ปลายฟ้ากับปริศนาฆาตกรรม [Case 1 : ฆาตกรรมที่พิพิธภัณฑ์] - ตอนที่ 11 สาวห้าวสืบ

กระทู้สนทนา

สวัสดีครับทุกท่าน เมื่อตอนที่แล้วปลายฟ้าออกไปเก็บข้อมูลที่ผับมา ได้ข้อมูล (+เบอร์) มาพอสมควร คราวนี้เรามาดูฝั่งมีนกันบ้างว่าเธอจะสืบเป็นอย่างไร
***แก้ไขเลขตอนครับ ตอนนี้ตอนที่ 12***

โปรดทราบก่อนอ่าน

******สำหรับคนที่ติดตามอ่านการสืบคดีของปลายฟ้าในระบบเรื่องสั้น [ปลายฟ้ากับคดีปริศนา] ที่ผมลงให้อ่านกันในถนนนักเขียนอยู่ตอนนี้  ต้องแจ้งก่อนว่าตัวเรื่องนี้เป็นเรื่องราวก่อนคดีที่ 1 ฆาตกรรมกลางทะเล ของชุดนั้นเลยแหละครับ  (และต่อจากชุด "ปลาย นักสืบจำเป็น" ที่เคยตีพิมพ์เมื่อนานมาแล้ว) โดยตัวเรื่องนี้มีลักษณะเป็นแบบนิยายเรื่องยาวหลายตอนจบอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ผมไม่ค่อยเขียนเรื่องยาวๆเท่าไร ลองอ่านกันดูครับ ส่วนใครที่เคยอ่านแล้วก็ลองอ่านอีกรอบก็ได้นะครับ*******

ลิ้งตอนที่ผ่านมาครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนที่ 12 : สาวห้าวสืบ


    มีนเดินออกมาจากห้องบรรยายที่มหาวิทยาลัยอย่างกระฉับกระเฉงตามบุคลิกห้าว ๆ ของตน

    หญิงสาวย่อมไม่ออกจากห้องเพียงคนเดียวอยู่แล้ว ต้องมีเพื่อนร่วมเรียนปริญญาโทตามมาด้วย

    ผู้ที่เดินเคียงข้างเธอตอนนี้คือ แอลกับวิชาญ

    “เกือบแย่น่ะ” วิชาญพูดขึ้นมา “อาจารย์ถามซะยากเลย”

    แอลร้อง “อืม” และพยักหน้าเท่านั้น คนที่พูดขึ้นมาเป็นสาวห้าวมีน

    “เป็นอย่างนี้แหละชาญ พรีเซ้นท์รายงานทีไร เหล่าอาจารย์มักยิงคำถามใส่ไม่ยั้ง ยังดีนะที่วันนี้มีแค่สามคน ถ้ามาครบห้าขุนพลละก็.. คนพรีเซ้นท์ตายแน่ ไม่รู้พวกแกจะถามอะไรหนักหนา ..เราเคยโดนมาแล้วตอนเรียน ป.ตรี”

    “เหรอ... อย่างนี้เวลาพรีเซ้นท์ทีสิส เราจะรอดไหมเนี่ย..” ชายหนุ่มทำหน้ากังวล

    “ถ้าเตรียมตัวมาดีก็คงรอดแหละ ให้คิดว่าพวกเขาไม่ใช่อาจารย์ แต่เป็นนักศึกษาที่ไม่รู้อะไรเลยแทนละกัน” มีนออกความเห็น

    “อืม..” วิชาญพยักหน้ารับ หน้าตาเศร้าลงเล็กน้อย “ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยมีกะใจทำอะไรเลย นึกถึงไอ้สิทธิ์มันน่ะ”

    “คงเพราะสิทธิ์มันสนิทกับนาย พอมันตายไป นายคงทำใจลำบากสินะ” แอลพูดบ้าง

    วิชาญผงกศีรษะลง ก้มอยู่แบบนั้นครู่หนึ่ง

    มีนมองผู้เป็นเพื่อนคล้ายเห็นใจ “ไง สิทธิ์มันไม่ตายไปเปล่า ๆ หรอก เราว่ายังไงต้องจับฆาตกรได้แน่”

    เขาพูดต่อทั้งที่สายตายังมองพื้น “ก็ฉันไม่เห็นตำรวจทำงานคืบหน้าเลย ข้อมูลอะไรก็ยังไม่ได้สักอย่าง”

    “ไม่หรอกน่าชาญ ตำรวจคงกำลังหาข้อมูลอยู่แหละ” สาวห้าวพยายามปลอบ

    “ถ้าเป็นแบบนั้นจริงมันก็ดี” วิชาญเงยหน้าหันมองมีน แล้วนิ่งครู่หนึ่งคล้ายนึกอะไรได้ “มีน แอล เดี๋ยวฉันไปก่อนนะ”

    สาวห้าวและแอลตอบรับ แล้ววิชาญก็เดินออกไป

    พอวิชาญเดินออกไปได้ครู่หนึ่ง มีนก็หันพูดกับแอลว่า

    “แอล วันนี้นายว่างรึเปล่า?”

    “อืม”

    “ฉันว่าจะไปหาข้อมูลเรื่องคดีไอ้สิทธิ์น่ะ ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ”

    “ได้” แอลก็ตอบสั้น ๆ เช่นเดิม

    “ขอบใจนะ ว่าจะไปหาข้อมูลเพิ่มเติมอีก” สาวห้าวพูดต่อ “ปลายก็ไม่ว่างด้วย เห็นเมื่อคืนบอกว่ามีประชุมตั้งแต่เช้า”

    แน่นอนว่ามีนไม่รู้ว่าปลายฟ้าโกหก เพื่อออกไปเที่ยวกลางคืน

    “ที่ทำงานพี่ปลายมีคดีเกิดขึ้นด้วยใช่ไหม?” แอลถาม

    “อื้อ แถมตอนนี้ก็ตายไปสองศพแล้วด้วย” หญิงสาวตอบ “ปลายก็ยังเป็นยมทูตเหมือนเดิมแหละ ไปไหนไม่เคยพ้นคนตาย”

    แอลนิ่งและคลี่ยิ้มเล็ก ๆ เพราะเขาเองก็คิดเหมือนมีนพูด ปลายฟ้าใกล้เคียงจะเป็นยมทูตแล้ว

    “มีนจะสืบเรื่องไอ้สิทธิ์หรือ?”

    “ไม่เชิงนะ แต่ไม่อยากเห็นชาญเศร้า เลยว่าจะหาข้อมูลดูก่อน คดีจะได้คืบหน้าเร็ว ๆ ถือว่าช่วยสารวัตรสรวุทธสืบไปด้วย”

    “เค้าเป็นรองผู้กำกับฯ แล้วนะ” ชายหนุ่มแย้ง

    “รู้แล้วน่าแอล... มันชินปาก ลดตำแหน่งให้พี่เค้าหน่อย คงไม่เป็นหรอก” เธอเถียงทันที

    แอลเงียบ ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป

    “เอาล่ะ เราไปที่ห้องทดลองนั่นดีกว่า” มีนพูดจบ ก็ก้าวเดินนำหน้าแอลทันที

    หนุ่มเงียบขรึมมองสาวแว่นผู้เดินนำหน้า ฉีกยิ้มขึ้นเล็กน้อย

    ‘ชักจะเหมือนพี่ปลายขึ้นทุกทีแล้วสิ เจอคดีเป็นต้องสืบ!’

(มีต่อครับ)

แก้ไขข้อความเมื่อ