
เป็นอีกครั้งที่ได้มากินอาหารที่ร้าน Medium rare Steak & Wine เนื่องจากทางร้านได้มีการ Renovate ตัวร้านใหม่ จุคนได้เยอะขึ้น(ปัจจุบันจุคนได้ราว 90 ที่นั่ง) และเพิ่มเมนูที่น่าสนใจอีกเพียบ วันนี้เลยได้มาลองเมนูใหม่ ๆ ทั้งนั้น และความรู้สึกที่ได้มากินในวันนี้ก็รู้สึกประทับใจ ไม่ต่างจากครั้งแรกที่มาเลย ซึ่งปกติเวลาเรากินร้านไหนแล้วรู้สึกอร่อยกินครั้งที่ 2 ที่ 3 มันจะดรอปลงหน่อย แต่ที่นี่ประทับใจเหมือนเดิมครับ
คงไม่ต้องเกริ่นอะไรมาก เพราะเคยรีวิวไปทีนึงแล้ว งั้นเรามาทำความรู้จักร้าน Medium rare แบบคร่าว ๆ สำหรับใครที่ยังไม่เคยไปแล้วกัน ร้าน Medium rare เป็นร้านสเต็กในซอยประดิพัทธ์ 10 ตรงเข้าซอยไปประมาณ 200 เมตร อยู่ที่ชั้น 2 ของ The Roomie Residence
ตะก่อนร้านจะหยุดทุกวันอังคาร แต่ปัจจุบันจะเปลี่ยนมาหยุดทุกวันจันทร์แทน ซึ่งเวลาเปิดร้านตอนนี้ก็ตามนี้
- อังคาร - ศุกร์ เปิดช่วงเย็น 17.00 - 00.00 น.
- เสาร์ - อาทิตย์ เปิด 2 ช่วง 11.30 - 14.00 น. และ 17.00 - 00.00 น.
- หยุดทุกวันจันทร์
เนื่องจากตอนนี้ทางร้านได้เพิ่มพื้นที่ให้บริการเพิ่มขึ้นอีกโซน รองรับลูกค้าได้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 50 ที่นั่ง แต่สไตล์การตกแต่งยังคงคอนเซ็ปเดิม ก็คือ Industrial Loft ฉะนั้นจึงยังได้ความเก๋ แบบขรึม ๆ อบอุ่น ๆ หน่อย เหมือนเดิม เหมาะกับการกินเมนูตะวันตกแบบนี้ครับ
ครั้งก่อนเมนูอาหารของร้าน Medium rare มีให้เลือกไม่มากนัก เพราะเค้าต้องการใส่ใจในทุกรายละเอียดภายใต้ทีมงานที่เค้ามี แต่ในตอนนี้ปริมาณและประสบการณ์ของทีมงานได้เพิ่มขึ้นจนเพียงพอต่อการให้บริการที่มากขึ้นแล้ว เลยมีเมนูให้เลือกหลากหลายมากขึ้นและก็มีครบทุกประเภทอาหารด้วย
อย่างที่เข้าใจว่าเมนูของที่นี่จะมีการปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาลและความเหมาะสม เช่นเดียวกับวัตถุดิบ ฉะนั้นรายการอาหารในเมนูก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง เพิ่ม ลด ได้เสมอ ๆ และเรื่องวัตถุดิบในครั้งนี้ทางร้านก็มีการพัฒนาอย่างเห็นได้ชัด คือมีการเก็บวัตถุดิบสด ๆ ไว้เลย อย่างเช่นเมนูที่เป็น Lobster โดยจะเลี้ยงเอาไว้เลย จนกว่าลูกค้าจะมีการสั่งเมนูที่เป็น Lobster เค้าก็จะเอา Lobster เป็น ๆ ที่เค้าเลี้ยงไว้ นำมาปรุงกันสด ๆ เลย ฉะนั้นเนื้อที่ได้ก็จะเด้งนุ่มไม่เหมือนใคร
ตัวเมนูโดยรวมก็เป็นแนว Western(อเมริกัน-ยุโรป) ที่เน้นเรื่องคุณภาพวัตถุดิบและการปรุงที่พิถีพิถันเหมือนเดิม เรื่องรสชาติและความประทับใจ ผมว่า ถ้าใครมีโอกาสได้มาลอง น่าจะชื่นชอบในรสชาติอาหารของ Medium rare ได้ไม่ยากครับ เรามาเข้าสู่เมนูใหม่ที่ได้มาลองในวันนี้กันเลยครับ
Oyster (แนะนำให้ลอง)

ช่วงเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ที่ร้านจะมีให้เลือก 2 สายพันธุ์ ได้แก่ Gillardeau และ Marennes-Oléron ซึ่งในแต่ละฤดูกาลทางร้านก็จะมีการ Test รสชาติของหอยแต่ละประเทศ แต่ละน่านน้ำ เพื่อเลือกหอยที่รสชาติดีในแต่ละฤดูกาลมาให้ลูกค้าที่ร้าน ฉะนั้นในแต่ละเดือนใน 1 ปี ก็จะได้ชิมหอยนางรมของที่ Medium rare แตกต่างกันออกไป(สายพันธุ์ที่รีวิวเป็นของเดือน 8 ที่ผ่านมา ส่วนหลังเดือน 9 เป็นต้นไปจะเป็นสายพันธุ์อะไรต้องลองสอบถามกับทางร้านดูครับ)
ซึ่งในวันนี้ที่ได้ลองจะเป็นสายพันธุ์ Marennes-Oléron จากประเทศฝรั่งเศส ที่ตัวใหญ่มาก ฝาขนาดเท่าฝ่ามือ เนื้อขาวอวบอ้วนน่ากินมาก เวลากินเข้าไป เนื้อหอยจะ creamy มาก ๆ มีกลิ่นหอมของน้ำทะเลนิด ๆ ไม่เค็ม ไม่คาว กินเปล่า ๆ ได้เลย แต่กินกับ Lemon สักหน่อยก็ยิ่งอร่อยสดชื่นไม่เลวเลยครับ
Marennes-Oléron
• 1 ตัว ราคา 198++ บาท
• 7 ตัว ราคา 1,188++ บาท (เหมือนกิน 7 ตัว จ่ายแค่ 6 ตัว)
• 14 ตัว ราคา 2,376++ บาท (เหมือนกิน 14 ตัว จ่ายแค่ 12 ตัว)
Gillardeau
• 1 ตัว ราคา 240++ บาท
• 7 ตัว ราคา 1,440++ บาท (เหมือนกิน 7 ตัว จ่ายแค่ 6 ตัว)
• 14 ตัว ราคา 2,880++ บาท (เหมือนกิน 14 ตัว จ่ายแค่ 12 ตัว)
Smoke Salmon Platter – 567++ THB

เมนูนี้รสชาติใช้ได้ แม้เนื้อ smoke salmon จะเค็มไปนิดก็ตาม เพราะเราจะมีผักไว้กินชะลอความเค็มนิดหน่อย และได้ความหวานอมเปรี้ยวของซอสในเซ็ท ผนวกกับเลม่อนที่เพิ่มความหอมเปรี้ยวแบบสดชื่น ๆ ก็ทำให้อะไร ๆ ในจานนี้ดูลงตัวมากขึ้น
จานนี้ถ้าได้กินกับเครื่องดื่มแนว sparkling wine ผมว่าน่าจะเหมาะดีครับ เพราะกลิ่นรสของ Smoke salmon กับความสดชื่นของซอสและเลม่อน ดูเข้ากันมากกับ sparkling wine ครับ
Live French Mussel – 390++ THB

เมนูนี้เป็นเมนูที่ทางเจ้าของร้านอยากนำเสนอมาก เพราะเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยที่อร่อย และไม่เหมือนใคร ซึ่งในตอนแรกผมก็ค้านเล็ก ๆ เพราะผมเคยเห็นอาหารหน้าตาประมาณนี้มาหลายครั้ง จะเป็นแนวอาหารสเปน อาหารฝรั่งเศส ซึ่งเจ้าของร้านก็บอกว่างั้นยิ่งต้องลอง ก็เลยจัดไป
ตอนที่มาเสิร์ฟ ก็ไม่ตื่นเต้นอะไร ก็คล้าย ๆ กับที่เคยเห็น จนได้ลองตักกิน ตอนแรกก็กินหอยก่อนรู้สึกได้ถึงความแตกต่างจริง ๆ หอยเนื้อนุ่มนิ่มมาก ใช้หอยที่สั่งตรงจากฝรั่งเศสเลย เนื้อจะไม่เหมือนหอยแมลงภู่ไทย หอยนิวซีแลนด์ หรือแม้กระทั่งหอยสเปนที่เราเคยกิน จะนุ่มและนิ่มนวลกว่า
เมนูนี้มีเคล็ดลับในการกินเล็กน้อย คือเมนูนี้มันจะเอาหอยไปผัดกับเนย, กระเทียม, ไวน์ขาว, Herb และปรุงรสด้วยเกลือ แต่งกลิ่นด้วยน้ำและผิวของเลม่อน ฉะนั้นในชามก็จะมีน้ำที่เกิดจากการปรุงเกิดขึ้นด้วย จะออก เปรี้ยว ๆ เค็ม ๆ รสไม่จัดมาก แต่กลมกล่อม เค้าเลยให้เอาขนมปังกระเทียมที่เสิร์ฟมาพร้อมกันจุ่มลงในน้ำนี้แล้วกินคู่กับหอย จะอร่อยยิ่งขึ้นครับ
Grill Tiny Beef Ribs – 359++ THB

กินเมนูกินเล่นที่ผมคิดว่าไม่ควรใช้ ช้อน ส้อม ครับ ต้องมือเท่านั้น เพราะจานนี้เป็นเนื้อติดซี่โครง ที่หั่นขวางมา แล้วนำมาหมักนิดหน่อย แล้วจึงนำไปอบให้สุกจนเนื้อเซ็ทตัวกำลังดี กรุบเด้ง และค่อนข้างล่อนออกจากกระดูก มีความเค็มนิด ๆ แทะมันมาก เสิร์ฟพร้อม กระเทียมทอด พริกทอด เข้ากันดีครับ
Oyster soup with real oyster – 388++ THB (แนะนำให้ลอง)

เป็นซุปครีมข้นสีขาว ที่เนื้อสัมผัสเนียนละมุนมาก มีการผสมเนื้อหอยนางรมลงไปในซุป และก็ยังใส่เนื้อหอยนางรม Pacific Oyster เป็นตัว ๆ ลงไปอีก 2-3 ตัว เต็ม ๆ รสชาตินี่ไม่ต้องพูดถึง มันเนียนและกลมกล่อมมาก ผมว่าควรค่าแก่การลองครับ ผมปาดจนเกลี้ยงเลย แต่ราคาก็สูงไปหน่อยสำหรับเมนูซุป 1 ถ้วยแบบนี้ครับ
Braised Short Ribs – 1,567++ THB (300 g.) (แนะนำให้ลอง)

เมนูนี้ราคาสูงหน่อย แต่ถ้าใครที่ไม่เคยกิน หรือ ดูจากรูปอาหารแล้วลังเล จะสั่งหรือไม่สั่งดี ผมแนะนำว่าถ้าไม่ลำบากต่อการจ่ายนะ สั่งเถอะ มันอร่อยมากจริง ๆ กินกัน 2-3 คน น่าจะพอได้อยู่
เนื้อที่เสิร์ฟมาเป็นเนื้อซี่โครงที่ติดมันนิด ๆ นำไปตุ๋นและผ่านขั้นตอนต่าง ๆ มากมาย เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน เนื้อที่ได้นั้นเปื่อย นุ่ม และชุ่มฉ่ำมาก ไม่มีความกระด้างให้รำคาญใจแม้แต่น้อย แค่ใช้ส้อมกดลงไปแล้วฉีกเนื้อออก เนื้อก็จะแยกออกได้อย่างง่ายดาย
ซอสที่เคลือบอยู่ที่ชิ้นเนื้อ ก็มีความจัดจ้านของความเป็นบาร์บีคิว โดยมีพื้นฐานของซอสสตูว์ที่ใช้ตุ๋นเนื้อ แต่มีการผสมซอสบาร์บีคิวและ Herb ต่าง ๆ เข้าไปด้วย กินแล้วความนุ่มของเนื้อและรสชาติของซอสเข้ากันมาก อร่อยจนลืมกินเครื่องเคียงในจานไปเลย
[SR] คงมีไม่กี่ร้านที่กลับมากินซ้ำ...แล้วรู้สึกประทับใจไม่ต่างจากครั้งแรกที่ได้ลอง Medium rare Steak & Wine
เป็นอีกครั้งที่ได้มากินอาหารที่ร้าน Medium rare Steak & Wine เนื่องจากทางร้านได้มีการ Renovate ตัวร้านใหม่ จุคนได้เยอะขึ้น(ปัจจุบันจุคนได้ราว 90 ที่นั่ง) และเพิ่มเมนูที่น่าสนใจอีกเพียบ วันนี้เลยได้มาลองเมนูใหม่ ๆ ทั้งนั้น และความรู้สึกที่ได้มากินในวันนี้ก็รู้สึกประทับใจ ไม่ต่างจากครั้งแรกที่มาเลย ซึ่งปกติเวลาเรากินร้านไหนแล้วรู้สึกอร่อยกินครั้งที่ 2 ที่ 3 มันจะดรอปลงหน่อย แต่ที่นี่ประทับใจเหมือนเดิมครับ
คงไม่ต้องเกริ่นอะไรมาก เพราะเคยรีวิวไปทีนึงแล้ว งั้นเรามาทำความรู้จักร้าน Medium rare แบบคร่าว ๆ สำหรับใครที่ยังไม่เคยไปแล้วกัน ร้าน Medium rare เป็นร้านสเต็กในซอยประดิพัทธ์ 10 ตรงเข้าซอยไปประมาณ 200 เมตร อยู่ที่ชั้น 2 ของ The Roomie Residence
ตะก่อนร้านจะหยุดทุกวันอังคาร แต่ปัจจุบันจะเปลี่ยนมาหยุดทุกวันจันทร์แทน ซึ่งเวลาเปิดร้านตอนนี้ก็ตามนี้
- อังคาร - ศุกร์ เปิดช่วงเย็น 17.00 - 00.00 น.
- เสาร์ - อาทิตย์ เปิด 2 ช่วง 11.30 - 14.00 น. และ 17.00 - 00.00 น.
- หยุดทุกวันจันทร์
• 1 ตัว ราคา 198++ บาท
• 7 ตัว ราคา 1,188++ บาท (เหมือนกิน 7 ตัว จ่ายแค่ 6 ตัว)
• 14 ตัว ราคา 2,376++ บาท (เหมือนกิน 14 ตัว จ่ายแค่ 12 ตัว)
• 1 ตัว ราคา 240++ บาท
• 7 ตัว ราคา 1,440++ บาท (เหมือนกิน 7 ตัว จ่ายแค่ 6 ตัว)
• 14 ตัว ราคา 2,880++ บาท (เหมือนกิน 14 ตัว จ่ายแค่ 12 ตัว)
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น