ปลายฟ้ากับปริศนาฆาตกรรม [Case 1 : ฆาตกรรมที่พิพิธภัณฑ์] - ตอนที่ 15 อาคารดวงดาว

สวัสดีครับทุกท่าน พอมีเวลาก็มาอัพเดทตอนใหม่ของเรื่องยาวของปลายฟ้าสักหน่อย คราวนี้เรามาโฟกัสที่ตัวละครที่ชื่อ สาธิต กันบ้างครับ

โปรดทราบก่อนอ่าน

******สำหรับคนที่ติดตามอ่านการสืบคดีของปลายฟ้าในระบบเรื่องสั้น [ปลายฟ้ากับคดีปริศนา] ที่ผมลงให้อ่านกันในถนนนักเขียนอยู่ตอนนี้  ต้องแจ้งก่อนว่าตัวเรื่องนี้เป็นเรื่องราวก่อนคดีที่ 1 ฆาตกรรมกลางทะเล ของชุดนั้นเลยแหละครับ  (และต่อจากชุด "ปลาย นักสืบจำเป็น" ที่เคยตีพิมพ์เมื่อนานมาแล้ว) โดยตัวเรื่องนี้มีลักษณะเป็นแบบนิยายเรื่องยาวหลายตอนจบอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ผมไม่ค่อยเขียนเรื่องยาวๆเท่าไร ลองอ่านกันดูครับ ส่วนใครที่เคยอ่านแล้วก็ลองอ่านอีกรอบก็ได้นะครับ*******


ลิ้งตอนที่ผ่านมาครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนที่ 15 : อาคารดวงดาว


    
    ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งนี้ไม่ได้มีแค่อาคารพิพิธภัณฑ์กับอาคารสำนักงานเท่านั้น ที่นี่ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่เป็นส่วนสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่าทั้งสองแห่งนั้นอยู่

    อาคารดวงดาว

    อาคารดวงดาวนี้จะตั้งอยู่ทางด้านซ้ายไม่ห่างจากอาคารพิพิธภัณฑ์นัก ลักษณะภายนอกจะเป็นอาคารรูปโดมครึ่งวงกลม ภายในมีนิทรรศการเกี่ยวกับดวงดาวนอกระบบสุริยะอยู่รอบ ๆ ห้องฉายดาวที่อยู่ตรงกลาง

    ห้องฉายดาวนั้นจะมีลักษณะเป็นห้องกว้างรูปวงกลม มีที่นั่งชมอยู่รอบเครื่องฉายดาว ซึ่งเป็นเก้าอี้เบาะเอนนอนอย่างดี การนั่งชมจึงเหมือนการนอนหรือเงยหน้าดูดาวที่ฉายบนฉากรับรูปโดมด้านบนเพดาน สำหรับทางเข้าออกของห้องฉายดาวมีประตู 4 บาน ด้านหน้า 2 บาน และด้านข้างซ้ายขวาอีก 2 บาน แต่จะใช้แค่ประตูด้านหน้าทั้งสองเท่านั้น

    เครื่องฉายดาวเป็นระบบเลนส์ของประเทศเยอรมนี ฉากรับของโดมมีเส้นผ่าศูนย์กลางโดม 20 เมตร โดยภายในห้องฉายดาวสามารถจุผู้ชมได้ 350 ที่นั่งต่อรอบ

    สำหรับเรื่องที่แสดงเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับดาราศาสตร์ที่น่าสนใจ เช่น กลุ่มดาวจักราศี สุริยุปราคา จันทรุปราคา ฝนดาวตก เป็นต้น ซึ่งจะมีการบรรยายเพิ่มเติมจากวิทยากรเกี่ยวกับกลุ่มดาวต่าง ๆ ตามตำแหน่งจริงบนท้องฟ้าที่เครื่องฉายฉายออกมาประกอบด้วย ผู้ชมนำไปเปรียบเทียบกับท้องฟ้าจริง ๆ ได้

    ในการบรรยายอาจารย์ผู้บรรยายจะเป็นนักวิชาการของฝ่ายดาราศาสตร์ และมีเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลนิทรรศการเป็นผู้ช่วยในการบรรยายและควบคุมการใช้เครื่องฉายดาว ซึ่งก็คือ สาธิต นั่นเอง

    และเวลานี้เขาก็ทำงานอยู่ที่นี่ด้วย

    เหล่าผู้ชมค่อย ๆ ทยอยออกมาจากห้องฉายดาวทางประตูหน้าทั้งสองบาน สักพักสาธิตและอาจารย์ผู้บรรยายก็เดินตามออกมาทางประตูข้างด้านซ้าย ซึ่งประตูด้านข้างนี้มักจะใช้เฉพาะเจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์ หรือไม่ก็ใช้ในรอบการแสดงที่มีผู้ชมเต็มความจุเท่านั้น

    “จบรอบสุดท้ายเสียที” สาธิตพูดขึ้นมาเมื่อเดินไปถึงเคาน์เตอร์เก็บบัตรทางด้านหน้าทางเข้าอาคารดวงดาว

    การชมการแสดงดาราศาสตร์ในอาคารดวงดาวนั้นจะแบ่งเป็นรอบการแสดง จึงต้องตรวจบัตรเข้าชมก่อนที่จะเข้าไปในห้องฉายดาว จุดตรวจบัตรก็คือเคาน์เตอร์ด้านหน้านี่แหละ

    “บ่นอีกแล้ว” หญิงสูงวัยที่อยู่ในเคาน์เตอร์บอก เธอมีชื่อว่า ยุพา เป็นเจ้าหน้าที่เก็บบัตรที่อาคารดวงดาวนี้ “บ่นบ่อยจริง ๆ นะเธอ”

    “ก็ต้องมีบ้างสิครับป้า” สาธิตเบ้หน้า “ผมต้องดูทั้งนิทรรศการที่อาคารพิพิธภัณฑ์และยังต้องมาช่วยงานที่อาคารดวงดาวนี้อีก”

    “มันก็ใช่” ยุพาบอก “แต่บ่นบ่อย ๆ ไม่ดีนะ เดี๋ยวพวกอาจารย์ก็ว่าเอาหรอก”

    “พวกอาจารย์เค้าไม่ว่าอะไรหรอกครับป้า ตอนฉายดาวอาจารย์อนิรุทธ์แกก็บ่นอยู่เหมือนกัน”

    “เออ... ลืมไปว่าอาจารย์อนิรุทธ์แกก็ชอบบ่น” หญิงวัยกลางคนว่าต่อ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากกว่านี้

    “ป้าพา ผมไปก่อนนะ ขอไปดูนิทรรศการต่อ” สาธิตบอก

    “ตามสบาย” ยุพาพยักหน้าให้ คล้ายไล่ ๆ ให้ไปเถอะ

    แต่ก่อนที่สาธิตจะออกไป เขาได้เอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดเครื่อง เนื่องจากตอนอยู่ในห้องฉายดาวได้ปิดเครื่องไว้ เพราะไม่ต้องการให้มีเสียงรบกวนในการบรรยาย

    “เครื่องใหม่นี่” ยูพาพูดพอเห็นโทรศัพท์มือถือของสาธิต

    “อ่ะ.. ครับ” ชายหนุ่มตอบ “เพิ่งซื้อมาน่ะป้า”

    “งั้นเหรอ.. ขอป้าดูหน่อยสิ”

    สาธิตส่งโทรศัพท์มือถือให้ยุพาดู แล้วหญิงสูงวัยก็พูดต่อว่า

    “น่าจะแพงนะ ซื้อมาเท่าไรล่ะ?”

    “สองหมื่นกว่าน่ะครับ”

    “โห.. ไปเอาเงินมาจากไหนเนี่ย.. มากกว่าเงินเดือนอีกนะ”

    “พอดีผมมีเงินพิเศษอยู่น่ะครับ ของแค่นี้พอซื้อได้อยู่แล้ว” เขาขอโทรศัพท์มือถือคืนจากยุพา “ผมไปก่อนนะครับ”

    แล้วสาธิตก็เดินออกจากอาคารดวงดาวไป


(มีต่อครับ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่