จากเด็ก 15 น้ำหนัก 104kg สู่ 72kg ภายใน 1 ปี

สวัสดีครับผมชื่อ ปอนด์ ปัจจุบันอายุ 16 ย่าง 17 ปี รวมเวลาในการลดน้ำหนักของผมก็ปีกว่าแล้วครับ
อาจจะเขียนไม่เข้าใจยังไงก็ขออภัยด้วยนะครับ อยากจะแชร์ประสบการณ์จริงๆ ในรูปแบบของเรา
เกริ่นก่อนเลยนะครับ ผมเป็นเด็กที่อ้วนมาตั้งแต่เกิด เป็นที่ถูกใจในหมู่ครอบครัว มาหยิกแก้ม ตุ้ยนุ้ยน่ารัก
เนื่องด้วยที่บ้านผมเปิดร้านอาหาร แม่ผมจะตามใจผมเรื่องการกินทุกอย่าง ทั้งขนม น้ำอัดลม มาตั้งแต่เล็กๆแล้วครับ
ผมก็อยู่ด้วยการ "กิน" ไม่เลือกมาตั้งแต่ประถมแล้ว เพราะเราไม่ห่วงหล่อ ไม่ห่วงเท่ ก็แหงละตอนเด็กใครจะห่วงจริงไหมละครับ
ผมทำคลิปเล่าประสบการณ์ของผมไว้แล้วครับ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


นี่คือรูปตอนประถมครับ (คงไม่ต้องถามนะครับคนไหน ด้านขวาไง ฮ่าๆ) *ป.6
รูปผมกับพี่ชายครับ ต่างกันมาก (ช่วง ป.4)

ในรูปภาพด้านบนคือกลุ่มพี่ ๆ ของผมที่เล่นเกมส์ออนไลน์ด้วยกัน และได้มานัดเจอกัน เนื่องด้วยตัวผมเป็นคนเล่นเกมส์หนักมาก
ตั้งแต่ 10 โมงยัน 4 ทุ่ม ทุกวันถ้าเป็นช่วงปิดเทอม แต่ถ้าเปิดเทอมผมก็จะกลับบ้านมาทำการบ้านก่อนแล้วค่อยเล่นเป็นประจำครับ
ทำให้ผมมีปัญหาทางด้านสายตาสั้นมา ดังนั้นน้อง ๆ ที่กำลังอ่านหรือคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังอ่านอย่าเล่นเกมส์หนักนะครับ

พอเข้าสู่ช่วงมัธยม ช่วง ม.1 - ม.2 ผมยังไม่ห่วงอะไรครับ ยังใช้ชีวิตเดิมๆอยู่คือ เล่นเกมส์ > กิน > นอน ช่วงนี้ก็เริ่มมีการแอบชอบผู้หญิง
แต่ผมก็นึกว่า เราอ้วนแล้วยังไง เดี๋ยวก็มีคนยอมรับในตัวเราเอง ผมใช้ความคิดนี้มาตลอดช่วงมัธยมต้น จนมันมาถึงจุดเปลี่ยนครับ
รูปช่วงมัธยมต้น (ม.1-ม.2) น้ำหนักประมาณ 94

ตอนนั้นเราคิดว่าเราผอมด้วยครับ มโนไปเองว่า เห้ยเราก็หล่อนี่หว่า พี่เราหล่อเราก็ต้องหล่อดิ ประมาณนี้
ช่วงนั้นผมติดเพลง Hip-Hop มาก ของอเมริกานะครับ แล้วเราก็อยากใส่เสื้อ hiphop เท่ๆ แบบเค้าได้
แต่งตัวเท่ๆ แบบคนอื่น เสื้อหาไซส์ยากมาก กางเกงก็เช่นกัน
นี่คือช่วงที่น้ำหนักมากที่สุดในชีวิตครับ คือช่วง ม.3 ตอนอยู่ ร.ร. เก่า

(นี่คือช่วงปีใหม่ 2014 ผมเริ่มลดน้ำหนักต้นปี 2015)

ตอนผมอยู่โรงเรียนเก่านั้นผมเป็นคนที่ค่อนข้างจะกวน ๆ และจะโดนแกล้งอยู่บ่อยด้วยความที่เรา " อ้วน "
มันน่าแกล้งใช่ไหมละครับ บางทีผมก็เกลียดตัวเองที่ว่าทำไมเราต้องอ้วน ทำไมเราต้องไม่มีความมั่นใจในตัวเอง
แต่ ๆ ประเด็นหลักมันไม่ใช่แค่อยากใส่เสื้อ Hip-Hop หรือ อยากเปลี่ยนบุคลิกครับ มันเกิดจากการที่วันนึง. . .
ผมเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์อยู่ปกติ มันก็เกิดอาการปวดที่บริเวณหน้าอกและหัวใจครับ ปวดมาก
เวลาหายใจผมก็จะปวดมาก ๆ ครับ ตอนนั้นผมกลัวตายมากนึกถึงหน้าคนที่เรารักไว้ก่อนเลย
ระยะเวลาปวดมันแปบเดียว แต่ผมรู้สึกว่ามันนานมากราว ๆ 1 นาที มันก็หายไป
ผมก็คิดว่ามันต้องเกี่ยวกับความอ้วนของเราแน่ ๆ จึงตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเองตั้งแต่นั้นมาครับ
จนผมได้เข้าเรียนต่อ ม.4 ที่ ร.ร. ใหม่ช่วงนั้นก็ลดน้ำหนักมาได้ 4 เดือนครับ

(ช่วงตอนเข้าโรงเรียนใหม่ ม.4)

ช่วงนั้นคือช่วงเทอม 1 ครับ ผมก็เรียนและห่างการออกกำลังกายไปซักพักแต่ก็ยังคุมอาหารอยู่
พอช่วงปิดเทอม 1 ผมจัดหนักเลยครับ ออกกำลังกายโดยการบอดี้เวทและวิ่งตอนเช้า 3 วันต่อสัปดาห์ครับ
เพราะยังติดนิสัยเล่นเกมส์อยู่ เลยทำได้ไม่เข้มข้นพอ แต่ผมลืมเล่าว่าก่อนหน้าจะเข้า ม.4 ผมก็ได้ไปฟิตเนส
ประมาณ 1 เดือน กว่าๆ ก็ไม่ได้ไปครับ เพราะผมเดินทางลำบาก บ้านผมค่อนข้างจะชุมชน รถโดยสารไม่มี
(ช่วงไปฟิตเนสประมาณเดือน ก.พ. 55 ครับ ผมเข้า ม.4 เดือน พ.ค. 55)

ต่อจากนั้นผมก็เข้มข้นกับการออกกำลังกายของผมเรื่อย ๆ ครับโดยการวิ่งและบอดี้เวทเช่นเดิม
และเลือกทานแต่อาหารที่ไม่มีไขมัน เราทุกคนรู้ครับว่าอาหารไหนดีไม่ดี ผมก็เช่นกัน
บางครั้งก็มีท้อและร้องไห้ครับว่าสิ่งที่เราทำไปมันถูกทางรึเปล่า จะเห็นผลรึเปล่า
แต่ผมก็ทำต่อไปครับ ถือว่ายังไงเราออกก็ดีกว่าไม่ได้ออก ทำให้พอใจพอไม่ได้ทำเป็นประจำวันครับ

จนมาเทอม 2 ผมเป็นแบบนี้ครับ



เห็นความแตกต่างไหมครับนี่คือช่วงน้ำหนัก 77-78 ใช่ครับผมไม่ได้สังเกตตัวเองจนกระทั่งมีคนทัก แล้วก็นั่งดูรูปเก่า ๆ
เห้ย ! มันจริงด้วย เมื่อก่อนเราเป็นขนาดนั้นเลยเหรอ ด้วยความตอนที่ผมทำผมไม่ได้นั่งจด
นั่งวัด ชั่งน้ำหนักทุกอาทิตย์ ตอนลดน้ำหนักผมก็มีหลุดบ้างครับ น้ำอัดลม ขนม บุฟเฟ่ต์
มันห้ามไม่ได้นี่หน่า คนเคยอ้วน แต่ผมเลือกทำสิ่งที่ผมมีความสุขดีกว่าการไปกดดันตัวผมเองครับ
จนมาทุกวันนี้ น้ำหนักปัจจุบันผมคือ 72 ไม่เกิน 74 ครับ
(ยังตัน ๆ อยู่ครับ กำลังเข้าโหมดลีนและสร้างกล้ามเนื้อในเร็ว ๆ นี้)

จนมีเรื่องความรักเข้ามาครับ ทำให้ผมสนใจในด้านการดูแลตนเองมากขึ้น ทาครีม ล้างหน้า
ทุกคืน ทุกวัน จากสมัยก่อนไม่สนใจอะไรเลย การออกกำลังกายและสิ่งต่าง ๆ ทำให้ผม "เปลี่ยน"
วิถีชีวิตไปยังกะคนละคนเลยครับ จนคนรอบข้างก็บอกว่าไม่เหมือนเดิมบ้าง ฮ่า ๆ ผมก็ว่าผมไม่เหมือนเดิมนะ
มาดูรูปตอนปัจจุบันกันครับ
(ตอนไปเที่ยวกับแฟนครั้งแรก และ แฟนคนแรกด้วยครับ ฮ่า ๆ กับปัจจุบัน)
(แต่ง Hip-Hop ได้สมใจแล้ว)

ถามว่าผมพอใจไหมกับรูปร่างตอนนี้ผมพอใจครับ อาจจะตัน ๆอยู่บ้างแต่เทียบกับตอนอ้วนเผละ
ต่างกันมากครับ ผมไม่ได้ถ่ายรูปไว้เนื่องจากไม่ได้จดบันทึกอย่างที่บอกไว้ข้างต้นครับ

การกินของผมก็ทานปกติเลยครับ ขอแค่เลือกทานเท่านั้นแหละ ไม่ได้แบ่ง 4หรือ5 มื้อแบบนักเล่นเวท
กิน 3 มื้อปกตินี่ละครับ แค่ในปริมาณที่ผมทานแล้วอิ่ม การออกกำลังกายคือบอดี้เวทหลักๆคือ วิดพื้น สควอต ลันจ์ ซิตอัพ
คาร์ดิโอจะเป็นจักรยานในช่วงเย็นถ้าเบื่อ ๆ แต่ถ้าช่วงเช้าจะวิ่งแทนครับ มีสลับ HIIT บ้างแต่ไม่มากผมจุก ฮ่าๆ
เป้าหมายของผมคืออยากมีหุ่นแบบ Charlie Cox พระเอกซีรีย์ Daredevil ครับ ใครนึกภาพไม่ออกก็ตามนี้

สรุปดังนี้ครับ เราต้องตั้งเป้าหมายและทำ ผมมองว่าการลดน้ำหนักหรือเปลี่ยนแปลงรูปร่างนั้นคือการเปลี่ยนการใช้ชีวิตครับ
ถ้าเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตได้ ผมว่ารูปร่างก็จะเปลี่ยน ออกกำลังกายให้พอเหมาะครับ
ไม่ต้องหักโหมออกทุกวันก็ได้ครับ ขอแค่ได้ออกกำลังกายก็พอ ให้มันพอดีไม่เกินขีดจำกัดเรา
เรื่องอาหารคลีนผมไม่ได้ทานคลีนเพียวๆนะ เนื่องด้วยโรงเรียนผมและเวลาในการเตรียมตัวไปโรงเรียนผม
มันไม่พอที่จะมานั่งทำอาหารคลีน ผมจึงเลือก "ทาน" ครับ แค่นั้นเอง น้ำเปล่าตลอด กับข้าวโรงเรียนก็เลือกสั่งเอา
ถ้าได้ทานก๋วยเตี๋ยวจะดีมาก แล้วทุกอย่างมันจะเปลี่ยนร่างกายคุณเองครับ

สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนที่กำลังลดน้ำหนัก ขอแค่อย่ายอมแพ้ครับ ผมเชื่อว่าเมื่อเราทำมันได้แล้วสิ่งที่เราจะมีคือ
ความมั่นใจ ความรับผิดชอบ ความมีวินัย มากขึ้นเลยหล่ะครับ ทุกวันนี้ผมใส่เสื้อ size L จาก XXL กางเกงเอว 34 จาก 42
และสิ่งที่เราไม่คาดคิดอีกมากมายจะตามมาครับ ยกตัวอย่างผมเลยก็คือ การได้มีแฟนคนแรก นั่นเองครับตอนผมอ้วนนั้น
ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีแฟนเลยด้วยซ้ำจนมาวันนี้ก็โอเคกับการที่เราลงแรงตั้งใจทำมันขึ้นมา คุ้มค่ากับการรอคอยครับ
วิธีของผมมันอาจจะไม่ถูกหลักการ 100% ขอให้นำไปปรับใช้กันเองนะครับ ผมลดน้ำหนักสไตล์เด็กมัธยม ฮ่า ๆ

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านประสบการณ์ของผมนะครับ
มีข้อสงสัยถามได้นะครับ https://www.facebook.com/Saichaniaz
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่