Hangetsu Omakase (Bangkok,Thailand)
วันนี้ขอมาreview ร้านโอมาคาเซะที่กินแล้วหัวใจพองฟู ถ้าใครอยากหามื้ออะไรที่กินเเบบสาเเก่ ใจ ให้รางวัลกับตัวเองสักมื้อ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสายลึกที่ต้องเคร่งเครียดกับมื้ออาหาร ก็สนุกสนานไปกับOmakaseได้อย่างไม่เคร่งเครียด ผมขอเเนะนำให้มาลองทานอาหารสักมื้อของของhangetsuได้ ตลอดทั้งมื้อเราจะได้ลองสุดยอดวัตถุดิบครบๆทั้งคาเวียร์ อูนิ เป๋าฮื้อ โอโทโร่ เนื้อคุโรเกะวากิว A5 และปูทาราบะ ซึ่งบางอย่างนั้นไม่ได้มาเเค่คำเดียวแต่มาถึงสองหรือสามคำเลยครับ จะมีใครให้มากกว่านี้ไหม
Hangetsu เป็นร้านโอมาคาเซะย่านเอกมัยที่ผมขอยกให้เป็นหนึ่งในร้านที่พรีเมี่ยม ที่สุดในกรุงเทพ .ในวันนี้ผมทานคอร์ส8800 บาท แต่ทางร้านยังมีคอร์ส 15,000 บาท ที่มีโอกาสคงได้ไปลองครับ หรือจะกินเป็นมื้อเล็กๆลงมากมีก็คอร์สเริ่มต้นที่ 3800++ โดยจุดเด่นของร้านนั้นคงเป็นเรื่องการผสมผสานmolecular gastronomyกับSushiได้อย่างน่าสนใจทำให้เราสนุกสนานไปกับลูกเล่นเเพรวพราวตลอดทั้งมื้อ นอกจากนั้นเชฟยังมีอารมณ์ขันซึ่งช่วยให้เราเพลิดเพลินไปกับอาหารของ Hangetsu เป็นอย่างมาก
ตัวร้านตบแต่งให้ความรู้สึกเรียบง่ายด้วยสีเบสสบายตา แต่แฝงไปด้วยความหรูหราของเทศกาลโคมไฟและจานชามสีทอง ภายในร้านมีมุมถ่ายรูปสวยๆอยู่หลายมุมเลยครับ
ในสวนของอาหารนั้นอย่างเล่าไปตอนเเรกทั้งร้านนี้เป็นร้านที่ให้ของมาอย่างสะใจ ทั้งจำนวนคำหรือปริมาณอูนิและคาเวียร์ที่ให้มาถือว่าไม่น้อยเลยครับ ถ้าอยากกินมื้อสะใจๆจัดเต็ม แบบไม่ต้องสนอะไร ผมว่าที่นี้นั้นตอบโจทย์เลยทีเดียว

สำหรับในส่วนของรสนั้น เป็นสไตล์ค่อนข้างไปทางสายกลางไม่จัดจ้านหรือโดดเด่น เเต่มีความครบรส สม่ำเสมอตลอดทั้งคอร์ส รวมทั้งด้วยเทคนิคเเบบตะวันตกหลายๆอย่างที่ถูกนำมาใช้ทำให้อาหารของที่นี้นั้นเข้าใจง่าย เชฟมีความใส่ใจเเละตั้งใจดีมากๆครับ มีการถามถึงปริมาณข้าวหรือวาซาบิถ้ามากไปหรือน้อยไปแจ้งเชฟได้เลย เราจะได้พบกับการใช้มะนาวเพื่อตัดเลี่ยน ทรัฟเฟิลออยเพื่อเพิ่มมิติ รวมทั้งการใช้ Molecular Technique ต่างๆ อย่างการใช้ smoke gun หรือ molecular caviar อีกด้วย ซึ่งมันช่วยความแตกต่างจากซูชิเดิมๆได้อย่างน่าสนใจ
Welcome drink yuzu peach แก้วนี้รสไม่จัดมากละมุนๆ เปรี้ยวอมหวานอ่อนๆหอมยุสุและพีช

.
Appitizer ของเราประกอบด้วย
Mozoku สาหร่ายลื่นดี รสไม่จัดมากกลิ่นสาหร่ายชัด อันนี้เอาจริงๆผมชอบของที่ร้านมากๆครับ รสไม่จัดมากบาลานซ์ความเปรี้ยวหวานอ่อนๆ ได้รสอุมามิของดาชิ และกลิ่นสาหร่ายที่ชัดเจน
ปลาWakasagiทอด คำนี้ก็ทำมาได้ดีครับเเม้จะไม่ได้เสริฟ์มาร้อนควันขึ้นเเต่ก็ยังกรอบไม่อมน้ำมัน เนื้อปลาที่ฟูหวานถูกชูด้วยรสฉุนเผ็ดเบาๆของวาซาบิคริสตัลด้านบน เป็นคำที่อร่อยครับ
ปู sawakaniทอด ทอดมาได้กรอบไม่เเข็ง เคี้ยวกรุบๆเพลินๆครับ
Tai shirako หรือชิราโกะปลาไท เสริฟ์มากับพอนซึเยลลี่ และหัวไชเท้าขูด ให้ชิ้นใหญ่เลยครับ โดยเชฟนำชิราโกะไปปิ้งบนถ่านอ่อนๆชูกลิ่นหอมครีมมี่เฉพาะตัว ปิ้งมากำลังดีไม่สุกเกินไป รสซอสพอนซึไม่เปรี้ยวจัดมากทำให้ไม่กลบรสครีมมี่ของชิราโกะครับ
ซิกเนเจอร์ของทางร้าน หรือankimo เสริฟ์มากับข้าวผสมซอสตับและแป้งชาโคลเทมปุระ เสริฟ์มาใน sphere ควันกลิ่นเบอร์รี่ คำนี้อาจจะไม่มีรสโดดเด่นเเต่ก็ทุกองค์ประกอบกลมกล่อมลงตัวดีครับ รสหวานละมุนๆครีมมี่ของอังคิโมะที่ต้มมาในซอสหวานอ่อนๆ ตัดกับข้าวรสเค็มอมเปรี้ยวนิดๆ เบรคความเลี่ยนด้วยวาซาบิ ลงตัวดีเลย ที่ประทับใจเห็นจะเป็นกลิ่นหวานจากควันไม้นั้นเข้ากับอังคิโมะได้ดีเลยครับ
Shima aji คำนี้วันนี้ปลาดีเลยครับ เนื้อกรอบมัน ขิงกับหอมรสไม่จัดจนกลบรสปลา ตัวข้าวที่มีรสกลางๆไม่เปรี้ยวมากทำให้ไม่กลบรสมันของปลา อร่อยครับ
อิซากิ เสริฟ์มากับ พอนซึซอส ยุสุโคโชะ เเละฟิงเกอรไลม์ คำนี้ตอนเสริฟ์นี้คิดเลยแฮะว่าจะออกมาเเบบไหน แต่คำนี้ดีเลยครับ เนื้อปลามันกรอบ ตัดกับความกรุบๆเปรี้ยวโปร่งของฟิงเกอร์ไลม์ โดยพอนซึที่ใส่มาบางๆนั้น ช่วยผสมผสานมันให้เข้ากับรสเค็มฉุนของยุสุโคโซะที่ช่วยขับรสหวานของปลาได้อย่างน่าสนใจ
ปูขน หรือ kegani อีกหนึ่งสุดยอดวัตถุดิบ โดยเชฟเสริฟ์มากับมันปูและข้าว โดยเราจะได้รสเฉพาะตัวของปูขน ข้าวที่มีความมันครีมมี่นิดๆจากมันปูที่เจือด้วยกลิ่นทรัฟเฟิลบางๆ
Nodokuro เชฟเสริฟ์มาเเบบอาบุริที่ผิวนิดๆ ตัวปลามันมากเเละเนื้อนุ่มมากจากการอาบุริที่เหมาะสม ตัวข้าวรสเค็มนำ ตัดกับรสเปรี้ยวจากมะนาวญี่ปุ่นเเละโอโรชิ ทำให้ออกมาเป็นคำที่กล่มกล่อมเเละอร่อยครับ
โบตันเอบิ และ คาราซูมิ คำนี้เเม้วัตถุดิบจะเป็นของญี่ปุ่นหมดเเต่ผมว่ารสขอมันมีความตะวันตกเหมือนกัน โดยคำนี้เชฟเลืกเสริฟ์กุ้งมากับไข่ปลากระบอกตากแห้งหรือ bottarga โดยใช้คาราซูมิที่ถูกเรียกว่าชีสเเห่งท้องทะเลที่มีรสเค็มครีมมี่ชูรสชาติในเนื้อกุ้งรสหวานหวาน
เป๋าฮื้อหรือawabi นั้นใช้ของจากมิยากกิ เสริฟ์มากับ ข้าวชาริปรุงรสด้วยทรัฟเฟิล ซอสคิโมะ และอูนิบาฟุน ตัวที่ชอบเลยคือเท็กเจอร์ของเป๋าฮื้อที่เป็นการ searกับเนย ทำมาได้ดีครับไม่สุกจนเเข็งหอมกลิ่นเนย ทำให้เข้ากับข้าวที่มีกลิ่นทรัฟเฟิลเเละซอสตับได้อย่างลงตัว
Hotate เสริฟ์มากับ tosazu jelly หรือเยลลี่น้ำส้มสายชูญี่ปุ่น และ ikura โดยเราจะได้รสไข่ปลาที่เค็มเบาๆไม่จัดมากเเละความกรุบนิดๆ รสเปรี้ยวอ่อนๆจากเยลลี่น้ำส้มสายชูTosaอละเท็กเจอร์ลื่นคอ ก่อนปิดด้วยรสหวานละมุนจากหอย Hotateและความนุ่ม เป็นคำที่ครบรสดีครับ
Junzai jelly เสริฟ์มากับโอโรชิหัวไชเท้า อันนี้เสริฟ์มาเเบบเยลลี่เเต่ก็ลื่นคอไม่รู้สึกแห้งเเต่อย่างใด โดยตัวเยลลี่ทำดาชิกระดูกปลาทำให้มีรสอุามามิอย่างเต็มเปี่ยม
อากามิซึเกะกับคาเวียร์ คำนนี้แม้จะเป็นอากามิหรือเนื้อเเดงแต่รสชาติจัดจ้านเข้มข้นทีเดียวครับ มีทั้งความนัวร์จากทรัฟเฟิลในข้าว คาเวียร์ที่ให้รสเค็มละมุนเเละกลิ่นอายทะเล ก่อนปิดท้ายด้วเสนห์ของปลาทูน่าเนื้อเเดงจากอากามิ
ชูโทโร่ อาบุริ เสริฟ์มากับสาหร่าย บาฟุนอูนิ และ คาเวียร์ คำนี้เนื่องจากมีรสเค็มจากคาเวียร์แล้ว เชฟจึงเลือกใช้เกลือยูกิชิโอะที่รสค่อนข้างละมุน เพื่อชูความอร่อยของโทโร่ คาเวียรเเละอูนิ ก่อนจะเพิ่มความเข้มข้นอุมามิด้วยสาหร่าย เป็นอะไรที่สะใจดีจริงครับได้กินอะไรแบบนี้ ผมว่าทุกคนคงยิ้มได้เมื่อได้รับประทาน
โอโทโร่ ผมประทับใจคำนี้มากๆครับ เชฟไม่ใช่เเค่ย่างที่ผิว ย่างจนมันละลายนุ่มในปากแต่กลับไม่ทำให้เนื้อปลาสุก กินกับซอสที่รสหวานนำเบาๆ กับข้าวรสเค็มอมเปรี้ยวเเล้ว เข้ากันได้เป็นอย่างดี อร่อยมากครับ
อูนิในวันนี้เป็นบาฟุนของ เเบรนด์ โอกาวะ ครับ ให้มาเเถวใหญ่เลยทีเดียว
อากิตะ วากิว a5 sanwitch คำนี้เเม้จะรู้สึกเข้มข้นแต่กลับไม่เลี่ยนหนักเชฟบาลานซ์รสได้ดีครับตัวขนมปังหอมกลิ่นเนย ซอสรสเค็มนำเปรี้ยวอมหวาน เนื้อมันหอมนุ่มอร่อย ก่อนเพิ่มมิติด้วยอูนิแสนหวาน
ปิดท้ายอาหารด้วย ของอุ่นๆกันบ้างที่อื่นเสริฟ์เป็นซุปถ้วยๆที่นี้เป็นปูทาราบะชาบู รสอ่อนๆ ตัวซุปน่าจะเป็นเบสท์กระดูกปลา เนื้อปูกรอบ มีกลิ่นบางๆของซูดาจิ
ขนมหวานเป็น แมล่อน เชอเบทรสซิตรัสทำสดๆตรงหน้า เเละคัสตาร์ดพุดดิ้งครับ
[SR] บอสพาชิม : Hangetsu Omakase
วันนี้ขอมาreview ร้านโอมาคาเซะที่กินแล้วหัวใจพองฟู ถ้าใครอยากหามื้ออะไรที่กินเเบบสาเเก่ ใจ ให้รางวัลกับตัวเองสักมื้อ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสายลึกที่ต้องเคร่งเครียดกับมื้ออาหาร ก็สนุกสนานไปกับOmakaseได้อย่างไม่เคร่งเครียด ผมขอเเนะนำให้มาลองทานอาหารสักมื้อของของhangetsuได้ ตลอดทั้งมื้อเราจะได้ลองสุดยอดวัตถุดิบครบๆทั้งคาเวียร์ อูนิ เป๋าฮื้อ โอโทโร่ เนื้อคุโรเกะวากิว A5 และปูทาราบะ ซึ่งบางอย่างนั้นไม่ได้มาเเค่คำเดียวแต่มาถึงสองหรือสามคำเลยครับ จะมีใครให้มากกว่านี้ไหม
Hangetsu เป็นร้านโอมาคาเซะย่านเอกมัยที่ผมขอยกให้เป็นหนึ่งในร้านที่พรีเมี่ยม ที่สุดในกรุงเทพ .ในวันนี้ผมทานคอร์ส8800 บาท แต่ทางร้านยังมีคอร์ส 15,000 บาท ที่มีโอกาสคงได้ไปลองครับ หรือจะกินเป็นมื้อเล็กๆลงมากมีก็คอร์สเริ่มต้นที่ 3800++ โดยจุดเด่นของร้านนั้นคงเป็นเรื่องการผสมผสานmolecular gastronomyกับSushiได้อย่างน่าสนใจทำให้เราสนุกสนานไปกับลูกเล่นเเพรวพราวตลอดทั้งมื้อ นอกจากนั้นเชฟยังมีอารมณ์ขันซึ่งช่วยให้เราเพลิดเพลินไปกับอาหารของ Hangetsu เป็นอย่างมาก
ตัวร้านตบแต่งให้ความรู้สึกเรียบง่ายด้วยสีเบสสบายตา แต่แฝงไปด้วยความหรูหราของเทศกาลโคมไฟและจานชามสีทอง ภายในร้านมีมุมถ่ายรูปสวยๆอยู่หลายมุมเลยครับ
ในสวนของอาหารนั้นอย่างเล่าไปตอนเเรกทั้งร้านนี้เป็นร้านที่ให้ของมาอย่างสะใจ ทั้งจำนวนคำหรือปริมาณอูนิและคาเวียร์ที่ให้มาถือว่าไม่น้อยเลยครับ ถ้าอยากกินมื้อสะใจๆจัดเต็ม แบบไม่ต้องสนอะไร ผมว่าที่นี้นั้นตอบโจทย์เลยทีเดียว
สำหรับในส่วนของรสนั้น เป็นสไตล์ค่อนข้างไปทางสายกลางไม่จัดจ้านหรือโดดเด่น เเต่มีความครบรส สม่ำเสมอตลอดทั้งคอร์ส รวมทั้งด้วยเทคนิคเเบบตะวันตกหลายๆอย่างที่ถูกนำมาใช้ทำให้อาหารของที่นี้นั้นเข้าใจง่าย เชฟมีความใส่ใจเเละตั้งใจดีมากๆครับ มีการถามถึงปริมาณข้าวหรือวาซาบิถ้ามากไปหรือน้อยไปแจ้งเชฟได้เลย เราจะได้พบกับการใช้มะนาวเพื่อตัดเลี่ยน ทรัฟเฟิลออยเพื่อเพิ่มมิติ รวมทั้งการใช้ Molecular Technique ต่างๆ อย่างการใช้ smoke gun หรือ molecular caviar อีกด้วย ซึ่งมันช่วยความแตกต่างจากซูชิเดิมๆได้อย่างน่าสนใจ
Welcome drink yuzu peach แก้วนี้รสไม่จัดมากละมุนๆ เปรี้ยวอมหวานอ่อนๆหอมยุสุและพีช
Appitizer ของเราประกอบด้วย
Mozoku สาหร่ายลื่นดี รสไม่จัดมากกลิ่นสาหร่ายชัด อันนี้เอาจริงๆผมชอบของที่ร้านมากๆครับ รสไม่จัดมากบาลานซ์ความเปรี้ยวหวานอ่อนๆ ได้รสอุมามิของดาชิ และกลิ่นสาหร่ายที่ชัดเจน
ปลาWakasagiทอด คำนี้ก็ทำมาได้ดีครับเเม้จะไม่ได้เสริฟ์มาร้อนควันขึ้นเเต่ก็ยังกรอบไม่อมน้ำมัน เนื้อปลาที่ฟูหวานถูกชูด้วยรสฉุนเผ็ดเบาๆของวาซาบิคริสตัลด้านบน เป็นคำที่อร่อยครับ
ปู sawakaniทอด ทอดมาได้กรอบไม่เเข็ง เคี้ยวกรุบๆเพลินๆครับ
Tai shirako หรือชิราโกะปลาไท เสริฟ์มากับพอนซึเยลลี่ และหัวไชเท้าขูด ให้ชิ้นใหญ่เลยครับ โดยเชฟนำชิราโกะไปปิ้งบนถ่านอ่อนๆชูกลิ่นหอมครีมมี่เฉพาะตัว ปิ้งมากำลังดีไม่สุกเกินไป รสซอสพอนซึไม่เปรี้ยวจัดมากทำให้ไม่กลบรสครีมมี่ของชิราโกะครับ
ซิกเนเจอร์ของทางร้าน หรือankimo เสริฟ์มากับข้าวผสมซอสตับและแป้งชาโคลเทมปุระ เสริฟ์มาใน sphere ควันกลิ่นเบอร์รี่ คำนี้อาจจะไม่มีรสโดดเด่นเเต่ก็ทุกองค์ประกอบกลมกล่อมลงตัวดีครับ รสหวานละมุนๆครีมมี่ของอังคิโมะที่ต้มมาในซอสหวานอ่อนๆ ตัดกับข้าวรสเค็มอมเปรี้ยวนิดๆ เบรคความเลี่ยนด้วยวาซาบิ ลงตัวดีเลย ที่ประทับใจเห็นจะเป็นกลิ่นหวานจากควันไม้นั้นเข้ากับอังคิโมะได้ดีเลยครับ
Shima aji คำนี้วันนี้ปลาดีเลยครับ เนื้อกรอบมัน ขิงกับหอมรสไม่จัดจนกลบรสปลา ตัวข้าวที่มีรสกลางๆไม่เปรี้ยวมากทำให้ไม่กลบรสมันของปลา อร่อยครับ
อิซากิ เสริฟ์มากับ พอนซึซอส ยุสุโคโชะ เเละฟิงเกอรไลม์ คำนี้ตอนเสริฟ์นี้คิดเลยแฮะว่าจะออกมาเเบบไหน แต่คำนี้ดีเลยครับ เนื้อปลามันกรอบ ตัดกับความกรุบๆเปรี้ยวโปร่งของฟิงเกอร์ไลม์ โดยพอนซึที่ใส่มาบางๆนั้น ช่วยผสมผสานมันให้เข้ากับรสเค็มฉุนของยุสุโคโซะที่ช่วยขับรสหวานของปลาได้อย่างน่าสนใจ
ปูขน หรือ kegani อีกหนึ่งสุดยอดวัตถุดิบ โดยเชฟเสริฟ์มากับมันปูและข้าว โดยเราจะได้รสเฉพาะตัวของปูขน ข้าวที่มีความมันครีมมี่นิดๆจากมันปูที่เจือด้วยกลิ่นทรัฟเฟิลบางๆ
Nodokuro เชฟเสริฟ์มาเเบบอาบุริที่ผิวนิดๆ ตัวปลามันมากเเละเนื้อนุ่มมากจากการอาบุริที่เหมาะสม ตัวข้าวรสเค็มนำ ตัดกับรสเปรี้ยวจากมะนาวญี่ปุ่นเเละโอโรชิ ทำให้ออกมาเป็นคำที่กล่มกล่อมเเละอร่อยครับ
โบตันเอบิ และ คาราซูมิ คำนี้เเม้วัตถุดิบจะเป็นของญี่ปุ่นหมดเเต่ผมว่ารสขอมันมีความตะวันตกเหมือนกัน โดยคำนี้เชฟเลืกเสริฟ์กุ้งมากับไข่ปลากระบอกตากแห้งหรือ bottarga โดยใช้คาราซูมิที่ถูกเรียกว่าชีสเเห่งท้องทะเลที่มีรสเค็มครีมมี่ชูรสชาติในเนื้อกุ้งรสหวานหวาน
เป๋าฮื้อหรือawabi นั้นใช้ของจากมิยากกิ เสริฟ์มากับ ข้าวชาริปรุงรสด้วยทรัฟเฟิล ซอสคิโมะ และอูนิบาฟุน ตัวที่ชอบเลยคือเท็กเจอร์ของเป๋าฮื้อที่เป็นการ searกับเนย ทำมาได้ดีครับไม่สุกจนเเข็งหอมกลิ่นเนย ทำให้เข้ากับข้าวที่มีกลิ่นทรัฟเฟิลเเละซอสตับได้อย่างลงตัว
Hotate เสริฟ์มากับ tosazu jelly หรือเยลลี่น้ำส้มสายชูญี่ปุ่น และ ikura โดยเราจะได้รสไข่ปลาที่เค็มเบาๆไม่จัดมากเเละความกรุบนิดๆ รสเปรี้ยวอ่อนๆจากเยลลี่น้ำส้มสายชูTosaอละเท็กเจอร์ลื่นคอ ก่อนปิดด้วยรสหวานละมุนจากหอย Hotateและความนุ่ม เป็นคำที่ครบรสดีครับ
Junzai jelly เสริฟ์มากับโอโรชิหัวไชเท้า อันนี้เสริฟ์มาเเบบเยลลี่เเต่ก็ลื่นคอไม่รู้สึกแห้งเเต่อย่างใด โดยตัวเยลลี่ทำดาชิกระดูกปลาทำให้มีรสอุามามิอย่างเต็มเปี่ยม
อากามิซึเกะกับคาเวียร์ คำนนี้แม้จะเป็นอากามิหรือเนื้อเเดงแต่รสชาติจัดจ้านเข้มข้นทีเดียวครับ มีทั้งความนัวร์จากทรัฟเฟิลในข้าว คาเวียร์ที่ให้รสเค็มละมุนเเละกลิ่นอายทะเล ก่อนปิดท้ายด้วเสนห์ของปลาทูน่าเนื้อเเดงจากอากามิ
ชูโทโร่ อาบุริ เสริฟ์มากับสาหร่าย บาฟุนอูนิ และ คาเวียร์ คำนี้เนื่องจากมีรสเค็มจากคาเวียร์แล้ว เชฟจึงเลือกใช้เกลือยูกิชิโอะที่รสค่อนข้างละมุน เพื่อชูความอร่อยของโทโร่ คาเวียรเเละอูนิ ก่อนจะเพิ่มความเข้มข้นอุมามิด้วยสาหร่าย เป็นอะไรที่สะใจดีจริงครับได้กินอะไรแบบนี้ ผมว่าทุกคนคงยิ้มได้เมื่อได้รับประทาน
โอโทโร่ ผมประทับใจคำนี้มากๆครับ เชฟไม่ใช่เเค่ย่างที่ผิว ย่างจนมันละลายนุ่มในปากแต่กลับไม่ทำให้เนื้อปลาสุก กินกับซอสที่รสหวานนำเบาๆ กับข้าวรสเค็มอมเปรี้ยวเเล้ว เข้ากันได้เป็นอย่างดี อร่อยมากครับ
อูนิในวันนี้เป็นบาฟุนของ เเบรนด์ โอกาวะ ครับ ให้มาเเถวใหญ่เลยทีเดียว
อากิตะ วากิว a5 sanwitch คำนี้เเม้จะรู้สึกเข้มข้นแต่กลับไม่เลี่ยนหนักเชฟบาลานซ์รสได้ดีครับตัวขนมปังหอมกลิ่นเนย ซอสรสเค็มนำเปรี้ยวอมหวาน เนื้อมันหอมนุ่มอร่อย ก่อนเพิ่มมิติด้วยอูนิแสนหวาน
ปิดท้ายอาหารด้วย ของอุ่นๆกันบ้างที่อื่นเสริฟ์เป็นซุปถ้วยๆที่นี้เป็นปูทาราบะชาบู รสอ่อนๆ ตัวซุปน่าจะเป็นเบสท์กระดูกปลา เนื้อปูกรอบ มีกลิ่นบางๆของซูดาจิ
ขนมหวานเป็น แมล่อน เชอเบทรสซิตรัสทำสดๆตรงหน้า เเละคัสตาร์ดพุดดิ้งครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้