คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 18
ตามค.ห. 1 กับ 2 บอกเหมือนกันค่ะ นอกจากเรื่องดื่มน้ำน้อย แล้วร่างกายจะบวมน้ำ(เพราะร่างกายคิดว่าเราขาดน้ำ จึงต้องกักเก็บเก็บน้ำไว้ แต่ถ้าเราดื่มน้ำเพียงพอสม่ำเสมอ ร่างกายก็จะขับออกเองค่ะ) ยังใช้กับเรื่องหน้ามันได้ด้วย น้ำมันบนใบหน้าของเราถูกผลิตมาเพื่อรักษาความชุ่มชื้น ถ้าเราดื่มน้ำน้อย หรือ ใช้โฟมล้างหน้าที่แรงเกินไป(น้ำมันบนใบหน้าหายหมด)หรือระบบการทำงานของร่างกายไม่ดี ผิวขาดความชุ่มชื้น ร่างกายก็ยิ่งต้องเร่งผลิตน้ำมันออกมาเยอะๆ เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวไว้ เวลาผิวแตก ปากแตกก็เหมือนกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นกับกรรมพันธุ์ สภาพแวดล้อมของแต่ละคนด้วย เช่น ถ้ากรรมพันธุ์เป็นคนผิวไม่มัน ก็อาจจะผิวลอกไปเลย (แต่อย่างเราเป็นคนหน้ามัน แต่หน้าลอกค่ะ ปากแตกทุกฤดู แต่ตอนนี้หายละ ^_^)
ที่อยากจะบอกคือ 1.ทานให้เพียงพอต่อความต้องการต่อวัน อย่าอดมื้อกินมื้อ อย่ากินน้ำแทนข้าว อย่ากินแอปเปิ้ลแค่ลูกเดียวแทนข้าวเย็น ร่างกายถ้ามันรู้สึกว่าเราอดอยาก มันจะทำแบบเดียวกันค่ะ คือ สะสมไขมัน แล้วตัวไขมันนี่ล่ะค่ะ ลดยากที่สุดเลย เพราะเวลาออกกำลังกาย ไขมันจะเป็นตัวสุดท้ายที่ถูกดึงมาใช้ (เป็นตัวสำรองของสำรองเลย) และแถมในทางการแพทย์ คนที่มีปริมาณไขมันสูง ยังมี % การเป็นโรคสูงอย่างเห็นได้ชัดด้วยค่ะ

2.ออกกำลังกายค่ะ โดยเฉพาะผู้หญิง แนะนำให้เล่นเวท(ควบคู่กับคาร์ดิโอ)เลย อย่ากลัวกล้าม รู้มั้ยคะ ว่ากว่ากล้ามจะมาได้ซักมัดนึงเนี่ยต้องใช้อะไรบ้าง คุณต้องมีฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน คุณต้องกินๆๆและกิน เพราะกล้ามต้องใช้พลังงาน ต้องการสารอาหารในการสร้าง คุณต้องเล่นเวท ออกกำลังกายอย่างหนัก แล้วที่สำคัญ คือต้องมีเวลา ขนาดผู้ชายที่เค้าเคร่งครัดในเรื่องนี้เค้ายังใช้เวลาเป็นเดือนๆ เป็นปีๆเลย นับประสาอะไรกับผู้หญิงที่กินแค่แอปเปิ้ลลูกเดียว (อยากบอกว่า ไม่ได้มีอคติกับแอปเปิ้ลนะคะ 5555 )ออกกำลังกายเดือนละครั้ง ฮอร์โมนก็ไม่ค่อยมี(ถ้าผู้หญิงคนไหนขนขึ้นรุงรัง หนวดเฟิ้ม ค่อยว่ากัน) ทำไมถึงอยากให้เสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพราะการที่เราออกกำลังกายมาก รับสารอาหารมาก ผลที่เห็นชัดเลยคือสุขภาพแข็งแรง อ้วนยาก(เพราะกล้ามเนื้อเผาผลาญมากกว่าไขมัน ทำให้ระบบเผาผลาญเราดีค่ะ ถ้าระบบเผาผลาญไม่ดี ร่างกายก็จะเก็บสะสมสารอาหารส่วนเกินในรูปไขมันได้ง่าย/โยโย่ง่าย) หุ่นดี กระชับ หน้าใส, หน้าเด็ก=มาคู่กับสุขภาพดีค่ะ ซึ่งอยากบอกเลยว่าไม่มีครีมบำรุงตัวไหนในโลกทำได้แบบนี้นะคะ
3.จิบน้ำบ่อยๆระหว่างวัน ไม่ควรดื่มมากๆขณะทานข้าว เพราะทำให้กรดในกระเพาะเจือจาง ย่อยยาก
4.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ร่างกายจำเป็นต้องฟื้นฟู ซ่อมแซมตัวเองค่ะ การสร้างกล้ามเนื้อก็ต้องอาศัยการพักผ่อนด้วยค่ะ (จริงๆแล้วหลักในการสร้างกล้ามเนื้อ คือทำให้กล้ามเนื้อฉีกขาดก่อน(โดยการออกกำลังกายหนักๆ )เพื่อเป็นการเร่งให้ร่างกายสร้างกล้ามเนื้อขึ้นใหม่ในภายหลัง แต่มันไม่ได้ฉีกขาดแบบ แควก!อะไรแบบนั้นน อย่าพึ่งตกใจ 555+ มันเป็นการฉีกขาดในระดับเล็กๆอ่ะค่ะ ที่มาพร้อมอาการปวดกล้ามเนื้อนิดหน่อย กับคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกายอาจจะแหยง แต่คนที่ออกกำลังกายบ่อยๆ ชอบมากนะคะ(แอบซาดิสต์ 555+) เพราะเรารู้ว่ามันเป็นผลดีกับเราอ่ะค่ะ อีกอย่างการออกกำลังกายทำให้ฮอร์โมนที่กระตุ้นระบบการทำงานต่างๆในร่างกายเราหลั่ง รวมถึงฮอร์โมนแห่งความสุขด้วยค่ะ)
5.ทำจิตใจให้แจ่มใส และอีกอย่างที่อยากบอกไว้คือ อย่าหันไปพึ่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เมื่อเครียด นอกจากทำให้เราขาดสติแล้ว ยังขัดขวางการออกกำลังกายของเราด้วย เพราะการดื่มแอลกอฮอล์ ปริมาณ xx (จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่) ทำให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนเราลดลงต่อเนื่องถึง 7 วัน และทำให้เราบวมน้ำด้วยค่ะ
อีกอย่างหนึ่งที่อยากจะบอกคือ คนมีกล้าม จริงๆไม่ได้ตัวใหญ่หรอกนะคะ แต่คนมีกล้ามที่เห็นว่าตัวใหญ่ จริงๆแล้ว คือคนที่ไขมันยังพอกกล้ามเนื้อเขาอยู่ (เพิ่งเริ่มต้นเล่น) จริงๆกล้ามเนื้อมัดนิดเดียวเอง คนที่เล่นแบบธรรมชาติ ส่วนใหญ่(ในที่สุด)จะรูปร่างสมส่วนทั้งนั้นล่ะค่ะ แต่ที่เห็นแบบเดอะฮัลค์ นักกีฬาทีมชาติ กล้ามปูดๆ อันนั้นเค้าฉีดยากัน แล้วก็เรื่องน้ำหนัก ไม่อยากให้กังวลมาก เพราะกล้ามหนักกว่าไขมันค่ะ ถ้าให้ผู้หญิงคนหนึ่งหนัก 50 kg เธอเล่นเวทด้วย มีกล้ามเนื้อ สัดส่วนสวยงาม เทียบกับอีกคน หนักเท่ากัน ปล่อยปละละเลยตัวเอง ร่างกายมีแต่ไขมัน ผู้หญิงคนนี้จะอ้วนแผละกว่าผู้หญิงคนแรกเยอะ น้ำหนักไม่ได้บอกทุกอย่าง เราอาจจะหนัก 50 แต่อ้วนแผละเป็นช้างน้ำ แต่ถ้าเราเล่นเวท เราอาจจะหนัก 60 แต่หุ่นดีเป็นนางแบบ อยากเป็นช้างน้ำ หนัก 50 หรืออยากเป็นนางแบบ หนัก 60 ก็เลือกเอาเถิด
ป.ล ไม่ได้เขียนทั้งหมด อยากให้ลองไปหาอ่านกันดูเอาเองนะคะ โลกแห่งการดูแลตนเองมันพิศวงค่ะ >___< A Magic of Beauty วู้~!
ที่อยากจะบอกคือ 1.ทานให้เพียงพอต่อความต้องการต่อวัน อย่าอดมื้อกินมื้อ อย่ากินน้ำแทนข้าว อย่ากินแอปเปิ้ลแค่ลูกเดียวแทนข้าวเย็น ร่างกายถ้ามันรู้สึกว่าเราอดอยาก มันจะทำแบบเดียวกันค่ะ คือ สะสมไขมัน แล้วตัวไขมันนี่ล่ะค่ะ ลดยากที่สุดเลย เพราะเวลาออกกำลังกาย ไขมันจะเป็นตัวสุดท้ายที่ถูกดึงมาใช้ (เป็นตัวสำรองของสำรองเลย) และแถมในทางการแพทย์ คนที่มีปริมาณไขมันสูง ยังมี % การเป็นโรคสูงอย่างเห็นได้ชัดด้วยค่ะ

2.ออกกำลังกายค่ะ โดยเฉพาะผู้หญิง แนะนำให้เล่นเวท(ควบคู่กับคาร์ดิโอ)เลย อย่ากลัวกล้าม รู้มั้ยคะ ว่ากว่ากล้ามจะมาได้ซักมัดนึงเนี่ยต้องใช้อะไรบ้าง คุณต้องมีฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน คุณต้องกินๆๆและกิน เพราะกล้ามต้องใช้พลังงาน ต้องการสารอาหารในการสร้าง คุณต้องเล่นเวท ออกกำลังกายอย่างหนัก แล้วที่สำคัญ คือต้องมีเวลา ขนาดผู้ชายที่เค้าเคร่งครัดในเรื่องนี้เค้ายังใช้เวลาเป็นเดือนๆ เป็นปีๆเลย นับประสาอะไรกับผู้หญิงที่กินแค่แอปเปิ้ลลูกเดียว (อยากบอกว่า ไม่ได้มีอคติกับแอปเปิ้ลนะคะ 5555 )ออกกำลังกายเดือนละครั้ง ฮอร์โมนก็ไม่ค่อยมี(ถ้าผู้หญิงคนไหนขนขึ้นรุงรัง หนวดเฟิ้ม ค่อยว่ากัน) ทำไมถึงอยากให้เสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพราะการที่เราออกกำลังกายมาก รับสารอาหารมาก ผลที่เห็นชัดเลยคือสุขภาพแข็งแรง อ้วนยาก(เพราะกล้ามเนื้อเผาผลาญมากกว่าไขมัน ทำให้ระบบเผาผลาญเราดีค่ะ ถ้าระบบเผาผลาญไม่ดี ร่างกายก็จะเก็บสะสมสารอาหารส่วนเกินในรูปไขมันได้ง่าย/โยโย่ง่าย) หุ่นดี กระชับ หน้าใส, หน้าเด็ก=มาคู่กับสุขภาพดีค่ะ ซึ่งอยากบอกเลยว่าไม่มีครีมบำรุงตัวไหนในโลกทำได้แบบนี้นะคะ
3.จิบน้ำบ่อยๆระหว่างวัน ไม่ควรดื่มมากๆขณะทานข้าว เพราะทำให้กรดในกระเพาะเจือจาง ย่อยยาก
4.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ร่างกายจำเป็นต้องฟื้นฟู ซ่อมแซมตัวเองค่ะ การสร้างกล้ามเนื้อก็ต้องอาศัยการพักผ่อนด้วยค่ะ (จริงๆแล้วหลักในการสร้างกล้ามเนื้อ คือทำให้กล้ามเนื้อฉีกขาดก่อน(โดยการออกกำลังกายหนักๆ )เพื่อเป็นการเร่งให้ร่างกายสร้างกล้ามเนื้อขึ้นใหม่ในภายหลัง แต่มันไม่ได้ฉีกขาดแบบ แควก!อะไรแบบนั้นน อย่าพึ่งตกใจ 555+ มันเป็นการฉีกขาดในระดับเล็กๆอ่ะค่ะ ที่มาพร้อมอาการปวดกล้ามเนื้อนิดหน่อย กับคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกายอาจจะแหยง แต่คนที่ออกกำลังกายบ่อยๆ ชอบมากนะคะ(แอบซาดิสต์ 555+) เพราะเรารู้ว่ามันเป็นผลดีกับเราอ่ะค่ะ อีกอย่างการออกกำลังกายทำให้ฮอร์โมนที่กระตุ้นระบบการทำงานต่างๆในร่างกายเราหลั่ง รวมถึงฮอร์โมนแห่งความสุขด้วยค่ะ)
5.ทำจิตใจให้แจ่มใส และอีกอย่างที่อยากบอกไว้คือ อย่าหันไปพึ่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เมื่อเครียด นอกจากทำให้เราขาดสติแล้ว ยังขัดขวางการออกกำลังกายของเราด้วย เพราะการดื่มแอลกอฮอล์ ปริมาณ xx (จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่) ทำให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนเราลดลงต่อเนื่องถึง 7 วัน และทำให้เราบวมน้ำด้วยค่ะ
อีกอย่างหนึ่งที่อยากจะบอกคือ คนมีกล้าม จริงๆไม่ได้ตัวใหญ่หรอกนะคะ แต่คนมีกล้ามที่เห็นว่าตัวใหญ่ จริงๆแล้ว คือคนที่ไขมันยังพอกกล้ามเนื้อเขาอยู่ (เพิ่งเริ่มต้นเล่น) จริงๆกล้ามเนื้อมัดนิดเดียวเอง คนที่เล่นแบบธรรมชาติ ส่วนใหญ่(ในที่สุด)จะรูปร่างสมส่วนทั้งนั้นล่ะค่ะ แต่ที่เห็นแบบเดอะฮัลค์ นักกีฬาทีมชาติ กล้ามปูดๆ อันนั้นเค้าฉีดยากัน แล้วก็เรื่องน้ำหนัก ไม่อยากให้กังวลมาก เพราะกล้ามหนักกว่าไขมันค่ะ ถ้าให้ผู้หญิงคนหนึ่งหนัก 50 kg เธอเล่นเวทด้วย มีกล้ามเนื้อ สัดส่วนสวยงาม เทียบกับอีกคน หนักเท่ากัน ปล่อยปละละเลยตัวเอง ร่างกายมีแต่ไขมัน ผู้หญิงคนนี้จะอ้วนแผละกว่าผู้หญิงคนแรกเยอะ น้ำหนักไม่ได้บอกทุกอย่าง เราอาจจะหนัก 50 แต่อ้วนแผละเป็นช้างน้ำ แต่ถ้าเราเล่นเวท เราอาจจะหนัก 60 แต่หุ่นดีเป็นนางแบบ อยากเป็นช้างน้ำ หนัก 50 หรืออยากเป็นนางแบบ หนัก 60 ก็เลือกเอาเถิด
ป.ล ไม่ได้เขียนทั้งหมด อยากให้ลองไปหาอ่านกันดูเอาเองนะคะ โลกแห่งการดูแลตนเองมันพิศวงค่ะ >___< A Magic of Beauty วู้~!
ความคิดเห็นที่ 2
การดื่มน้ำมากๆ ไม่ได้ทำให้ร่างกายบวมน้ำนะค่ะ แต่การขาดน้ำต่างหาก ทำให้ร่างกายบวมน้ำ....
ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิดหรอก การที่ร่างกายรู้สึกว่าได้รับน้ำไม่เพียงพอ ร่างกายจะกักเก็บน้ำไว้ในตัว เพราะกลัวที่จะสุญเสียน้ำไป ทำให้เราบวมน้ำได้ เพราะฉะนั้น ทำทุกอย่างให้พอดี ร่างกายก็จะอยู่ในโหมดสมดุลย์ค่ะ ไม่ดื่มมากไป และไม่น้อยไป....และในทางกลับกลับกัน ถ้าเราดื่มน้ำได้เพียงพอ ร่างกายก้อขับถ่ายทิ้งไปเท่านั้นเอง เป็นสาเหตุให้เราฉี่บ่อยๆ.....
อีกอย่าง การรับประทานอาหารเค็ม หรือ โซเดียมมากไป ก้อเป็นสาเหตุของการบวมน้ำได้ค่ะ (สังเกตุได้จากตัวเองที่ชัดมาก ถ้าก่อนนอนกินมาม่า ตอนเช้าตื่นมา หน้าอืดเขียว)......
ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิดหรอก การที่ร่างกายรู้สึกว่าได้รับน้ำไม่เพียงพอ ร่างกายจะกักเก็บน้ำไว้ในตัว เพราะกลัวที่จะสุญเสียน้ำไป ทำให้เราบวมน้ำได้ เพราะฉะนั้น ทำทุกอย่างให้พอดี ร่างกายก็จะอยู่ในโหมดสมดุลย์ค่ะ ไม่ดื่มมากไป และไม่น้อยไป....และในทางกลับกลับกัน ถ้าเราดื่มน้ำได้เพียงพอ ร่างกายก้อขับถ่ายทิ้งไปเท่านั้นเอง เป็นสาเหตุให้เราฉี่บ่อยๆ.....
อีกอย่าง การรับประทานอาหารเค็ม หรือ โซเดียมมากไป ก้อเป็นสาเหตุของการบวมน้ำได้ค่ะ (สังเกตุได้จากตัวเองที่ชัดมาก ถ้าก่อนนอนกินมาม่า ตอนเช้าตื่นมา หน้าอืดเขียว)......
แสดงความคิดเห็น
ดื่มน้ำเยอะๆ..ช่วยลดน้ำหนักจริงหรือ?
ซึ่งเราจะเห็นพี่คนนั้นจะดื่มน้ำเยอะมากค่ะ ในระหว่างงานเห็นดื่มประมาณ 6-7 แก้ว (แก้วหนึ่งประมาณ 100 มิลลิลิตร)
เราคิดค่ะว่าใน 1 วันคงดื่มมากกว่า 10 แก้วแน่นอน
เราเคยอ่านมาค่ะว่า การดื่มน้ำมากๆแต่ดื่มไม่ถูก จริงๆมันอาจจะทำให้ร่างกายเราบวมน้ำได้
ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่?
ยังไงก็รบกวนผู้รู้ท่านๆอื่นๆช่วยตอบคำถามหน่อยนะคะ