หัวใจสลายที่ปลายฟ้า (65)...ด้วยรักและผูกพัน (อวสาน)
พี่หนอยใช้เวลาอยู่ที่บ้านฝั่งธนฯ กับแม่ มีบ้านพี่ก้อยอยู่ติดกัน หนอยเพลินกับการได้กลับมาอยู่ใกล้แม่และเล่นกับหลานสองคน...ลูกสาว
และลูกชายพี่ก้อย
วันที่หนอยกลับเข้าบ้าน...เตี่ยเขามาแวะหา ความจริงหนอยตั้งใจจะเข้าไปหาเตี่ยพรุ่งนี้อยู่แล้ว หนอยยกมือไหว้เตี่ย
“สบายดีไหมครับเตี่ย” เขาถาม สายตาที่เตี่ยมองมาคือความภูมิใจและดีใจ แต่เตี่ยก็คือเตี่ยที่ไม่เคยทำตัวสนิทสนมกับลูก ๆ เพราะมัวแวดล้อม
ไปด้วยสุราและนารี เขายื่นเช็คมาให้บอกว่าเป็นของขวัญให้หนอย แม่มองดูห่าง ๆ
“ผมไม่ได้เดือดร้อนอะไร เตี่ยเอาไปเถอะครับ” แม่มองหนอยเหมือนตำหนิ ถึงผู้ใหญ่ทั้งสองต่างคนต่างอยู่กันมานานแล้วแต่เตี่ยก็คือผู้ให้กำ
เนิดหนอยมา
“แกรับเอาใว้สักวันหนึ่งแกจะรู้จักว่าคำว่าพ่อมันคืออะไร” เตี่ยก้มหน้าแล้วถอนใจเพราะรู้ว่าปัญหาที่ตัวเองสร้างมันมีมากเกินกว่าจะเรียกร้อง
อะไรจากก้อยและหนอย เวลาครึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว แล้วหนอยก็ขอแม่ไปหาดวงเนตรที่บ้านต่างจังหวัด
“ไปเถอะ ทำตัวดี ๆ นะลูก แล้วต้องอดทน เพราะเตี่ยดวงเนตรเขาเป็นคนคล้ายก๋งของหนอยแหละต้องอดทน มีวินัย และตรงเวลา หนอยคง
ไม่มีปัญหาอะไร แล้วติดต่อมาบ้างนะ”
“ครับแม่” หนอยก้มลงกราบที่ตักแม่
ดวงเนตรไปรับพี่หนอยที่รถทัวร์แล้วพาเข้าไปที่ร้าน เขาขึ้นไปอาบน้ำ บ้านเธอหรือร้านค้า...สินค้าในร้านถูกจัดวางไว้อย่างเรียบร้อย สะอาด
เขาอาบน้ำเสร็จก็ลงมาช่วยที่หน้าร้าน ที่ร้านขายของยุ่งเกือบทั้งวัน อากาศร้อนอบอ้าว เหงื่อไหลจนเสื้อยืดแฉะ เตี่ยได้แต่มอง แม่ไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว
เพียงแค่ยิ้มให้ว่าที่ลูกเขยอย่างอบอุ่น ก่อนปิดร้านเตี่ยให้หนอยติดรถกระบะไปขนของที่โกดังด้วย
ดวงเนตรอดไม่ได้ “เตี่ยจ๊ะ” เสียงดวงเนตรอ้อนแต่ไม่มีผล...เตี่ยไม่ฟัง ใจคิดเพียงว่าหนอยต้องผ่านด้านสิบแปดอรหันต์ทองคำของเตี่ยให้
ได้เสียก่อนแล้วค่อยมาพูดกัน แม้หนอยมีต้นทุนดีด้วยว่าน้าวิวซึ่งคุยกับเตี่ยรับรองเรื่องหนอยให้มากมาย กับการพบเจอแม่หนอยที่เล่าเรื่องราวลูกชาย
ที่โตมากับก๋งให้เตี่ยฟังเมื่อครั้งที่พบกันที่ชิคาโก
วันที่สองเตี่ยถามพี่หนอยว่า “เหนื่อยมั๊ย”
“ไม่มากหรอกครับ ก๋งสอนว่าเกิดเป็นผู้ชาย เหนื่อยแป๊บเดียวได้พักเดี๋ยวก็หายครับ” คำตอบได้ใจเตี่ยเพราะดวงเนตรเห็นเตี่ยยิ้มน้อย ๆ และ
พยักหน้า ความเสมอต้นเสมอปลายกับความสุภาพก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างของพี่หหนอยที่ทั้งแม่และเตี่ยพอใจ
ปิดร้านแล้ว ดวงเนตรพาพี่หนอยขับรถไปจนถึงเนินเขา “ที่นี่มีธรรมชาติสวยนะครับ”
“ค่ะ...พี่หนอยเหนื่อยมากไหม ตอบเนตรมาตรง ๆ นะคะ” พี่หนอยเข้ามาโอบไหล่กระชับเข้าหาตัว ได้กลิ่นหอมจากเรือนกาย
“ก๋งเลี้ยงพี่หนอยยิ่งกว่านี้อีกเหมือนอยู่ในค่ายทหาร แต่แกรักพี่หนอยมากแล้วมีแม่ที่เป็นหญิงเหล็กขนาดนั้นสบายมาก...จิ๊บ ๆ ” พี่หนอย
พูดแล้วยิ้ม
เตี่ยเรียกหนอยร่วมวงด้วยในคืนหนึ่ง หลังจากเตี่ยหยิบเมาท์ออร์แกนมาเป่าเป็นเพลงจีน พี่หนอยไล่สายกีต้าร์แล้วเล่นคลอไปด้วยกันดูเตี่ย
จะมีความสุขมาก ดวงเนตรนั่งยิ้มสวยข้างพี่หนอย
พี่หนอยเข้าสอนที่มหาวิทยาลัยชื่อดัง และยังมีการเดินสายสอนพิเศษตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ พี่หนอยสอนเก่ง และเริ่มโครงการ International Program ที่มหาวิทยาลัยซึ่งตนสอน ดวงเนตรเริ่มงานที่บริษัทใหญ่อย่างสนุกสนาน
“พี่หนอยว่าบริษัทใช้งานเนตรคุ้มจริง ๆ วันเสาร์ยังเข้าไปเคลียร์งานอีก เก่งมากคนสวยของพี่หนอย
“ถ้าเนตรแก่แล้วยังสวยไหมนะ”
“เราจะแก่ไปด้วยกัน ในยามนั้นหรือเมื่อไรสาวคนนี้ก็สวยเสมอครับ”
กว่าเตี่ยจะมอบดวงดาวในใจดวงนี้ให้หนอยก็ผ่านไปอีกหนึ่งปี คู่รักสุดเลิฟกับงานแต่งเรียบง่าย ที่น่าดีใจที่สุดคือครอบครัวพร้อมหน้าและฝูง
นกที่โบยบินมารวมตัวกันอีก สี่หนุ่มสงขลาแทคทีมแต่งหล่อเคียงข้างเจ้าบ่าว...ดอกเตอร์เจนศึกที่หล่อหลุดโลก เคียงข้างเจ้าสาวคือสาวโดมิโน...
สุดา พี่น้อย พี่ศิริ และน้าวิว สวยงามเฉิดฉายคู่เจ้าสาว...ดวงเนตร พี่พลรับหน้าที่พิธีกร อีกฉากหนึ่งของความสุขที่ต้องจดจำ
“คิดอะไรอยู่ครับคุณแม่ เนื้อตุ๋นน้ำจะแห้งหมดแล้ว” อ้อมแขนโอบสุดที่รักเช่นทุกวันที่กลับถึงบ้าน ดวงเนตรสะดุ้งรีบปิดเตาแก๊ส
สองคนช่วยกันเตรียมอาหารเย็น “พี่หนอยบอกว่าให้สั่งอาหารหรือออกไปกินข้างนอก เนตรจะได้พักผ่อนให้มาก เจ้าตัวน้อยเข้าเดือนที่ห้าแล้ว
นะ พี่หนอยอยากให้ว่าที่คุณแม่พักและกินเยอะ ๆ นะครับ”
“พี่หนอยห่วงตัวน้อยหรือเนตรคะ” เธอแกล้งแหย่
“ห่วงเนตรสิครับ เพราะเนตรเป็นแพคคู่”
“คุณแม่พี่จะแวะมาทานข้าวพรุ่งนี้ค่ะ”
“คงห่วงลูกสะใภ้แน่”
อีกชีวิตที่กำลังจะออกมาดูโลกใบนี้ ว่าที่คุณพ่อหนอยเตรียมชื่อแล้วหลังจากรู้ว่าเป็นลูกชาย...
“น้องฮาร์ท”
เพราะหนูคือหัวใจสองดวงที่ผูกพันกันตลอดมาและตลอดไป
หัวใจสลายที่ปลายฟ้า (65)...ด้วยรักและผูกพัน (อวสาน)
พี่หนอยใช้เวลาอยู่ที่บ้านฝั่งธนฯ กับแม่ มีบ้านพี่ก้อยอยู่ติดกัน หนอยเพลินกับการได้กลับมาอยู่ใกล้แม่และเล่นกับหลานสองคน...ลูกสาว
และลูกชายพี่ก้อย
วันที่หนอยกลับเข้าบ้าน...เตี่ยเขามาแวะหา ความจริงหนอยตั้งใจจะเข้าไปหาเตี่ยพรุ่งนี้อยู่แล้ว หนอยยกมือไหว้เตี่ย
“สบายดีไหมครับเตี่ย” เขาถาม สายตาที่เตี่ยมองมาคือความภูมิใจและดีใจ แต่เตี่ยก็คือเตี่ยที่ไม่เคยทำตัวสนิทสนมกับลูก ๆ เพราะมัวแวดล้อม
ไปด้วยสุราและนารี เขายื่นเช็คมาให้บอกว่าเป็นของขวัญให้หนอย แม่มองดูห่าง ๆ
“ผมไม่ได้เดือดร้อนอะไร เตี่ยเอาไปเถอะครับ” แม่มองหนอยเหมือนตำหนิ ถึงผู้ใหญ่ทั้งสองต่างคนต่างอยู่กันมานานแล้วแต่เตี่ยก็คือผู้ให้กำ
เนิดหนอยมา
“แกรับเอาใว้สักวันหนึ่งแกจะรู้จักว่าคำว่าพ่อมันคืออะไร” เตี่ยก้มหน้าแล้วถอนใจเพราะรู้ว่าปัญหาที่ตัวเองสร้างมันมีมากเกินกว่าจะเรียกร้อง
อะไรจากก้อยและหนอย เวลาครึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว แล้วหนอยก็ขอแม่ไปหาดวงเนตรที่บ้านต่างจังหวัด
“ไปเถอะ ทำตัวดี ๆ นะลูก แล้วต้องอดทน เพราะเตี่ยดวงเนตรเขาเป็นคนคล้ายก๋งของหนอยแหละต้องอดทน มีวินัย และตรงเวลา หนอยคง
ไม่มีปัญหาอะไร แล้วติดต่อมาบ้างนะ”
“ครับแม่” หนอยก้มลงกราบที่ตักแม่
ดวงเนตรไปรับพี่หนอยที่รถทัวร์แล้วพาเข้าไปที่ร้าน เขาขึ้นไปอาบน้ำ บ้านเธอหรือร้านค้า...สินค้าในร้านถูกจัดวางไว้อย่างเรียบร้อย สะอาด
เขาอาบน้ำเสร็จก็ลงมาช่วยที่หน้าร้าน ที่ร้านขายของยุ่งเกือบทั้งวัน อากาศร้อนอบอ้าว เหงื่อไหลจนเสื้อยืดแฉะ เตี่ยได้แต่มอง แม่ไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว
เพียงแค่ยิ้มให้ว่าที่ลูกเขยอย่างอบอุ่น ก่อนปิดร้านเตี่ยให้หนอยติดรถกระบะไปขนของที่โกดังด้วย
ดวงเนตรอดไม่ได้ “เตี่ยจ๊ะ” เสียงดวงเนตรอ้อนแต่ไม่มีผล...เตี่ยไม่ฟัง ใจคิดเพียงว่าหนอยต้องผ่านด้านสิบแปดอรหันต์ทองคำของเตี่ยให้
ได้เสียก่อนแล้วค่อยมาพูดกัน แม้หนอยมีต้นทุนดีด้วยว่าน้าวิวซึ่งคุยกับเตี่ยรับรองเรื่องหนอยให้มากมาย กับการพบเจอแม่หนอยที่เล่าเรื่องราวลูกชาย
ที่โตมากับก๋งให้เตี่ยฟังเมื่อครั้งที่พบกันที่ชิคาโก
วันที่สองเตี่ยถามพี่หนอยว่า “เหนื่อยมั๊ย”
“ไม่มากหรอกครับ ก๋งสอนว่าเกิดเป็นผู้ชาย เหนื่อยแป๊บเดียวได้พักเดี๋ยวก็หายครับ” คำตอบได้ใจเตี่ยเพราะดวงเนตรเห็นเตี่ยยิ้มน้อย ๆ และ
พยักหน้า ความเสมอต้นเสมอปลายกับความสุภาพก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างของพี่หหนอยที่ทั้งแม่และเตี่ยพอใจ
ปิดร้านแล้ว ดวงเนตรพาพี่หนอยขับรถไปจนถึงเนินเขา “ที่นี่มีธรรมชาติสวยนะครับ”
“ค่ะ...พี่หนอยเหนื่อยมากไหม ตอบเนตรมาตรง ๆ นะคะ” พี่หนอยเข้ามาโอบไหล่กระชับเข้าหาตัว ได้กลิ่นหอมจากเรือนกาย
“ก๋งเลี้ยงพี่หนอยยิ่งกว่านี้อีกเหมือนอยู่ในค่ายทหาร แต่แกรักพี่หนอยมากแล้วมีแม่ที่เป็นหญิงเหล็กขนาดนั้นสบายมาก...จิ๊บ ๆ ” พี่หนอย
พูดแล้วยิ้ม
เตี่ยเรียกหนอยร่วมวงด้วยในคืนหนึ่ง หลังจากเตี่ยหยิบเมาท์ออร์แกนมาเป่าเป็นเพลงจีน พี่หนอยไล่สายกีต้าร์แล้วเล่นคลอไปด้วยกันดูเตี่ย
จะมีความสุขมาก ดวงเนตรนั่งยิ้มสวยข้างพี่หนอย
พี่หนอยเข้าสอนที่มหาวิทยาลัยชื่อดัง และยังมีการเดินสายสอนพิเศษตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ พี่หนอยสอนเก่ง และเริ่มโครงการ International Program ที่มหาวิทยาลัยซึ่งตนสอน ดวงเนตรเริ่มงานที่บริษัทใหญ่อย่างสนุกสนาน
“พี่หนอยว่าบริษัทใช้งานเนตรคุ้มจริง ๆ วันเสาร์ยังเข้าไปเคลียร์งานอีก เก่งมากคนสวยของพี่หนอย
“ถ้าเนตรแก่แล้วยังสวยไหมนะ”
“เราจะแก่ไปด้วยกัน ในยามนั้นหรือเมื่อไรสาวคนนี้ก็สวยเสมอครับ”
กว่าเตี่ยจะมอบดวงดาวในใจดวงนี้ให้หนอยก็ผ่านไปอีกหนึ่งปี คู่รักสุดเลิฟกับงานแต่งเรียบง่าย ที่น่าดีใจที่สุดคือครอบครัวพร้อมหน้าและฝูง
นกที่โบยบินมารวมตัวกันอีก สี่หนุ่มสงขลาแทคทีมแต่งหล่อเคียงข้างเจ้าบ่าว...ดอกเตอร์เจนศึกที่หล่อหลุดโลก เคียงข้างเจ้าสาวคือสาวโดมิโน...
สุดา พี่น้อย พี่ศิริ และน้าวิว สวยงามเฉิดฉายคู่เจ้าสาว...ดวงเนตร พี่พลรับหน้าที่พิธีกร อีกฉากหนึ่งของความสุขที่ต้องจดจำ
“คิดอะไรอยู่ครับคุณแม่ เนื้อตุ๋นน้ำจะแห้งหมดแล้ว” อ้อมแขนโอบสุดที่รักเช่นทุกวันที่กลับถึงบ้าน ดวงเนตรสะดุ้งรีบปิดเตาแก๊ส
สองคนช่วยกันเตรียมอาหารเย็น “พี่หนอยบอกว่าให้สั่งอาหารหรือออกไปกินข้างนอก เนตรจะได้พักผ่อนให้มาก เจ้าตัวน้อยเข้าเดือนที่ห้าแล้ว
นะ พี่หนอยอยากให้ว่าที่คุณแม่พักและกินเยอะ ๆ นะครับ”
“พี่หนอยห่วงตัวน้อยหรือเนตรคะ” เธอแกล้งแหย่
“ห่วงเนตรสิครับ เพราะเนตรเป็นแพคคู่”
“คุณแม่พี่จะแวะมาทานข้าวพรุ่งนี้ค่ะ”
“คงห่วงลูกสะใภ้แน่”
อีกชีวิตที่กำลังจะออกมาดูโลกใบนี้ ว่าที่คุณพ่อหนอยเตรียมชื่อแล้วหลังจากรู้ว่าเป็นลูกชาย... “น้องฮาร์ท”
เพราะหนูคือหัวใจสองดวงที่ผูกพันกันตลอดมาและตลอดไป