Happy Diet ถึงแม้จะยังไม่ผอม แต่โคตรจะมีความสุข

สวัสดีค่า...ห่างหายจากพันทิปไปนาน วันนี้กลับมาปีใหม่ พร้อมกับร่างใหม่ 55555
และเป็นครั้งแรกที่จะเปิดหน้าตัวเอง หลังจากไม่เคยคิดจะเปิดเลย วันนี้แหละ จะพลีชีพ 55555

ก่อนอื่นที่ผ่านมา เราอ้วนมาก อ้วนขึ้นไม่หยุด อ้วนจนอีก 3โลร้อย ขายเป็นเงาะเลย 555
เมื่อปีที่แล้ว เราเริ่มเข้าโรงพยาบาลป่วย ป่วยเล็กป่วยน้อย วัดความดัน ก็เอ้สูงขึ้นเรื่อยๆ จนพยาบาลทัก
ว่าเอ้...อายุยังน้อยอยู่น้า (30ปี) ความดันจะสูงแล้วนะคะ แต่พยาบาลก็ยังไม่ทำร้ายจิตใจ ก็แค่บอกว่า ให้ออกกำลังกาย  
ปกติที่ผ่านมา ไปหาหมอทีไรไม่เคยยอมชั่งน้ำหนัก ใช้เลขในจิตนาการเอาค่ะ 555 ก็คือคิดว่าตัวเองหนักเท่าไหร่ ก็บอกไปเลย 
เพราะงั้นก็เลยไม่เคยคิดว่าอ้วน  5555 แต่คราวนั้นต้องฉีดยา หมอบอกให้ช่างจริงให้ดูด้วย คุณพระ หวยออกเบอร์ 97 ค่ะ 55555
ตอนนั้นตกกะใจมาก แม่เจ้าโว๊ย อีก 3โลร้อย จริงๆคืออีก 2.5 โลร้อย ปัดทศนิยมลงค่ะ กันตกใจ 5555

ตอนนั้นสามีก็ความดังสูงด้วย บวกกับคุณพ่อไม่สบายหนัก เป็นทุกโรค ความดัน เบาหวาน ไต สุดท้ายก็จากไปเมื่อปีที่แล้ว 
เราก็เลยมาตระหนักว่า ไม่ได้แล้วแหละ ต้องลดแล้ว เพราะก่อนพ่อจากไป พ่อทรมานอยู่ รพ.นานเป็นหลายเดือน ไม่อยากจะเป็นอย่างงั้น
อีกอย่างพ่อแม่เป็นเบาหวานทั้งคู่ มรดกคงไม่ห่างไกลเท่าไหร่ ไม่น่ารอด เอาก็เอา ลองลดแบบจริงจังดูซักตั้งนึกก็เอาวะ ดีกว่าทรมานตาย


ไปค่ะ 55555555555 รูปก่อนลด ตอนนั้นคือคิดอย่างเดียวว่า อ้อ ไม่มีชุดใส่หรอ แก้ปัญหาด้วยเงินค่ะ ไปตัดชุดเล้ย ไม่แคร์ 
ใครไม่มีไซส์ ก็ไม่แคร์ ตัดเท่านั้น ได้ทุกไซส์ ใส่ใจทุกรายละเอียด 
ขนาดจะแต่งงานก็ยังไม่ยอมลด เพราะคิดว่า ทำไมเจ้าสาวจะอ้วนไม่ได้คะ ไปให้สุดทางเลยจ้าแม่ 5555



แต่พอมาถึงวันที่ต้องตรวจสุขภาพอย่างจริงจังกับที่ทำงาน 
โอ้โห BMI คือสุดขีดค่ะ ไปสุด ถ้ามีขีดให้ไปต่อได้อีก ก็คงไปอีก 5555

ขอท้าวความไปหน่อยนึงก่อน ตอนเรียนจบใหม่ๆ เราหนัก 75 ตอนนั้นอยากผอมไปรับปริญญา
ก็เลยลดน้ำหนัก ลดได้จริง ตอนนั้นหนักแค่ 55 เอง แต่ลดผิดวิธีมากๆ ไม่กินแป้งเลย กินน้อยมาๆ วันนึงยังแทบไม่ถึง 500 แคลเลย
แค่ตอนนั้นยังเด็กอยู่ได้ไง 5555 



แต่ความผอมตอนนั้นมันก็ไม่คงทนหรอกนะ ผอมจริง ผอมเร็วด้วย ลดแค่ 1 ปี ลดลงไป 20 กิโล
ซึ่ง ในปีนั้นก็คือมีแฟนเลยนะ เอาความสวยในตอนนั้นไปตกมาได้ ซึ่งก็คือสามีคนปัจจุบันเนี่ยแหละค่ะ อิอิ
ด้วยการลดน้ำหนักผิดวิธี พอกลับมากิน ก็ค่อยๆไต่ระดับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
กลับมาอ้วนตุ๊บ



ยิ่งอ้วนก็ยิ่งไม่สนใจดูแลตัวเอง ก็ตามสภาพค่ะ 55555

ก็นั่นแหละค่ะเราเริ่มหันมาลดอาหารอย่างจริงๆจัง ตอนแรกก็ทำผิดๆถูกๆไป ก็คือกินอ่ะน้อยลงแหละ
แต่ก็น้อยแบบจินตนาการเอาเองว่า เอ้อ เคยกินข้าวเยอะกว่านี้ อ่ะน้อยลงนิดนึง
แล้วก็เริ่มหันมาหาออกกำลังกายค่ะ ไอเรื่องออกกำลังกายนี่ใช้ความอดทนและพยายามขั้นสุด
แต่เอาน่ะ จะมาทางนี้แล้ว เปิดยูทูปข่อง เบเบ้ ไปเล้ย ใครๆก็ว่าดี ไป เราก็ดีก็ว่าดีจ้า ไปด้วย 
สมัครยูทูปพรีเมี่ยมเลย เพราะคลิปเบเบ้โฆษณาเยอะ ติดไปหยุดไป ขัดจังหวะ 
 
เราเริ่มที่คลิปนี้ค่ะ 
 

https://www.youtube.com/watch?v=p2_EfQe2NLc
 
คลิปสุดฮิต อันนี้แนะนำมากๆ ปัจจุบันก็ยังใช้คลิปนี้อยู่ค่ะ 
เชื่อมั้ย ออกตามครั้งแรก คือแทบเป็นลม หายใจไม่ทัน แค่ให้กระโดดตบยังทำไม่ได้เลยค่ะ 5555
แต่ก็งูๆปลาๆไปจนจบคลิปนะ อู้บ้างอะไรบ้าง แต่ก็ถูไถไป 
อันนั้นวันแรก...วันที่ 2 เอาแล้วค่ะ พอถึงเวลาต้องออกกำลังกาย อิดๆออดๆ สรุปนอนอืด ฮ่วยยยย 
แต่ก็ยังขุดตัวเองมาออกได้นะ อาทิตย์นึง ออกไป 3 วันตามสูตรให้ออกกำลังกาย 3-5 วัน/สัปดาห์
เราก็ออกนะ เลือกน้อยสุดเลย 3 วัน 5555 ออกให้รู้ว่าออกเด้อจ้า 
 
ผ่านไป 1 เดือน ลดไปได้ 5 กิโล โอ้โห ดีใจมาก ตั้งแต่อ้วนมา ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า
ชีวิตจะน้ำหนักลดลงได้อีก นึกว่ามีแต่ขึ้นอย่างเดียว 555555
ใจเริ่มชื้น แหม่ เราก็ลดได้เหมือนกันเว้ยเห้ย 
หันมาสนใจการนับแคลค่ะ 
โหลดแอฟมาเลย แคลลอรี่ไดอารี่ ค่ะ เค้าจะให้กำหนด นน.ที่เราอยากจะลดแต่ละเดือน 
แล้วจะคำนวนแคลที่กินได้ต่อวันมาให้ค่ะ 

(รูปนี้คือน้ำหนักปัจจุบันนะคะ)


แรกๆอาจจะรู้สึกยุ่งยากนิดหน่อย กินอะไรต้องมาคอยบันทึก 
แต่เชื่อมั้ยคะ สมัยก่อนกินไม่คิด สมัยนี้อ่านฉลากก่อน ขนมบางอย่างโอ้โห แคลเยอะยิ่งกว่าข้าวกระเพราไข่ดาวอีก
ตัดใจ อ่ะ แรกๆตัดใจไม่ได้ กินครึ่งเดียวแล้วกัน 5555
จากนั้นซื้อเครื่องชั่งน้ำหนักของ Mi Scale 2 ค่ะ
สามารถวัดมวลร่างกายให้เราได้ด้วย เอาวะ ซื้อเลย 
ในกับแอฟ Mi Fit ในการอ่านค่าค่ะ
เริ่มใช้ตอนที่ น้ำหนักลดลงมานิดนึงแล้วคือ 95 ค่ะ 

 ในแอฟคำนวนว่าน้ำหนักที่ควรจะเป็นของเราคือ 56.40 ค่ะ

เราเริ่มออกกำลังกายมากขึ้น เริ่มหันมาเต้นซุมบ้าเพิ่มหน่อย เพราะคิดว่าเออสนุกดี
ทุกการออกกำลังกายคือ เปิดคลิปดูที่บ้านค่ะ เพราะว่าการเอาตัวเองออกไปนั้นขี้เกียจค่ะ 55555


ผ่านไปเกือบ 4 เดือน เราออกกำลังกายทุกวัน นับแคลตลอด ก็มีหลุดบ้างนิดหน่อย 
น้ำหนักลดไปได้ 13 กิโลค่ะ ทีนี้เริ่มออกกำลังกายแบบอื่นๆเพิ่มเพื่อความสนุกสนาน 
หันมาเล่นลองบอร์ดค่ะ สมัยก่อนสามีเคยเล่นสเก็ตบอร์ดอยู่แล้ว ตอนนั้นทำไม่ได้เลย 
ขาไม่มีแรงเลย เลยเล่นไม่สำเร็จ เคยไปเรียนสกีด้วยนะคะ คนอื่นทำได้หมด ยกเว้นเราค่ะ 5555


อาหารการกินเริ่มเปลี่ยนไป จนกลายเป็นนิสัย หัดสั่งอะไรที่ดีต่อร่างกายมากขึ้นค่ะ ไปไหนก็เริ่มกินผัก ผลไม้เพิ่มขึ้น
สามชั้น หมูกรอบ ก็คือแทบไม่ค่อยอยากกิน ทั้งที่สมัยก่อนคือ ปิ้งย่างต้อง 3 ชั้นเท่านั้น ไม่งั้นไม่กินเพราะเหนียว 555


ไปห้างก็เริ่มเข้าร้านอาหารจานเดี่ยวบ้าง เลิกเข้าบุฟเฟต์ จริงๆบุฟเฟต์ไม่ใช่ผู้ร้ายนะคะ 
กินได้ แต่ไม่ต้องกินเอาเป็นเอาตาย กินแค่พออิ่ม สมัยก่อนคือไม่หมดเวลาไม่ลุกนะ ยังไม่คุ้ม 5555
เดี๋ยวนี้คือ ชั่วโมงนึงอิ่ม ก็ลุก พอ

ทุกวันนี้ เอ้อออ สลัดก็อร่อยนะ สุขภาพก็ดี ก็เลยเป็นลูกค้าประจำร้าน โจนส์สลัด ค่ะ ชอบมาก อร่อย คุ้ม มีแคลลอรี่บอกเสร็จสรรพเลย


ตอนนี้ลดน้ำหนักมาได้ 6เดือนแล้ว จาก 97 ในวันนี้ มาสู่ 80 ในวันนี้ ค่ะ 17โลที่หายไป กับความสุขมหาศาลที่เพิ่มขึ้นค่ะ
จากที่ออกกำลังกายมาตลอด ขาแข็งแรงขึ้นมากค่ะ เริ่มมีกล้ามเนื้อ ขาเริ่มแข็งขึ้น แขนเล็กลง สัดส่วนลดไปเยอะ 
น้องที่ตัดชุดบอกว่า ทุกๆ 10 โลที่หายไป จะเปลี่ยนไป 1 ไซส์ จากเอว 45 ตอนนี้เหลือเอว 38  เริ่มเอาเสื้อผ้าไปเข้า
ทุกๆกิโลที่ลงไป แลกมาด้วยความพยายามของเราล้วนๆค่ะ
เราไม่เคยใช้ตัวช่วยทางลัด เพราะเราเคยสรรหาวิธีลัดมาแล้ว แลกกับการโยโย่และน้ำหนักดีดขึ้น 
เราเลยไม่เคยคิดอยากกลับไปใช้ทางลัดๆใน
เวลาเห็นคนในเน็ตขายครอส หรือ ให้แบ่งสัดส่ววนอาหาร หรือโปรตีนเชค 
เราคิดว่าเราไม่สามารถทำแบบนั้นได้ไปตลอดชีวิต เราเลยเลือกวิธีอย่างที่เราคิดว่าจะมีความสุขกับมันดีกว่า 
คือการออกกำลังกาย และการควบคุมการกินของเรา ด้วยการนับแคลลอรี่
เรารู้สึกแฮปปี้กับมันมากกว่า ส่วนเบเบ้เรายังเต้นอยู่ สลับซุมบ้า สลับเล่นสเก็ต บางทีก็ว่ายน้ำ เปลี่ยนกีฬาไปเรื่อยๆ
เราเชื่อว่า การเปลี่ยนไปเรื่อยๆทำให้ไม่เบื่อ และทำมันได้ไปตลอด จากการออกกำลังกายมา น้ำหนักก็มีเพิ่มบ้างในวันที่กินมาอย่างหนักหน่วง
แต่พอออกกำลังกาย ซัก 2 3 วัน น้ำหนักก็กลับลงมาเหมือนเดิม เพียงแค่อย่ากินบุฟเฟ่ต์ติดๆกันก็พอค่ะ

สำหรับเราอีกทริคคือ เราชั่งน้ำหนักทุกเช้าอ่ะ ตื่นมาคือชั่งน้ำหนักเลยค่ะ
นั่นคือน้ำหนักเพียวๆของเราจริงๆ แต่สำหรับเรา บางทีก็แอบชั่งตอนเย็นด้วยค่ะ ในวันที่กินมาเยอะๆ 
ถ้าตอนเย็น น้ำหนักไม่ได้เด้งเกิน 1 กิโลจากตอนเช้า น้ำหนักเราจะไม่ขึ้นค่ะ 
จนปัจจุบันนี้ หนัก 80 กิโล
พร้อมกับความสุขอีกมากมายก่ายกองค่ะ



แม้จะยังมีคางย้อยอยู่ หรือขามีแผลจากการหกล้มตอนเล่นลองบอร์ด
แต่เราก็มีความสุขกับสุขภาพที่ดีขึ้น ปีนี้ไม่ป่วยเลยค่ะ ปกติเป็นหวัดปีละ 8รอบ 5555
มีความสุขกับการไปขุดชุดเก่าๆมาใส่ จากที่ตอนแรกคิดจะบริจาค แต่บริจาคไปแค่ครึ่งเดียว 
ยังแอบเก็บบางตัวที่ชอบๆไว้ เผื่อจะได้เอามาใส่อีกในวันนึง แล้ววันนั้นก็มาถึงค่ะ ไม่น่าเชื่อ 555

เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่คิดจะลดน้ำหนักนะคะ เป้าหมายของใครๆก็ไม่ใช่เป้าหมายของเรานะคะ 
เป้าหมายเรา อยู่ที่ใจของเรา และความสุขระหว่างทางที่เดินไปด้วย 
อย่าเลือกทางที่ตัวเองไม่มีความสุขในการทำ เลือกทางสบายๆให้ตัวเอง ไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป 
น้ำหนักมันเป็นแค่ตัวเลข(ในจินตนาการของเรา 55555) แต่สุขภาพสำคัญกว่ามากนะคะ 
แค่เราสุขภาพดีขึ้น โลกนี้ก็สดใสเพิ่มขึ้นแล้ว 
ถ้าไม่รู้จะหาแรงบัลดาลใจจากไหน ให้คิดซะว่า กลัวพบแพทย์นะคะ 555
กลัวคุณหมอคิดถึงทุกเดือน กลัวต้องไปรอคิวนานๆที่โรงพยาบาล กลัวต้องกินยาเป็นกำๆแทบกินข้าว 
อาจจะช่วยให้มีกำลังใจขึ้นได้นะคะ แบบเราเองจ้าาาาา  555

วิธีที่เราทำ ก็อาจจะถูกบ้างผิดบ้าง ก็หาความรู้เพิ่มเติมเอาในยูทูป ในเน็ตเนี่ยแหละค่ะ ไม่ต้องไปเสียเงินที่ไหน 
แค่อันไหนดี เราก็กดซื้อนะ เพื่อเป็นกำลังใจให้คนทำแอป เรายังทักไปหาคนที่เต้นซุมบ้าเลยค่ะ 
ทักไปขอบคุณที่คลิปเค้าทำให้เราออกกำลังกายอย่างมีความสุข 5555


สุดท้ายนี้ แม้ว่าเราจะยังไม่ได้ผอมเท่าใครๆ แต่เราก็ผอมลงแล้วนะคะ 555555555
เป็นกำลังใจให้ทุกคนมีความสุขขึ้น สุขภาพดีขึ้นนะคะ รัก ณ ปีใหม่ 2021 
ขอบคุณค่ะ 

ใครมีอะไรให้ช่วย หรืออยากปรึกษาตรงไหน ยินดีมากๆเลยนะคะ ไม่ขายครอส ไม่ขายผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักใดๆทั้งนั้นค่ะ ไม่มีให้ขายค่ะ แฮร่ 555

แต่ขอฝากช่องยูทูปเล็กๆของเราด้วยนะคะ อิอิ 5555
https://www.youtube.com/channel/UCZqk-M7_pWmmjOWAKKEuAWw
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่