โรคนิ่วทางเดินปัสสาวะ ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม

วันนี้พี่หมอฝั่งธน..จะมาให้ความรู้ idea โรคนิ่วทางเดินปัสสาวะ  ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม idea

โรคนิ่วทางเดินปัสสาวะ (Urinary Tract Stone หรือ Urolithiasis)
เป็นหนึ่งในโรคระบบทางเดินปัสสาวะที่พบบ่อยในคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานถึงผู้สูงอายุ
โรคนี้เกิดจากการตกผลึกของสารบางอย่างในปัสสาวะจนกลายเป็นก้อนแข็งหรือ “นิ่ว”
ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทุกตำแหน่งของระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น ไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ และท่อปัสสาวะ
นิ่วอาจมีขนาดตั้งแต่เล็กเท่าทรายไปจนถึงขนาดใหญ่เท่าไข่ไก่
และสามารถก่อให้เกิดอาการตั้งแต่ปวดเล็กน้อยไปจนถึงอาการปวดรุนแรงแบบ “ปวดหลังบิด” หรือ “ปวดจุกชายโครง”
ที่ทำให้ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาโดยด่วน

สาเหตุหลักของการเกิดนิ่วในทางเดินปัสสาวะมีหลายประการ ได้แก่:
1. การขาดน้ำหรือดื่มน้ำน้อย
การที่ร่างกายได้รับน้ำน้อย ทำให้ปัสสาวะเข้มข้น ส่งผลให้สารบางชนิดที่ละลายอยู่ในปัสสาวะตกผลึกได้ง่าย
เช่น แคลเซียม ออกซาเลต กรดยูริก
2. พฤติกรรมการกิน
การรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง โซเดียมสูง ออกซาเลตสูง (เช่น ผักโขม ช็อกโกแลต ถั่วบางชนิด)
หรือการดื่มน้ำอัดลมมาก อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่ว
3. ความผิดปกติของร่างกาย
เช่น ความผิดปกติในการทำงานของต่อมพาราไทรอยด์ ภาวะกรดยูริกในเลือดสูง โรคเกาต์ โรคไตเรื้อรัง
หรือภาวะกรดในปัสสาวะสูงผิดปกติ
4. พันธุกรรม
มีประวัติครอบครัวเป็นนิ่วมาก่อน เพิ่มโอกาสในการเกิดนิ่วมากขึ้น
5. การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะเรื้อรัง
โดยเฉพาะนิ่วชนิด “struvite” มักพบในผู้หญิงที่มีการติดเชื้อซ้ำบ่อย ๆ



ideaอาการของนิ่วขึ้นอยู่กับตำแหน่งและขนาดของนิ่ว โดยทั่วไปอาจแบ่งอาการได้ดังนี้:
1. นิ่วในไต (Kidney Stone) อาจไม่มีอาการถ้านิ่วมีขนาดเล็ก ปวดหลังหรือปวดชายโครงด้านหลัง
ปวดลามลงมาที่ท้องน้อยหรือขาหนีบ ปัสสาวะเป็นเลือด หรือขุ่น
2. นิ่วในท่อไต (Ureter Stone) ปวดแบบบิดตัวอย่างรุนแรงที่หลังหรือด้านข้างของลำตัว
ปวดลามไปยังขาหนีบ ปัสสาวะบ่อย ปวดแสบขณะปัสสาวะ คลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย
3. นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ (Bladder Stone) ปัสสาวะขัด หรือหยุดเป็นช่วง ๆ
ปัสสาวะไม่สุด ปวดท้องน้อย โดยเฉพาะขณะปัสสาวะ
4. นิ่วในท่อปัสสาวะ (Urethral Stone) ปัสสาวะขัดหรือหยุดปัสสาวะกะทันหัน
ปวดมากบริเวณอวัยวะเพศ

การวินิจฉัยโรคนิ่วทางเดินปัสสาวะต้องอาศัยทั้งอาการทางคลินิกและการตรวจทางห้องปฏิบัติการร่วมกับการถ่ายภาพ ได้แก่:
1. ซักประวัติและตรวจร่างกาย ประเมินอาการปวด การปัสสาวะ และการดื่มน้ำ
2. ตรวจปัสสาวะ ตรวจหาสารตกค้าง เช่น เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว
ตรวจระดับความเป็นกรด-ด่าง ตรวจหาการติดเชื้อ
3. ตรวจเลือด ตรวจค่าการทำงานของไต ตรวจระดับแคลเซียม กรดยูริก
4. เอกซเรย์ระบบทางเดินปัสสาวะ (KUB) ใช้ตรวจหานิ่วที่มีส่วนประกอบของแคลเซียม
5. อัลตราซาวด์ (Ultrasound) ปลอดภัย เหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถฉีดสารทึบรังสีได้ เช่น หญิงตั้งครรภ์
6. เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) แม่นยำที่สุด เห็นนิ่วได้ทุกชนิด แม้ขนาดเล็กกว่า 2 มม.

การรักษาขึ้นอยู่กับตำแหน่งและขนาดของนิ่ว และอาการของผู้ป่วย โดยมีแนวทางหลัก ๆ
1. การรักษาแบบประคับประคอง (Conservative Treatment)
เหมาะสำหรับนิ่วขนาดเล็ก < 5 มม. แนะนำให้ดื่มน้ำมาก ๆ (วันละ 2-3 ลิตร) ใช้ยาแก้ปวดและยาขับปัสสาวะ
ตรวจติดตามโดยแพทย์
2. การใช้ยา
ยาละลายนิ่ว: เช่น potassium citrate ใช้สำหรับนิ่วกรดยูริก
ยาปฏิชีวนะ: ถ้ามีการติดเชื้อ
ยาช่วยให้กล้ามเนื้อทางเดินปัสสาวะคลายตัว (เช่น tamsulosin)
3. การสลายนิ่วด้วยคลื่นเสียง (ESWL)
เหมาะกับนิ่วขนาดไม่เกิน 2 ซม. ไม่ต้องผ่าตัด ต้องทำซ้ำหลายครั้ง
4. การส่องกล้องและใช้เลเซอร์ (URS, PCNL)
สำหรับนิ่วขนาดใหญ่ หรือติดอยู่ในท่อไต
สอดกล้องผ่านท่อปัสสาวะหรือทางผิวหนังไต
5. การผ่าตัด
ปัจจุบันใช้น้อยลง แต่ยังจำเป็นในบางรายที่นิ่วใหญ่มาก หรือมีความผิดปกติร่วมด้วย

ideaโรคนิ่วสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ภายในไม่กี่ปี หากไม่ปรับพฤติกรรม ดังนั้นการป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก:
ดื่มน้ำมาก อย่างน้อย 2-3 ลิตรต่อวัน สังเกตปัสสาวะให้ใส ไม่มีสีเข้ม
ปรับพฤติกรรมการกิน ลดอาหารเค็ม ของหมักดอง อาหารไขมันสูง
หลีกเลี่ยงน้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
กินผักผลไม้ที่มีโพแทสเซียมและแมกนีเซียมสูง
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยควบคุมน้ำหนัก และระบบเผาผลาญของร่างกาย
พบแพทย์เพื่อติดตาม หากมีประวัติเป็นนิ่ว ควรติดตามเป็นระยะ และตรวจหาสารเคมีในปัสสาวะเพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยง

โรคนิ่วทางเดินปัสสาวะเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและสามารถสร้างความทรมานให้ผู้ป่วยได้มาก
แม้ว่าจะมีวิธีการรักษาหลากหลาย แต่การป้องกันยังเป็นหัวใจสำคัญที่สุด
การดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน การควบคุมอาหาร และการติดตามดูแลสุขภาพเป็นประจำ
จะช่วยลดความเสี่ยงของการกลับมาเป็นนิ่วซ้ำ และช่วยให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ห่างไกลจากภาวะเจ็บปวดรุนแรงของโรคนิ่วได้อย่างยั่งยืน

ความรู้เพิ่มเติม
https://www.youtube.com/watch?v=Ymgt0y5gD7A
https://www.thonburihospital.com/en/package/%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%97/

lovelove
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่