ก่อนอื่น ขอบอกก่อนว่า
**เรื่องนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของเรา ซึ่งอาจจะแตกต่างไปในแต่ละบุคคล**
อยากที่จะมาแบ่งปัน เพื่อช่วยให้เพื่อนๆเลือกเทรนกับเทรนเนอร์ได้ตรงกับความต้องการของตัวเอง
——————————————-
ประมาณ 3 เดือนที่แล้ว เรามีความอยากจะปั้นหุ่นให้ lean มี six packs แต่ก็ขี้เกียจไปยิม เลยแพลนจะหาเทรนเนอร์ออนไลน์ และซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายมาเล่นเองที่บ้าน หลังจากแพลนเรียบร้อย ปฏิบัติการนั้นก็เริ่มขึ้น
เราเริ่มไปดู ig เทรนเนอร์เจ้าดังต่างๆ แล้วก็สนใจเทรนเนอร์ชื่อดังท่านนึ่งที่มีลูกเทรนเป็นหมื่นๆ เทรนมาแล้ว 10 กว่าปี (ตามคำบอกเล่าของเค้านะ) มีappเป็นของตัวเอง ประกอบกับ content การเลือกอาหารต่างๆ และการออกกำลังกาย ซึ่งดีมากเลยแหละ ก็เริ่มดู content ของเค้าประมาณนึงจนรู้สึกว่าน่าจะเหมาะกับเรา เลยทักไลน์ไปหา พอได้คุยกับเทรนเนอร์ท่านนี้ ก็รู้สึกว่าเค้าใส่ใจดี ราคาก็ดี เลยสมัครยาวไปเลยจ้า
พอสมัครไปแล้ว ทางเทรนเนอร์ก็จะมีตารางให้ว่าเริ่มเทรนทุกวันอะไร ส่งการบ้านให้เค้าแบบไหน มีคู่มือวิธีกินอาหารให้ ซึ่งจุดนี้ดูเป็นระบบดี เดือนแรกเราก็ส่งรายการอาหารทุกวันแหละ ก็ปรับเพิ่มลดอาหารไปตามพฤติกรรมในช่วงนั้นๆ และมีการให้ส่งรูปอัพเดทหุ่นตัวเองทุก 2 อาทิตย์ และถามว่าฟีลร่างกายเป็นยังไง บาลานซ์อาหารง่ายมั้ย (งงในคำถาม เพราะไม่รู้สึกอะไรกับร่างกายตัวเองเลย ไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดี) นอกจากนี้เค้าก็มีแอพ ที่แนะนำท่าออกกำลังกายให้ด้วย แต่ไม่เคยมีใครมาแนะนำอะไร จนประมาณ สัปดาห์สุดท้ายก้อนจะเริ่มเดือนที่ 2 ก็มาบอกว่า “อาทิตย์หน้าเริ่มออกกำลังกายกับชุดท่าที่ 2 นะ” เราก็งงเลย ออกกำลังกายอะไร ทำไมไม่เคยได้โปรแกรม สุดท้ายทางเทรนเนอร์ก็บอกว่าอยู่ในแอพ ก็แอบตลกบวกโมโหอยู่ เพราะตอนส่งรูปอัพเดทสัดส่วน ถามว่าต้องอัพขึ้นแอพด้วยมั้ย ทางเทรนเนอร์บอกไม่ต้อง และย้อนกลับไปตอนเริ่มเล่นอาทิตย์แรก ก็ให้แค่ access เพื่อ login เข้ามา ไม่ได้แนะนำการใช้แอพอะไรเลยซักอย่าง
คือเราก็ไม่ใช่คนช่างถามเนอะ ถ้าไม่ได้บอกว่าจะให้ทำอะไรกับแอพ เราก็ไม่เคยเข้าไปดูเลย เพราะเหมือนการติดต่อต่างๆผ่านลูกเทรน จะอยู่บนไลน์ทั้งหมด ช่วงเดือนแรกๆ ก็แอบงงอยู่ว่า ทำแอพมาซะสวย แต่ไม่เห็นให้ใช้อะไรเลย ทำมาทำไมกัน
หลังจากนั้นพอเข้าเดือนที่สอง ก็ส่งการบ้านบ้างไม่ส่งบ้าง ดูว่าเทรนเนอร์จะตามมั้ย สรุปเค้าไม่ตามเลยจ้า ยกเว้นส่งตามให้อัพเดทรูปหุ่นทุกสองอาทิตย์ เราก็ถือว่าเป็นความไม่ใส่ใจของเราละกันที่ไม่ส่ง แต่ความรู้สึกของเรา เราก็รู้สึกไม่ได้ Happy ตั้งแต่วันที่ไม่บอกท่าออกกำลังกายบนแอพละ ก็คุยเท่าที่ต้องคุยแหละ
นอกจากนี้ เค้าจะมีช่วงไลฟ์ตอบคำถาม ซึ่งมีสาระดีนะ แต่เทรนเนอร์บอกว่า พยายามคุยกับเค้าเยอะๆนะ เค้าอยากช่วย ถ้าไม่คุยกับเค้า เค้าก็ไม่รู้ว่าช่วยยังไง (จุดนี้ถ้าลูกเทรนพูดไม่เยอะ ถามไม่เยอะ ก็อาจจะไม่เหมาะที่จะเทรนกับเค้าในความคิดเรา)
พอเริ่มเดือนที่สาม เริ่มก็มาดูท่าออกกำลังกาย ลองทำตาม มันก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง สิ่งนี้แหละเราคิดว่าอาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน ในส่วนของ weight training คือยิ่งไม่มี skill ในการออกกำลังกาย มันจะทำท่าไม่ถูก แล้วมันก็จะไม่ค่อยได้ผล แล้วบทสรุปก็คือ เราจะไม่ออกจะต่อ และจบด้วยการเลิกมันไปดื้อๆแหละ เราก็เลยลองกลับไปหา personal trainer แบบเจอหน้ากันตัวเป็นๆ พอเทรนกับเทรนเนอร์คนใหม่ไปได้ประมาณ 2 อาทิตย์มันเริ่มดีขึ้นแหละ และคิดว่าการเจอ personal trainer สำหรับ weight training อาจจะเหมาะกว่า เนื่องจากการเวท ต้องใช้เวลาฝึกกล้ามเนื้อ และปรับสรีระร่างกายใหม่ บางท่าต้องจับมือทำกันเลยแหละ คือถ้าแค่ดูมันไม่เข้าใจจริงๆ พอเริ่มเทรนสม่ำเสมอ มีคนคุม มันมีพัฒนาการ แต่ในส่วนนี้ก็ต้องค่อยๆเทรนกันไป
กลับมาที่เทรนเนอร์ออนไลน์ ด้วยความเสียดายเงิน อยากได้เงินคืนบ้าง เพราะว่าเล่นไปแค่ครึ่งเดียวเอง ก็แชทกลับไปบอกเค้าว่า จะขอหยุดเทรนและขอเงินคืนบางส่วน เงียบไปเลยจ้า ครึ่งค่อนวัน แล้วก็ตอบกลับมาว่า ไม่มีนโยบายคืนเงินให้ แต่ติดปัญหาบอกเค้าได้
เราเลยขอเป็นแลกเงินส่วนต่างเป็นสินค้าแบรนด์ของเค้าก็ได้ เพราะยังไงเราก็คงไม่เทรนกับเค้าอีกแล้ว ตอนนี้ไม่อ่านเงียบไปเลยจ้า ไม่รู้บล็อกไปยังนะ คือความรู้สึกมันต่างจากตอนก่อนซื้อคอร์สมากมายอ่ะ ค่อยๆเสียความรู้สึกไปในแต่ละเดือน แต่เข้าใจนะ คนทำธุรกิจเค้าได้เงินไปแล้ว เค้าไม่ได้อยากคืนมากนักหรอก ถ้ามีทางอื่นแก้ปัญหาได้
นี่แหละบทเรียน อย่าซื้อคอร์สยาว และอย่าซื้อคอร์สออนไลน์ ถ้าไม่ได้มีพื้นฐานการออกกำลังกายมาก่อน
ดู content ฟรีไปก่อน จนกว่าจะมั่นใจ ถ้าอยากลอง ให้ลองคอร์สสั้นก่อน ไม่ Happy ก็เลิก ไม่ต้องมาเสียดายเงินกันทีหลัง
แชร์ประสบการณ์เทรนเนอร์ ลด นน. ออนไลน์
**เรื่องนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของเรา ซึ่งอาจจะแตกต่างไปในแต่ละบุคคล**
อยากที่จะมาแบ่งปัน เพื่อช่วยให้เพื่อนๆเลือกเทรนกับเทรนเนอร์ได้ตรงกับความต้องการของตัวเอง
——————————————-
ประมาณ 3 เดือนที่แล้ว เรามีความอยากจะปั้นหุ่นให้ lean มี six packs แต่ก็ขี้เกียจไปยิม เลยแพลนจะหาเทรนเนอร์ออนไลน์ และซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายมาเล่นเองที่บ้าน หลังจากแพลนเรียบร้อย ปฏิบัติการนั้นก็เริ่มขึ้น
เราเริ่มไปดู ig เทรนเนอร์เจ้าดังต่างๆ แล้วก็สนใจเทรนเนอร์ชื่อดังท่านนึ่งที่มีลูกเทรนเป็นหมื่นๆ เทรนมาแล้ว 10 กว่าปี (ตามคำบอกเล่าของเค้านะ) มีappเป็นของตัวเอง ประกอบกับ content การเลือกอาหารต่างๆ และการออกกำลังกาย ซึ่งดีมากเลยแหละ ก็เริ่มดู content ของเค้าประมาณนึงจนรู้สึกว่าน่าจะเหมาะกับเรา เลยทักไลน์ไปหา พอได้คุยกับเทรนเนอร์ท่านนี้ ก็รู้สึกว่าเค้าใส่ใจดี ราคาก็ดี เลยสมัครยาวไปเลยจ้า
พอสมัครไปแล้ว ทางเทรนเนอร์ก็จะมีตารางให้ว่าเริ่มเทรนทุกวันอะไร ส่งการบ้านให้เค้าแบบไหน มีคู่มือวิธีกินอาหารให้ ซึ่งจุดนี้ดูเป็นระบบดี เดือนแรกเราก็ส่งรายการอาหารทุกวันแหละ ก็ปรับเพิ่มลดอาหารไปตามพฤติกรรมในช่วงนั้นๆ และมีการให้ส่งรูปอัพเดทหุ่นตัวเองทุก 2 อาทิตย์ และถามว่าฟีลร่างกายเป็นยังไง บาลานซ์อาหารง่ายมั้ย (งงในคำถาม เพราะไม่รู้สึกอะไรกับร่างกายตัวเองเลย ไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดี) นอกจากนี้เค้าก็มีแอพ ที่แนะนำท่าออกกำลังกายให้ด้วย แต่ไม่เคยมีใครมาแนะนำอะไร จนประมาณ สัปดาห์สุดท้ายก้อนจะเริ่มเดือนที่ 2 ก็มาบอกว่า “อาทิตย์หน้าเริ่มออกกำลังกายกับชุดท่าที่ 2 นะ” เราก็งงเลย ออกกำลังกายอะไร ทำไมไม่เคยได้โปรแกรม สุดท้ายทางเทรนเนอร์ก็บอกว่าอยู่ในแอพ ก็แอบตลกบวกโมโหอยู่ เพราะตอนส่งรูปอัพเดทสัดส่วน ถามว่าต้องอัพขึ้นแอพด้วยมั้ย ทางเทรนเนอร์บอกไม่ต้อง และย้อนกลับไปตอนเริ่มเล่นอาทิตย์แรก ก็ให้แค่ access เพื่อ login เข้ามา ไม่ได้แนะนำการใช้แอพอะไรเลยซักอย่าง
คือเราก็ไม่ใช่คนช่างถามเนอะ ถ้าไม่ได้บอกว่าจะให้ทำอะไรกับแอพ เราก็ไม่เคยเข้าไปดูเลย เพราะเหมือนการติดต่อต่างๆผ่านลูกเทรน จะอยู่บนไลน์ทั้งหมด ช่วงเดือนแรกๆ ก็แอบงงอยู่ว่า ทำแอพมาซะสวย แต่ไม่เห็นให้ใช้อะไรเลย ทำมาทำไมกัน
หลังจากนั้นพอเข้าเดือนที่สอง ก็ส่งการบ้านบ้างไม่ส่งบ้าง ดูว่าเทรนเนอร์จะตามมั้ย สรุปเค้าไม่ตามเลยจ้า ยกเว้นส่งตามให้อัพเดทรูปหุ่นทุกสองอาทิตย์ เราก็ถือว่าเป็นความไม่ใส่ใจของเราละกันที่ไม่ส่ง แต่ความรู้สึกของเรา เราก็รู้สึกไม่ได้ Happy ตั้งแต่วันที่ไม่บอกท่าออกกำลังกายบนแอพละ ก็คุยเท่าที่ต้องคุยแหละ
นอกจากนี้ เค้าจะมีช่วงไลฟ์ตอบคำถาม ซึ่งมีสาระดีนะ แต่เทรนเนอร์บอกว่า พยายามคุยกับเค้าเยอะๆนะ เค้าอยากช่วย ถ้าไม่คุยกับเค้า เค้าก็ไม่รู้ว่าช่วยยังไง (จุดนี้ถ้าลูกเทรนพูดไม่เยอะ ถามไม่เยอะ ก็อาจจะไม่เหมาะที่จะเทรนกับเค้าในความคิดเรา)
พอเริ่มเดือนที่สาม เริ่มก็มาดูท่าออกกำลังกาย ลองทำตาม มันก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง สิ่งนี้แหละเราคิดว่าอาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน ในส่วนของ weight training คือยิ่งไม่มี skill ในการออกกำลังกาย มันจะทำท่าไม่ถูก แล้วมันก็จะไม่ค่อยได้ผล แล้วบทสรุปก็คือ เราจะไม่ออกจะต่อ และจบด้วยการเลิกมันไปดื้อๆแหละ เราก็เลยลองกลับไปหา personal trainer แบบเจอหน้ากันตัวเป็นๆ พอเทรนกับเทรนเนอร์คนใหม่ไปได้ประมาณ 2 อาทิตย์มันเริ่มดีขึ้นแหละ และคิดว่าการเจอ personal trainer สำหรับ weight training อาจจะเหมาะกว่า เนื่องจากการเวท ต้องใช้เวลาฝึกกล้ามเนื้อ และปรับสรีระร่างกายใหม่ บางท่าต้องจับมือทำกันเลยแหละ คือถ้าแค่ดูมันไม่เข้าใจจริงๆ พอเริ่มเทรนสม่ำเสมอ มีคนคุม มันมีพัฒนาการ แต่ในส่วนนี้ก็ต้องค่อยๆเทรนกันไป
กลับมาที่เทรนเนอร์ออนไลน์ ด้วยความเสียดายเงิน อยากได้เงินคืนบ้าง เพราะว่าเล่นไปแค่ครึ่งเดียวเอง ก็แชทกลับไปบอกเค้าว่า จะขอหยุดเทรนและขอเงินคืนบางส่วน เงียบไปเลยจ้า ครึ่งค่อนวัน แล้วก็ตอบกลับมาว่า ไม่มีนโยบายคืนเงินให้ แต่ติดปัญหาบอกเค้าได้
เราเลยขอเป็นแลกเงินส่วนต่างเป็นสินค้าแบรนด์ของเค้าก็ได้ เพราะยังไงเราก็คงไม่เทรนกับเค้าอีกแล้ว ตอนนี้ไม่อ่านเงียบไปเลยจ้า ไม่รู้บล็อกไปยังนะ คือความรู้สึกมันต่างจากตอนก่อนซื้อคอร์สมากมายอ่ะ ค่อยๆเสียความรู้สึกไปในแต่ละเดือน แต่เข้าใจนะ คนทำธุรกิจเค้าได้เงินไปแล้ว เค้าไม่ได้อยากคืนมากนักหรอก ถ้ามีทางอื่นแก้ปัญหาได้
นี่แหละบทเรียน อย่าซื้อคอร์สยาว และอย่าซื้อคอร์สออนไลน์ ถ้าไม่ได้มีพื้นฐานการออกกำลังกายมาก่อน
ดู content ฟรีไปก่อน จนกว่าจะมั่นใจ ถ้าอยากลอง ให้ลองคอร์สสั้นก่อน ไม่ Happy ก็เลิก ไม่ต้องมาเสียดายเงินกันทีหลัง