เป็นประจำทุกปีครับ มีเทศกาลงานบุญใหญ่อาหารคาว 1 อย่างมักหนีไม่พ้นแกงฮังเล
ผ่านไปแล้วครับ ฮังเล 1 หม้อ 3 ก.ก. ปีนี้มาแปลกมาอย่างใจปรารถนาว่าอยากลองทำดูมันจะได้ผลมากน้อยแค่ไหน
ทำอย่างไร ผลเป็นไง ลองติดตามดูนะครับ
ตักใส่จานแล้ว มาอย่างเต็มตาตู้ม ๆ

ปีนี้ใช้หมู 3 ส่วนสำหรับการแกง 1 หม้อ สามชั้นท้อง ขาหลังแกะเอาแต่เนื้อ ซี่โครงอ่อน แกงไม่เยอะแต่กะเน้นความอร่อย

สับเป็นชิ้น ๆ ใหญ่กว่าแกงทั่วไปเตรียมไว้

แกงฮังเลวันนี้ แต่ใส่ผงแกงฮินเลซะงั้น ไม่ต้องงงนะครับคำ ๆ เดียวกันนั่นแหละ ฮินเลคือคำที่ถูกต้อง ฮังเลคือคำเรียกที่รู้จักกันทั่วไป

ผมซื้อน้ำพริกแกงสำเร็จมา 10 บาท มาปรุงเพิ่มคือใส่หอมแดงและกะปิลงปั่นเพิ่ม ต้องการความหวานและความข้นของน้ำแกง
ผงฮินเล ซีอิ๊วดำสำหรับการแปรุงสี

เหยาะน้ำล้างโถปั่นลงไปนิดเดียวและ น้ำมันพืชสัก 2 ช้อนกินข้าว เพื่อให้การคนคลุกเคล้าได้ง่ายขึ้น

ขิงซอย หอมแดงชุดแรก

ทุกอย่างคนให้เข้ากัน

ต่อไปนี้คือสิ่งที่ผมอยากลองทำเป็นอย่างมาก แกงฮังเลทุกครั้งต้องยืนหน้าเตาเฝ้าคนกลัวน้ำแกงแห้งแกงติดก้นหม้อ
วันนี้ฝากความหวังไว้กับ "ฮังเลใต้น้ำ" แค่เปิดไฟกลางค่อนลงมาทางอ่อน คอยเปลี่ยนน้ำในกาละมังเป็นครั้ง ๆ ไปเท่านั้น

เปลี่ยนน้ำในกาละมังที่ร้อนจนเป็นพรายฟองผุดขึ้นมาแค่ 3 ครั้ง สัมผัสด้วยตาแกงเปื่อยนุ่มเข้าเนื้อเกือบใช้ได้แล้วครับ
ระดับน้ำแกงในหม้อยังคงที่ ไม่ต้องมียืนคน

สาดกระเทียมแกะเปลือก หอมแดง ขิงซอยลงไป ตั้งต่ออีก 1 น้ำ (กาละมัง)

ตอนนี้กาละมังไม่เกี่ยวแล้วครับเอาออกวางเก็บได้เลย ปรุงเปรี้ยวด้วย น้ำมะขามเปียก

ทำเอง กินเอง ผมปรุงหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว ชิม 3 อย่างคือเปรี้ยว หวาน เค็ม ให้ไปด้วยกันไม่มีอะไรโดดเด่น

น้ำในหม้อถือว่าค่อนข้างเยอะ ต้องยืนคนต่ออีกประมาณ 10 นาที จนน้ำงวดขลุกขลิกบ่งบอกว่าเป็นแกงฮังเลสมบูรณ์แบบ
ผมใส่ผังฮังเลปิดท้ายไปอีก 1 ซอง

ความเปื่อยนุ่มเข้าเนื้อ น้ำแกงที่ข้นและเต็มไปด้วยรสชาติ ท้าทายได้เลยไม่ว่าจะเป็นข้าวนึ่ง ข้าวสวย คนเมืองเหนือหรือท่านที่
เคยชิมลิ้มลองมาแล้วจะรู้ดี ว่ามันฟินแค่ไหน

โชคดีมีความสุขกับปีใหม่สงกรานต์ ทุกท่านทุกคนนะครับ
สวัสดีครับ
แกงฮังเล ของมาคู่กับเทศกาลงานบุญปีใหม่สงกรานต์
ผ่านไปแล้วครับ ฮังเล 1 หม้อ 3 ก.ก. ปีนี้มาแปลกมาอย่างใจปรารถนาว่าอยากลองทำดูมันจะได้ผลมากน้อยแค่ไหน
ทำอย่างไร ผลเป็นไง ลองติดตามดูนะครับ
ตักใส่จานแล้ว มาอย่างเต็มตาตู้ม ๆ
ปีนี้ใช้หมู 3 ส่วนสำหรับการแกง 1 หม้อ สามชั้นท้อง ขาหลังแกะเอาแต่เนื้อ ซี่โครงอ่อน แกงไม่เยอะแต่กะเน้นความอร่อย
สับเป็นชิ้น ๆ ใหญ่กว่าแกงทั่วไปเตรียมไว้
แกงฮังเลวันนี้ แต่ใส่ผงแกงฮินเลซะงั้น ไม่ต้องงงนะครับคำ ๆ เดียวกันนั่นแหละ ฮินเลคือคำที่ถูกต้อง ฮังเลคือคำเรียกที่รู้จักกันทั่วไป
ผมซื้อน้ำพริกแกงสำเร็จมา 10 บาท มาปรุงเพิ่มคือใส่หอมแดงและกะปิลงปั่นเพิ่ม ต้องการความหวานและความข้นของน้ำแกง
ผงฮินเล ซีอิ๊วดำสำหรับการแปรุงสี
เหยาะน้ำล้างโถปั่นลงไปนิดเดียวและ น้ำมันพืชสัก 2 ช้อนกินข้าว เพื่อให้การคนคลุกเคล้าได้ง่ายขึ้น
ขิงซอย หอมแดงชุดแรก
ทุกอย่างคนให้เข้ากัน
ต่อไปนี้คือสิ่งที่ผมอยากลองทำเป็นอย่างมาก แกงฮังเลทุกครั้งต้องยืนหน้าเตาเฝ้าคนกลัวน้ำแกงแห้งแกงติดก้นหม้อ
วันนี้ฝากความหวังไว้กับ "ฮังเลใต้น้ำ" แค่เปิดไฟกลางค่อนลงมาทางอ่อน คอยเปลี่ยนน้ำในกาละมังเป็นครั้ง ๆ ไปเท่านั้น
เปลี่ยนน้ำในกาละมังที่ร้อนจนเป็นพรายฟองผุดขึ้นมาแค่ 3 ครั้ง สัมผัสด้วยตาแกงเปื่อยนุ่มเข้าเนื้อเกือบใช้ได้แล้วครับ
ระดับน้ำแกงในหม้อยังคงที่ ไม่ต้องมียืนคน
สาดกระเทียมแกะเปลือก หอมแดง ขิงซอยลงไป ตั้งต่ออีก 1 น้ำ (กาละมัง)
ตอนนี้กาละมังไม่เกี่ยวแล้วครับเอาออกวางเก็บได้เลย ปรุงเปรี้ยวด้วย น้ำมะขามเปียก
ทำเอง กินเอง ผมปรุงหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว ชิม 3 อย่างคือเปรี้ยว หวาน เค็ม ให้ไปด้วยกันไม่มีอะไรโดดเด่น
น้ำในหม้อถือว่าค่อนข้างเยอะ ต้องยืนคนต่ออีกประมาณ 10 นาที จนน้ำงวดขลุกขลิกบ่งบอกว่าเป็นแกงฮังเลสมบูรณ์แบบ
ผมใส่ผังฮังเลปิดท้ายไปอีก 1 ซอง
ความเปื่อยนุ่มเข้าเนื้อ น้ำแกงที่ข้นและเต็มไปด้วยรสชาติ ท้าทายได้เลยไม่ว่าจะเป็นข้าวนึ่ง ข้าวสวย คนเมืองเหนือหรือท่านที่
เคยชิมลิ้มลองมาแล้วจะรู้ดี ว่ามันฟินแค่ไหน
โชคดีมีความสุขกับปีใหม่สงกรานต์ ทุกท่านทุกคนนะครับ
สวัสดีครับ