ปลายฟ้ากับปริศนาฆาตกรรม [Case 1 : ฆาตกรรมที่พิพิธภัณฑ์] - ตอนที่ 16 รายที่สาม

สวัสดีครับทุกท่าน พบกันอีกแล้วนะครับ เรื่องในช่วงท้ายหลายอย่างเริ่มเห็นได้ชัดขึ้น แต่ว่าการตายยังมีอีกแหละครับ เชิญอ่านกันได้เลย

โปรดทราบก่อนอ่าน

******สำหรับคนที่ติดตามอ่านการสืบคดีของปลายฟ้าในระบบเรื่องสั้น [ปลายฟ้ากับคดีปริศนา] ที่ผมลงให้อ่านกันในถนนนักเขียนอยู่ตอนนี้  ต้องแจ้งก่อนว่าตัวเรื่องนี้เป็นเรื่องราวก่อนคดีที่ 1 ฆาตกรรมกลางทะเล ของชุดนั้นเลยแหละครับ  (และต่อจากชุด "ปลาย นักสืบจำเป็น" ที่เคยตีพิมพ์เมื่อนานมาแล้ว) โดยตัวเรื่องนี้มีลักษณะเป็นแบบนิยายเรื่องยาวหลายตอนจบอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ผมไม่ค่อยเขียนเรื่องยาวๆเท่าไร ลองอ่านกันดูครับ ส่วนใครที่เคยอ่านแล้วก็ลองอ่านอีกรอบก็ได้นะครับ*******


ลิ้งตอนที่ผ่านมาครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนที่ 16 : รายที่สาม


    “ป้า ..ผมขอตัวออกไปตึกพิพิธภัณฑ์นะครับ”

    สาธิตเอ่ยบอกกับยุพา เจ้าหน้าที่เก็บบัตรที่หน้าเคาน์เตอร์รับแขกของอาคารดวงดาว

    “อื้อ” ยุพาพยักหน้ารับ “จะไปทำอะไรล่ะ.. จะถึงรอบฉายดาวแล้วนะ”

    “พอดีต้องไปดูนิทรรศการน่ะครับ” สาธิตตอบ แล้วก้าวเดินออกจากอาคารดวงดาวไป

    ทว่าเขาไม่ได้มุ่งหน้าไปอาคารพิพิธภัณฑ์ตามที่ตัวเองบอก กลับเดินอ้อมมาทางด้านข้างอาคารดวงดาวโดยไม่ให้ใครเห็น

    ดูท่าเขาไม่ได้ต้องการจะไปอาคารพิพิธภัณฑ์แน่ แล้วเขาโกหกยุพาไปเพื่ออะไร

    “ทำไมต้องให้ออกไปก่อนด้วย”

    สาธิตพูดขึ้นลอย ๆ แล้วเดินไปทางด้านข้างอาคารดวงดาวใกล้ ๆ ห้องน้ำ ซึ่งบริเวณนี้จะมีประตูข้าง สามารถเข้าไปในอาคารได้ โดยประตูนี้ผู้ใช้จะมีเฉพาะเจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์เท่านั้น เพราะเป็นทางเดินมาห้องน้ำเจ้าหน้าที่ เนื่องจากภายในตัวอาคารไม่มีห้องน้ำ

    สาธิตยังไม่ผ่านเข้าประตูไปทันที เขารอให้ผู้ชมเข้าอาคารดวงดาวไปส่วนหนึ่งทางประตูหน้าก่อน แล้วตัวเองค่อยเดินตามเข้าไป

    เจ้าหน้าที่หนุ่มผ่านประตูข้างอย่างไม่มีใครเห็น เพราะเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่มัวแต่สนใจผู้ชมที่กำลังทยอยเข้ามาทางประตูหน้า จากนั้นก็เข้าไปในห้องฉายดาว นั่งลงตรงเก้าอี้ทางมุมหนึ่งใกล้กับประตูด้านข้างนั้น

    ตอนนี้ผู้ชมทยอยเข้าไปในห้องฉายดาวหมดแล้ว ซึ่งที่นั่งของสาธิตอยู่ห่างจากที่นั่งของผู้ชมเหล่านั้นพอสมควร และในห้องฉายดาวนี้ค่อนข้างมืด ทำให้ไม่มีใครสังเกตเห็นเขาสักเท่าไร

    รอบฉายนี้ผู้คนมีจำนวนไม่มาก ประมาณเกือบร้อยคน ที่นั่งข้างเคียงแถวสาธิตจึงไม่มีใครนั่ง

    โดยในการฉายรอบนี้เจ้าหน้าที่ผู้ช่วยฉายดาวไม่ใช่สาธิต แต่เป็นเจ้าหน้าที่อีกคนที่ประจำอยู่ที่นี่อยู่แล้ว จึงไม่มีใครออกตามหาสาธิตที่ไม่อยู่ตอนนี้

    และคงไม่มีใครรู้ว่า จริง ๆ แล้วสาธิตก็นั่งอยู่ในห้องฉายดาวตอนนี้

    อาจารย์ผู้บรรยายตรวจสอบเครื่องมือ เตรียมพร้อมที่จะเริ่มการแสดงดาราศาสตร์ ประตูทางเข้าด้านหน้าถูกปิดลง ไม่ให้ผู้ใดเข้ามาเพิ่มเติมแล้ว

    แต่สักพักก็มีผู้หนึ่งเข้ามาในห้องฉายดาว คนผู้นี้ไม่ได้เข้ามาทางประตูด้านหน้า เขาเข้าทางประตูด้านข้าง ประตูเดียวกับที่สาธิตเข้ามา

    เลือกนั่งเก้าอี้ข้าง ๆ สาธิต

    “มาซะทีนะ” สาธิตหันเอ่ยกับคนผู้นั้น

    ผู้ที่นั่งข้าง ๆ พยักหน้าเล็กน้อย แล้วสาธิตก็พูดต่อว่า

    “ทำไมต้องทำยุ่งยากด้วย?”

    “ก็เรามาคุยธุระกัน จะให้คนอื่นเห็นเราสองคนให้เงินกันหรือ ที่ฉันให้นายทำแบบนี้ก็เพื่อให้ไม่มีใครรู้ว่าเราสองคนคุยกันอยู่ที่นี่”

    “มันก็จริงของนาย คุยกันในห้องฉายดาว มืดแบบนี้ไม่น่ามีคนสังเกตเห็น”

    ทันทีที่พูดจบแสงไฟในห้องค่อย ๆ รี่ลงเรื่อย ๆ ไม่นานก็มืดสนิท นี่เป็นสัญญาว่าการแสดงดาราศาสตร์ในห้องฉายดาวได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

    “แล้วไหนล่ะเงินที่ให้ฉัน” สาธิตถามผู้อยู่ข้าง ๆ เขาพูดเบา ๆ เพื่อไม่ให้รบกวนคนอื่น

    “ใจเย็น ๆ สิ” คนผู้นั้นบอก พลางหยิบของสิ่งหนึ่งขึ้นมา เป็นถุงใส่น้ำอัดลมกระป๋องสองกระป๋องพร้อมหลอดดูด “มากินน้ำพลางดูดาวไปก่อน เพราะยังไงเราก็ออกไปตอนนี้ไม่ได้แล้ว”

    ที่คนผู้นี้บอกว่าออกไปตอนนี้ไม่ได้ เพราะว่าภายในห้องดำเนินการฉายดาวไปแล้ว หากจะออกไปต้องเปิดประตูห้อง ทำให้แสงไฟจากภายนอกเข้าไปรบกวนการแสดงได้ แถมคนอื่นก็จะรู้ด้วยว่ามีคนออกไป

    และในความจริงแล้ว ภายในห้องฉายดาวนี้ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มเข้ามาด้วย แต่ว่าคนผู้นี้ลักลอกแอบนำเข้ามาโดยไม่ให้ใครเห็น

    “เออ...” สาธิตตอบ และมองดูน้ำอัดลมกระป๋อง “นายคงไม่วางแผนฆ่าฉันอีกคนหรอกนะ”

    “จะบ้าเหรอ” ชายผู้นี้บอกทันที “จะทำไปทำไม นายกลัวฉันฆ่านายอีกคนหรือไง?”

    “เออสิ ก็เห็นแอบเอาน้ำเข้ามาแบบนี้ มันผิดปกตินะโว้ย ฉันก็กลัวว่านายจะวางยาฆ่าฉันอีกคน”

    “คิดมากว่ะ ฉันแค่อยากลองดูดาวไปกินแบบดูหนังบ้าง อยากห้ามเอาเข้ามานักนี่” ชายผู้นี้ว่าแล้วก็เปิดกระป๋องน้ำอัดลมทั้งสองกระป๋อง แล้วยกดื่มให้สาธิตดู “ฉันไม่ใส่ยาพิษลงไปหรอก นายกินได้เลย”

    ซึ่งก็เป็นดังเขาว่า เพราะเขาเองก็ดื่มน้ำจากทั้งสองกระป๋องให้ดู และไม่มีอาการใด ๆ ตามมา

    “เออ” ว่าแล้วสาธิตก็คว้าน้ำอัดลมไปกระป๋องหนึ่ง เป็นกระป๋องที่ชายคนนั้นดื่มให้ดู แล้วค่อยหันมาพูดว่า “แล้วนายเตรียมเงินมาแล้วใช่ไหม?”

    “แน่นอน” ชายผู้นั้นตอบ พลางหยิบหลอดจุ่มใส่น้ำอัดลมกระป๋องตัวเอง ดื่มทันที

    “ดี ๆ ถือว่าเป็นค่าปิดปากนะเพื่อน รับรองฉันไม่เอาอีกแล้วน่า” แล้วเขาก็ขอหลอดจากชายผู้นั้น

    ชายผู้นั้นส่งหลอดไปให้ “เอาเถอะ เราดูดาวกันก่อนเถอะ ฉันไม่ได้ดูนานแล้ว”

    “อืม” สาธิตพยักหน้ารับ แล้วจุ่มหลอดดื่มน้ำอัดลมเช่นกัน

    การบรรยายดาวดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ในช่วงนี้การพูดคุยของทั้งสองเงียบไปแล้ว

    เวลาผ่านไปการแสดงดาราศาสตร์ก็จบลง สาธิตและชายผู้นั้นยังคงนั่งเงียบไม่พูดจา แล้วชายผู้นั้นก็หันไปพูดกับสาธิตว่า

    “นายคงนึกไม่ถึงสินะว่ายาพิษจะอยู่ในหลอดดูด”

    สาธิตไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เพราะว่าตอนนี้เขาได้เสียชีวิตแล้ว!

    เนื่องจากเขาได้ถูกพิษจากยาพิษที่ซ่อนอยู่ในหลอดดูดน้ำอัดลม โดยยาพิษชนิดนี้ผสมอยู่กับยานอนหลับอย่างแรง ซึ่งเมื่อสาธิตดื่มน้ำจากภายในกระป๋อง ยาพิษจากหลอดที่ลงไปผสมน้ำอัดลมจะทำให้เขาหลับและเสียชีวิตไปโดยไม่รู้ตัว

    “ไปก่อนนะ” ชายคนนั้นพูดต่อ หยิบกระป๋องและหลอดดูดทั้งหมดใส่ถุงพลาสติก แล้วเขาก็เดินถือถุงนี้ออกไปทางประตูข้างในช่วงเดียวกับที่ผู้ชมกำลังทยอยออกจากประตูด้านหน้าของห้องฉายดาว


(มีต่อครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่