สวัสดีครับทุกท่าน ตอนใหม่มาแล้ว เรื่องก็ดำเนินมาจนเกิดเหตุมีศพที่สองจนได้ คราวนี้เรามาดูหลังเกิดเหตุนั้น ตัวละครแต่ละคนคิดเห็นเป็นอย่างไรบ้าง
โปรดทราบก่อนอ่าน
******สำหรับคนที่ติดตามอ่านการสืบคดีของปลายฟ้าในระบบเรื่องสั้น [ปลายฟ้ากับคดีปริศนา] ที่ผมลงให้อ่านกันในถนนนักเขียนอยู่ตอนนี้ ต้องแจ้งก่อนว่าตัวเรื่องนี้เป็นเรื่องราวก่อนคดีที่ 1 ฆาตกรรมกลางทะเล ของชุดนั้นเลยแหละครับ (และต่อจากชุด "ปลาย นักสืบจำเป็น" ที่เคยตีพิมพ์เมื่อนานมาแล้ว) โดยตัวเรื่องนี้มีลักษณะเป็นแบบนิยายเรื่องยาวหลายตอนจบอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ผมไม่ค่อยเขียนเรื่องยาวๆเท่าไร ลองอ่านกันดูครับ ส่วนใครที่เคยอ่านแล้วก็ลองอ่านอีกรอบก็ได้นะครับ*******
ลิ้งตอนที่ผ่านมาครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ 1 ปลายฟ้า พิทักษ์ธรรม์
https://pantip.com/topic/37066376
ตอนที่ 2 พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์
https://pantip.com/topic/37083267
ตอนที่ 3 ศพและของหาย
https://pantip.com/topic/37107432
ตอนที่ 4 สารวัตรวิทยา
https://pantip.com/topic/37130343
ตอนที่ 5 ห้องนิทรรศการเปิดโลกเทคโนโลยี
https://pantip.com/topic/37140547
ตอนที่ 6 คนตายที่ห้องทดลอง
https://pantip.com/topic/37152856
ตอนที่ 7 ห้องทดลองที่เกิดเหตุ
https://pantip.com/topic/37163356
ตอนที่ 8 เด็กสาวผู้ตาย
https://pantip.com/topic/37178386
ตอนที่ 9 ศพข้างไดโนเสาร์
https://pantip.com/topic/37188652
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 10 : หลังเกิดเหตุ
เมื่อเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเสร็จแล้ว สารวัตรวิทยาได้เชิญผู้พบศพรวมทั้งผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบถาม โดยใช้ห้องหนึ่งภายในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เป็นห้องสอบสวนชั่วคราว
ผู้พบศพคนแรกคือ วาสนา เจ้าแม่ประจำอาคารพิพิธภัณฑ์
“คุณวาสนา ..คุณช่วยเล่าหน่อยว่าพบศพได้อย่างไร?” สารวัตรวิทยาถามเธอ
“ค่ะ” วาสนาพยักหน้ารับ ดูเธอจะสามารถเรียกสติกลับมาได้แล้ว “..พอดีเมื่อเข้าฉันเห็นว่าห้องนิทรรศการโลกดึกดำบรรพ์ยังปิดอยู่ จึงโทรหายัยพร เพราะเห็นว่าได้เวลาเปิดแล้ว แต่ก็ไม่มีคนรับ เลยตัดสินใจลงไปเอากุญแจห้องนิทรรศการมาเปิดเอง แล้วก็มาเห็นศพยัยพรนี่ล่ะคะ”
“ครับ” สารวัตรวิทยานึกตาม พลางจดรายละเอียดประกอบ “ห้องถูกล็อคอยู่ใช่ไหมครับ?”
“ค่ะ ห้องล็อคอยู่ ฉันต้องไปเบิกกุญแจที่ รปภ.”
“แล้วตอนพบศพ ศพอยู่ในสภาพอย่างที่เห็นตอนนี้หรือเปล่าครับ?”
“ค่ะ ฉันเห็นปุ๊บ รีบวิ่งไปหาปรเมศเลย ไม่ได้เข้าไปยุ่งอะไร” วาสนาตอบ
“ครับ” สารวัตรวิทยาพยักหน้าอีกครั้ง จากนั้นก็เรียกปรเมศเข้ามาสอบถามข้อมูลบ้าง
“คุณปรเมศ จากที่สอบถามคุณวาสนา หลังจากพบศพปิยะพร เธอได้วิ่งไปหาคุณใช่ไหมครับ?”
“ใช่ครับ เค้าวิ่งมาหาผมที่ห้องนิทรรศการ บอกว่าปิยะพรตาย ผมจึงรีบออกไปดูที่ห้องนิทรรศการโลกดึกดำบรรพ์ แล้วค่อยลงลิฟท์มาเจอพวกอาจารย์ปลายฟ้านี่แหละครับ” ปรเมศบอก
“แล้วศพที่เห็นตอนนั้นแตกต่างจากตอนนี้ไหมครับ?”
“เอ่อ.. ไม่นะครับ ตอนนั้นก็อยู่แบบนี้”
“ครับ” สารวัตรวิทยามองหน้าเขาเล็กน้อย จากนั้นก็เรียกผู้เกี่ยวข้องคนอื่นมาสอบถาม เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม
แต่ทุกคนให้ข้อมูลในเชิงเดียวกันคือ พบศพปิยะพรอยู่ภายในห้องนิทรรศการโลกดึกดำบรรพ์ หลังจาการที่วาสนาไปเปิดห้อง โดยวาสนาได้ใช้กุญแจที่เบิกมาจากตู้เก็บกุญแจที่ป้อง รปภ. ในการเปิดห้อง
ซึ่งข้อมูลที่ได้มาตอนนี้รวมทั้งผลการพิสูจน์ศพ ทำให้ทางตำรวจคิดว่า ปิยะพรน่าจะเสียชีวิตประมาณสามถึงสี่โมงเย็นของเมื่อวาน เพราะสภาพศพบ่งชี้ไปในลักษณะนั้น
แต่ทว่ามันมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือ ห้องนิทรรศการโลกดึกดำบรรพ์ถูกปิดโดยที่ขังปิยะพรอยู่ข้างใน เพราะ รปภ.ที่ขึ้นมาสังเกตการณ์ช่วงประมาณ 4:15 น.ของเมื่อวานบอกว่า ห้องนิทรรศการนั้นถูกปิดไว้เรียบร้อยแล้ว
ด้วยเหตุนี้ จึงแสดงว่า ต้องมีผู้เข้าไปฆ่าเธอแล้วปิดห้องนิทรรศการอย่างเรียบร้อยก่อนเวลา 4:15 น. แถมเอากุญแจไปคืนให้ด้วย
และจากการตรวจสอบรอยนิ้วมือที่เบรกเกอร์ระบบต่าง ๆ ภายในห้องนิทรรศการก็ไม่พบรอยนิ้วมือของผู้ใดเลย คาดว่าผู้กระทำคงใส่ถุงมือหรือเช็ดรอยนิ้วมือออกไปด้วย
ส่วนชื่อผู้คืนกุญแจห้องนิทรรศการโลกดึกดำบรรพ์กลับเป็นวิลาวัลย์ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ โดยเธอให้การว่า พบกุญแจห้องนิทรรศการถูกทิ้งไว้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ จึงนำไปคืนที่ป้อม รปภ. ให้ ซึ่งพอตำรวจสอบถามว่าผู้ใดเป็นคนวางไว้ เธอไม่สามารถบอกได้ เพราะเจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์ที่ทำงานที่นี่มักวนเวียนมาที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ช่วงเวลาใกล้ ๆ ปิดบริการเกือบทุกคน จึงไม่อาจบ่งชี้ได้ว่าใครเป็นคนถือกุญแจมา โดยเธอได้นำกุญแจคืน รปภ. ตรงตามเวลาที่ลงในสมุดเบิกกุญแจคือ 4:45 น.
ทั้งหมดนี้จึงทำให้ตำรวจยังไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่าผู้ใดเป็นคนกระทำ แต่ก็พอสันนิษฐานได้บ้างว่า อาจจะเป็นคนในพิพิธภัณฑ์คนใดคนหนึ่ง
หลังจากสอบถามข้อมูลเรียบร้อยแล้ว สารวัตรวิทยาก็ได้เรียกปลายฟ้าเข้ามาพูดคุยกับตน
พอปลายฟ้านั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับสารวัตรวิทยา เขาก็พูดขึ้นว่า
“ได้เรื่องไหมครับ?”
“อืม...” สารวัตรวิทยาพยักหน้า “ก็พอสมควร แต่ก็ยังบอกไมได้ว่าใครทำ”
“ครับ ผมว่าการตายของปิยะพรมันแปลก ๆ นะครับ”
“พี่ก็รู้สึกเหมือนกัน มันมีจุดที่แปลก ๆ อยู่คือ ทำไมศพถึงต้องถูกเคลื่อนย้าย”
“ใช่ครับ เพราะมีรอยเลือดเป็นแนวยาวมาทางจุดที่เจอศพ ยาวเกือบสองเมตรได้ แต่ผมคิดว่าศพไม่ได้ถูกเคลื่อนย้ายหรอกครับ ตัวปิยะพรเองน่าจะขยับมาตรงนั้นมากกว่า”
“แล้วเธอจะขยับไปทางนั้นทำไม?”
“ผมก็ไม่รู้ ทำไมเธอต้องเคลื่อนตัวมาที่โซนไดโนเสาร์ด้วย ทั้งที่ปกติน่าจะขยับไปที่ทางออกมากกว่า”
“คงต้องหาข้อมูลเพิ่มสินะ” สารวัตรวิทยาบอก “แล้วตอนนี้เธอพอรู้อะไรเพิ่มบ้างไหม?”
“ยังเลยครับ” ปลายฟ้าส่ายหน้าเล็ก ๆ
หลังจากนั้นสารวัตรวิทยาก็พูดคุยกับปลายฟ้าอีกเล็กน้อย ก็นำคณะกลับไป แต่ยังส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลที่เกิดเหตุไว้อยู่ ซึ่งผลจากการเกิดคดีนี้ขึ้นมา ทำให้ต้องปิดนิทรรศการส่วนชั้นสามชั่วคราว โดยมีการกั้นแผงห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้าไปด้วย
(มีต่อครับ)
ปลายฟ้ากับปริศนาฆาตกรรม [Case 1 : ฆาตกรรมที่พิพิธภัณฑ์] - ตอนที่ 10 หลังเกิดเหตุ
โปรดทราบก่อนอ่าน
******สำหรับคนที่ติดตามอ่านการสืบคดีของปลายฟ้าในระบบเรื่องสั้น [ปลายฟ้ากับคดีปริศนา] ที่ผมลงให้อ่านกันในถนนนักเขียนอยู่ตอนนี้ ต้องแจ้งก่อนว่าตัวเรื่องนี้เป็นเรื่องราวก่อนคดีที่ 1 ฆาตกรรมกลางทะเล ของชุดนั้นเลยแหละครับ (และต่อจากชุด "ปลาย นักสืบจำเป็น" ที่เคยตีพิมพ์เมื่อนานมาแล้ว) โดยตัวเรื่องนี้มีลักษณะเป็นแบบนิยายเรื่องยาวหลายตอนจบอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ผมไม่ค่อยเขียนเรื่องยาวๆเท่าไร ลองอ่านกันดูครับ ส่วนใครที่เคยอ่านแล้วก็ลองอ่านอีกรอบก็ได้นะครับ*******
ลิ้งตอนที่ผ่านมาครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 10 : หลังเกิดเหตุ
เมื่อเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเสร็จแล้ว สารวัตรวิทยาได้เชิญผู้พบศพรวมทั้งผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบถาม โดยใช้ห้องหนึ่งภายในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เป็นห้องสอบสวนชั่วคราว
ผู้พบศพคนแรกคือ วาสนา เจ้าแม่ประจำอาคารพิพิธภัณฑ์
“คุณวาสนา ..คุณช่วยเล่าหน่อยว่าพบศพได้อย่างไร?” สารวัตรวิทยาถามเธอ
“ค่ะ” วาสนาพยักหน้ารับ ดูเธอจะสามารถเรียกสติกลับมาได้แล้ว “..พอดีเมื่อเข้าฉันเห็นว่าห้องนิทรรศการโลกดึกดำบรรพ์ยังปิดอยู่ จึงโทรหายัยพร เพราะเห็นว่าได้เวลาเปิดแล้ว แต่ก็ไม่มีคนรับ เลยตัดสินใจลงไปเอากุญแจห้องนิทรรศการมาเปิดเอง แล้วก็มาเห็นศพยัยพรนี่ล่ะคะ”
“ครับ” สารวัตรวิทยานึกตาม พลางจดรายละเอียดประกอบ “ห้องถูกล็อคอยู่ใช่ไหมครับ?”
“ค่ะ ห้องล็อคอยู่ ฉันต้องไปเบิกกุญแจที่ รปภ.”
“แล้วตอนพบศพ ศพอยู่ในสภาพอย่างที่เห็นตอนนี้หรือเปล่าครับ?”
“ค่ะ ฉันเห็นปุ๊บ รีบวิ่งไปหาปรเมศเลย ไม่ได้เข้าไปยุ่งอะไร” วาสนาตอบ
“ครับ” สารวัตรวิทยาพยักหน้าอีกครั้ง จากนั้นก็เรียกปรเมศเข้ามาสอบถามข้อมูลบ้าง
“คุณปรเมศ จากที่สอบถามคุณวาสนา หลังจากพบศพปิยะพร เธอได้วิ่งไปหาคุณใช่ไหมครับ?”
“ใช่ครับ เค้าวิ่งมาหาผมที่ห้องนิทรรศการ บอกว่าปิยะพรตาย ผมจึงรีบออกไปดูที่ห้องนิทรรศการโลกดึกดำบรรพ์ แล้วค่อยลงลิฟท์มาเจอพวกอาจารย์ปลายฟ้านี่แหละครับ” ปรเมศบอก
“แล้วศพที่เห็นตอนนั้นแตกต่างจากตอนนี้ไหมครับ?”
“เอ่อ.. ไม่นะครับ ตอนนั้นก็อยู่แบบนี้”
“ครับ” สารวัตรวิทยามองหน้าเขาเล็กน้อย จากนั้นก็เรียกผู้เกี่ยวข้องคนอื่นมาสอบถาม เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม
แต่ทุกคนให้ข้อมูลในเชิงเดียวกันคือ พบศพปิยะพรอยู่ภายในห้องนิทรรศการโลกดึกดำบรรพ์ หลังจาการที่วาสนาไปเปิดห้อง โดยวาสนาได้ใช้กุญแจที่เบิกมาจากตู้เก็บกุญแจที่ป้อง รปภ. ในการเปิดห้อง
ซึ่งข้อมูลที่ได้มาตอนนี้รวมทั้งผลการพิสูจน์ศพ ทำให้ทางตำรวจคิดว่า ปิยะพรน่าจะเสียชีวิตประมาณสามถึงสี่โมงเย็นของเมื่อวาน เพราะสภาพศพบ่งชี้ไปในลักษณะนั้น
แต่ทว่ามันมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือ ห้องนิทรรศการโลกดึกดำบรรพ์ถูกปิดโดยที่ขังปิยะพรอยู่ข้างใน เพราะ รปภ.ที่ขึ้นมาสังเกตการณ์ช่วงประมาณ 4:15 น.ของเมื่อวานบอกว่า ห้องนิทรรศการนั้นถูกปิดไว้เรียบร้อยแล้ว
ด้วยเหตุนี้ จึงแสดงว่า ต้องมีผู้เข้าไปฆ่าเธอแล้วปิดห้องนิทรรศการอย่างเรียบร้อยก่อนเวลา 4:15 น. แถมเอากุญแจไปคืนให้ด้วย
และจากการตรวจสอบรอยนิ้วมือที่เบรกเกอร์ระบบต่าง ๆ ภายในห้องนิทรรศการก็ไม่พบรอยนิ้วมือของผู้ใดเลย คาดว่าผู้กระทำคงใส่ถุงมือหรือเช็ดรอยนิ้วมือออกไปด้วย
ส่วนชื่อผู้คืนกุญแจห้องนิทรรศการโลกดึกดำบรรพ์กลับเป็นวิลาวัลย์ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ โดยเธอให้การว่า พบกุญแจห้องนิทรรศการถูกทิ้งไว้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ จึงนำไปคืนที่ป้อม รปภ. ให้ ซึ่งพอตำรวจสอบถามว่าผู้ใดเป็นคนวางไว้ เธอไม่สามารถบอกได้ เพราะเจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์ที่ทำงานที่นี่มักวนเวียนมาที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ช่วงเวลาใกล้ ๆ ปิดบริการเกือบทุกคน จึงไม่อาจบ่งชี้ได้ว่าใครเป็นคนถือกุญแจมา โดยเธอได้นำกุญแจคืน รปภ. ตรงตามเวลาที่ลงในสมุดเบิกกุญแจคือ 4:45 น.
ทั้งหมดนี้จึงทำให้ตำรวจยังไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่าผู้ใดเป็นคนกระทำ แต่ก็พอสันนิษฐานได้บ้างว่า อาจจะเป็นคนในพิพิธภัณฑ์คนใดคนหนึ่ง
หลังจากสอบถามข้อมูลเรียบร้อยแล้ว สารวัตรวิทยาก็ได้เรียกปลายฟ้าเข้ามาพูดคุยกับตน
พอปลายฟ้านั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับสารวัตรวิทยา เขาก็พูดขึ้นว่า
“ได้เรื่องไหมครับ?”
“อืม...” สารวัตรวิทยาพยักหน้า “ก็พอสมควร แต่ก็ยังบอกไมได้ว่าใครทำ”
“ครับ ผมว่าการตายของปิยะพรมันแปลก ๆ นะครับ”
“พี่ก็รู้สึกเหมือนกัน มันมีจุดที่แปลก ๆ อยู่คือ ทำไมศพถึงต้องถูกเคลื่อนย้าย”
“ใช่ครับ เพราะมีรอยเลือดเป็นแนวยาวมาทางจุดที่เจอศพ ยาวเกือบสองเมตรได้ แต่ผมคิดว่าศพไม่ได้ถูกเคลื่อนย้ายหรอกครับ ตัวปิยะพรเองน่าจะขยับมาตรงนั้นมากกว่า”
“แล้วเธอจะขยับไปทางนั้นทำไม?”
“ผมก็ไม่รู้ ทำไมเธอต้องเคลื่อนตัวมาที่โซนไดโนเสาร์ด้วย ทั้งที่ปกติน่าจะขยับไปที่ทางออกมากกว่า”
“คงต้องหาข้อมูลเพิ่มสินะ” สารวัตรวิทยาบอก “แล้วตอนนี้เธอพอรู้อะไรเพิ่มบ้างไหม?”
“ยังเลยครับ” ปลายฟ้าส่ายหน้าเล็ก ๆ
หลังจากนั้นสารวัตรวิทยาก็พูดคุยกับปลายฟ้าอีกเล็กน้อย ก็นำคณะกลับไป แต่ยังส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลที่เกิดเหตุไว้อยู่ ซึ่งผลจากการเกิดคดีนี้ขึ้นมา ทำให้ต้องปิดนิทรรศการส่วนชั้นสามชั่วคราว โดยมีการกั้นแผงห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้าไปด้วย
(มีต่อครับ)