๘
เรนอนนิ่งอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล แสงแดดอ่อน ๆ สาดผ่านบานหน้าต่างไม้เข้ามาอาบร่าง ในมุมห้อง ชายหนุ่มรูปร่างโปร่งกำยำ สวมผ้าสีขาวคาดหน้าผาก กำลังเช็ดขอบหน้าต่างอย่างขะมักเขม้น ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มสดใส ดวงตาเป็นประกายซุกซน ผมดำตั้งชันยุ่งเหยิง
เมื่อเห็นคนบนเตียงเริ่มขยับตัว ชายหนุ่มหันขวับมามอง รีบโยนผ้าเช็ดไปในถังไม้แล้วก้าวเข้ามาใกล้
"เจ้าตื่นแล้ว! เป็นยังไงบ้าง" เขาถามด้วยน้ำเสียงสดใส
"เอ่อ…"
"เจ้าหลับไปตั้งสองวันแน่ะ อลันกับเลโอเป็นคนช่วยเจ้าออกมา จำได้รึเปล่า"
เรพยักหน้าช้า ๆ ริมฝีปากขยับแผ่วเบา "ข้ากระหายน้ำ…"
ชายหนุ่มรีบคว้าคันโท เทน้ำใส่แก้วยื่นให้ทันที เขายื่นมืออีกข้างช่วยพยุงร่างเด็กชายขึ้นนั่ง
"ขอบคุณฮะ" เรกล่าวเสียงแผ่ว
ชายหนุ่มยิ้มกว้าง "ไม่เป็นไรหรอก เรสินะ ข้าชื่อคีรินทร์ ถูกส่งมาที่นี่ตั้งแต่ตอนอายุสิบห้า เพื่อฝึกเป็นนักล่าปีศาจ…แต่ผ่านมาเกือบปีแล้ว ข้ายังไม่ได้ฝึกจริงจังซักที เอราใช้ข้าเหมือนคนงานเสียมากกว่า!" เขาหัวเราะ พลางเกาศีรษะตัวเองเบา ๆ
"อ้อ! พ่อกับแม่ของเจ้าเพิ่งกลับไปเมื่อเช้า พวกเขาเฝ้าเจ้าแทบทุกคืนเลยนะ ดูท่าจะห่วงเจ้าเอามาก ๆ"
คีรินทร์พูดรัวรวดเดียวจนแทบไม่ได้หายใจ เสียงใสเต็มไปด้วยความจริงใจและความอบอุ่น
"ท่านจะถูกฝึกเป็นนักล่าปีศาจ งั้นรึ" เรเอ่ย น้ำเสียงสั่นด้วยความตื่นเต้น
"แน่นอน" คีรินทร์ตอบ ยิ้มกว้าง "อลันกับเลโอต้องสอนข้าใช้ดาบ แต่ทั้งสองไป ๆ มา ๆ ไม่ค่อยอยู่ป้อมมากนัก ข้าก็เลยขาดการฝึกไปบ้าง ส่วนเอราก็ต้องสอนข้าปลดปล่อยพลัง" เขาเอียงหน้าเพ่งมองเรอย่างตั้งใจ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"เจ้าก็ปลดปล่อยพลังได้เหมือนกัน เจ้าสามารถเป็นนักล่าปีศาจได้"
"เอ่อ...ข้าไม่รู้ว่าการปลดปล่อยพลังคืออะไร" เรทำหน้างุนงง ไม่เข้าใจทุกคำที่คีรินทร์พูด และตอนนี้ตัวเองก็ยังไม่แน่ชัดว่ากำลังอยู่ที่ไหนกันแน่
คีรินทร์เม้มปากอย่างไม่อยากเชื่อ "ไม่มีงั้นรึ? ข้าคิดว่าเจ้าต้องมีแน่" เขาล้วงมือเข้าไปกระเป๋ากางเกง แล้วเปลี่ยนเรื่องอย่างร่าเริงขึ้น "อ้อ เจ้าเดินไหวไหม ข้าจะพาเจ้าชมนอกป้อมปราการบูรพา"
"ป้อมปราการบูรพา?" เรทวนคำอย่างตื่นเต้น
"ใช่" คีรินทร์พยักหน้า "อาณาจักรวอร์เรียแบ่งป้อมออกเป็นสี่แห่ง เมืองคอวัลมีป้อมทักษิณ ไทเทียร์ป้อมอุดร ไซรีสป้อมประจิม และที่นี่ฟอดาร์กัส มีป้อมบูรพาทุกป้อมมีกองกำลังนักล่าปีศาจประจำการ ป้อมอุดรมีนักล่ามากที่สุดเพราะเป็นศูนย์กลางภาคีน่ะ" เขาหยุด หันมามองเร
"ข้าไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้เลย..." เรพูด แววตาเป็นประกายตื่นเต้น ขยับตัวนั่งตรงขึ้นเพื่อฟังให้ถนัด
"แน่นอน มนุษย์กับปีศาจมองไม่เห็นป้อม เพราะมีม่านเกราะคลุมปกป้องไว้ เดี๋ยวข้าพาเจ้าไปดูเอง ลุกไหวไหม"
"ไหว!" เรตอบอย่างกระตือรือร้น แทบกระโดดลงจากเตียง
ป้อมปราการบูรพาตั้งอยู่ริมแม่น้ำที่ไหลเอื่อยลงมาจากภูเขาสูง มีทุ่งหญ้างโล่งกว้าง กำแพงหินหนาทึบตั้งตระหง่าน หอคอยสังเกตการณ์สูงแปดชั้น
คีรินทร์พาเรเดินขึ้นบันไดหอคอยทีละขั้นจนถึงยอดสูงสุด ที่นั่นสามารถมองเห็นภาพโดยรอบป้อมได้ถนัดตา
"เห็นไหม ตรงนั้น" คีรินทร์ยกมือชี้ไปทางด้านหลังป้อม "กระท่อมไม้เล็ก ๆ นั่นคือที่พักของพ่อกับแม่เจ้า เลโอเป็นคนพาทั้งคู่กลับมา ปีศาจอาจคิดใช้พวกเขาล่อเจ้าออกไปจากที่ซ่อน เพราะงั้นอยู่ในป้อมนี้ปลอดภัยกว่า"
แววตาของเรสว่างไสวทันที ริมฝีปากคลี่ยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าพ่อแม่อยู่ใกล้ตนเพียงเท่านี้
.
นักล่าปีศาจ ๘
เรนอนนิ่งอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล แสงแดดอ่อน ๆ สาดผ่านบานหน้าต่างไม้เข้ามาอาบร่าง ในมุมห้อง ชายหนุ่มรูปร่างโปร่งกำยำ สวมผ้าสีขาวคาดหน้าผาก กำลังเช็ดขอบหน้าต่างอย่างขะมักเขม้น ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มสดใส ดวงตาเป็นประกายซุกซน ผมดำตั้งชันยุ่งเหยิง
เมื่อเห็นคนบนเตียงเริ่มขยับตัว ชายหนุ่มหันขวับมามอง รีบโยนผ้าเช็ดไปในถังไม้แล้วก้าวเข้ามาใกล้
"เจ้าตื่นแล้ว! เป็นยังไงบ้าง" เขาถามด้วยน้ำเสียงสดใส
"เอ่อ…"
"เจ้าหลับไปตั้งสองวันแน่ะ อลันกับเลโอเป็นคนช่วยเจ้าออกมา จำได้รึเปล่า"
เรพยักหน้าช้า ๆ ริมฝีปากขยับแผ่วเบา "ข้ากระหายน้ำ…"
ชายหนุ่มรีบคว้าคันโท เทน้ำใส่แก้วยื่นให้ทันที เขายื่นมืออีกข้างช่วยพยุงร่างเด็กชายขึ้นนั่ง
"ขอบคุณฮะ" เรกล่าวเสียงแผ่ว
ชายหนุ่มยิ้มกว้าง "ไม่เป็นไรหรอก เรสินะ ข้าชื่อคีรินทร์ ถูกส่งมาที่นี่ตั้งแต่ตอนอายุสิบห้า เพื่อฝึกเป็นนักล่าปีศาจ…แต่ผ่านมาเกือบปีแล้ว ข้ายังไม่ได้ฝึกจริงจังซักที เอราใช้ข้าเหมือนคนงานเสียมากกว่า!" เขาหัวเราะ พลางเกาศีรษะตัวเองเบา ๆ
"อ้อ! พ่อกับแม่ของเจ้าเพิ่งกลับไปเมื่อเช้า พวกเขาเฝ้าเจ้าแทบทุกคืนเลยนะ ดูท่าจะห่วงเจ้าเอามาก ๆ"
คีรินทร์พูดรัวรวดเดียวจนแทบไม่ได้หายใจ เสียงใสเต็มไปด้วยความจริงใจและความอบอุ่น
"ท่านจะถูกฝึกเป็นนักล่าปีศาจ งั้นรึ" เรเอ่ย น้ำเสียงสั่นด้วยความตื่นเต้น
"แน่นอน" คีรินทร์ตอบ ยิ้มกว้าง "อลันกับเลโอต้องสอนข้าใช้ดาบ แต่ทั้งสองไป ๆ มา ๆ ไม่ค่อยอยู่ป้อมมากนัก ข้าก็เลยขาดการฝึกไปบ้าง ส่วนเอราก็ต้องสอนข้าปลดปล่อยพลัง" เขาเอียงหน้าเพ่งมองเรอย่างตั้งใจ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"เจ้าก็ปลดปล่อยพลังได้เหมือนกัน เจ้าสามารถเป็นนักล่าปีศาจได้"
"เอ่อ...ข้าไม่รู้ว่าการปลดปล่อยพลังคืออะไร" เรทำหน้างุนงง ไม่เข้าใจทุกคำที่คีรินทร์พูด และตอนนี้ตัวเองก็ยังไม่แน่ชัดว่ากำลังอยู่ที่ไหนกันแน่
คีรินทร์เม้มปากอย่างไม่อยากเชื่อ "ไม่มีงั้นรึ? ข้าคิดว่าเจ้าต้องมีแน่" เขาล้วงมือเข้าไปกระเป๋ากางเกง แล้วเปลี่ยนเรื่องอย่างร่าเริงขึ้น "อ้อ เจ้าเดินไหวไหม ข้าจะพาเจ้าชมนอกป้อมปราการบูรพา"
"ป้อมปราการบูรพา?" เรทวนคำอย่างตื่นเต้น
"ใช่" คีรินทร์พยักหน้า "อาณาจักรวอร์เรียแบ่งป้อมออกเป็นสี่แห่ง เมืองคอวัลมีป้อมทักษิณ ไทเทียร์ป้อมอุดร ไซรีสป้อมประจิม และที่นี่ฟอดาร์กัส มีป้อมบูรพาทุกป้อมมีกองกำลังนักล่าปีศาจประจำการ ป้อมอุดรมีนักล่ามากที่สุดเพราะเป็นศูนย์กลางภาคีน่ะ" เขาหยุด หันมามองเร
"ข้าไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้เลย..." เรพูด แววตาเป็นประกายตื่นเต้น ขยับตัวนั่งตรงขึ้นเพื่อฟังให้ถนัด
"แน่นอน มนุษย์กับปีศาจมองไม่เห็นป้อม เพราะมีม่านเกราะคลุมปกป้องไว้ เดี๋ยวข้าพาเจ้าไปดูเอง ลุกไหวไหม"
"ไหว!" เรตอบอย่างกระตือรือร้น แทบกระโดดลงจากเตียง
ป้อมปราการบูรพาตั้งอยู่ริมแม่น้ำที่ไหลเอื่อยลงมาจากภูเขาสูง มีทุ่งหญ้างโล่งกว้าง กำแพงหินหนาทึบตั้งตระหง่าน หอคอยสังเกตการณ์สูงแปดชั้น
คีรินทร์พาเรเดินขึ้นบันไดหอคอยทีละขั้นจนถึงยอดสูงสุด ที่นั่นสามารถมองเห็นภาพโดยรอบป้อมได้ถนัดตา
"เห็นไหม ตรงนั้น" คีรินทร์ยกมือชี้ไปทางด้านหลังป้อม "กระท่อมไม้เล็ก ๆ นั่นคือที่พักของพ่อกับแม่เจ้า เลโอเป็นคนพาทั้งคู่กลับมา ปีศาจอาจคิดใช้พวกเขาล่อเจ้าออกไปจากที่ซ่อน เพราะงั้นอยู่ในป้อมนี้ปลอดภัยกว่า"
แววตาของเรสว่างไสวทันที ริมฝีปากคลี่ยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าพ่อแม่อยู่ใกล้ตนเพียงเท่านี้
.