สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
1. ไม่ใช่ค่ะ fat burning zone คือ zone ที่เบิร์นสัดส่วนไขมันมากกว่าไกลโคเจนเท่านั้นเอง แต่ในแง่ของปริมาณแล้ว ทำให้เบิร์นปริมาณไขมันได้นิดเดียว เพราะวิ่งช้า ไม่เหนื่อย
แต่ถ้าวิ่งเร็วขึ้น เข้า zone cardio (70% ของ max) จะทำให้ปริมาณเบิร์นไขมันได้มากยิ่งขึ้น แม้ว่าสัดส่วนการเบิร์นไขมันต่อไกลโคเจนน้อยลงก็ตาม
ดังนั้น ถ้าร่างกายคุณฟิตพอให้วิ่งเร็วได้ วิ่งเร็ว ดีกว่าวิ่งช้า
2. ถ้าวิ่งให้เหนื่อยโฮกๆ ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในโซน คาร์ดิโอ้ ปลายๆ หรือเหนือกว่าขึ้นไป
หากวิ่งได้เร็วสุดขีด ให้ทำสลับกับการเดิน ผ่อนหนักผ่อนเบา คือวิ่งให้หัวใจเต้นเร็วสุด 30 วิ หรือ 1 นาที และผ่อนลงมาเดิน 1 นาที หรือ 2 นาที สลับกันไป 15 นาที (คือการทำ hiit)
คุณจะได้ afterburnt effect ด้วย คืออีกหลายชั่วโมงถัดมา แม้ว่าคุณจะพักแล้ว ร่างกายจะยังเบิร์นไขมันอยู่ ก็เป็นการออกกำลังที่มีประสิทธิภาพในการเบิร์นไขมันมากกว่าการวิ่งช้าๆ เรื่อยๆ ที่เมื่อหยุดวิ่งก็หยุดเบิร์น
การทำ hiit ทำอาทิตย์ละ 2 ครั้งก็พอค่ะ วันอื่นๆ ก็เล่นเวทไป
แต่ถ้าวิ่งเร็วขึ้น เข้า zone cardio (70% ของ max) จะทำให้ปริมาณเบิร์นไขมันได้มากยิ่งขึ้น แม้ว่าสัดส่วนการเบิร์นไขมันต่อไกลโคเจนน้อยลงก็ตาม
ดังนั้น ถ้าร่างกายคุณฟิตพอให้วิ่งเร็วได้ วิ่งเร็ว ดีกว่าวิ่งช้า
2. ถ้าวิ่งให้เหนื่อยโฮกๆ ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในโซน คาร์ดิโอ้ ปลายๆ หรือเหนือกว่าขึ้นไป
หากวิ่งได้เร็วสุดขีด ให้ทำสลับกับการเดิน ผ่อนหนักผ่อนเบา คือวิ่งให้หัวใจเต้นเร็วสุด 30 วิ หรือ 1 นาที และผ่อนลงมาเดิน 1 นาที หรือ 2 นาที สลับกันไป 15 นาที (คือการทำ hiit)
คุณจะได้ afterburnt effect ด้วย คืออีกหลายชั่วโมงถัดมา แม้ว่าคุณจะพักแล้ว ร่างกายจะยังเบิร์นไขมันอยู่ ก็เป็นการออกกำลังที่มีประสิทธิภาพในการเบิร์นไขมันมากกว่าการวิ่งช้าๆ เรื่อยๆ ที่เมื่อหยุดวิ่งก็หยุดเบิร์น
การทำ hiit ทำอาทิตย์ละ 2 ครั้งก็พอค่ะ วันอื่นๆ ก็เล่นเวทไป
แสดงความคิดเห็น
การควบคุมให้อยู่ในช่วง fat burning zone นั้นยากมากและไม่ค่อยเหนื่อยเลยอะครับ
1.หากเราต้องการลดพุง ละลายไขมัน ต้องคอยรักษาให้อยู่ในช่วงนั้นดีที่สุดหรือครับ
2.หากผมคารดิโอแบบเหนื่อยโฮกๆ โดยไม่ต้องสนใจอะไรเลย พุงผมจะลดลงได้ดีกว่าแบบที่ต้องคอยควบคุมไหมครับ