กระเพาะปลาน้ำแดง Fish Maw Soup ขออีกรอบ ขออีกรอบ
กลับจากเยาวราชคราวนี้ไม่พลาดที่จะหอบกระเพาะปลาตัวสวยๆขนาดย่อมๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปกลับมาด้วยค่ะ
ไม่อยากทานแบบกระเพาะเล็กๆน่ารักๆแล้วค่ะ เพราะมีความรู้สึกว่ายังไม่ทันได้เคี้ยวเพื่อลิ้มรสความอร่อย
เจ้ากระเพาะปลาชิ้นน้อยก็หายแว๊บเข้าไปท้องซะแล้ว ส่วนถ้าจะซื้อกระเพาะใหญ่ๆราคาก็แพงหูฉี่ ล้างทีก็หมดไปครึ่งวัน
แต่ครั้งนี้ขอใส่กุ้งสดๆแทนเนื้อปูค่ะ ทำทีเดียวสองหม้อเลย หม้อนึงจะนำไปถวายพระ
ส่วนอีกหนึ่งหม้อสำหรับครอบครัวค่ะ แถมได้แบ่งไปให้คุณพ่อคุณแม่สามีด้วยค่ะ
มาดูวิธีทำกันเลยมั้ยคะ
กระเพาะปลากว่าจะได้ทานกันนี่..ขั้นตอนในการล้างสำคัญ และเสียเวลาที่สุดค่ะ มาดูกันค่ะว่าล้างยังไง
๑. หาภาชนะทรงกลมใหญ่หน่อยค่ะ ใส่เจ้ากระเพาะลงไป ล้างน้ำเปล่าสักรอบ ค่อยๆบีบน้ำทิ้ง
(ค่อยๆนะคะ ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวกระเพาะแตกเละหมด เสียดาย) เสียดายจริงๆค่ะ เพราะแพง ฮ่าฮ่า
เห็นมั้ยคะแค่เริ่มก็เรื่องเยอะแล้ว ค่อยๆบีบน้ำออกเทน้ำทิ้งออกจากภาชนะ ใส่แป้งมันพอประมาณลงไปขยำให้ทั่วๆเบาๆ
เพื่อให้หมดคราบน้ำมัน และกลิ่น ขยำด้วยแป้งเสร็จก็ล้างด้วยน้ำเปล่า บีบให้แห้งอย่างเบามือ ทำเช่นเดิมสักสามสี่รอบ
หรือจนกว่าจะหายมัน พักใส่ตะแกรงไว้ สังเกตว่ายิ่งล้างกระเพาะปลาก็ยิ่งนิ่ม และฟูสะอาดขึ้น
ลืมอีกจนได้ว่าจะเก็บภาพตอนขยำด้วยแป้งให้ดู มือเปียกแถมเหนียวแป้งหยิบโทรศัพท์ไม่ได้ค่ะ ขออภัยนะคะ
๒. ตั้งน้ำใส่หม้อต้มจนเดือด ทุบขิงแก่ลงไปสักสี่ห้าแว่น รอน้ำเดือดจัดอีกครั้ง ค่อยๆนำกระเพาะปลาที่ล้างไว้ลงไปลวก สักสองสามครั้ง
ทุกครั้งที่ลวกเสร็จเปลี่ยนน้ำต้มใหม่ด้วยนะคะ เพราะน้ำจะมีแต่คราบน้ำมันค่ะ ส่วนขิงเรานำมาใช้ซ้ำได้ค่ะ
จะสังเกตว่าตอนที่ลวกนี้กระเพาะปลาจะฟูอวบน้ำ ได้กลิ่นขิงแก่หอมๆด้วย สะเด็ดน้ำพักไว้คะ
ทีนี้เรามาดูวิธีทำกระเพาะปลาน้ำแดงกันคร่า
๑. ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย โขลกสามเกลอ รากผักชี กระเทียม และพริกไทย (ใช้พริกไทยป่นนี่ล่ะค่ะ ใส่เยอะหน่อย หอมละเอียดดี)
นำสามเกลอลงผัดจนหอม จากนั้นใส่เห็ดหอมตาม ผัดเคล้าให้เข้ากัน แล้วย้ายลงใส่ในหม้อเลยค่ะ
๒. รอจนน้ำค่อยๆเดือด ช่วงนี้จะหอมพริกไทยมากค่ะ จากนั้นปรุงด้วยน้ำตาล ซี่อิ๊วขาว ซ้อสหอยนางรม น้ำมันงา
ซี่อิ๊วดำเล็กน้อย และที่ขาดไม่ได้ ทายสิคะคืออะไร? เหล้าจีนค่ะ ลำยองติดเหล้าค่ะ ขาดไม่ได้เลย ๕๕ นำตัวอย่างมาให้ดู
เผื่อบางท่านนึกไม่ออกว่าหน้าตาเหล้าจีนเป็นอย่างไร ยี่ห้อนี้ราคาย่อมเยาว์ใช้ได้ค่ะ
๓. เมื่อปรุงได้รสชาติดีแล้ว เราก็ใส่กระเพาะปลาที่ลวกสะเด็ดน้ำไว้ลงค่ะ ค่อยๆคนจนนิ่มได้ที่ ครั้งนี้แม่นันใส่ทั้งกระเพาะเลยค่ะ
เพราะเห็นชิ้นเค้าสวยดี บางขิ้นเป็นรูปหัวใจด้วย แต่สุดท้ายก็ต้องใช้กรรไกรตัดเป็นชิ้นขนาดพอคำค่ะ เพื่อตัวน้ำแดงจะได้ซึมเข้าเนื้อได้ทั่วถึง
๔. ขั้นตอนสุดท้าย ผสมแป้งข้าวโพดและแป้งมัน 2:1 ลงในน้ำเล็กน้อย คนให้เข้ากัน แล้วค่อยๆหยอดลงในกระเพาะปลาน้ำแดงที่กำลังเดือด
ขณะหยอดแป้งลงไปใช้ทัพพีค่อยๆคนกันแป้งกอดกันเป็นก้อนด้วยนะคะ เช็คความเหนียวของน้ำดีๆ นะคะ
กระเพาะปลาน้ำแดงน้ำต้องไม่ข้นค่ะ ... คือเกือบข้นแต่ไม่ข้น บอกไม่ถูกค่ะ เอาเป็นว่าถ้ารสชาติอร่อย ใส่แป้งนิดเดียวก็อร่อยค่ะ
จากนั้นถ้ามีเนื้อปูนึ่งก้อนใหญ่ๆใส่ลงไปเคล้าพอเข้ากันค่ะ แต่ครั้งนี้แม่นันขอใส่เนื้อกุ้งแทน
ตักใส่ภาชนะแล้วโรยผักชี เหยาะพริกไทยหน่อย ที่ขาดไม่ได้คือเหยาะชิกโฉ่ว (ซ้อสเปรี้ยว) เล็กน้อย
อ้อ..อย่าลืมลวกหรือนึ่งเส้นหมี่ขาว นึ่งดีกว่าค่ะ เส้นจะได้ไม่อมน้ำ นึ่งง่ายๆ เอาสะดวก เพราะใช้นิดเดียว
ต้มน้ำใส่หม้อเล็กๆรอเดือด แล้วนำ่เส้นหมี่ขาวใส่กระชอนซ้อนบนปากหม้อ ปิดฝา ประมาณ ๕ นาที ก็ได้แล้วค่ะ
ใครอยากทานกระเพาะปลาน้ำแดงใส่เส้นหมี่ขาวแบบโบราณตามมาเลยคร่า คนที่ไม่เคยทานแบบนี้จะไม่มีทางรู้เลยว่ามันอร่อยขนาดไหน.น.
โอ๊ย...อร่อยอย่าบอกใคร ที่แน่ๆเช้านี้คุณสามีทานไปสองก่อนไปทำงาน กลับถึงบ้านตอนเย็นขออีกชาม แถมขอใส่เส้นหมี่ขาวด้วย บอกว่าอร่อย...
ทำเลยนะคะ อย่ารอช้า เลือกซื้อกระเพาะปลาขนาดเล็กใหญ่ตามชอบเลยค่ะ
ราคาก็มีเริ่มตั้งแต่กิโ่ลละ 800 ถึงหลักพัน หลายๆพันให้เลือกตามกระเป๋าเลยค่ะ
มีเมนูโบราณๆให้คิดถึงตอนวัยเยาว์มากมายค่ะ
ใครที่เป็นแฟนขนมผักกาดต้องไม่พลาดนะคะ มีสูตรอย่างละเอียดมาแบ่งปันทุกคนด้วยค่ะ
กระเพาะปลาน้ำแดงใส่เส้นหมี่ขาวแบบโบราณ
๑. ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย โขลกสามเกลอ รากผักชี กระเทียม และพริกไทย (ใช้พริกไทยป่นนี่ล่ะค่ะ ใส่เยอะหน่อย หอมละเอียดดี)