นักล่าปีศาจ ๑๐


  


๑๐

เอราหันมาทางเร ซึ่งยืนทำตาปริบ ๆ ยกมือเกาหัวและพูดขึ้นว่า "ข้าสัมผัสอะไรจากข้างในไม่ได้เลย" 

"เร จิตใจเจ้าสับสนและไม่สงบนิ่งพอ ลองใหม่อีกรอบ อย่าทำเป็นเล่น สิ่งที่อยู่ในกายเจ้า จะทำให้เจ้าตายได้ พยายามควบคุมมันซะ...หลับตาลง" เอรากล่าวเสียงเข้มจริงจัง

คีรินทร์พยุงตัวเองลุกขึ้นยืน จับจ้องมองเพื่อนใหม่อย่างเอาใจช่วย สายลมเย็นเยือกพัดวูบผ่านไป ความเงียบงันพลันเข้ามาแทรกแซง ใบไม้หยุดไหว ยอดหญ้าชี้ตั้งตรงแข็งทื่อราวถูกจับแช่แข็ง 

ท้องฟ้าจากที่มีเมฆขาวฟ้าสดใส พลันแปรเปลี่ยนขมุกขมัว ก้อนเมฆสีเทาค่อย ๆ คืบคลานปกคลุมท้องฟ้า 

เอราดวงตาเบิกกว้างฝ่ามือสองข้างกางออกข้างลำตัว วายุหมุนขนาดย่อมไหลทะลักออกจากฝ่ามือทั้งสอง ตั้งท่ามั่นพร้อมโต้กลับ หากเกิดสิ่งผิดปกติจากตัวเร หญิงสาวจับจ้องไปที่เด็กชายซึ่งตอนนี้ยังคงยืนนิ่ง ประกายแดงเรืองรองค่อย ๆ เปล่งรัศมีออกมาจากตัวเร  ฟ้าร้องครืนสามที หน้าผากเรมีเหงื่อผุดขึ้นเม็ดใหญ่ 

ร่างของเด็กชายถูกดึงเข้าไปอยู่ในมิติแห่งหนึ่ง ม่านหมอกดำทะมึนหมุนวนรอบตัว  

"ที่นี่ คือที่ไหน" เสียงสั่นหวั่นเอ่ยถามสะท้อนก้องในห้วงแห่งเงารัตติกาล เรหันมองรอบตัวไร้ทิศทางก้าวเดิน 

ฉับพลันลำแสงสีแดงบาดตาส่องสว่างนำทาง เรเดินตามสีนั่นไป และได้อัญมณีโลหิตขนาดใหญ่ หมุนลอยคว้างกลางอากาศ ประกายสีแดงเปล่งสีเจิดจ้าจนบาดตา

"นี่หรือคือสิ่งที่อยู่ในท้องข้า" เด็กชายพึมพำ

'ร่างเจ้ามิควรค่าแก่การถือครอง เจ้าอ่อนแอ' ทุ้มเสียงหนักหน่วงชวนขวัญเสียสะท้อนออกมาจากอัญมณี 

เรสะดุ้งเฮือกรู้สึกร่างกายเย็นเยียบทั่วร่าง

"ข้ามิได้อยากถือครองท่าน เอามันออกไปจากตัวข้า" เด็กชายโต้กลับ 

'ยื่นมือมาสัมผัสเรา'

เรค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ แล้วยื่นมือออกไปแตะอัญมณีโลหิต รยางค์สีแดงฉานแตกแขนงออกมานับสิบเส้น พุ่งเสียบทะลุร่างเด็กชาย เลือดพุ่งกระเซ็น กลิ่นคาวลอยฟุ้ง เรกรีดร้องเสียงหลง ความเจ็บราวถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ

ภายนอกมิติปัจจุบัน เสียงฟ้าร้องคำรามดังสั่นหวั่นไหว ท้องฟ้ามืดครึ้ม กลุ่มเงาดำทะมึนลอยฟุ้งออกจากตัวเร 

"คีรินทร์ ถอยออกมา" เอราร้องบอก แต่คีรินทร์ยังคงยืนอยู่ใกล้เร ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง 

"เขาคือเงา...สุดยอดเลย" คีรินทร์กรีดร้องแข่งกับเสียงฟ้าร้อง และทันทีที่เสียงฟ้าร้องสงบ เส้นแสงประกายแดงดำปะทุออกมาจากตัวเร แผ่กระจายไปทั่วสารทิศ 

เอราสะบัดฝ่ามือ หอบพายุลมลูกใหญ่ปัดเปลี่ยนกระแสพลังจากเร แต่ถูกพลังจากสิ่งนั้นผลัดเอรากระเด็นออกไปไกล 

"คีรินทร์ถอยออกมา" เอราตะโกนเรียก แต่คีรินทร์ยังยืนอยู่ที่เดิม ยกมือป้องหน้าตัวเอง และเหวี่ยงตัวหลบคลื่นพลังที่พุ่งออกมาจากตัวเร 

เงาดำทะมึนไหลทะลักออกจากร่างเร อย่างรวดเร็วและรุนแรง พุ่งชนม่านเกราะดังสนั่นหวั่นไหว 

เลโอวิ่งหน้าตาตื่นมาถึงตัวเอรา ช่วยพยุงนางลุกขึ้นยืน

"เกิดอะไรขึ้น" เลโอเอ่ยถาม สายจับจ้องที่เร ซึ่งตอนนี้ร่างน้อย ๆ ถูกปกคลุมด้วยเงารัตติกาล

"เรควบคุมพลังไม่ได้ ขืนเขาปล่อยพลังออกมาไม่หยุดแบบนี้ ไม่นานเขาจะตาย...และพวกเราทั้งหมดด้วย ไปหยุดเขาเลโอ" 

เลโอวิ่งปราดเข้ามาใกล้กระชากดาบสองเล่มออก แล้วจับไขว้เป็นรูปกากบาท "เกราะสายฟ้า" ประกายสายพุ่งกระจายโอบรอบร่างเร 

'เลโอเกิดอะไรขึ้น' กระแสพลังจิตจากอลันส่งมาถาม

'เรควบคุมพลังไม่อยู่' 

'หยุดเขา'

'พยายามอยู่' เลโอดันสายฟ้าเพิ่มแรงกดกันเข้าไป ทว่าเงารัตติกาลดำทะมึนกลับทะลุทะลวงลอดม่านเกราะสายฟ้าออกมา เรส่งเสียงร้องกึกก้องฟังเหมือนข่มขู่ผู้มาหยุดยั้งตน

จบการพูดคุยผ่านจิต อลันวิ่งออกจากห้องอย่างรวดเร็วสวนทางกับลีออนตรงลานฝึก

"เกิดอะไรขึ้น" ลีออนเอ่ยถามหน้าตื่นตกใจ

"เรควบคัมพลังไม่ได้" ข้าจะไปดู 

"เดี๋ยวก่อนอลัน ตอนนี้ท่านใช่พลังอัคคีไม่ได้ ขืนเข้าใกล้สิ่งที่ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร มันจะพุ่งเข้าเล่นงานท่านคนแรก ปล่อยให้เอรากับเลโอจัดการเถอะ ท่านมากับข้า ขืนปล่อยไว้แบบนี้ม่านเกราะจะพังเอาได้" 

ลีออนกล่าวจบจึงรีบนำหน้าออกไป โดยมีอลันเดินตามมาติด ๆ ลิลิธบินโฉบเฉียวตามหลังพวกเขา ลีออนพาอลันมาบนหอคอยชั้นบนสุด 

"ข้าจะร่ายมนตร์ซ้อนเกราะไว้ ส่วนท่าน ดูพวกเขาไว้" ลีออนสีชี้ไปที่ทุ่งหญ้าที่อยู่ห่างออกไป สามารถมองเห็นพวกเขาทั้งสี่เป็นจุดเล็ก ๆ 

"ถ้าเห็นท่าไม่ดี ส่งกระแสจิตบอกเลโอให้ฆ่าเขาซะ" ลีออนกล่าวเสียงเหี้ยม 

อลันตวัดสายตามองขวางอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

"ท่านต้องล้อเล่นแน่ ๆ " 

ลีออนกวาดมือทั้งสองข้างวาดเป็นรูปดวงดาวหกแฉก แสงสีทองส่องสว่างจ้าไหลออกมาจากฝ่ามือหลอมรวมเป็นดาวหกแฉกขนาดใหญ่ ลีออนดันฝ่ามือขึ้นฟ้า ดาวหกแฉกแผ่ปกคลุมซ้อนอยู่ใต้ม่านเกราะ 

"ไม่งั้นเราจะตายกันหมด" ลีออนกล่าวน้ำเสียงราบเรียบ

เอราเรียกวายุหมุนขึ้นมาสิบลูกหมุนวนอยู่รอบตัวเร แต่ถูกคลื่นเงาทะมึนดูดกลืนพายุไปแล้วห้าลูก

"เร อย่าปล่อยให้พลังควบคุมเจ้า เจ้าต้องเอาชนะมันให้ได้" เลโอตะโกนผ่านคลื่นพายุหมุน 

"คีรินทร์เจ้าจะทำอะไร" เลโอ จ้องมองคีรินทร์ที่พยายามจะเดินเข้าไปใกล้เร 

คีรินทร์ยันกายยึดติดพื้นดินสุดพลังเพื่อไม่ให้ตัวปลิวไปกับลม ทุกก้าวที่คีรินทร์เดินเข้าใกล้เรราวถูกหินก้อนมหึมากดทับตัว แต่ยังกัดฟันเดินเข้าหา แค่เพียงก้าวเดียวจะถึงตัว คีรินทร์ขืนกายพุ่งเข้าไปโอบกอดเรไว้ในอ้อมแขน 

"เร! เจ้าอย่าปล่อยให้มันกลืนเจ้าไป ข้าไม่ยอมให้เจ้าตายต่อหน้าข้าเด็ดขาด!" คีรินทร์กอดร่างเพื่อนแน่น

ร่างกายของคีรินทร์แข็งทื่อฉับพลันจึงถูกดูดเข้าไปในมิติของอัญมณี 

คีรินทร์ยืนหมุนคว้างกลางหมอกควันดำทมิฬ ทว่าเสียงกรีดร้องของเร ทำให้เขาออกวิ่งไปตามทิศทางเสียง 

"เร!" คีรินทร์กรีดร้องลั่นเมื่อเห็นรยางค์แดงฉานเสียบทะลุร่างเรไปทั่วตัว มันกำลังดูดกินเลือดเขา

"ปล่อยเขานะ" คีรินทร์วิ่งไปดันกระชากรยางค์ออกจากตัวเร 

"คีรินทร์!" เรเหลียวมามอง น้ำตาไหลอาบแก้ม "หนีไปท่านช่วยข้าไม่ได้" เสียงสั่นเครือเอื้อนเอ่ย 

"ไม่...เร มันคือพลังในตัวเจ้า อย่าให้มันควบคุมเจ้า สู้มันซะ สู้มันเร"

"ข้าทำไม่ได้ ข้าอ่อนแอ" เด็กชายสะอื้นไห้

"เจ้าไม่ได้อ่อนแอเร สู้มันสิ" คีรินทร์ต่อยอัญมณีไปหลายหมัดจนเลือดไหลซึมออกจากมือ 

รยางค์สีแดงฉานพุ่งเสียบทะลุท้องคีรินทร์ เลือดไหลนอง

"ไม่!" เรกรีดร้อง น้ำตาไหลพราก "ปล่อยเขา! เจ้าต้องการข้าไม่ใช่เขา!"

อัญมณีโลหิตรัศมีแดงดำสั่นสะท้านรุนแรง ราวกับลังเลว่าจะเลือกใครเป็นเจ้าของ พลังที่พลุ่งพล่านพลันไหลย้อนตามสัมผัสร่างที่กอดแน่นภายนอกมิติ สะพานแห่งใจระหว่างเรกับคีรินทร์เชื่อมประสานเข้าหากัน

'สายใยแห่งมิตรภาพ งั้นรึ?' เสียงทุ้มจากอัญมณีดังก้อง

รยางค์บางส่วนคลายออกจากร่างเร พลันแปรเปลี่ยนเป็นเส้นแสงสีแดงสาดซัดเข้าสู่คีรินทร์แทน เด็กหนุ่มตัวสั่นสะท้าน ดวงตาเบิกกว้างเมื่อความร้อนและความมืดแทรกเข้ามาในร่าง

"ไม่...หยุดนะ อย่าทำร้ายเขา" เรกรีดร้องสุดเสียง แต่คีรินทร์ส่ายหน้า เลือดไหลอาบริมฝีปาก 

ฉับพลันรยางค์เส้นสองพุ่งออกมาแทงทะลุอกซ้ายของพวกเขาสองคนพร้อมกัน 

'หากพวกเจ้ารับพลังข้าไว้ได้ พวกจะไม่ตาย" เสียงทุ้มกังวานเอ่ยกลบเสียงกรีดร้อง

ลำแสงสีแดงแทรกซึมเข้าสู่ร่างคีรินทร์ และอีกครึ่งไหลเข้าไปอยู่ในตัวเร รยางค์แตกกระจายหายไป อัญมณีสั่นสะท้านจนแตกร้าว พร้อมเสียงแตกดังสะท้อนทั่วมิติ

ท้องฟ้าในมิติมืดมิดค่อย ๆ สลาย เหลือเพียงเงาสองร่างที่ล้มพิงกันอยู่ท่ามกลางความเงียบงัน แสงสีแดงเรืองรองหมุนวนอยู่บริเวณท้องของทั้งคู่

"นี่มันเรื่องอะไรกัน" เลโอกล่าวด้วยน้ำเสียงงุนงง สิ่งที่เขาเห็นตรงหน้า เคยเกิดขึ้นกับเรตอนอยู่ในป่า ทว่าคราวนี้กลับกลายเป็นคีรินทร์ที่มีลำแสงสีแดงหมุนวนอยู่บริเวณท้องน้อย

อลันวิ่งมาสมทบยังที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว และได้เห็นความผิดปกติที่กิดขึ้นกับคีรินทร์

"มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย!" อลันแสดงสีหน้าไม่ต่างจากเลโอ 






..........
  
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่