ตอนที่ ๘.ใจสัมผัส
แสงแดดเริ่มส่องแสงร้อนในช่วงสายวันนี้ เมรันเพิ่งจะออกจากห้องนอนเพราะตั้งใจจะถ่วงเวลาให้นานที่สุด เป็นเวลาเกือบเที่ยงวันแล้วที่เธอเดินลงมาด้านล่างเมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในตอนนี้ ขณะกำลังเดินไปยังด้านหน้าของห้องโถง หญิงสาวก็ต้องชะงักหยุดเมื่อชายหนุ่มร่างสูงที่เธอตั้งใจว่าจะหลบหน้าแต่วันนี้เขากลับปรากฏตัวยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ
นคินทร์เดินเข้ามาใกล้ เมรันแหงนหน้าขึ้นมอง เขาสะดุดกับแววตาเศร้าที่มีประกายหม่น รอบขอบตาของหญิงสาวมีรอยดูบวมช้ำ
“คุณร้องไห้?” นคินทร์ถาม คำพูดของเขาเหมือนผ่าตรงมาที่กลางใจ เธอหลบสายตาเบือนหน้าไปอีกทาง
ชายหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ “วันนี้ไม่เห็นคุณบอกผมว่าคุณอยากจะไปไหน”
“ไม่เป็นไรค่ะฉันไปเองได้” เมรันยังคงก้มหน้าหลบตาเขาอยู่แล้วฝืนใจรีบเดินผ่านเขาไปให้เร็วที่สุด
“เดี๋ยวก่อนสิครับ” นคินทร์หันไปเรียก
“คุณจะไม่ให้ผมไปส่งคุณเหรอ” เขาถามเธอเสียงอ่อน คำถามของเขาทำให้ใจเธอเต้นแรงทำหน้าไม่ถูก
“ฉันไม่อยากจะรบกวนคุณ” เมรันกลั้นใจบอกพร้อมกับแข็งใจรีบก้าวเท้าออกไปก่อนที่เธอจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่โดยที่หญิงสาวไม่รู้ว่าชายหนุ่มเองก็มีสีหน้ากังวลไม่ต่างกับเธอเลย นคินทร์มองตามเมรันไปจนเธอเดินออกไปจากห้องโถงแห่งนี้
เมรันขับรถมาหาเจ๊มี่ที่บ้าน เจ๊มี่ตกใจเมื่อเห็นหน้าตาเพื่อนสาวเข้ามาหาด้วยใบหน้าเศร้า ขอบตาแดง หญิงสาวเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนคนสนิทฟังทั้งหมด
“โอ๊ย! รักสามเส้าแล้วยัยรันเอ๋ย ว่าแต่คุณรินเธอชอบนคินทร์เขาด้วยหรือเปล่า?” เจ๊มี่ลากเสียง หญิงสาวส่ายหน้าเธอเองก็ยังไม่รู้ แต่เมรันบอกกับเพื่อนสนิทว่าตนเองก็พร้อมจะเสียสละเพื่อพี่สาวที่เธอรัก แต่เจ๊มี่แนะนำให้เธอไปถามเมรินให้รู้เรื่องก่อน
“หล่อนน่ะ ถ้าคุณรินไม่ได้รู้สึกแบบนั้น หล่อนก็เดินหน้าเต็มที่ต่อไปนะ อย่าเสียใจนะคนดี” เจ๊มี่พูดให้กำลังใจเพื่อนสาวคนสนิทเต็มที่ เมรันพยักหน้าพูดขอบคุณพร้อมทั้งสวมกอดเพื่อนซาบซึ้งที่คอยเป็นที่ปรึกษาและเป็นกำลังใจให้เธอเสมอ เจ๊มี่บอกว่าตอนที่อยู่อังกฤษก็ได้เมรันค่อยช่วยเหลือและให้กำลังใจเขาทำให้เจ๊มี่เองก็ไม่มีวันลืมมิตรภาพนั้นเหมือนกัน หลังจากที่ได้กำลังใจจากเพื่อนเมรันก็ขอตัวไปหาพี่สาว
เมรันเปิดประตูเข้ามาที่รถมินิคูเปอร์ของเธอ หญิงสาวถอนหายใจแล้วขับรถออกมาจากบ้านของเจ๊มี่โดยที่เธอไม่รู้ว่ามีชายหนุ่มร่างสูงสวมแจ็คเก็ต หมวกกันน็อคขับบิ๊กไบค์จอดรออยู่ ทันทีที่เธอขับรถออกมา ชายหนุ่มคนนั้นก็ขับบิ๊กไบค์เคลื่อนตัวติดตามเธอไปด้วย
คฤหาสน์อัครกูล แพรวมณีกลับมาคราวนี้ไม่ได้บอกใครก่อนรีบตรงมาหาประพันธ์ผู้เป็นพี่ชายทันทีถามเรื่องที่เกิดขึ้นทางหน้าหนังสือพิมพ์ ที่แพรวมณีรู้เพราะว่าตอนที่กำลังจะกลับมาเมืองไทยเพื่อนของตนที่เมืองนอกถามถึงจนเธอไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ประพันธ์กำลังนั่งที่โซฟารับแขกวางแก้วกาแฟลงมองหน้าน้องสาวแล้วบอกว่า
“คนในครอบครัวของเราพลาดพลั้งไปก็ช่วยอบรมดูแลกันหน่อย ฉันก็ได้พูดไปเท่าที่คนเป็นพ่ออย่างฉันเห็นสมควร” ประพันธ์บอกน้องสาวว่าคนอื่นใครจะคิดจะพูดก็ต้องปล่อยเขา แต่ดูเหมือนผู้เป็นน้องสาวยังคงไม่พอใจที่ได้คำตอบที่ไม่ชัดเจนจากพี่ชาย ประพันธ์มองหน้าน้องสาวและถามว่า
“มณี เธอก็เคยผ่านช่วงเวลาที่เป็นสาวเหมือนกัน ยังจำได้หรือเปล่า?” คำพูดของประพันธ์ทำให้ผู้เป็นน้องสาวพูดอะไรไม่ออก แพรวมณีนึกถึงอดีตที่เธอเคยอกหักกับแฟนหนุ่มคนแรก สมัยที่เธอยังเป็นสาว ตอนนั้นเธอเองก็เสียใจแทบจะเสียผู้เสียคน พี่ชายของเธอต้องคอยปลอบและให้กำลังใจให้เธอผ่านพ้นมาได้ เธอถึงเข็ดและยังไม่ได้แต่งงานจนถึงทุกวันนี้ แพรวมณีนิ่งไปชั่วครู่แต่แล้วก็เปลี่ยนเรื่องมาถามถึงหลานสาวทั้งสอง แพรวมณีมีสีหน้าตกใจเมื่อรู้ข่าวว่าเมรินไม่สบายจึงรีบรุดไปโรงพยาบาลทันที
บ่ายวันนี้ที่โรงพยาบาล ภายในห้องคนไข้พิเศษ เมรันแวะไปเยี่ยมพี่สาวพร้อมช่อดอกกุหลาบสีชมพูอ่อนที่พี่สาวชอบมากเป็นพิเศษ
เมื่อสนทนากันได้สักครู่ เมรันตัดสินใจถามกับเมรินผู้เป็นพี่สาวเรื่องของนคินทร์ เธอนั่งลงข้างเตียงของพี่สาว เมรินลูบหัวน้องสาวอย่างเอ็นดู
“คุณคินเขาเป็นคนดีมากที่สุดคนหนึ่งทีเดียว” เมรินมองหน้าน้องสาว คนเป็นพี่สาวอย่างเธอย่อมรู้ดีว่าน้องสาวของตนเองมีความรู้สึกอย่างไรกับนคินทร์
“ว่าแต่เราน่ะชอบคุณคินเขาใช่ไหม” เมรินพูดอย่างรู้ใจของน้องสาว เมรันเงยหน้ามองพี่สาว ตอนนี้คิดปกปิดอะไรกับพี่สาวอีกแล้ว
“เด็กโง่! นึกว่าพี่มองไม่ออกเหรอ” เมรินลูบตัวน้องสาวแล้วบอกว่านคินทร์คงยังไม่รู้ตัวเขาเองเพราะจากวันที่เมรินเห็นนคินทร์อุ้มพาเมรันน้องสาวของเธอไปที่ห้อง สายตาของนคินทร์นั้นดูเป็นห่วงเป็นใยเมรันน้องสาวของเธอมากทีเดียว นคินทร์เป็นคนเด็ดเดี่ยวแต่เรื่องนี้เขาคงจะยังไม่แน่ใจตัวเอง ความนิ่งเงียบในบางครั้งของเขาด้วยที่ทำให้เดาใจยาก เมรินมองหน้าน้องสาวอย่างเอ็นดู
“คงเพราะได้มาเจอกับน้องสาวของพี่ล่ะมั้งเลยทำให้เขาสับสน” เมรินยิ้มพูดแซวน้องสาว
“พี่รินคะ ถ้าพี่รินชอบนคินทร์เขาเหมือนกัน รันก็จะสนับสนุนนะคะ” หญิงสาวพูดพร้อมกอดพี่สาว แววตาเศร้า เธอพร้อมเสียสละให้พี่สาวได้มีความสุขถึงแม้ตัวเองจะต้องรู้สึกเจ็บปวดก็ตาม
“แล้วน้องสาวของพี่ก็แอบร้องไห้ขี้มูกโป่ง หนีใจตัวเองกลับไปอยู่เมืองนอกเหรอจ๊ะ” เมรินก้มลงมองน้องสาว คำพูดนี้ของพี่สาวจี้จุดตรงเข้ากลางใจของเมรันเข้าอย่างจัง ทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นไปมองพี่สาว
“พี่ชอบคุณคินแบบพี่ชาย” เมรินบอกยืนยันเสียงหนักแน่น
“น้องสาวของพี่น่ารักแบบนี้ ใครจะไม่รักได้ล่ะ” เมรินพูดพลางลูบศีรษะน้องสาวอย่างเอ็นดู เมรันสวมกอดพี่สาวแน่นขึ้น หลับตายิ้มอย่างรู้สึกสบายใจที่ได้พูดคุยกับพี่สาวอย่างเปิดใจ
ทั้งคู่ได้สนทนากันอีกสักพัก เมรันก็ขอตัวกลับเพื่อให้พี่สาวได้พักผ่อน ในจังหวะเดียวกันแพรวมณีกำลังเดินเข้ามาเยี่ยมอาการของเมริน เมื่อได้พบกับเมรันผู้เป็นหลานสาวคนเล็ก
แพรวมณียืนมองพิจารณาเมรันผู้ซึ่งตอนนี้โตเป็นสาวและแลดูสวยไม่น้อยไปกว่าผู้เป็นพี่สาว ก่อนที่แพรวมณีจะได้กล่าวอะไร หลานสาวที่เคยเป็นเด็กรั้นคนนั้นก็โผมาหาเธอจนทำให้แพรวมณีแปลกใจ เพราะปกติเมรันจะไม่เคยปฏิบัติเช่นนี้กับคุณอาอย่างเธอ
“คุณอามาตั้งแต่เมื่อไหร คิดถึงจัง” เมรันเข้ามากอดอาสาว พอเจอหลานสาวอ้อนขึ้นมาแบบนี้ แพรวมณีก็ใจอ่อนจนลืมที่จะเอ่ยถามถึงเรื่องนั้น สักครู่ทั้งหมดก็ได้พบกับหมอหนุ่มรูปงามที่เข้ามาตรวจอาการของเมริน เขายกมือไหว้สวัสดีแพรวมณีแล้วหมอปรัชญ์ก็หันไปมองเมรัน ทั้งสองคนเคยได้พบกันแล้ว เมรันยกมือไหว้สวัสดีหมอปรัชญ์ คุณหมอหนุ่มพูดชมความน่ารักของเมรันหญิงสาวคนน้อง
เมื่อสนทนากันได้สักครู่ เมรันเพิ่งจะรู้ว่าพี่สาวของเธอกับหมอปรัชญ์มีความสนิทสนมกันมากเป็นพิเศษ หมอปรัชญ์ขอตรวจดูอาการเมรินด้วยความเป็นห่วง แพรวมณีพอใจที่เห็นทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันเป็นอย่างดี เธอก็เลยขอตัวกลับไปพร้อมกับเมรัน เพื่อเปิดทางให้ทั้งสองหนุ่มสาวได้คุยกันตามสะดวก เมื่อคุณหมอหนุ่มเดินไปส่งทั้งคู่ที่หน้าประตูห้องแล้ว หมอปรัชญ์ก็เดินกลับเข้ามาคุยกับเมรินอีกครั้ง เขาบอกสารภาพกับหญิงสาวว่า
“เวลาที่ผมได้อยู่ใกล้คุณ ผมรู้สึกมีความสุขและมีกำลังใจมาก” หมอหนุ่มพูดพร้อมกับกุมมือของหญิง เมรินมองหน้าเขา หญิงสาวยิ้มใบหน้าแดงระเรื่อ
“ผมตัดสินใจดีแล้ว แต่งงานกับผมนะครับคุณริน” หมอปรัชญ์บอกว่าจะให้ผู้ใหญ่ไปสู่ขอเธอกับคุณประพันธ์ เพื่อที่จะได้ช่วยดูแลเธออย่างใกล้ชิด ยิ่งเห็นเธอเป็นแบบนี้เขายิ่งรู้สึกเป็นห่วง เมรินเธอยิ้มดีใจเพราะเธอเองก็รู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เขาเช่นกัน
แพรวมณีให้ลุงชมคนขับรถกลับไปก่อนเพราะเธอจะกลับกับหลานสาวโดยให้เมรันขับรถให้ เมื่อรถของเมรันแล่นออกมาจากโรงพยาบาล ชายหนุ่มร่างสูงที่แอบติดตามมามองเห็นเมรันนั่งมากับผู้หญิงอีกคนคล้ายกับคุณแพรวมณี เขาจึงยกมือขึ้นปิดหน้ากากหมวกกันน็อคลง แล้วขับรถบิ๊กไบค์คันแกร่งติดตามอยู่ระยะหนึ่งก็ขับทะยานเร่งเครื่องแซงนำหน้าไปก่อน
ภายในรถมินิคูเปอร์ของเมรัน อาสาวและหลานได้มีโอกาสพูดคุยกันหลายเรื่อง แพรวมณีถามถึงผู้เป็นยายซึ่งเป็นคนไทยอยู่ที่อังกฤษ เมรันบอกว่าคุณยายสบายดี แม้ว่าจะดูดุแต่ก็รักเธอมากช่วยสอนวัฒนธรรมไทย เธอถึงพอจะมีความรู้เรื่องอยู่บ้าง คุณอาสาวก็ยังคงถือโอกาสถามหลานวาวเปรย ๆ ถึงเรื่องเพื่อนชาย เมรันนิ่งไปสักครู่
แพรวมณีก็เลยถือโอกาสพูดสอนหลานสาวว่าเป็นผู้หญิงหากจะมีผู้ชายสักคนก็ต้องดูให้ดี เลือกให้ดี หากได้คู่ครองผิดจะเสียใจภายหลัง เมรันได้ฟังแล้วก็ยิ้มให้ผู้เป็นอา ขณะเดียวกันในใจของเมรันก็กำลังหวนนึกถึงเขาคนนั้นอยู่
ภายในคฤหาสน์อัครกูล เป็นเวลาเย็นแล้ว ประตูทางเข้าอีกทางซึ่งออกแบบการสร้างเป็นอุโมงค์คอนกรีตทางลับสำหรับใช้เข้าออกอีกทางหนึ่งของเรือนส่วนตัวด้านตะวันออกกำลังถูกเปิดเข้ามาด้วยรีโมทสั่งการ นคินทร์ขับรถบิ๊กไบค์เข้าไปในทางเชื่อมของโรงรถด้านในแห่งนี้เมื่อเก็บรถเรียบร้อยแล้วถอดหมวกกันน็อคและเสื้อแจ็คเก็ตออก ชายหนุ่มร่างสูงก็เดินขึ้นไปบนเรือนส่วนตัว
ในห้องรับแขกวันนี้ ท่านประพันธ์กำลังต้อนรับพ่อลูกคู่หนึ่งที่มาเยี่ยมเยือน พวกเขาคือพ่อเลี้ยงเดชาและดนุเดชผู้เป็นลูกชาย
ผ่านไปสักครู่ใหญ่แพรวมณีก็กลับมาพร้อมกับเมรัน ขณะที่ทั้งคู่กำลังจะเดินเข้ามาทางห้องโถง สายตาของแพรวมณีก็เหลือบไปเห็น ดูเหมือนพี่ชายของตนมีแขกมาเยี่ยมเยือน คุณอาสาวจึงบอกให้เมรันหยุดเมื่อได้ดูแน่ใจจนชัดเจนว่าแขกที่มาเป็นใคร ผู้เป็นอาบอกกับเมรันหลานสาวอย่าเพิ่งเข้าไปตอนนี้เพราะทางเดินไปห้องของเมรันต้องผ่านห้องโถงและห้องรับแขก แพรวมณีจึงบอกให้เธอเดินอ้อมไปรอที่ห้องครัวก่อนอย่าเพิ่งเข้าไปที่ห้องรับแขก ถึงแม้เมรันรู้สึกสงสัยแต่ก็พยักหน้ารับทราบแล้วเดินเลี่ยงไปที่ห้องครัวแทน
ส่วนแพรวมณีนั้นเดินหน้าเชิดตรงลิ่วไปที่ห้องรับแขก เสียงทักทายจากพ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่ดังมา แพรวมณีทำสีหน้าปกติเดินแวะเข้าไปทักทาย
ขณะที่เมรันกำลังเดินมาที่ห้องครัวก็ยังคงคิดถึงเขาจนเดินมาหยุดอยู่ในห้องครัวอย่างไม่รู้ตัวแต่ก็ต้องชะงักหยุดเพราะนัยน์ตาคู่สวยไปเจอเข้ากับชายหนุ่มที่เธอกำลังนึกถึงอยู่ นคินทร์กำลังนั่งคุยกับป้าเยือน ชายหนุ่มหันหน้ามาเห็นเธอพอดี เขาเองก็เพิ่งจะเดินมาจากเรือนพักเพื่อมาที่ครัวนี้ได้สักครู่
นคินทร์ส่งยิ้มให้เธอ เมรันรีบหลบก้มหน้าลงแต่แล้วก็ต้องเงยหน้าขึ้นเหลือบสายตามองเขา ครั้งนี้แววตาเป็นประกายคมของชายหนุ่มยังคงมองมาที่เธออยู่ เมรันหลบสายตาของเขาอีกครั้งในใจนั้นสับสนไปหมด อยากหลบเขาแต่กลับต้องมาเจอเขาอีกจนได้ ป้าเยือนเห็นปฏิกิริยาของทั้งสองคนแล้วก็อมยิ้ม
นคินทร์ที่รัก (ตอนที่ ๘. ใจสัมผัส)
แสงแดดเริ่มส่องแสงร้อนในช่วงสายวันนี้ เมรันเพิ่งจะออกจากห้องนอนเพราะตั้งใจจะถ่วงเวลาให้นานที่สุด เป็นเวลาเกือบเที่ยงวันแล้วที่เธอเดินลงมาด้านล่างเมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในตอนนี้ ขณะกำลังเดินไปยังด้านหน้าของห้องโถง หญิงสาวก็ต้องชะงักหยุดเมื่อชายหนุ่มร่างสูงที่เธอตั้งใจว่าจะหลบหน้าแต่วันนี้เขากลับปรากฏตัวยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ
นคินทร์เดินเข้ามาใกล้ เมรันแหงนหน้าขึ้นมอง เขาสะดุดกับแววตาเศร้าที่มีประกายหม่น รอบขอบตาของหญิงสาวมีรอยดูบวมช้ำ
“คุณร้องไห้?” นคินทร์ถาม คำพูดของเขาเหมือนผ่าตรงมาที่กลางใจ เธอหลบสายตาเบือนหน้าไปอีกทาง
ชายหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ “วันนี้ไม่เห็นคุณบอกผมว่าคุณอยากจะไปไหน”
“ไม่เป็นไรค่ะฉันไปเองได้” เมรันยังคงก้มหน้าหลบตาเขาอยู่แล้วฝืนใจรีบเดินผ่านเขาไปให้เร็วที่สุด
“เดี๋ยวก่อนสิครับ” นคินทร์หันไปเรียก
“คุณจะไม่ให้ผมไปส่งคุณเหรอ” เขาถามเธอเสียงอ่อน คำถามของเขาทำให้ใจเธอเต้นแรงทำหน้าไม่ถูก
“ฉันไม่อยากจะรบกวนคุณ” เมรันกลั้นใจบอกพร้อมกับแข็งใจรีบก้าวเท้าออกไปก่อนที่เธอจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่โดยที่หญิงสาวไม่รู้ว่าชายหนุ่มเองก็มีสีหน้ากังวลไม่ต่างกับเธอเลย นคินทร์มองตามเมรันไปจนเธอเดินออกไปจากห้องโถงแห่งนี้
เมรันขับรถมาหาเจ๊มี่ที่บ้าน เจ๊มี่ตกใจเมื่อเห็นหน้าตาเพื่อนสาวเข้ามาหาด้วยใบหน้าเศร้า ขอบตาแดง หญิงสาวเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนคนสนิทฟังทั้งหมด
“โอ๊ย! รักสามเส้าแล้วยัยรันเอ๋ย ว่าแต่คุณรินเธอชอบนคินทร์เขาด้วยหรือเปล่า?” เจ๊มี่ลากเสียง หญิงสาวส่ายหน้าเธอเองก็ยังไม่รู้ แต่เมรันบอกกับเพื่อนสนิทว่าตนเองก็พร้อมจะเสียสละเพื่อพี่สาวที่เธอรัก แต่เจ๊มี่แนะนำให้เธอไปถามเมรินให้รู้เรื่องก่อน
“หล่อนน่ะ ถ้าคุณรินไม่ได้รู้สึกแบบนั้น หล่อนก็เดินหน้าเต็มที่ต่อไปนะ อย่าเสียใจนะคนดี” เจ๊มี่พูดให้กำลังใจเพื่อนสาวคนสนิทเต็มที่ เมรันพยักหน้าพูดขอบคุณพร้อมทั้งสวมกอดเพื่อนซาบซึ้งที่คอยเป็นที่ปรึกษาและเป็นกำลังใจให้เธอเสมอ เจ๊มี่บอกว่าตอนที่อยู่อังกฤษก็ได้เมรันค่อยช่วยเหลือและให้กำลังใจเขาทำให้เจ๊มี่เองก็ไม่มีวันลืมมิตรภาพนั้นเหมือนกัน หลังจากที่ได้กำลังใจจากเพื่อนเมรันก็ขอตัวไปหาพี่สาว
เมรันเปิดประตูเข้ามาที่รถมินิคูเปอร์ของเธอ หญิงสาวถอนหายใจแล้วขับรถออกมาจากบ้านของเจ๊มี่โดยที่เธอไม่รู้ว่ามีชายหนุ่มร่างสูงสวมแจ็คเก็ต หมวกกันน็อคขับบิ๊กไบค์จอดรออยู่ ทันทีที่เธอขับรถออกมา ชายหนุ่มคนนั้นก็ขับบิ๊กไบค์เคลื่อนตัวติดตามเธอไปด้วย
คฤหาสน์อัครกูล แพรวมณีกลับมาคราวนี้ไม่ได้บอกใครก่อนรีบตรงมาหาประพันธ์ผู้เป็นพี่ชายทันทีถามเรื่องที่เกิดขึ้นทางหน้าหนังสือพิมพ์ ที่แพรวมณีรู้เพราะว่าตอนที่กำลังจะกลับมาเมืองไทยเพื่อนของตนที่เมืองนอกถามถึงจนเธอไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ประพันธ์กำลังนั่งที่โซฟารับแขกวางแก้วกาแฟลงมองหน้าน้องสาวแล้วบอกว่า
“คนในครอบครัวของเราพลาดพลั้งไปก็ช่วยอบรมดูแลกันหน่อย ฉันก็ได้พูดไปเท่าที่คนเป็นพ่ออย่างฉันเห็นสมควร” ประพันธ์บอกน้องสาวว่าคนอื่นใครจะคิดจะพูดก็ต้องปล่อยเขา แต่ดูเหมือนผู้เป็นน้องสาวยังคงไม่พอใจที่ได้คำตอบที่ไม่ชัดเจนจากพี่ชาย ประพันธ์มองหน้าน้องสาวและถามว่า
“มณี เธอก็เคยผ่านช่วงเวลาที่เป็นสาวเหมือนกัน ยังจำได้หรือเปล่า?” คำพูดของประพันธ์ทำให้ผู้เป็นน้องสาวพูดอะไรไม่ออก แพรวมณีนึกถึงอดีตที่เธอเคยอกหักกับแฟนหนุ่มคนแรก สมัยที่เธอยังเป็นสาว ตอนนั้นเธอเองก็เสียใจแทบจะเสียผู้เสียคน พี่ชายของเธอต้องคอยปลอบและให้กำลังใจให้เธอผ่านพ้นมาได้ เธอถึงเข็ดและยังไม่ได้แต่งงานจนถึงทุกวันนี้ แพรวมณีนิ่งไปชั่วครู่แต่แล้วก็เปลี่ยนเรื่องมาถามถึงหลานสาวทั้งสอง แพรวมณีมีสีหน้าตกใจเมื่อรู้ข่าวว่าเมรินไม่สบายจึงรีบรุดไปโรงพยาบาลทันที
บ่ายวันนี้ที่โรงพยาบาล ภายในห้องคนไข้พิเศษ เมรันแวะไปเยี่ยมพี่สาวพร้อมช่อดอกกุหลาบสีชมพูอ่อนที่พี่สาวชอบมากเป็นพิเศษ
เมื่อสนทนากันได้สักครู่ เมรันตัดสินใจถามกับเมรินผู้เป็นพี่สาวเรื่องของนคินทร์ เธอนั่งลงข้างเตียงของพี่สาว เมรินลูบหัวน้องสาวอย่างเอ็นดู
“คุณคินเขาเป็นคนดีมากที่สุดคนหนึ่งทีเดียว” เมรินมองหน้าน้องสาว คนเป็นพี่สาวอย่างเธอย่อมรู้ดีว่าน้องสาวของตนเองมีความรู้สึกอย่างไรกับนคินทร์
“ว่าแต่เราน่ะชอบคุณคินเขาใช่ไหม” เมรินพูดอย่างรู้ใจของน้องสาว เมรันเงยหน้ามองพี่สาว ตอนนี้คิดปกปิดอะไรกับพี่สาวอีกแล้ว
“เด็กโง่! นึกว่าพี่มองไม่ออกเหรอ” เมรินลูบตัวน้องสาวแล้วบอกว่านคินทร์คงยังไม่รู้ตัวเขาเองเพราะจากวันที่เมรินเห็นนคินทร์อุ้มพาเมรันน้องสาวของเธอไปที่ห้อง สายตาของนคินทร์นั้นดูเป็นห่วงเป็นใยเมรันน้องสาวของเธอมากทีเดียว นคินทร์เป็นคนเด็ดเดี่ยวแต่เรื่องนี้เขาคงจะยังไม่แน่ใจตัวเอง ความนิ่งเงียบในบางครั้งของเขาด้วยที่ทำให้เดาใจยาก เมรินมองหน้าน้องสาวอย่างเอ็นดู
“คงเพราะได้มาเจอกับน้องสาวของพี่ล่ะมั้งเลยทำให้เขาสับสน” เมรินยิ้มพูดแซวน้องสาว
“พี่รินคะ ถ้าพี่รินชอบนคินทร์เขาเหมือนกัน รันก็จะสนับสนุนนะคะ” หญิงสาวพูดพร้อมกอดพี่สาว แววตาเศร้า เธอพร้อมเสียสละให้พี่สาวได้มีความสุขถึงแม้ตัวเองจะต้องรู้สึกเจ็บปวดก็ตาม
“แล้วน้องสาวของพี่ก็แอบร้องไห้ขี้มูกโป่ง หนีใจตัวเองกลับไปอยู่เมืองนอกเหรอจ๊ะ” เมรินก้มลงมองน้องสาว คำพูดนี้ของพี่สาวจี้จุดตรงเข้ากลางใจของเมรันเข้าอย่างจัง ทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นไปมองพี่สาว
“พี่ชอบคุณคินแบบพี่ชาย” เมรินบอกยืนยันเสียงหนักแน่น
“น้องสาวของพี่น่ารักแบบนี้ ใครจะไม่รักได้ล่ะ” เมรินพูดพลางลูบศีรษะน้องสาวอย่างเอ็นดู เมรันสวมกอดพี่สาวแน่นขึ้น หลับตายิ้มอย่างรู้สึกสบายใจที่ได้พูดคุยกับพี่สาวอย่างเปิดใจ
ทั้งคู่ได้สนทนากันอีกสักพัก เมรันก็ขอตัวกลับเพื่อให้พี่สาวได้พักผ่อน ในจังหวะเดียวกันแพรวมณีกำลังเดินเข้ามาเยี่ยมอาการของเมริน เมื่อได้พบกับเมรันผู้เป็นหลานสาวคนเล็ก
แพรวมณียืนมองพิจารณาเมรันผู้ซึ่งตอนนี้โตเป็นสาวและแลดูสวยไม่น้อยไปกว่าผู้เป็นพี่สาว ก่อนที่แพรวมณีจะได้กล่าวอะไร หลานสาวที่เคยเป็นเด็กรั้นคนนั้นก็โผมาหาเธอจนทำให้แพรวมณีแปลกใจ เพราะปกติเมรันจะไม่เคยปฏิบัติเช่นนี้กับคุณอาอย่างเธอ
“คุณอามาตั้งแต่เมื่อไหร คิดถึงจัง” เมรันเข้ามากอดอาสาว พอเจอหลานสาวอ้อนขึ้นมาแบบนี้ แพรวมณีก็ใจอ่อนจนลืมที่จะเอ่ยถามถึงเรื่องนั้น สักครู่ทั้งหมดก็ได้พบกับหมอหนุ่มรูปงามที่เข้ามาตรวจอาการของเมริน เขายกมือไหว้สวัสดีแพรวมณีแล้วหมอปรัชญ์ก็หันไปมองเมรัน ทั้งสองคนเคยได้พบกันแล้ว เมรันยกมือไหว้สวัสดีหมอปรัชญ์ คุณหมอหนุ่มพูดชมความน่ารักของเมรันหญิงสาวคนน้อง
เมื่อสนทนากันได้สักครู่ เมรันเพิ่งจะรู้ว่าพี่สาวของเธอกับหมอปรัชญ์มีความสนิทสนมกันมากเป็นพิเศษ หมอปรัชญ์ขอตรวจดูอาการเมรินด้วยความเป็นห่วง แพรวมณีพอใจที่เห็นทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันเป็นอย่างดี เธอก็เลยขอตัวกลับไปพร้อมกับเมรัน เพื่อเปิดทางให้ทั้งสองหนุ่มสาวได้คุยกันตามสะดวก เมื่อคุณหมอหนุ่มเดินไปส่งทั้งคู่ที่หน้าประตูห้องแล้ว หมอปรัชญ์ก็เดินกลับเข้ามาคุยกับเมรินอีกครั้ง เขาบอกสารภาพกับหญิงสาวว่า
“เวลาที่ผมได้อยู่ใกล้คุณ ผมรู้สึกมีความสุขและมีกำลังใจมาก” หมอหนุ่มพูดพร้อมกับกุมมือของหญิง เมรินมองหน้าเขา หญิงสาวยิ้มใบหน้าแดงระเรื่อ
“ผมตัดสินใจดีแล้ว แต่งงานกับผมนะครับคุณริน” หมอปรัชญ์บอกว่าจะให้ผู้ใหญ่ไปสู่ขอเธอกับคุณประพันธ์ เพื่อที่จะได้ช่วยดูแลเธออย่างใกล้ชิด ยิ่งเห็นเธอเป็นแบบนี้เขายิ่งรู้สึกเป็นห่วง เมรินเธอยิ้มดีใจเพราะเธอเองก็รู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เขาเช่นกัน
แพรวมณีให้ลุงชมคนขับรถกลับไปก่อนเพราะเธอจะกลับกับหลานสาวโดยให้เมรันขับรถให้ เมื่อรถของเมรันแล่นออกมาจากโรงพยาบาล ชายหนุ่มร่างสูงที่แอบติดตามมามองเห็นเมรันนั่งมากับผู้หญิงอีกคนคล้ายกับคุณแพรวมณี เขาจึงยกมือขึ้นปิดหน้ากากหมวกกันน็อคลง แล้วขับรถบิ๊กไบค์คันแกร่งติดตามอยู่ระยะหนึ่งก็ขับทะยานเร่งเครื่องแซงนำหน้าไปก่อน
ภายในรถมินิคูเปอร์ของเมรัน อาสาวและหลานได้มีโอกาสพูดคุยกันหลายเรื่อง แพรวมณีถามถึงผู้เป็นยายซึ่งเป็นคนไทยอยู่ที่อังกฤษ เมรันบอกว่าคุณยายสบายดี แม้ว่าจะดูดุแต่ก็รักเธอมากช่วยสอนวัฒนธรรมไทย เธอถึงพอจะมีความรู้เรื่องอยู่บ้าง คุณอาสาวก็ยังคงถือโอกาสถามหลานวาวเปรย ๆ ถึงเรื่องเพื่อนชาย เมรันนิ่งไปสักครู่
แพรวมณีก็เลยถือโอกาสพูดสอนหลานสาวว่าเป็นผู้หญิงหากจะมีผู้ชายสักคนก็ต้องดูให้ดี เลือกให้ดี หากได้คู่ครองผิดจะเสียใจภายหลัง เมรันได้ฟังแล้วก็ยิ้มให้ผู้เป็นอา ขณะเดียวกันในใจของเมรันก็กำลังหวนนึกถึงเขาคนนั้นอยู่
ภายในคฤหาสน์อัครกูล เป็นเวลาเย็นแล้ว ประตูทางเข้าอีกทางซึ่งออกแบบการสร้างเป็นอุโมงค์คอนกรีตทางลับสำหรับใช้เข้าออกอีกทางหนึ่งของเรือนส่วนตัวด้านตะวันออกกำลังถูกเปิดเข้ามาด้วยรีโมทสั่งการ นคินทร์ขับรถบิ๊กไบค์เข้าไปในทางเชื่อมของโรงรถด้านในแห่งนี้เมื่อเก็บรถเรียบร้อยแล้วถอดหมวกกันน็อคและเสื้อแจ็คเก็ตออก ชายหนุ่มร่างสูงก็เดินขึ้นไปบนเรือนส่วนตัว
ในห้องรับแขกวันนี้ ท่านประพันธ์กำลังต้อนรับพ่อลูกคู่หนึ่งที่มาเยี่ยมเยือน พวกเขาคือพ่อเลี้ยงเดชาและดนุเดชผู้เป็นลูกชาย
ผ่านไปสักครู่ใหญ่แพรวมณีก็กลับมาพร้อมกับเมรัน ขณะที่ทั้งคู่กำลังจะเดินเข้ามาทางห้องโถง สายตาของแพรวมณีก็เหลือบไปเห็น ดูเหมือนพี่ชายของตนมีแขกมาเยี่ยมเยือน คุณอาสาวจึงบอกให้เมรันหยุดเมื่อได้ดูแน่ใจจนชัดเจนว่าแขกที่มาเป็นใคร ผู้เป็นอาบอกกับเมรันหลานสาวอย่าเพิ่งเข้าไปตอนนี้เพราะทางเดินไปห้องของเมรันต้องผ่านห้องโถงและห้องรับแขก แพรวมณีจึงบอกให้เธอเดินอ้อมไปรอที่ห้องครัวก่อนอย่าเพิ่งเข้าไปที่ห้องรับแขก ถึงแม้เมรันรู้สึกสงสัยแต่ก็พยักหน้ารับทราบแล้วเดินเลี่ยงไปที่ห้องครัวแทน
ส่วนแพรวมณีนั้นเดินหน้าเชิดตรงลิ่วไปที่ห้องรับแขก เสียงทักทายจากพ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่ดังมา แพรวมณีทำสีหน้าปกติเดินแวะเข้าไปทักทาย
ขณะที่เมรันกำลังเดินมาที่ห้องครัวก็ยังคงคิดถึงเขาจนเดินมาหยุดอยู่ในห้องครัวอย่างไม่รู้ตัวแต่ก็ต้องชะงักหยุดเพราะนัยน์ตาคู่สวยไปเจอเข้ากับชายหนุ่มที่เธอกำลังนึกถึงอยู่ นคินทร์กำลังนั่งคุยกับป้าเยือน ชายหนุ่มหันหน้ามาเห็นเธอพอดี เขาเองก็เพิ่งจะเดินมาจากเรือนพักเพื่อมาที่ครัวนี้ได้สักครู่
นคินทร์ส่งยิ้มให้เธอ เมรันรีบหลบก้มหน้าลงแต่แล้วก็ต้องเงยหน้าขึ้นเหลือบสายตามองเขา ครั้งนี้แววตาเป็นประกายคมของชายหนุ่มยังคงมองมาที่เธออยู่ เมรันหลบสายตาของเขาอีกครั้งในใจนั้นสับสนไปหมด อยากหลบเขาแต่กลับต้องมาเจอเขาอีกจนได้ ป้าเยือนเห็นปฏิกิริยาของทั้งสองคนแล้วก็อมยิ้ม