวน้อยออกมาให้ได้ชื่นชมกัน ทั้งสองคนสามีภรรยาข้าวใหม่ปลาใหม่ได้แต่ตอบกันแบบเขิน ๆ ทางด้านแพรวมณีก็มีกลุ่มเพื่อนของเธอ บรรยากาศรอบบริเวณทางเข้าร้าน มีกระเช้าประดับประดาดอกไม้สวยสดหลากสีที่ผู้ร่วมงานได้นำมามอบให้เพื่อแสดงความยินดี ช่วยทำให้สถานที่ให้ยิ่งดูอบอวลไปด้วยความสดชื่นสวยงามของเหล่าพฤกษา มีกลุ่มเด็ก ๆ มาวิ่งเล่นในงานสร้างสีสันด้วย พร้อมด้วยเสียงหัวเราะ ทำให้บรรยากาศบริเวณนี้ ดูคล้ายกับเนอสเซอรี่ขนาดเล็ก ๆ เลยทีเดียว
เมรันได้ดูจากบัตรเชิญและเตรียมของที่ระลึกไว้สำหรับแจกผู้ร่วมงานทั้งผู้ใหญ่กับเด็ก เธอเป็นคนออกแบบเอง เด็กๆ ได้รับตุ๊กตาหมีตัวเล็กที่สวมชุดที่เมรันออกแบบ แยกเป็นตุ๊กตาหมีใส่ชุดเด็กชายกับชุดเด็กหญิง พอเห็นว่ามีตุ๊กตาเท่านั้น พวกเด็ก ๆ ต่างก็วิ่งกันมารับตุ๊กตาหมีด้วยความดีใจ ส่วนแขกผู้ใหญ่ก็ได้รับของที่ระลึกเป็นถุงผ้าคอตต้อนลายผ้าพิมพ์มือออกแบบโดยเมรันภายในถุงใส่เครื่องหอมไว้ เพื่อใช้แขวนในตู้เสื้อผ้า งานนี้ก็ได้เจ๊มี่มาช่วยเป็นแม่งานสำคัญให้อีกเช่นเคย

               สาวสวยเจ้าของร้านได้ทักทายแขกและในขณะกำลังยืนคุยกับกลุ่มแขกหนุ่มสาวในงานนี้ ก็มีมือเล็ก กระตุกเขย่าเบา ๆ ที่ชายกระโปรงของเธอ ทำให้เมรันต้องหันลงไปมองตามแรงกระตุกนั้น เธอเห็นเด็กหญิงอายุประมาณห้าถึงหกปี กำลังชี้บอกเธอว่าอยากได้ตุ๊กตาหมีเหมือนที่เด็กคนอื่นกำลังถือวิ่งเล่นอยู่ เมรันยิ้มให้เด็กผู้หญิงคนนั้น พร้อมกับมองไปที่โต๊ะวางของที่ระลึก เธอขอตัวกับแขกที่คุยอยู่และพาเด็กคนนี้เดินไปด้วย พอถึงที่โต๊ะในขณะที่เธอมองแล้วยิ้มให้เด็กหญิงมือของเมรันก็เอื้อมมือไปหยิบตุ๊กตาด้วย แต่เธอรู้สึกว่ามีมือหนึ่งมาแตะเข้าที่มือของเธอทำให้ต้องชะงัก หญิงสาวมองไปตามมือ เป็นนคินทร์นั่นเอง เขากำลังหยิบตุ๊กตาตัวเดียวกับเธอพอดี ชายหนุ่มบอกว่ามีเด็กผู้หญิงมาขอตุ๊กตากับเขาเหมือนกัน เมรันยิ้มหัวเราะ เธอบอกให้เขาช่วยไปเอาตุ๊กตาหมีที่อยู่ในรถของเธอให้ด้วย

                เหตุการณ์นี้ไม่ได้รอดพ้นสายตาของแพรวมณีที่มองเห็นความสนิทสนมของสองคนนี้ ที่ดูจะเพิ่มมากขึ้นทุกที หลานสาวคนเล็กเองก็ดูตัวจะติดกับพ่อหนุ่มบอดี้การ์ดจนแขกในงานอดสงสัยถามเธอผู้เป็นอาสาวไม่ได้ว่า ชายหนุ่มที่อยู่กับเมรันเป็นเพื่อนชายคนสนิทหรือเปล่า เพราะดูเหมาะสมกันดีทั้งรูปร่างหน้าตาและอุปนิสัย แต่แพรวมณีได้บอกกับแขกกลุ่มนี้ไปว่าไม่ใช่ แต่ดูเหมือนคำตอบของแพรวมณีไม่ได้ทำให้แขกที่มางานกลุ่มนี้หยุดสงสัย เพราะยังคงมีเสียงกระซิบกระซาบกันอยู่

                งานนี้เมรัน ขอให้ไอศิกานางแบบชื่อดังของเจ๊มี่ มาเป็นแขกด้วยซึ่งเธอก็เป็นที่สนใจในงาน ด้วยใบหน้าที่สวย สัดส่วนที่งามตามมาตรฐาน เธอมีความเซ็กซี่ ที่ใครเห็นแล้วก็อดต้องมองเหลียวหลังอีกครั้งไม่ได้เลย โดยเฉพาะบรรดาหนุ่มโสดไฮโซรวมทั้งชินดนัยด้วย แต่ไอศิกามาร่วมงานได้แค่ชั่วครู่ก็ขอตัวกลับเพราะติดงานอีกหลายที่ ชินดนัยเองก็ยุ่งอยู่กับการช่วยต้อนรับแขกในงาน เขาก็เลยยังไม่มีเวลาได้ทำความรู้จักกับไอศิกา ส่วนที่แถมมาอีกคนคือนายแบบเนื้อหอมชื่อดัง ภูมิธเนศ ที่พึ่งจะกลับจากฝรั่งเศส คนนี้มีประกายความหล่อ ดีกรีหนุ่มนักเรียนนอก แถมยังเป็นนายแบบชื่อดังสุดในตอนนี้ทุกคนรู้จักดี ต่างก็มองมาที่เขาเป็นตาเดียว และคนที่ดูจะให้ความสนใจกับหนุ่มหล่อ ดีกรีนักเรียนนอกคนนี้มากอีกคน ก็คือ แพรวมณี เธอมองว่าชายหนุ่มนายแบบคนนี้น่าจะเป็นเป้าหมายที่อาจจะทำให้เมรันสามารถเปลี่ยนใจเลิกสนิทสนมกับหนุ่มบอดี้การ์ดได้ แพรวมณีซ่อนรอยยิ้มที่มุมปาก