ตอนที่ ๕. ตกหลุมรัก
เมื่อคืนหลังจากกลับจากงานเลี้ยง เมรันก็แวะไปคุยกับพี่สาวตามประสาพี่น้องที่ไม่ได้เจอกันนาน จนเธอเพิ่งจะคล้อยหลับไปเมื่อตอนตีสอง แถมยังนอนเพลินมากไปหน่อย หญิงสาวตื่นนอน ลงมาจากห้อง เวลาก็เกือบจะเที่ยงวันอยู่แล้ว คุณพ่อกับพี่สาวออกไปทำงาน ตอนนี้ตึกใหญ่จึงดูค่อนข้างเงียบเหงา วันนี้เป็นวันว่าง เมรันเลยตั้งใจจะไปหาป้าเยือนในครัว
“อ้าวคุณหนูรัน ตื่นแล้วเหรอคะ”
ป้าเยือนเอ่ยทักด้วยรอยยิ้มเอ็นดู เมื่อเห็นเมรันเดินเข้าครัวมา แม่บ้านอาวุโสถามเธอเรื่องอาหารเที่ยงจะได้จัดเตรียมให้ หญิงสาวบอกกับป้าเยือนว่า
วันนี้เธอจะแวะไปหาเพื่อน แต่แล้วเมรันก็อดที่จะต้องถามถึงชายหนุ่มร่างสูง หุ่นเท่คนนั้นไม่ได้
“ป้าคะ เขาไปไหนคะ” คุณหนูคนสวยเอ่ยถาม
“ ใครเหรอคะ” ป้าเยือนถามกลับด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“นายบอดี้การ์ดค่ะ” เมรันเอ่ยถาม พร้อมกับนึกถึงใบหน้าคมคายของเขา
“คุณนคินทร์ เขาออกไปตั้งแต่เช้าแล้วละค่ะ”
“รันตื่นไม่ทันใครเลยใช่ไหมคะเนี่ย” หญิงสาวถอนหายใจ พูดอย่างรู้ตัวเอง
ป้าเยือนมองหน้าคุณหนูคนเล็กแล้วยิ้ม เพราะรู้ว่าเมรันไม่ค่อยได้ตื่นเช้า มาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว
เมรันเดินไปนั่งลงที่โต๊ะทานข้าวในครัว วางถุงไว้ข้างตัว เธอนั่งเท้าคางถามด้วยความอยากรู้
“ป้าคะ นายบอดี้การ์ดมาอยู่ที่บ้านเราเป็นยังไงบ้าง เขาหยิ่งไหมคะ?” คุณหนูคนสวยได้เลียบเคียงถาม
“คุณนคินทร์ ไม่ใช่คนหยิ่งเลยนะคะ ป้ารับรอง คุณคินเป็นคนง่าย ๆ นิสัยก็ดีมากเลยค่ะ” ป้าเยือนตอบตามความเป็นจริง
“ไม่หยิ่งเหรอคะ?’ หญิงสาวถามย้ำเพื่อให้แน่ใจ ปากสวยรั้งเชิดขึ้น ทำไมทีกับเธอ นายบอดี้การ์ดนั่นถึงได้มีท่าทางเฉยเมยกับเธอนัก ผู้ชายที่เธอ
เคยออกเดตด้วย ล้วนแต่คอยเอาอกเอาใจเธอกันทั้งนั้น
“คุณหนูรันมีอะไรหรือเปล่าคะ?” ป้าเยือนถามแล้วอมยิ้ม เพราะไม่เคยเห็นคุณหนูคนนี้จะสนใจใครเป็นพิเศษมาก่อน
เมรันเริ่มรู้สึกตัวว่าอาจจะถามอะไรมากไปจนดูไม่เหมาะ เธอจึงรีบเปลี่ยนเรื่องที่จะคุย
“รันเกือบลืมเลย นี่ค่ะของป้า คนที่น่ารักที่สุดของรัน” เธอพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน มือหยิบถุงของฝากที่วางไว้ข้างเก้าอี้เมื่อสักครู่ ยื่นให้กับป้าเยือน ซึ่ เป็นของที่เธอตั้งใจซื้อมาฝาก ร่างบางระหงก็เดินเข้าไปสวมกอดป้าเยือน
“ว๊าย! คุณหนูรัน มากอดป้าแบบนี้ ป้าเนื้อตัวเปื้อนไม่สะอาด กลิ่นกับข้าวยังติดตัวอยู่เลยค่ะ” ป้าเยือนบอกเมื่อเด็กสาวเดินมากอด แล้วก็รู้สึกจักจี้เมื่อคุณหนูยื่นจมูกเรียวมาหอมแก้มด้วย เมรันหัวเราะคิกคัก บอกว่าเธอเองก็ยังไม่ได้อาบน้ำเลยเพราะลงมาทั้งเสื้อคลุมชุดนอนแบบนี้ ป้าเยือนเห็นแล้วนึกขึ้นได้ มองดูหญิงสาวในชุดนอนถึงแม้จะมีเสื้อคลุมแต่ชุดนอนของเธอก็ค่อนข้างพริ้วบางจนแนบเนื้อบ้างส่วน ป้าเยือนต้องรีบบอกเตือนคุณหนูคนเล็กอย่าใส่ชุดแบบนี้ลงมาอีก เมรันพยักหน้าแล้วยิ้มเขิน
“ป้าเปิดดูซิคะว่าชอบไหม” เมรันยืนดูคอยรอลุ้น
แม่บ้านอาวุโส หยิบกล่องออกจากถุงลายสวย กล่องนั้นเป็นตลับแป้งลายเดียวกับถุง เมื่อเปิดฝาออก ด้านในเป็นแป้งฝุ่นทาหน้า กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ป้าเยือนชอบ รอยยิ้มแห่งความตื้นตันผุดขึ้นบนใบหน้าหญิงวัยกลางคน ด้วยความซาบซึ้งน้ำใจที่คนในบ้านนี้มีให้เสมอ
เมรันเห็นรอยยิ้มของป้าเยือน ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขไปด้วย หญิงสาวเดินเข้าไปหอมแก้มป้าเยือนอีกครั้งพร้อมกับบอกจะไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปหาเพื่อน เมรันโบกมือบ๊ายบายให้ แล้วเดินออกจากครัวไป ป้าเยือนเห็นแล้วก็นึกถึงคุณหนูเมรัน ตอนเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ สักสามขวบวิ่งเล่นทั่วบ้าน จนกระทั่งถึงวัยสิบสี่ปี เมรันก็ไปเรียนต่อต่างประเทศ จนบัดนี้เธอกลับมาเมืองไทยอีกครั้ง คุณหนูรันก็โตเป็นสาวแล้ว ป้าเยือนอมยิ้มแล้วก็กลับไปทำงานต่อ
เมื่อแต่งตัวเสร็จ เธอก็ขับรถมินิคูเปอร์คู่ใจออกไปทันที จุดหมายคือบ้านของเพื่อนคนสนิทชื่อเจ๊มีมี่ เจ้าของโมเดลลิ่งชื่อดังรายใหญ่
บ่ายของวันนี้ รถมินิคูเปอร์ได้ขับเคลื่อนเข้ามาภายในที่จอดรถของบ้านใหญ่ หลังงามแห่งนี้ ภายในบ้านจัดตกแต่งแบบมีสไตล์ ทั้งสระว่ายน้ำ และสถานที่ออกกำลังกาย ส่วนออฟฟิศ พร้อมห้องพักที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับนางแบบ นายแบบ นักแสดงในสังกัดของเพื่อนผู้ที่เธอกำลังมาเยี่ยมเยือนอยู่ในขณะนี้
เมรันเปิดประตูแล้วก้าวลงจากรถ เธอเดินไปเปิดประตูท้ายรถหยิบถุงของฝากออกมาเต็มมือทั้งสองข้างจนมือไม่ว่าง หญิงสาวเลยใช้สะโพกสวยดันปิดประตูแทน แล้วร่างระหงก็เดินตรงลิ่วเข้ามาที่ส่วนของออฟฟิศทันที
ยังไม่ทันที่เมรันจะก้าวเข้ามาถึงออฟฟิศ พลันเสียงทุ้ม แหลม ที่เธอคุ้นเคยดีก็ดังขึ้น
“ว๊าย! ดูซิ ใครมาเนี่ย” เสียงดีใจของชายร่างสะโอดสะอง แต่งตัวเต็ม เมคอัพครบ ผมสั้นซอยสวยเด้ง ตะโกนบอกกับพวกพนักงานที่นั่งในอยู่ห้อง ต่างก็ชะโงกหน้าดู เมื่อเมรันเดินเข้ามาถึงแล้ว พนักงานต่างก็ยกมือไหว้สวัสดีเมรัน จนหญิงสาวต้องยกมือทั้งสองข้างที่ยังถือถุงเต็มไปหมดขึ้นรับไหว้ เมรันหยิบถุงเพื่อแจกให้พนักงานของเพื่อนรัก แล้วเธอก็ยื่นถุงใหญ่อีกใบให้กับเจ๊มี่ ซึ่งเมรันตั้งใจซื้อเป็นของฝากให้เพื่อนรักของเธอ เจ๊มี่รับถุงมา เมื่อได้เปิดดูแล้วก็ยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว เมรันซื้อของฝากให้เขาได้ถูกใจเสมอ ด้วยรสนิยมการเลือกอันเป็นเลิศของเมรัน
“หญิงรัน กลับมาเมื่อไร ไม่เห็นบอกกันเลย”
“ก็อยากให้เซอร์ไพรส์ ยังไงล่ะเจ๊มี่” เมรันพูดกับเจ๊มีมี่เพื่อนสนิท
“มากอดหน่อย คิดถึงจริง ๆ ไม่เจอกันสองปีได้มั้ง” เจ๊มี่กับเมรันตรงเข้าสวมกอดทักทายกัน ทั้งสองคนสนิทกันมากตั้งแต่สมัยเรียนที่อังกฤษ
เจ๊มี่ถอยตัวออกมามองสำรวจ เพื่อนสาวคนสวย เมรันปล่อยผมยาวสลวยดัดลอนอ่อน สวมแว่นตากันแดดสีอ่อนกรอบใหญ่ตามสไตล์ที่หญิงสาวชอบ เสื้อคอวี ปักลวดลายรอบคอสวย ปลายแขนค้างค้าว กางเกงขาสั้นผ้าเนื้อดี อวดเรียวขาสวย เข้ากันกับรองเท้าสานที่มีสายพันยาวถึงครึ่งน่อง ทำให้ดูสวย เก๋ ลงตัวอย่างมีเสน่ห์ จนเจ๊มี่ต้องเอ่ยปากชม “หล่อนเนี่ย สวยขึ้นด้วยนะ ว่าแต่คราวนี้ หล่อนได้ตกลงปลงใจกับใครหรือยัง?”
“เพิ่งเจอ” เธอพูดยิ้มพร้อมหน้าแดงระเรื่อ เมื่อนึกถึงใบหน้าคมคายของเขา
“ใครกัน! ที่ได้ใจหญิงรันฉันไป อยากรู้” เจ๊มี่นึกแล้วว่าปฏิกิริยาของเพื่อนมันฟ้อง เมื่อเห็นเมรันได้แต่นิ่งเงียบไป สายตาของคนมากประสบการณ์ก็พอจะเดาอาการของเพื่อนได้
“นี่แอบรักเขาเหรอ ว่าแต่เป็นคนมีเจ้าของหรือเปล่า?” เจ๊มี่สอบถามด้วยความรู้สึกเป็นห่วง
“บ้าเจ๊ เขายังโสด” เมรันพูดแล้วแสร้งมองค้อนเพื่อน
หลังจากที่ได้คุยสัพเพเหระกับเพื่อนได้สักพัก เมรันก็ขอไปนั่งพักที่เก้าอี้ยาวใกล้ ๆ สระว่ายน้ำ เจ๊มี่บอกให้พนักงานไปช่วยเทคแคร์เมรันให้ด้วย วันนี้ได้สนทนากับเพื่อนสาวคนสวยแล้วมีความรู้สึกว่าเมรันต้องมีอะไรในใจแน่นอน เพราะดูค่อนข้างแปลกไปจากเดิมทีเดียว
บริเวณรอบสระว่ายน้ำ พนักงานเดินมาเสิร์ฟน้ำหวานให้เมรัน เธอกล่าวขอบคุณ ขณะที่เมรันกำลังดื่มน้ำหวานและนั่งคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่นั้น สายตาของเมรันก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวรูปร่างสมส่วน สวมชุดว่ายน้ำ บิกินี่ อวดผิวขาวสวย เรือนร่างอวบอัด เซ็กซี่ เย้ายวน เดินผ่านมาทางนี้ เธอคนนั้นยกมือไหว้ สวัสดีเจ๊มี่
“ไอศิกา นี่คือคุณเมรัน” เจ๊มี่บอกแนะนำให้เมรันได้รู้จัก
ทั้งสองคนต่างกล่าวสวัสดีกัน เมรันยิ้มให้ไอศิกาอย่างชื่นชม แต่ยังไม่ทันที่เมรันจะได้คุยอะไรกันต่อ ก็มีเสียงตะโกนเรียกไอศิกา ซึ่งเป็นเสียงของทีมงานที่กำลังรอเธออยู่ ไอศิกาจึงต้องขอตัวไปก่อน เมรันนึกในใจ ขนาดเธอเองเป็นผู้หญิงเห็นไอศิกาแล้วยังอดตะลึงไม่ได้ เพราะหญิงสาวเมื่อสักครู่สวยชวนให้น่ามองถึงขนาดนั้น”
“เธอสวยจังค่ะ เจ๊มี่” เมรันพูดอย่างชื่นชม
“นี่นางแบบเด็กใหม่ในสังกัด คนนี้เจ๊กะจะปั้นให้ปังเลย และเดี่ยวอีกสองเดือน ข้างหน้าก็จะมีมาใหม่ นะเป็นชายหนุ่มรูปงามดั่งเทพบุตร หุ่นล่ำ ผิวขาว สาวเห็นต้องกรี๊ดแน่ รับรองดังแน่ ๆ ไว้เจ๊แนะนำให้รู้จัก “
เมรันส่ายหน้า เธอนึกในใจ ที่จริงเธอเคยเจอคนรูปหล่อพร้อมทั้งฐานะมาก็ไม่น้อย พวกนายแบบระดับท็อปอินเตอร์ก็เคยเจอมาแล้วหลายคนจากงานแฟชั่นโชว์ พวกเขาเหล่านั้นล้วนมีเสน่ห์ รูปหล่อ หุ่นดี บาดใจ
แต่ทำไมกับเขา นายบอดี้การ์ดนั่น อาจจะไม่ถึงขั้นเลิศเหมือนเทพบุตร เธอกลับมีความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เขาทั้งกวนประสาท แต่กลับมีบ้างอย่างที่ดึงดูดใจเธอ อย่างที่เธอไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้มาก่อน
“หญิงรัน!” เสียงเรียกของเจ๊มี่ดังขึ้น ปลุกให้หญิงสาวสะดุ้งจากความคิด
“ คิดอะไรอยู่ ดูเหม่อยังไงชอบกล นี่กำลังเรียกว่า ตกหลุมรักใครอยู่แน่เลย” เจ๊มี่ทักเพื่อนสาวที่นิ่งไป เขาสังเกตแล้วมั่นใจว่าเพื่อนรักของเธอเหมือนกำลังมีความรักอย่างแน่นอน เจ๊มี่แอบถอนหายใจเบา ๆ ชักรู้สึกเป็นห่วงเพื่อน เพราะเจ๊มี่ก็ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร มาจากไหน ถ้าได้เห็นบ้างจะได้ช่วยดูให้เพื่อน
เมื่อเมรันได้ฟังที่เจ๊มี่พูดเมื่อสักครู่ ทำให้เธอถึงกับนั่งนิ่งไปเลย หญิงสาวไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลยว่า เธอกำลังตกหลุมรักชายหนุ่มที่ชื่อนคินทร์คนนั้น ทั้งที่เพิ่งจะเจอเขาครั้งแรก และรู้จักเขาเพียงไม่กี่วัน
เมรันนึกอะไรได้บางอย่าง คุณหนูคนสวยบอกกับเจ๊มี่ว่า เธออาจจะมีเรื่องขอให้ช่วย ซึ่งทางเพื่อนสนิทของเธอคนนี้ก็เต็มใจที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ทั้งสองคนคุยกันจนเกือบเย็น เมรันก็ขอตัวกลับ
คฤหาสน์อัครกูล
เมื่อกลับมาที่บ้าน เธอก็พบกับคุณพ่อกำลังคุยกับนคินทร์อยู่ที่ห้องรับแขกพอดี ชายหนุ่มหันไปเห็นหญิงสาวที่กำลังเดินเข้ามา ดูเธอแต่งตัวทันสมัยตลอดเวลา ร่างระหงเดินตัวปลิวโน้มตัวเข้าไปกอดคุณพ่อ แล้วถือโอกาสนี้นั่งลงข้างบิดา หญิงสาวหยิบหมอนใบใหญ่วางไว้บนตัก โดยที่ไม่ได้สนใจว่ากางเกงขาสั้นที่เธอสวมจะยิ่งรั้งหดสั้นขึ้นเวลาที่เธอนั่งลง เผยให้เห็นผิวต้นขานวลเนียน
นคินทร์ที่เผลอไปมองเข้าถึงกับต้องลอบถอนใจ เขาปฏิเสธไม่ได้ว่า เมรันมีเรียวขาที่สวยจริง ๆ เธอจึงมักที่จะชอบแต่งตัวสไตล์ที่ค่อนข้างเปิดเผย ชายหนุ่มรีบหันหน้า เบือนสายตาพร้อมกับบอกขออนุญาตท่านประพันธ์ เพื่อขอตัวกลับเรือนพัก ก่อนที่ท่านประพันธ์จะเอ่ยปากอนุญาต ก็ต้องชะงัก เมื่อได้ยินน้ำเสียงหวานจากลูกสาวคนเล็กเอ่ยดังแทรกขึ้นเสียก่อน
“ คุณบอดี้การ์ด ยังไม่ต้องไปไหนค่ะ ฉันมีเรื่องคุยกับคุณพ่อเกี่ยวกับคุณ”
คำพูดนี้ทำให้นคินทร์เงยหน้าขึ้นไปมองเมรัน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันทันที เขาไม่รู้ว่าหญิงสาวจะมาไม้ไหนอีก
เมรันเกาะแขนท่านประพันธ์ผู้เป็นบิดา พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“รันเพิ่งกลับมา ช่วงนี้ยังไม่ค่อยคล่องกับเส้นทางเท่าไหร่ อยากให้คุณบอดี้การ์ดเขาช่วยขับรถให้รันหน่อยได้ไหมคะคุณพ่อ แค่ช่วงแรก ๆ เท่านั้นค่ะ ไว้ชินทางแล้ว รันก็จะได้ไปไหนมาไหนเอง”
นคินทร์นั่งมือประสานกัน เหลือบสายตาไปมองเมรัน แล้วก็หันไปมองหน้าท่านประพันธ์
“งั้นเดี๋ยวพ่อให้ลุงชมไปช่วยขับรถ รับส่งให้ลูกก่อนดีไหม” ท่านประพันธ์แสร้งพูดเพื่อดูปฏิกิริยาของลูกสาวคนเล็ก เมรันนิ่งไปทันทีที่คุณพ่อของเธอบอกแบบนี้ แต่หญิงสาวยังไม่ยอมแพ้ เธอรีบหาเหตุผลอื่นมาบอกอีก
“ลุงชมเป็นคนขับรถที่ดีสุดของคุณพ่อ รันไม่กล้ารบกวนหรอกค่ะ เผื่อว่าบางทีรันต้องไปหลายที่ ลุงชมจะได้ไม่เหนื่อย มีเวลาพักกับครอบครัวด้วยนะคะ” เมรันพูดน้ำเสียงอ้อน นึกในใจ ไม่รู้ว่าเหตุผลที่เธอบอกไปนั้น เพียงพอที่คุณพ่อของเธอจะบอกอนุญาตให้นคินทร์ติดตามดูแลเธอหรือเปล่า เมรันกลั้นใจรอคำตอบจากคุณพ่อ
นคินทร์ที่รัก (ตอนที่ ๕. ตกหลุมรัก)
เมื่อคืนหลังจากกลับจากงานเลี้ยง เมรันก็แวะไปคุยกับพี่สาวตามประสาพี่น้องที่ไม่ได้เจอกันนาน จนเธอเพิ่งจะคล้อยหลับไปเมื่อตอนตีสอง แถมยังนอนเพลินมากไปหน่อย หญิงสาวตื่นนอน ลงมาจากห้อง เวลาก็เกือบจะเที่ยงวันอยู่แล้ว คุณพ่อกับพี่สาวออกไปทำงาน ตอนนี้ตึกใหญ่จึงดูค่อนข้างเงียบเหงา วันนี้เป็นวันว่าง เมรันเลยตั้งใจจะไปหาป้าเยือนในครัว
“อ้าวคุณหนูรัน ตื่นแล้วเหรอคะ”
ป้าเยือนเอ่ยทักด้วยรอยยิ้มเอ็นดู เมื่อเห็นเมรันเดินเข้าครัวมา แม่บ้านอาวุโสถามเธอเรื่องอาหารเที่ยงจะได้จัดเตรียมให้ หญิงสาวบอกกับป้าเยือนว่า
วันนี้เธอจะแวะไปหาเพื่อน แต่แล้วเมรันก็อดที่จะต้องถามถึงชายหนุ่มร่างสูง หุ่นเท่คนนั้นไม่ได้
“ป้าคะ เขาไปไหนคะ” คุณหนูคนสวยเอ่ยถาม
“ ใครเหรอคะ” ป้าเยือนถามกลับด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“นายบอดี้การ์ดค่ะ” เมรันเอ่ยถาม พร้อมกับนึกถึงใบหน้าคมคายของเขา
“คุณนคินทร์ เขาออกไปตั้งแต่เช้าแล้วละค่ะ”
“รันตื่นไม่ทันใครเลยใช่ไหมคะเนี่ย” หญิงสาวถอนหายใจ พูดอย่างรู้ตัวเอง
ป้าเยือนมองหน้าคุณหนูคนเล็กแล้วยิ้ม เพราะรู้ว่าเมรันไม่ค่อยได้ตื่นเช้า มาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว
เมรันเดินไปนั่งลงที่โต๊ะทานข้าวในครัว วางถุงไว้ข้างตัว เธอนั่งเท้าคางถามด้วยความอยากรู้
“ป้าคะ นายบอดี้การ์ดมาอยู่ที่บ้านเราเป็นยังไงบ้าง เขาหยิ่งไหมคะ?” คุณหนูคนสวยได้เลียบเคียงถาม
“คุณนคินทร์ ไม่ใช่คนหยิ่งเลยนะคะ ป้ารับรอง คุณคินเป็นคนง่าย ๆ นิสัยก็ดีมากเลยค่ะ” ป้าเยือนตอบตามความเป็นจริง
“ไม่หยิ่งเหรอคะ?’ หญิงสาวถามย้ำเพื่อให้แน่ใจ ปากสวยรั้งเชิดขึ้น ทำไมทีกับเธอ นายบอดี้การ์ดนั่นถึงได้มีท่าทางเฉยเมยกับเธอนัก ผู้ชายที่เธอ
เคยออกเดตด้วย ล้วนแต่คอยเอาอกเอาใจเธอกันทั้งนั้น
“คุณหนูรันมีอะไรหรือเปล่าคะ?” ป้าเยือนถามแล้วอมยิ้ม เพราะไม่เคยเห็นคุณหนูคนนี้จะสนใจใครเป็นพิเศษมาก่อน
เมรันเริ่มรู้สึกตัวว่าอาจจะถามอะไรมากไปจนดูไม่เหมาะ เธอจึงรีบเปลี่ยนเรื่องที่จะคุย
“รันเกือบลืมเลย นี่ค่ะของป้า คนที่น่ารักที่สุดของรัน” เธอพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน มือหยิบถุงของฝากที่วางไว้ข้างเก้าอี้เมื่อสักครู่ ยื่นให้กับป้าเยือน ซึ่ เป็นของที่เธอตั้งใจซื้อมาฝาก ร่างบางระหงก็เดินเข้าไปสวมกอดป้าเยือน
“ว๊าย! คุณหนูรัน มากอดป้าแบบนี้ ป้าเนื้อตัวเปื้อนไม่สะอาด กลิ่นกับข้าวยังติดตัวอยู่เลยค่ะ” ป้าเยือนบอกเมื่อเด็กสาวเดินมากอด แล้วก็รู้สึกจักจี้เมื่อคุณหนูยื่นจมูกเรียวมาหอมแก้มด้วย เมรันหัวเราะคิกคัก บอกว่าเธอเองก็ยังไม่ได้อาบน้ำเลยเพราะลงมาทั้งเสื้อคลุมชุดนอนแบบนี้ ป้าเยือนเห็นแล้วนึกขึ้นได้ มองดูหญิงสาวในชุดนอนถึงแม้จะมีเสื้อคลุมแต่ชุดนอนของเธอก็ค่อนข้างพริ้วบางจนแนบเนื้อบ้างส่วน ป้าเยือนต้องรีบบอกเตือนคุณหนูคนเล็กอย่าใส่ชุดแบบนี้ลงมาอีก เมรันพยักหน้าแล้วยิ้มเขิน
“ป้าเปิดดูซิคะว่าชอบไหม” เมรันยืนดูคอยรอลุ้น
แม่บ้านอาวุโส หยิบกล่องออกจากถุงลายสวย กล่องนั้นเป็นตลับแป้งลายเดียวกับถุง เมื่อเปิดฝาออก ด้านในเป็นแป้งฝุ่นทาหน้า กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ป้าเยือนชอบ รอยยิ้มแห่งความตื้นตันผุดขึ้นบนใบหน้าหญิงวัยกลางคน ด้วยความซาบซึ้งน้ำใจที่คนในบ้านนี้มีให้เสมอ
เมรันเห็นรอยยิ้มของป้าเยือน ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขไปด้วย หญิงสาวเดินเข้าไปหอมแก้มป้าเยือนอีกครั้งพร้อมกับบอกจะไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปหาเพื่อน เมรันโบกมือบ๊ายบายให้ แล้วเดินออกจากครัวไป ป้าเยือนเห็นแล้วก็นึกถึงคุณหนูเมรัน ตอนเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ สักสามขวบวิ่งเล่นทั่วบ้าน จนกระทั่งถึงวัยสิบสี่ปี เมรันก็ไปเรียนต่อต่างประเทศ จนบัดนี้เธอกลับมาเมืองไทยอีกครั้ง คุณหนูรันก็โตเป็นสาวแล้ว ป้าเยือนอมยิ้มแล้วก็กลับไปทำงานต่อ
เมื่อแต่งตัวเสร็จ เธอก็ขับรถมินิคูเปอร์คู่ใจออกไปทันที จุดหมายคือบ้านของเพื่อนคนสนิทชื่อเจ๊มีมี่ เจ้าของโมเดลลิ่งชื่อดังรายใหญ่
บ่ายของวันนี้ รถมินิคูเปอร์ได้ขับเคลื่อนเข้ามาภายในที่จอดรถของบ้านใหญ่ หลังงามแห่งนี้ ภายในบ้านจัดตกแต่งแบบมีสไตล์ ทั้งสระว่ายน้ำ และสถานที่ออกกำลังกาย ส่วนออฟฟิศ พร้อมห้องพักที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับนางแบบ นายแบบ นักแสดงในสังกัดของเพื่อนผู้ที่เธอกำลังมาเยี่ยมเยือนอยู่ในขณะนี้
เมรันเปิดประตูแล้วก้าวลงจากรถ เธอเดินไปเปิดประตูท้ายรถหยิบถุงของฝากออกมาเต็มมือทั้งสองข้างจนมือไม่ว่าง หญิงสาวเลยใช้สะโพกสวยดันปิดประตูแทน แล้วร่างระหงก็เดินตรงลิ่วเข้ามาที่ส่วนของออฟฟิศทันที
ยังไม่ทันที่เมรันจะก้าวเข้ามาถึงออฟฟิศ พลันเสียงทุ้ม แหลม ที่เธอคุ้นเคยดีก็ดังขึ้น
“ว๊าย! ดูซิ ใครมาเนี่ย” เสียงดีใจของชายร่างสะโอดสะอง แต่งตัวเต็ม เมคอัพครบ ผมสั้นซอยสวยเด้ง ตะโกนบอกกับพวกพนักงานที่นั่งในอยู่ห้อง ต่างก็ชะโงกหน้าดู เมื่อเมรันเดินเข้ามาถึงแล้ว พนักงานต่างก็ยกมือไหว้สวัสดีเมรัน จนหญิงสาวต้องยกมือทั้งสองข้างที่ยังถือถุงเต็มไปหมดขึ้นรับไหว้ เมรันหยิบถุงเพื่อแจกให้พนักงานของเพื่อนรัก แล้วเธอก็ยื่นถุงใหญ่อีกใบให้กับเจ๊มี่ ซึ่งเมรันตั้งใจซื้อเป็นของฝากให้เพื่อนรักของเธอ เจ๊มี่รับถุงมา เมื่อได้เปิดดูแล้วก็ยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว เมรันซื้อของฝากให้เขาได้ถูกใจเสมอ ด้วยรสนิยมการเลือกอันเป็นเลิศของเมรัน
“หญิงรัน กลับมาเมื่อไร ไม่เห็นบอกกันเลย”
“ก็อยากให้เซอร์ไพรส์ ยังไงล่ะเจ๊มี่” เมรันพูดกับเจ๊มีมี่เพื่อนสนิท
“มากอดหน่อย คิดถึงจริง ๆ ไม่เจอกันสองปีได้มั้ง” เจ๊มี่กับเมรันตรงเข้าสวมกอดทักทายกัน ทั้งสองคนสนิทกันมากตั้งแต่สมัยเรียนที่อังกฤษ
เจ๊มี่ถอยตัวออกมามองสำรวจ เพื่อนสาวคนสวย เมรันปล่อยผมยาวสลวยดัดลอนอ่อน สวมแว่นตากันแดดสีอ่อนกรอบใหญ่ตามสไตล์ที่หญิงสาวชอบ เสื้อคอวี ปักลวดลายรอบคอสวย ปลายแขนค้างค้าว กางเกงขาสั้นผ้าเนื้อดี อวดเรียวขาสวย เข้ากันกับรองเท้าสานที่มีสายพันยาวถึงครึ่งน่อง ทำให้ดูสวย เก๋ ลงตัวอย่างมีเสน่ห์ จนเจ๊มี่ต้องเอ่ยปากชม “หล่อนเนี่ย สวยขึ้นด้วยนะ ว่าแต่คราวนี้ หล่อนได้ตกลงปลงใจกับใครหรือยัง?”
“เพิ่งเจอ” เธอพูดยิ้มพร้อมหน้าแดงระเรื่อ เมื่อนึกถึงใบหน้าคมคายของเขา
“ใครกัน! ที่ได้ใจหญิงรันฉันไป อยากรู้” เจ๊มี่นึกแล้วว่าปฏิกิริยาของเพื่อนมันฟ้อง เมื่อเห็นเมรันได้แต่นิ่งเงียบไป สายตาของคนมากประสบการณ์ก็พอจะเดาอาการของเพื่อนได้
“นี่แอบรักเขาเหรอ ว่าแต่เป็นคนมีเจ้าของหรือเปล่า?” เจ๊มี่สอบถามด้วยความรู้สึกเป็นห่วง
“บ้าเจ๊ เขายังโสด” เมรันพูดแล้วแสร้งมองค้อนเพื่อน
หลังจากที่ได้คุยสัพเพเหระกับเพื่อนได้สักพัก เมรันก็ขอไปนั่งพักที่เก้าอี้ยาวใกล้ ๆ สระว่ายน้ำ เจ๊มี่บอกให้พนักงานไปช่วยเทคแคร์เมรันให้ด้วย วันนี้ได้สนทนากับเพื่อนสาวคนสวยแล้วมีความรู้สึกว่าเมรันต้องมีอะไรในใจแน่นอน เพราะดูค่อนข้างแปลกไปจากเดิมทีเดียว
บริเวณรอบสระว่ายน้ำ พนักงานเดินมาเสิร์ฟน้ำหวานให้เมรัน เธอกล่าวขอบคุณ ขณะที่เมรันกำลังดื่มน้ำหวานและนั่งคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่นั้น สายตาของเมรันก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวรูปร่างสมส่วน สวมชุดว่ายน้ำ บิกินี่ อวดผิวขาวสวย เรือนร่างอวบอัด เซ็กซี่ เย้ายวน เดินผ่านมาทางนี้ เธอคนนั้นยกมือไหว้ สวัสดีเจ๊มี่
“ไอศิกา นี่คือคุณเมรัน” เจ๊มี่บอกแนะนำให้เมรันได้รู้จัก
ทั้งสองคนต่างกล่าวสวัสดีกัน เมรันยิ้มให้ไอศิกาอย่างชื่นชม แต่ยังไม่ทันที่เมรันจะได้คุยอะไรกันต่อ ก็มีเสียงตะโกนเรียกไอศิกา ซึ่งเป็นเสียงของทีมงานที่กำลังรอเธออยู่ ไอศิกาจึงต้องขอตัวไปก่อน เมรันนึกในใจ ขนาดเธอเองเป็นผู้หญิงเห็นไอศิกาแล้วยังอดตะลึงไม่ได้ เพราะหญิงสาวเมื่อสักครู่สวยชวนให้น่ามองถึงขนาดนั้น”
“เธอสวยจังค่ะ เจ๊มี่” เมรันพูดอย่างชื่นชม
“นี่นางแบบเด็กใหม่ในสังกัด คนนี้เจ๊กะจะปั้นให้ปังเลย และเดี่ยวอีกสองเดือน ข้างหน้าก็จะมีมาใหม่ นะเป็นชายหนุ่มรูปงามดั่งเทพบุตร หุ่นล่ำ ผิวขาว สาวเห็นต้องกรี๊ดแน่ รับรองดังแน่ ๆ ไว้เจ๊แนะนำให้รู้จัก “
เมรันส่ายหน้า เธอนึกในใจ ที่จริงเธอเคยเจอคนรูปหล่อพร้อมทั้งฐานะมาก็ไม่น้อย พวกนายแบบระดับท็อปอินเตอร์ก็เคยเจอมาแล้วหลายคนจากงานแฟชั่นโชว์ พวกเขาเหล่านั้นล้วนมีเสน่ห์ รูปหล่อ หุ่นดี บาดใจ
แต่ทำไมกับเขา นายบอดี้การ์ดนั่น อาจจะไม่ถึงขั้นเลิศเหมือนเทพบุตร เธอกลับมีความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เขาทั้งกวนประสาท แต่กลับมีบ้างอย่างที่ดึงดูดใจเธอ อย่างที่เธอไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้มาก่อน
“หญิงรัน!” เสียงเรียกของเจ๊มี่ดังขึ้น ปลุกให้หญิงสาวสะดุ้งจากความคิด
“ คิดอะไรอยู่ ดูเหม่อยังไงชอบกล นี่กำลังเรียกว่า ตกหลุมรักใครอยู่แน่เลย” เจ๊มี่ทักเพื่อนสาวที่นิ่งไป เขาสังเกตแล้วมั่นใจว่าเพื่อนรักของเธอเหมือนกำลังมีความรักอย่างแน่นอน เจ๊มี่แอบถอนหายใจเบา ๆ ชักรู้สึกเป็นห่วงเพื่อน เพราะเจ๊มี่ก็ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร มาจากไหน ถ้าได้เห็นบ้างจะได้ช่วยดูให้เพื่อน
เมื่อเมรันได้ฟังที่เจ๊มี่พูดเมื่อสักครู่ ทำให้เธอถึงกับนั่งนิ่งไปเลย หญิงสาวไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลยว่า เธอกำลังตกหลุมรักชายหนุ่มที่ชื่อนคินทร์คนนั้น ทั้งที่เพิ่งจะเจอเขาครั้งแรก และรู้จักเขาเพียงไม่กี่วัน
เมรันนึกอะไรได้บางอย่าง คุณหนูคนสวยบอกกับเจ๊มี่ว่า เธออาจจะมีเรื่องขอให้ช่วย ซึ่งทางเพื่อนสนิทของเธอคนนี้ก็เต็มใจที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ทั้งสองคนคุยกันจนเกือบเย็น เมรันก็ขอตัวกลับ
คฤหาสน์อัครกูล
เมื่อกลับมาที่บ้าน เธอก็พบกับคุณพ่อกำลังคุยกับนคินทร์อยู่ที่ห้องรับแขกพอดี ชายหนุ่มหันไปเห็นหญิงสาวที่กำลังเดินเข้ามา ดูเธอแต่งตัวทันสมัยตลอดเวลา ร่างระหงเดินตัวปลิวโน้มตัวเข้าไปกอดคุณพ่อ แล้วถือโอกาสนี้นั่งลงข้างบิดา หญิงสาวหยิบหมอนใบใหญ่วางไว้บนตัก โดยที่ไม่ได้สนใจว่ากางเกงขาสั้นที่เธอสวมจะยิ่งรั้งหดสั้นขึ้นเวลาที่เธอนั่งลง เผยให้เห็นผิวต้นขานวลเนียน
นคินทร์ที่เผลอไปมองเข้าถึงกับต้องลอบถอนใจ เขาปฏิเสธไม่ได้ว่า เมรันมีเรียวขาที่สวยจริง ๆ เธอจึงมักที่จะชอบแต่งตัวสไตล์ที่ค่อนข้างเปิดเผย ชายหนุ่มรีบหันหน้า เบือนสายตาพร้อมกับบอกขออนุญาตท่านประพันธ์ เพื่อขอตัวกลับเรือนพัก ก่อนที่ท่านประพันธ์จะเอ่ยปากอนุญาต ก็ต้องชะงัก เมื่อได้ยินน้ำเสียงหวานจากลูกสาวคนเล็กเอ่ยดังแทรกขึ้นเสียก่อน
“ คุณบอดี้การ์ด ยังไม่ต้องไปไหนค่ะ ฉันมีเรื่องคุยกับคุณพ่อเกี่ยวกับคุณ”
คำพูดนี้ทำให้นคินทร์เงยหน้าขึ้นไปมองเมรัน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันทันที เขาไม่รู้ว่าหญิงสาวจะมาไม้ไหนอีก
เมรันเกาะแขนท่านประพันธ์ผู้เป็นบิดา พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“รันเพิ่งกลับมา ช่วงนี้ยังไม่ค่อยคล่องกับเส้นทางเท่าไหร่ อยากให้คุณบอดี้การ์ดเขาช่วยขับรถให้รันหน่อยได้ไหมคะคุณพ่อ แค่ช่วงแรก ๆ เท่านั้นค่ะ ไว้ชินทางแล้ว รันก็จะได้ไปไหนมาไหนเอง”
นคินทร์นั่งมือประสานกัน เหลือบสายตาไปมองเมรัน แล้วก็หันไปมองหน้าท่านประพันธ์
“งั้นเดี๋ยวพ่อให้ลุงชมไปช่วยขับรถ รับส่งให้ลูกก่อนดีไหม” ท่านประพันธ์แสร้งพูดเพื่อดูปฏิกิริยาของลูกสาวคนเล็ก เมรันนิ่งไปทันทีที่คุณพ่อของเธอบอกแบบนี้ แต่หญิงสาวยังไม่ยอมแพ้ เธอรีบหาเหตุผลอื่นมาบอกอีก
“ลุงชมเป็นคนขับรถที่ดีสุดของคุณพ่อ รันไม่กล้ารบกวนหรอกค่ะ เผื่อว่าบางทีรันต้องไปหลายที่ ลุงชมจะได้ไม่เหนื่อย มีเวลาพักกับครอบครัวด้วยนะคะ” เมรันพูดน้ำเสียงอ้อน นึกในใจ ไม่รู้ว่าเหตุผลที่เธอบอกไปนั้น เพียงพอที่คุณพ่อของเธอจะบอกอนุญาตให้นคินทร์ติดตามดูแลเธอหรือเปล่า เมรันกลั้นใจรอคำตอบจากคุณพ่อ