คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
เอาจริงๆน่ะครับ เรื่องการลด นน.เอย ลดไขมันเอย คุมน้ำหนักเอย ทั้งหมดมันอยู่ที่การกินซะ 70-80% น่ะครับ หากคุณกินแค่วันละมื้อ แต่มื้อที่คุณ ดันกินไปมากกว่าที่ร่างกายต้องการ ผมจะตั้งค่าเฉลี่ยแคล 2000 ละกันครับ (ซึ่งแคลที่แท้จริงที่คุณเผาผลาญคุณลองไปหาวิธีคำนวนดูครับ ไม่ยากแต่ที่แน่ๆไม่ถึง 2000 แน่ๆ)
เอาแบบง่ายๆน่ะครับ สมมติคุณเผาผลาญอยู่ที่ 2000 แคลต่อวัน คือการใช้ชีวิตตามปกติ ทำงาน กิน เดิน ซักผ้า กิจวัตรปกติของคุณ แล้วคุณบอกว่าคุณอยากลดน้ำหนัก โดยการวิ่งวันละ 1 ชม. ซึ่งสมตติว่าเผาผลาญที่ประมาณ 300 แคล แปลว่าวันนั้น คุณจะมีการเผาผลาญที่เพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 2300 แคล ทีนี้ก็ต้องมาดูว่า น้ำหนักคุณจะเพิ่มหรือจะลดด้วยการดูว่าในวันนั้นคุณกินเข้าไปทั้งหมดกี่แคล หากคุณกินมากกว่า 2300 แคล คุณก็จะอ้วนขึ้น หากกินน้อยกว่า 2300 แคล น้ำหนักคุณก็จะลดลง ทีนี้สมมติหากคุณอยากลดซักประมาณ 10 กิโล คุณควรจำไว้ว่าน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมคือ 7700 แคล ซึ่งหากคุณอยากลด 10 กิโล คุณต้องลดให้ได้ 77000 แคล คุณลองคำนวนดูว่า หากคุณเผาผลาญวันละ 2000 แคล แล้วคุณวิ่งอีก 1 ชม. เผาผลาญไป 300 แคล แปลว่าวันนั้นคุณจะมีการเผาผลาญทั้งหมด 2300 แคล แล้วคุณกินวันละ 2000 แคลพอดี แปลว่าคุณจะเหลือส่วนต่างที่เผาผลาญเท่ากับ (แคลที่กิน - แคลที่เบิร์นในแต่ละวัน) คือ 2000 - 2300 = -300 <<< ผลที่ได้คือแคลที่คุณหายไป 300 จากร่างกายคุณ แล้วคุณต้องลบแบบนี้ไปเรื่อยๆจนครบ 77000 แคล จึงจะลดได้ 10 กิโล แต่หากแคลที่คุณกินมากกว่าแคลที่ร่างกายเผาผลาญแคลส่วนเกินก็จะบวกทบไปในร่างกายคุณ หากทบไปเรื่อยๆจนครบ 7700 แคลก็จะทำให้น้ำหนักคุณเพิ่ม 1 กก. อันนี้คือเบสิคในการคำนวนคร่าวๆน่ะครับ ว่าคุณควรกินเท่าไหร่ต่อวันจึงจะไม่อ้วนครับ
อีกอย่างสำคัญมากๆ ห้ามอดอาหารเด็ดขาด มันอาจจะลด นน.ได้จริงครับ ในช่วงแรก แต่มันไม่ได้ลดมวลไขมันคุณเลย แปลว่าคุณก็ยังคงอ้วนเหมือนเดิมเนื่องจากไขมันคุณยังมีเท่าเดิม อีกอย่าง นน.คุณลงเพราะอดอาหาร แต่ถ้าวันไหนคุณกลับมากิน นน.คุณมันก็กลับมาเหมือนเดิมครับ เพราะฉะนั้นจึงห้ามอดอาหารเด็ดขาด หากคุณอดอาหารเป็นเวลานานไป ร่างกายคุณก็จะเกิดอาการที่เรียกว่าขาดสารอาหาร เมื่อร่างกายเข้าสู่โหมดนั้นแล้ว มันจะเป็นเรื่องใหญ่เอาครับ ไหนจะโยโย่ ไหนจะไม่มีแรงทำอะไร ผมร่วง ผิวเสีย หนักสุดนี่คือถึงชีวิตครับ เพราะฉะนั้นเปลี่ยนเป็นการนับแคลในการกิน ไม่ให้เกินที่ร่างกายต้องการ ลองหาความรู้จากหนังสือหรือตามเว็ปไซด์ที่เชื่อถือได้ที่ไม่เน้นขายของขายยาลดความอ้วนดูครับ ข้อมูลมันเยอะมากครับ ลองค่อยๆศึกษา พอคุณเข้าใจคอนเซ็ปต์ของการกินการออกกำลังกายแล้ว การลดน้ำหนักจะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆแล้วไม่เหนื่อยอีกด้วยครับ
ส่วนเรื่องการออกกำลังกาย ควรออกประมาณ 30 นาที -1.30 ชม.ต่อวันครับ น้อยกว่านี้อาจจะต้องเล่นหนักมากๆ หากมากกว่านี้อาจจะส่งผลต่ออาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหรือร่างกายครับ ในเวลาประมาณ 30 - 45 นาที ควรออกกำลังที่ใช้พาวเวอร์เพื่อสร้าความแข็งแรกให้กล้ามเนื้อ เช่นเล่นเวทต่างๆ ส่วนประมาณ 45 นาที - 1ชม. ควรคาดิโอครับ เช่นการวิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักยาน เดินเร็ว เป็นการฝึกกล้ามเนื้อหัวใจให้แข็งแรงและเป็นการสลายไขมันส่วนเกินในร่างกายด้วยครับ สมมติหากคุณคาดิโอหนัก ควรใช้ระยะเวลาไม่นานมาก หากวิ่งจ๊อกกิ้งก็ควรใช้เวลาประมาณ 1 ชม.กำลังดีครับ หากคาดิโอมากกว่านี้ อาจเสี่ยงที่จะทำให้ร่างกายบาดเจ็บได้ครับ
จำคีย์ของการลดน้ำหนักไว้ครับ กินดี แคลไม่เกิน ออกถึง ไม่มีวันอ้วนครับ
อันนี้ฝากไว้ครับ : หากเรากินให้ได้ประมาณแคลขั้นต่ำที่เราต้องกินในแต่ละวัน เช่น คุณเผาผลาญ 2000 แคล แต่คุณกินประมาณ 1200 แคล ซึ่งเป็นแคลขั้นต่ำของผู้หญิง คุณจะมีผลต่างแล้ว 800 แคลโดยที่ไม่ได้ออกกำลังกาย แต่หากคุณออกกำลังกายไปด้วย คุณก็จะได้สุขภาพที่ดี บวกกับน้ำหนักที่ลดไวขึ้นครับ แล้วอีกอย่างเรื่องการกิน แนะนำให้ทำกินเองที่บ้านครับ ตัดน้ำมันออก หนักไก่ ไขมันสัตว์ ตัดออกให้หมดครับ (ส่วนตัวผมเรียกว่าการกินคลีน (คลีนในความหมายของผมคือการกินโดยให้มีไขมันในอาหารมื้อนั้นๆน้อยที่สุด)) หากคุณไม่สะดวกก็ลองนับแคลในการกินให้ดีครับ สาเหตุที่ผมบอกว่าควรทำกินเองเพราะอย่างแรกเลย คุณจะได้วัตถุดิบที่ดีกับตัวคุณ ต่อมา คุณจะรู้ว่าที่คุณกินเข้าไปมีอะไรบ้าง ทั้งหมดกี่แคล มันจะง่ายต่อการคำนวนครับ อย่างสุดท้าย อันนี้ผมชอบมาก อาหารคลีนที่ทำกินเอง แคลน้อยกว่าอาหารตามสั่งทั่วไปมาก ฉะนั้นเราจึงกินได้วันละหลายๆมื้อโดยที่แคลไม่เกินครับ ปล. การกินก่อนนอนไม่ได้ทำให้อ้วนแต่อย่างใดครับ หากแคลที่คุณกินเข้าไปทั้งวันไม่เกิน สิ่งที่คุณจะได้จากการกินก่อนนอนคือ อาการกรดไหลย้อนซึ่งผมก็เป็น อีกอย่างคือพักผ่อนไม่เต็มที่ เพราะร่างกายต้องย่อยอาหารที่คุณกินเข้าไป ซึ่งทำให้ร่างกายไม่ได้พักผ่อนในขณะที่เราหลับครับ
ขอให้โชคดี และประสบความสำเร็จกับการลดน้ำหนักครับ
เอาแบบง่ายๆน่ะครับ สมมติคุณเผาผลาญอยู่ที่ 2000 แคลต่อวัน คือการใช้ชีวิตตามปกติ ทำงาน กิน เดิน ซักผ้า กิจวัตรปกติของคุณ แล้วคุณบอกว่าคุณอยากลดน้ำหนัก โดยการวิ่งวันละ 1 ชม. ซึ่งสมตติว่าเผาผลาญที่ประมาณ 300 แคล แปลว่าวันนั้น คุณจะมีการเผาผลาญที่เพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 2300 แคล ทีนี้ก็ต้องมาดูว่า น้ำหนักคุณจะเพิ่มหรือจะลดด้วยการดูว่าในวันนั้นคุณกินเข้าไปทั้งหมดกี่แคล หากคุณกินมากกว่า 2300 แคล คุณก็จะอ้วนขึ้น หากกินน้อยกว่า 2300 แคล น้ำหนักคุณก็จะลดลง ทีนี้สมมติหากคุณอยากลดซักประมาณ 10 กิโล คุณควรจำไว้ว่าน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมคือ 7700 แคล ซึ่งหากคุณอยากลด 10 กิโล คุณต้องลดให้ได้ 77000 แคล คุณลองคำนวนดูว่า หากคุณเผาผลาญวันละ 2000 แคล แล้วคุณวิ่งอีก 1 ชม. เผาผลาญไป 300 แคล แปลว่าวันนั้นคุณจะมีการเผาผลาญทั้งหมด 2300 แคล แล้วคุณกินวันละ 2000 แคลพอดี แปลว่าคุณจะเหลือส่วนต่างที่เผาผลาญเท่ากับ (แคลที่กิน - แคลที่เบิร์นในแต่ละวัน) คือ 2000 - 2300 = -300 <<< ผลที่ได้คือแคลที่คุณหายไป 300 จากร่างกายคุณ แล้วคุณต้องลบแบบนี้ไปเรื่อยๆจนครบ 77000 แคล จึงจะลดได้ 10 กิโล แต่หากแคลที่คุณกินมากกว่าแคลที่ร่างกายเผาผลาญแคลส่วนเกินก็จะบวกทบไปในร่างกายคุณ หากทบไปเรื่อยๆจนครบ 7700 แคลก็จะทำให้น้ำหนักคุณเพิ่ม 1 กก. อันนี้คือเบสิคในการคำนวนคร่าวๆน่ะครับ ว่าคุณควรกินเท่าไหร่ต่อวันจึงจะไม่อ้วนครับ
อีกอย่างสำคัญมากๆ ห้ามอดอาหารเด็ดขาด มันอาจจะลด นน.ได้จริงครับ ในช่วงแรก แต่มันไม่ได้ลดมวลไขมันคุณเลย แปลว่าคุณก็ยังคงอ้วนเหมือนเดิมเนื่องจากไขมันคุณยังมีเท่าเดิม อีกอย่าง นน.คุณลงเพราะอดอาหาร แต่ถ้าวันไหนคุณกลับมากิน นน.คุณมันก็กลับมาเหมือนเดิมครับ เพราะฉะนั้นจึงห้ามอดอาหารเด็ดขาด หากคุณอดอาหารเป็นเวลานานไป ร่างกายคุณก็จะเกิดอาการที่เรียกว่าขาดสารอาหาร เมื่อร่างกายเข้าสู่โหมดนั้นแล้ว มันจะเป็นเรื่องใหญ่เอาครับ ไหนจะโยโย่ ไหนจะไม่มีแรงทำอะไร ผมร่วง ผิวเสีย หนักสุดนี่คือถึงชีวิตครับ เพราะฉะนั้นเปลี่ยนเป็นการนับแคลในการกิน ไม่ให้เกินที่ร่างกายต้องการ ลองหาความรู้จากหนังสือหรือตามเว็ปไซด์ที่เชื่อถือได้ที่ไม่เน้นขายของขายยาลดความอ้วนดูครับ ข้อมูลมันเยอะมากครับ ลองค่อยๆศึกษา พอคุณเข้าใจคอนเซ็ปต์ของการกินการออกกำลังกายแล้ว การลดน้ำหนักจะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆแล้วไม่เหนื่อยอีกด้วยครับ
ส่วนเรื่องการออกกำลังกาย ควรออกประมาณ 30 นาที -1.30 ชม.ต่อวันครับ น้อยกว่านี้อาจจะต้องเล่นหนักมากๆ หากมากกว่านี้อาจจะส่งผลต่ออาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหรือร่างกายครับ ในเวลาประมาณ 30 - 45 นาที ควรออกกำลังที่ใช้พาวเวอร์เพื่อสร้าความแข็งแรกให้กล้ามเนื้อ เช่นเล่นเวทต่างๆ ส่วนประมาณ 45 นาที - 1ชม. ควรคาดิโอครับ เช่นการวิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักยาน เดินเร็ว เป็นการฝึกกล้ามเนื้อหัวใจให้แข็งแรงและเป็นการสลายไขมันส่วนเกินในร่างกายด้วยครับ สมมติหากคุณคาดิโอหนัก ควรใช้ระยะเวลาไม่นานมาก หากวิ่งจ๊อกกิ้งก็ควรใช้เวลาประมาณ 1 ชม.กำลังดีครับ หากคาดิโอมากกว่านี้ อาจเสี่ยงที่จะทำให้ร่างกายบาดเจ็บได้ครับ
จำคีย์ของการลดน้ำหนักไว้ครับ กินดี แคลไม่เกิน ออกถึง ไม่มีวันอ้วนครับ
อันนี้ฝากไว้ครับ : หากเรากินให้ได้ประมาณแคลขั้นต่ำที่เราต้องกินในแต่ละวัน เช่น คุณเผาผลาญ 2000 แคล แต่คุณกินประมาณ 1200 แคล ซึ่งเป็นแคลขั้นต่ำของผู้หญิง คุณจะมีผลต่างแล้ว 800 แคลโดยที่ไม่ได้ออกกำลังกาย แต่หากคุณออกกำลังกายไปด้วย คุณก็จะได้สุขภาพที่ดี บวกกับน้ำหนักที่ลดไวขึ้นครับ แล้วอีกอย่างเรื่องการกิน แนะนำให้ทำกินเองที่บ้านครับ ตัดน้ำมันออก หนักไก่ ไขมันสัตว์ ตัดออกให้หมดครับ (ส่วนตัวผมเรียกว่าการกินคลีน (คลีนในความหมายของผมคือการกินโดยให้มีไขมันในอาหารมื้อนั้นๆน้อยที่สุด)) หากคุณไม่สะดวกก็ลองนับแคลในการกินให้ดีครับ สาเหตุที่ผมบอกว่าควรทำกินเองเพราะอย่างแรกเลย คุณจะได้วัตถุดิบที่ดีกับตัวคุณ ต่อมา คุณจะรู้ว่าที่คุณกินเข้าไปมีอะไรบ้าง ทั้งหมดกี่แคล มันจะง่ายต่อการคำนวนครับ อย่างสุดท้าย อันนี้ผมชอบมาก อาหารคลีนที่ทำกินเอง แคลน้อยกว่าอาหารตามสั่งทั่วไปมาก ฉะนั้นเราจึงกินได้วันละหลายๆมื้อโดยที่แคลไม่เกินครับ ปล. การกินก่อนนอนไม่ได้ทำให้อ้วนแต่อย่างใดครับ หากแคลที่คุณกินเข้าไปทั้งวันไม่เกิน สิ่งที่คุณจะได้จากการกินก่อนนอนคือ อาการกรดไหลย้อนซึ่งผมก็เป็น อีกอย่างคือพักผ่อนไม่เต็มที่ เพราะร่างกายต้องย่อยอาหารที่คุณกินเข้าไป ซึ่งทำให้ร่างกายไม่ได้พักผ่อนในขณะที่เราหลับครับ
ขอให้โชคดี และประสบความสำเร็จกับการลดน้ำหนักครับ
แสดงความคิดเห็น
วิ่งเเต่น้ำหนักกล้บเพิ่ม เป็นเพราะอะไรค้ะ?