คริสตชนคาทอลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้หรือไม่? บรรดาพระสงฆ์คาทอลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้หรือไม่? คริสตชนคาทอลิกสามารถเมาได้หรือไม่?
แนวทางของพระศาสนจักรคาทอลิกในเกือบทุกเรื่องนั้นหาจุดสมดุลระหว่าง 2 ฝั่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ไม่ต่างกัน เรามักนึกถึงการดื่มจนเมามาย ในขณะที่คริสตชนบางคนเลือดที่จะปฏิเสธเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มุมมองของพระศาสนจักรคาทอลิกยอมรับถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการดื่มในทางที่ผิด และแก้ไขด้วยการส่งเสริมการใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเหมาะสม ซึ่งทุกคนล้วนได้รับเชิญให้ทำเช่นนี้ แนวทางของพระศาสนจักรคาทอลิกในการดื่มได้นำธรรมประเพณีการเฉลิมฉลองของพระศาสนจักรคาทอลิกมาประยุกต์ใช้ เพื่อประยุกต์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เข้ากับความสัมพันธ์ที่เป็นระเบียบเรียบร้อยและพันธกิจของพระศาสนจักรในการประกาศข่าวดี
+ แนวคิดของพระศาสนจักรคาทอลิก +
แนวคิดพระศาสนจักรคาทอลิกมีรากฐานมาจากธรรมประเพณีโบราณ ยกย่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ว่า เป็นเครื่องหมายอัศจรรย์ครั้งแรกของพระเยซูเจ้าที่ทรงกระทำที่หมู่บ้านคานา ในแคว้นกาลิลี ทรงอวยพรไวน์สำหรับงานมงคลสมรส (ยอห์น 2:1-12) และมีบทบาทสำคัญในศีลมหาสนิท (ลูกา 22:20) พระคัมภีร์สอนว่า เมื่อใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างถูกต้อง จะเป็นพระพรที่ “เพื่อให้จิตใจมนุษย์ร่าเริง” (สดุดี 104:15) และส่งเสริมความยินดีและสุขภาพ พระศาสนจักรดั้งเดิมแสดงให้เห็นว่า เมื่อดื่มอย่างถูกต้อง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะถวายเกียรติแด่พระเจ้าและเสริมสร้างชีวิตฝ่ายวิญญาณ
+ ในทำนองเดียวกัน เมื่อการเลี้ยงอาหารเสร็จสิ้นแล้ว พระองค์ทรงหยิบถ้วยตรัสว่า “ถ้วยนี้เป็นพันธสัญญาใหม่ในโลหิตของเราที่หลั่งเพื่อท่านทั้งหลาย” - ลูกา 22:20 การตั้งศีลมหาสนิท

+ สามวันต่อมา มีงานมงคลสมรสที่หมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในงานนั้น พระเยซูเจ้าทรงได้รับเชิญพร้อมกับบรรดาศิษย์มาในงานนั้นด้วย เมื่อเหล้าองุ่นหมด พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงมาทูลพระองค์ว่า “เขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “แม่ครับ แม่ต้องการอะไรจากลูก เวลาของลูกยังมาไม่ถึง” พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงกล่าวแก่บรรดาผู้รับใช้ว่า “เขาบอกให้ท่านทำอะไร ก็จงทำเถิด” ที่นั่นมีโอ่งหินตั้งอยู่หกใบ เพื่อใช้ชำระตนตามธรรมเนียมของชาวยิว แต่ละใบจุน้ำได้ประมาณหนึ่งร้อยลิตร พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาผู้รับใช้ว่า “จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็ม” เขาก็ตักน้ำใส่จนเต็มถึงขอบ แล้วพระองค์ทรงสั่งเขาอีกว่า “จงตักไปให้ผู้จัดงานเลี้ยงเถิด” เขาก็ตักไปให้ ผู้จัดงานเลี้ยงได้ชิมน้ำที่เปลี่ยนเป็นเหล้าองุ่นแล้ว ไม่รู้ว่าเหล้านี้มาจากไหน แต่ผู้รับใช้ที่ตักน้ำรู้ดี ผู้จัดงานเลี้ยงจึงเรียกเจ้าบ่าวมา พูดว่า “ใครๆ เขานำเหล้าองุ่นอย่างดีมาให้ก่อน เมื่อบรรดาแขกดื่มมากแล้ว จึงนำเหล้าองุ่นอย่างรองมาให้ แต่ท่านเก็บเหล้าอย่างดีไว้จนถึงบัดนี้”
พระเยซูเจ้าทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์ครั้งแรกนี้ที่หมู่บ้านคานา แคว้นกาลิลี พระองค์ทรงแสดงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ และบรรดาศิษย์เชื่อในพระองค์ หลังจากนั้น พระเยซูเจ้าเสด็จไปเมืองคาเปอรนาอุมพร้อมกับพระมารดา พระประยูรญาติและบรรดาศิษย์ ทุกคนพำนักอยู่ที่นั่นเพียงสองสามวัน - ยอห์น 2:1-12 งานมงคลสมรสที่หมู่บ้านคานา
+ และมีเหล้าองุ่นเพื่อให้จิตใจมนุษย์ร่าเริง มีน้ำมันเพื่อให้ใบหน้าของเขาสดชื่น มีอาหารเพื่อเสริมกำลังให้เขา - สดุดี 104:15 เพลงสรรเสริญพระผู้เนรมิตสรรพสิ่ง
+ ปัญหาเรื่องการดื่มความเกินพอดี +
พระคัมภีร์ยังแสดงให้เห็นอีกด้านหนึ่งของการดื่ม นั่นคือ การดื่มอย่างผิดวิธี สิ่งดีใดๆที่พระเจ้าทรงสร้างไว้สามารถถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ หากเราไม่ได้จัดวางอย่างเหมาะสมเพื่อพระองค์และเพื่อประโยชน์ของเราเอง ตัวอย่างเช่น การเมาสุราของโนอาห์ และคำเตือนของเปาโลเกี่ยวกับการดื่มมากเกินไป (1 โครินธ์ 6:10 , กาลาเทีย 5:21) แสดงให้เห็นว่า การดื่มสามารถนำไปสู่บาปและแม้กระทั่งขัดขวางการเข้าสู่อาณาจักรแห่งสวรรค์ได้อย่างไร
+ คนขโมย คนโลภ คนขี้เมา คนปากร้าย คนฉ้อโกง คนเหล่านี้จะไม่ได้รับพระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดก - 1 โครินธ์ 6:10 การชำระข้อพิพาทในศาลของคนต่างศาสนา
+ การเมามาย การสำมะเลเทเมา และอีกหลายประการในทำนองเดียวกันนี้ ข้าพเจ้าขอเตือนท่านทั้งหลายอีกครั้งหนึ่งดังที่เคยเตือนมาแล้วว่า ผู้ที่ประพฤติตนเช่นนี้จะไม่ได้อาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดก - กาลาเทีย 5:21 เสรีภาพและความรัก
ข้อห้ามของพระเจ้าไม่ได้มีไว้เพื่อเป็นภาระแก่เรา แต่เพื่อปกป้องเราจากอันตราย ความเมาบั่นทอนเหตุผลและเจตจำนงเสรีของเรา ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ทำให้เราแตกต่างจากสัตว์ และช่วยให้เราเลือกสิ่งที่ดีและมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าได้ การดื่มมากเกินไปมักนำไปสู่การกระทำที่เป็นบาปมากขึ้น เพราะมันบดบังประสาทสัมผัสของเราและบั่นทอนเสรีภาพของเรา
ยิ่งไปกว่านั้น การดื่มมากเกินไปยังส่งผลเสียต่อสุขภาพและเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของผู้อื่นและตัวเราเอง น่าเสียดายที่หลายคนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปเพื่อพยายามหลีกหนีจากความเป็นจริง , รับมือกับอารมณ์ด้านลบ เป็นต้น
ประมวลคำสอนของพระศาสนจักรระบุว่า การเมาเป็นบาปที่ขัดต่อพระบัญญัติประการที่ 5 อย่าฆ่าคน โดยเตือนเราให้หลีกเลี่ยงความฟุ่มเฟือยและฝึกหัดสติ หลักธรรมแห่งสติสัมปชัญญะชี้นำให้เราใช้สิ่งของต่างๆ เช่น ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างพอประมาณ เพื่อช่วยให้เราเพลิดเพลินกับสิ่งเหล่านั้นได้อย่างมีความรับผิดชอบ ในขณะเดียวกันก็รักษาสุขภาพ , ความสัมพันธ์ และเสรีภาพของเราไว้ด้วย
+ แล้วคริสตชนคาทอลิกจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้อย่างไร? แนวทางบางประการสำหรับการดื่มของคริสตชนคาทอลิก +
“กิลเบิร์ต คีธ เชสเตอร์ตัน (Gilbert Keith Chesterton)” เคยกล่าวไว้ว่า “จงดื่มเพราะคุณมีความสุข แต่อย่าดื่มเพราะคุณมีความทุกข์” เราควรดื่มด้วยเหตุผลที่ถูกต้องเสมอ สั่งเครื่องดื่มของเราเพื่อถวายแด่พระเจ้าเพื่อเป็นการขอบพระคุณและสรรเสริญ เทศกาลของคาทอลิกประกอบด้วยการดื่มเพื่อเฉลิมฉลอง ควบคู่ไปกับการรับประทานอาหาร , ดนตรี และมิตรภาพ ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสและงานฉลองสำคัญ การดื่มเพื่อขอบพระคุณและดื่มอย่างพอประมาณจะช่วยเพิ่มความสุขให้กับช่วงเวลาเหล่านี้
“กิลเบิร์ต คีธ เชสเตอร์ตัน (Gilbert Keith Chesterton)”
การดื่มควรส่งเสริมให้เกิดชุมชนที่แท้จริง เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกันแทนที่จะสร้างความโดดเดี่ยว การดื่มร่วมกับครอบครัวหรือเพื่อนฝูงจะช่วยส่งเสริมการสนทนาและการเชื่อมโยง เราจะได้สัมผัสรสชาติและคุณภาพของเครื่องดื่ม รสชาติที่เข้ากันได้ดีกับมื้ออาหาร หรือประเพณีต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการดื่มร่วมกัน
ความพอประมาณเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งในปริมาณที่ดื่มในแต่ละครั้งและความถี่ในการดื่ม การรู้ขีดจำกัดส่วนบุคคลช่วยหลีกเลี่ยงความบกพร่อง และช่วงเวลาการอดอาหารและการพลีกรรมของพระศาสนจักร เช่นเดียวกับช่วงเทศกาลมหาพรต เปิดโอกาสให้เราทบทวนพฤติกรรมการดื่ม การเคารพกฎหมาย ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาสุขภาพและความรับผิดชอบต่อการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
+ ความศักดิ์สิทธิ์และการประกาศข่าวดี +
พระคัมภีร์และธรรมประเพณีของพระศาสนจักรคาทอลิกแสดงให้เห็นว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่มีสุขภาพดีและศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่การใช้แอลกอฮอล์ในทางที่ผิดนั้นก่อให้เกิดอันตรายอย่างแท้จริง แม้ว่าไวน์จะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ แต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้จำเป็นต่อชีวิต และเราควรงดเว้นหากมันกลายเป็นสิ่งล่อใจหรือเป็นสิ่งรบกวน การดื่มของเราควรเป็นการถวายเกียรติแด่พระเจ้า หากไม่เป็นเช่นนั้น อาจจำเป็นต้องกำจัดมันออกไปจากชีวิตของเรา
วิธีหนึ่งที่การดื่มสามารถส่งเสริมความศักดิ์สิทธิ์ได้ คือ การนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปสู่การประกาศข่าวดีเมื่อดื่มอย่างเหมาะสม หลายเขตวัดและพันธกิจหลายแห่งได้จัดกิจกรรมที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วยส่งเสริมการสนทนาและสร้างชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนหนุ่มสาว มักเปิดใจมากขึ้นในการเข้าสังคมและพูดคุยเกี่ยวกับความเชื่อในบรรยากาศสบายๆ เช่น ผับ ซึ่งสะท้อนถึงธรรมประเพณีของพระศาสนจักรที่บรรดาฤาษีจะต้มเบียร์และไวน์เพื่อสร้างชุมชนและรับใช้ผู้อื่น
คริสตชนคาทอลิกควรเป็นตัวอย่างที่ขัดกับวัฒนธรรมของความพอประมาณ , ความยินดีชื่นชมยินดี และความศักดิ์สิทธิ์ในวิธีการรับมือกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ “นักบุญปีแอร์ จอร์โจ ฟราสซาติ (Saint Pier Giorgio Frassati)” เป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องนี้ มีเรื่องเล่าว่า บางครั้งท่านสวดสายประคำหรือบทภาวนาอื่นๆในหัว เมื่อขณะที่ท่านสวดจบ ท่านก็จะออกไปซื้อเบียร์ให้เพื่อนๆของท่านสักแก้ว
“นักบุญปีแอร์ จอร์โจ ฟราสซาติ (Saint Pier Giorgio Frassati)”
#คริสต์ #คาทอลิก #คริสต์ศรัทธา #คริสตชนคาทอลิก #คริสตชน #คริสตัง #คริสเตียน #พระศาสนจักรคาทอลิก #พระศาสนจักร #ดื่ม #เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ #แอลกอฮอล์ #เมา #พระคัมภีร์ #catholic
CR. : คริสต์ศรัทธา
https://www.facebook.com/share/p/1BJojE6qJh/?mibextid=wwXIfr
คริสตชนคาทอลิกสามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้หรือไม่?