หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิว"มานีมีเฟ่ต์ปี 3"ลุยบุฟเฟ่ต์สุกี้ซอสมันปูกว่า 80เมนู ที่"มานี มี หม้อ"ตลอด 2 ชม.เริ่มเพียง399฿!
กระทู้รีวิว
ชาบู/สุกี้ยากี้
อาหารบุฟเฟ่ต์
อาหารคาว
ร้านอาหาร
อาหาร
เทศกาลมานีมีเฟ่ต์ ปี3 อร่อยสุดคุ้มกับบุฟเฟ่ต์สุกี้อาบซอสมันปู (แต่มันกุ้งก็ยังมีให้บริการอยู่นะ) พร้อมเมนูอื่นๆภายในร้าน นำให้ทานกันแบบไม่อั้นมากกว่า 80 รายการ ราคาเริ่มต้นที่ 399 บาท นั่งทานยาวๆได้เต็มที่ 2 ชม. โปรโมชั่นนี้ 1 ปีมีครั้ง โดยปีนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. 62 และสิ้นสุดวันที่ 31 ต.ค.62 ใครอยากทาน อย่าลืมตรวจเช็คก่อนนะว่าสาขาที่ร่วมเทศกาลมานีมีเฟ่ต์บ้าง ? โดยปีนี้มีทั้งหมด 12 สาขาที่ร่วมรายการคือ 1.Nawamin City Avenue อยู่ตรงเกษตร-นวมินทร์ / 2. The Avenue แจ้งวัฒนะ / 3. Esplanade รัชดาภิเษก / 4.Central WestGate บางใหญ่ / 5. The Circle ราชพฤกษ์ / 7. Seacon บางแค / 8. Gateway เอกมัย / 9. Seacon Squareศรีนครินทร์ / 10. Fashion Island รามอินทรา / 11. The Market Bangkok ราชดำริ / 12. โฮมโปร จรัญสนิทวงศ์ ไม่ได้มาทานร้านนี้หลายปีแล้ว เห็นมี Signature ใหม่เป็นซอสมันปู เลยเดินทางมาที่สาขาใกล้ๆบ้านที่ HomePro พระราม 3 นี่เลยครับ มาตั้งแต่ยังไม่มีคนรอหน้าร้านแม้แต่คนเดียว เดี๋ยวเราเข้าไปด้านในกันเลยครับ
บรรยากาศและ Theme ของที่ร้านมีเป็นสีเหลืองตัดด้วยสีเขียวและลายไม้ ทำให้รู้สึกเหมือนกับว่านั่งทานอยู่ในสวนสนุก โดย concept ของแต่ละสาขาก็จะไม่เหมือนกันด้วย (บางคนพูดติดตลกว่าเหมือนนั่งทานในท้องสัตว์ประหลาด) อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความคิดของแต่ละคนนะครับ แต่ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าร้านนี้ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ชัดเจนไม่เหมือนใครดี คือมองมาจากไกลๆก็รู้ว่าร้านนี้แน่นอน ลูกค้าภายในร้านตอนนี้ก็ถือว่าเยอะอยู่ (หลังจากที่ผมนั่งไปสักพักก็ยังมีคนมารอทานเยอะจนต่อคิวกันเป็นแถวยาว) แปลว่ารสชาติน่าจะไม่ธรรมดา เราเริ่มสั่งอาหารกันเลยครับ
โดยบุฟเฟ่ต์ปีนี้ถ้าสั่งราคาเริ่มต้นที่ 399 บาทจะสามารถเลือกได้ทั้งหมด 55 รายการ แต่ถ้าเพิ่มเงินอีก 100 บาทจะสามารถสั่งอาหารได้มากถึง 80 รายการ (ซีฟู้ดและเนื้อพรีเมี่ยมต่างๆก็รวมอยู่ในราคานี้ด้วย) ที่สำคัญทั้ง2 ราคารวมเครื่องดื่มแล้วอีกด้วย พูดถึงว่าต่างกันแค่ร้อยเดียว แถมปีหนึ่งจัดบุฟเฟ่ต์เพียง 1 ครั้งจัดเต็มเลยดีกว่า วันนี้พวกผม 2 คนลุยกันเป็นชุด 499 บาทครับ วิธีการสั่งอาหารคือ เขียนจำนวนที่ต้องการลงในใบเมนูที่วางไว้บนโต๊ะ ด้านล่างสุดมีเขียนเงื่อนไข/กติกา การทานบุฟเฟ่ต์มื้อนี้ไว้ด้วย อย่าลืมอ่านเงื่อนไขก่อนการทานทุกครั้งด้วยนะครับ
โดยเครื่องดื่มของที่ร้านนี้ก็ถือว่าเป็น Signature เหมือนกัน เพราะว่าใช้ชื่อที่แปลกประหลาดไม่เหมือนใคร มีให้เลือกละลานตากันทั้งหมด 10 อย่างคือ ชามะลิเตยหอม/น้ำดื่มธรรมดา/วอชิงตันแอปเปิ้ลกับลาเวนเดอร์/ทับทิมแดงเจ้าพระยา/เก๊กฮวยน้ำตาลอ้อยกับดอกคำฝอย/มะนาวน้ำหอมทูลเกล้ากับคลอโรฟิลล์สกัดจากสมุนไพรโขลก/ มะขามงานเกษตรแฟร์กับเกสรบัวหลวง/มะพร้าวบ้านแพ้วกับกลีบดอกอัญชันและน้ำอัดลมเป็นโคล่ากับมะนาว โดยทางร้านจะให้แก้วกระดาษที่มีรูปการ์ตูนและคำปริศนามาให้ทายด้วย (เอาจริงๆนะนั่งทานไปคิดไป 2 คนยังนึกไม่ออกเลยว่าคำที่อยู่ข้างแก้วคืออะไรกันแน่) โดยจากการชิม 10 น้ำทั้งหมด (กดชิมหน้าตู้อย่างละนืดหน่อย) ผมขอแนะนำน้ำมะพร้าวบ้านแพ้วกับกลีบดอกอัญชัน อันนี้หอมอร่อยเหมือนดื่มน้ำมะพร้าวจริงๆแต่มีความเป็นสีม่วงของอัญชันเล็กน้อย ทานแล้วสดชื่นดีครับ ใครที่เคยทานมานีมีหม้อมาก่อนก็จะรู้ว่าน้ำจิ้มที่นี่เป็นแบบ 2 ชนิด นำมาผสมกัน เป็นน้ำจิ้มสูตรหวาน/เค็มคล้ายกับซอสฮอยซินของเวียดนาม นำมาผสมกับน้ำจิ้มพริกตำรสเปรี้ยว/เผ็ด ผสมกันเองจนกว่าจะลงตัว เพิ่มความแซ่บด้วยพริกสดและกระเทียมสับ (แต่รู้สึกว่าตอนนี้ซอสสูตรต้นตำรับนั้นค่อนข้างหวานไปหน่อยสำหรับผม) แต่ตอนนี้เขามีซอสใหม่มาเพิ่มเป็นซอสสุกี้ยากี้ที่สีดูหม่นๆ แต่รสชาติดีคล้ายน้ำจิ้มสุกี้ MK ใส่แค่พริกกระเทียมเพิ่มอีกเล็กน้อยก็อร่อยแซ่บแล้วครับ (ชอบน้ำจิ้มตัวใหม่มากกว่า หอมซอสพริก/หวานกำลังดี)
น้ำซุปที่ร้านก็มีให้เลือกเยอะถึง 9 แบบ(ที่สำคัญชื่อแปลกๆทั้งนั้น) เริ่มต้นจากต้มจืดสาหร่ายใส่หมูสับ / ซุปใสใส่ไข่"อาสาเรน" / หาดใหญ่บะกุ๊ดเต๋ / ต้มยำน้ำข้นมันกุ้งหก / แจ่วฮ้อนสารคาม / ซุปมะหล่าสีสันแห่งสิบสองปันนา / ตุ๋นไก่รุ่นกับกระดูกหมู / แกงเห็ดกับสมุนไพรเผาและซุปที่อยู่ในราคาบุฟเฟ่ต์ที่แพงที่สุดมีอย่างเดียวคือ ซุปน้ำแดงบรั่นดีต้นตำรับหูฉลามเยาวราช วันนี้ผมเลือกมา 2 ซุปคือ ซุปซุปมะหล่าสีสันแห่งสิบสองปันนากับหาดใหญ่บะกุ๊ดเต๋ โดยรสชาติน้ำซุปทั้ง 2 แบบขอบอกเลยว่ารสชาติเหมือนจะไม่ค่อยสุดทางสักเท่าไร มันอยู่แบบก้ำกึ่ง จะบักกุ๊ดเต๋ก็ไม่ใช่ (กลิ่นสมุนไพรบางๆ) หมาล่าก็ไม่เชิง (มีแต่กลิ่นพริก ไม่ค่อยรู้สึกเผ็ดชา) ถ้าทางร้านปรับปรุงให้รสชาติเข้มข้นชัดเจนกว่านี้อีกนิดน่าจะดีเลยครับ และของทั้งหมดที่เราสั่งไปก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะแล้ว มีอะไรให้ทานบ้างมาดูกันเลย
จานแรกเป็นเมนูชื่อแปลกลูกชิ้นเห็ดโคนป่าของหมออินเทวดากับลูกชิ้นกุ้งมหาชัย ลูกชิ้นของที่ร้านนี้เนื้อค่อนข้างแน่น รสชาติเข้มข้นแต่ที่แปลกใจคือลูกชิ้นเห็ดโคนถ้าปิดตาแล้วให้ชิมก็นึกว่าเป็นลูกชิ้นไก่ธรรมดา ไม่บอกไม่รู้เหมือนกัน เกี๊ยวปลาระยองลุงล้องห่อฮิอันนี้มีกลิ่นคล้ายกับเกี๊ยวปลาร้านอื่นอยู่แต่มีความเนื้อแน่นเคี้ยวเต็มปากเต็มคำมากกว่า ไข่ปลาหมึกถือว่าเป็นเมนูขึ้นชื่อของที่นี่มาอย่างยาวนานนำไปต้มจนสุกแล้วเคี้ยว นุ่มหนึบหนับในปาก ต่อกันด้วยเมนูอาหารทานเล่นอย่างขนมปังหน้าหมูไข่กุ้ง เป็นขนมปังที่โปะด้านบนมาด้วยเนื้อหมูผสมกับไข่กุ้งปรุงรส (จากที่ชิมน่าจะผสมเนื้อกุ้งเอาไปด้วยเพราะมีความเด้ง) ใส่ไข่กุ้งให้ค่อนข้างน้อยกว่าเดิม(เคยทานเมื่อหลายปีก่อน) มีความอมน้ำมันเล็กน้อย แต่ก็ไม่ค่อยรู้สึกเลี่ยนเท่าไหร่นัก น่าจะเป็นการเลือกใช้น้ำมันที่ดีกว่าน้ำมันปาล์มปกติ ทานกับอาจาดรสเปรี้ยวหวานและพริกชี้ฟ้าเขียวกรอบๆ ขนมปังร้อนๆกับซอสเย็นๆ ถือว่ารสชาติยังอยู่ในระดับใช้ได้ครับ
ต่อกันด้วย 4 เมนูในบุฟเฟ่ต์ราคาสูงที่สุดของทางร้าน 499 บาท เริ่มจากเนื้อน่องลายโคขุน ปกติเนื้อน่องลายถ้าไม่ตุ๋นมาจะค่อนข้างเหนียว แต่ที่นี่เอ็นของเนื้อวัวเคี้ยวหนึบกำลังอร่อยไปซะงั้น ไม่รู้ว่าเอาไปหมักอะไรทำไมถึงนุ่ม ไม่ได้เคี้ยวยากอย่างที่ตอนแรกพะวงไว้ ต่อกันด้วยเนื้อสันสายพันธุ์ออสซี่ถึงแม้ว่าจะมีไขมันแทรกน้อย แต่ก็ถือว่าค่อนข้างนุ่ม และมีกลิ่นหอมตามแบบฉบับเนื้อออสซี่อยู่เหมือนกัน ต่อไปด้วยเนื้อสันคอที่แทบจะเป็นเนื้อแดง 100% ตอนแรกคิดว่าต้องเหนียวแน่ๆ แต่พอได้ชิมจริงๆก็ไม่ได้เหนียวอย่างที่คิด ถือว่าพอทานได้ แต่ส่วนตัวแล้วชอบเนื้อวัวติดมันมากกว่าครับ เมนูทานเล่นที่อยู่ในชุดนี้เป็นยำกะพรุนแก้วน้ำมันพริก ที่ต้องขอบอกเลยว่า เหมือนตอนเอาแมงกะพรุนไปลวกแล้วสะบัดน้ำยังไม่หมด ทำให้น้ำยำที่คลุกลงไปกลายเป็นว่าจืดเกินไป ไม่ประทับใจเท่าไหร่ครับ
หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวใหญ่เนื้อเยอะตามมาตรฐานร้านชาบูปกติ ชาชูจัมโบ้จิ๊กโก๋พร้อมพงษ์ เป็นหมูชาชูต้มสไตล์ญี่ปุ่น รสชาติหวานเค็ม เนื้อนุ่ม หอมกลิ่นคล้ายโชยุและขิง อันนี้อร่อยมากครับสั่งมาทานหลายถาด กุ้งเกี่ยวอวนเป็นกุ้งขาวคุณภาพกลางๆตัวใสขนาดไม่ใหญ่มาก ทานได้เพลินๆ หมึกกรอบแช่น้ำด่างฉบับภูมิปัญญาบ้านไร่ อันนี้ชื่อแปลก แต่มันก็คือหมึกกรอบธรรมดา ที่เสิร์ฟมาชิ้นใหญ่กว่าปกติ เรียงมาเต็มถาด เคี้ยวเต็มปากเต็มคำดีครับ
หมูยอโฮมเมด หมูยอเนื้อนุ่มมันน้อยหอมกลิ่นพริกไทยดำ ฟองเต้าหู้ห่อกุ้งแชงกรีลา อันนี้ตามชื่อเลยเป็นฟองเต้าหู้ห่อด้วยกุ้งปรุงรสกับมันแกวสับ อัดไส้แน่นอยู่ด้านในทานแล้วกุ้งเนื้อเด้งกรอบมันแกวผมน้ำมันงาอร่อยดี หมูส่วนสันคอเนื้อนุ่มแทรกไขมันคุณภาพดี เป็ดนาอบควันอ้อย เป็นส่วนอกเป็ดติดหนัง นำไปรมควันทานคล้ายอกเป็ดที่เสิร์ฟในโรงแรม แต่เอามาทานแบบชาบูเป็นเมนูที่ไม่เหมือนร้านไหนอีกแล้ว อร่อยแต่ทานได้ไม่เยอะ(เพราะเป็นเก๊าท์)
เนื้อหมูติดมันที่ค่อนข้างจะติดมันเยอะเกินไปหน่อย(แต่สำหรับเราไม่ซีเรียสอยู่แล้วยิ่งมันเยอะ ยิ่งนุ่ม) เต้าหู้ออแกนิคเนื้อเหนียวนุ่มหอมกลิ่นน้ำเต้าหู้เวลาเคี้ยว หมูเทวดาเป็นหมูสับ ผสมกับน้ำมันหมูกากหมูและกระเทียมเจียว เวลาใส่ลงไปในหม้อจะกระจายตัวเหมือนกับหมูสับในก๋วยเตี๋ยว เวลาซดซุปแล้วเจอเนื้อหมูชิ้นเล็กๆ ซดไปด้วยเคี้ยวไปด้วยอร่อยดีครับ และ Signature อย่างมันกุ้งก็ไม่ได้หายไปไหน สามารถสั่งเพิ่ม เติมได้เรื่อยๆเช่นเดียวกันครับ
เมนูต่อไปเป็นปลาหมึกสด ที่ค่อนข้างจะจกตาไปหน่อยเพราะดูก็รู้ว่ามันคือหมึกแช่แข็งนำมาละลายน้ำแข็งให้ทาน เมนูต่อไปหน้าตาเหมือนเนื้อไก่แต่ไม่ใช่ มันคือเห็ดปุยฝ้ายตากหลายแดง สัมผัสเคี้ยวก็เหมือนเนื้อไก่จริงๆ แต่ไม่มีกลิ่นของความเป็นไก่อร่อยดีครับคนที่ทานเจน่าจะชอบเลย ต่อกันด้วยลูกชิ้นมันกุ้งหนึ่งเดียวในใจมานี อันนี้รสชาติธรรมดาไม่ได้รู้สึกพิเศษในชามเดียวกันสีชมพูเป็นลูกชิ้นซากุระสอดไส้ชีสนมสด อันนี้ค่อนข้างผิดหวังกับมาตรฐานที่ลดลงเล็กน้อย เพราะจำได้ว่าก่อนหน้านี้ใช้เป็นลูกชิ้นชีสฮอกไกโด หอมมันกว่านี้เยอะมาก และหมูมะหล่า เป็นหมูหมักเนื้อนุ่มใส่สมุนไพรหมาล่าแต่ไม่ค่อยเผ็ดเท่าไหร่มีแต่กลิ่นกับรู้สึกชาที่ลิ้นนิดๆ ค่อนข้างผิดหวังครับ
ชื่อสินค้า:
มานี มี หม้อ บุฟเฟ่ต์ปี 3
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
รีวิวร้าน 新興發點心 (New Hing Fat Dim Sum) ติ่มซำแบบคลาสสิคโลคัล
กลางกลิ่นควันอุ่นจากเข่งไม้ไผ่และเสียงพูดคุยด้วยภาษากวางตุ้ง เสียงจอแจ “新興發點心 (New Hing Fat Dim Sum)” คือร้านติ่มซำที่ยังคงเสน่ห์ ของความดั้งเดิมในย่าน Sai Ying Pun Hong Kong ได้อย่างสมบูร
GazzaTaste
BufFeast Review : ร้านบุฟเฟ่ต์สเต็กและเครื่องเคียงไม่อั้นแห่งซอยลึก"Buddy Steak"@อ่อนนุช 33
หลังกลับมาจากชลบุรี ผมก็ได้มาต่อกันที่ร้านอาหารในตัวเมือง คราวนี้มาจัดแนวสเต็กกันสักหน่อย กับร้าน บัดดี้ สเต็ก อยู่หน้าปากซอยอ่อนนุช 33 ไกลจากที่พำนักพอสมควร แต่ความอยากชนะทุกสิ่ง แถมราคามันย่อมเยาว์
TheHeatBufFeast
ครัวบ้านนาริมทุ่ง ; "ผัดกะเพราไก่ " 🐓🌿🌶️🧄ง่ายๆกับซี่โครงหมูต้มฟัก แล้วก็ไข่เจียวกุ้งจ่อม🦐🥚🐣🍳✌️🤤😋😃😄😁 🍽🥣👍
ครัวบ้านนาริมทุ่ง ; "ผัดกะเพราไก่ " 🐓🌿🌶️🧄ง่ายๆกับซี่โครงหมูต้มฟัก แล้วก็ไข่เจียวกุ้งจ่อม🦐🥚🐣🍳✌️🤤😋😃😄😁 🍽🥣👍 เมนู บ้านนาริมทุ่ง มื้อนี้ ก็เมนูง่ายๆ ผัดกะเพราไก่แบบบ้านๆ ผัดแห้งๆ แต่หอมใบกะเพราม
กานต์(วีระพัฒน์)
รู้มั้ยปลาไหลญี่ปุ่น อุนางิที่อร่อยเป็นเพศใด
อุนางิเป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นที่อร่อยมากและได้รับความนิยมสูง พอราดซอสย่างเตาถ่าน คาบายากิ ยิ่งหอมอร่อย อุนางิ ตัวใหญ่เนื้อแน่น มีไขมันดีเยอะจะราคาสูงมาก จานละหลายพันบาทเชียว โดยทั่วไปแล้ว ปลาไ
สมาชิกหมายเลข 4755513
สุกี้ตี๋น้อย เปิดตัวแบรนด์ใหม่ “Teenoi Gold” บุฟเฟต์พรีเมียม มีติ่มซำ เป็ดย่าง เนื้อวากิว ราคาช่วงเปิดตัว 499 บาท
สุกี้ตี๋น้อย เปิดตัวแบรนด์ใหม่ “Teenoi Gold” บุฟเฟต์พรีเมียม มีติ่มซำ เป็ดย่าง เนื้อวากิว ราคาช่วงเปิดตัว 499 บาท - MarketThink - ล่าสุด สุกี้ตี๋น้อย ประกาศเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ชื่อว่า &ldqu
as12df
อร่อย ไวป์ดี ไวน์เลิศ ปักหมุดตามมาได้ PEPE Bangkok
PEPE BANGKOK จะนัดแฮงก์เอาท์กับเพื่อน หรือเดทกับหวานใจ ก็มาร้านนี้ได้เลย อาหารโมเดิร์นฟิลชันที่ทั้งอร่อย ไวป์ดี ไวน์เลิศ เหมาะกับการดินเนอร์แบบสุดๆ อยากมีมุมส่วนตัวก็มีห้องไพรเวทรับรอง อังคาร-เสาร์ ก็
มิกิชวนกิน
อาหารสเปนแท้ ต้นตำรับจากบาร์เซโลนา ย่างด้วยถ่านชาโคลในเตา Josper หอมกลิ่นถ่าน เนื้อนุ่ม รสเข้มข้น
ลิ้มลองรสชาติแท้ๆ ของสเปนที่ Pura Brasa ร้านที่มีต้นกำเนิดมาจาก บาร์เซโลนา ประเทศสเปน เมนูส่วนใหญ่เค้าทำจากการย่างด้วยถ่านชาโคลในเตา Josper ที่ทั้งอบและย่างไปพร้อมๆ กัน ทำให้อาหารมีความหอมกลิ่นถ่าน เน
มิกิชวนกิน
🍜Ramen Kourakuen ราเมนโคราคุเอ็น สาขาPTT rama4-กล้วยน้ำไท
“โคราคุเอ็นในไทย จุดเด่นด้านคุณภาพของวัตถุดิบและราคาที่เหมาะสม” วันนี้จะมารีวิวร้านราเมนชื่อดังจากญี่ปุ่น “Ramen Kourakuen” สาขาที่ไปทานคือ สาขา PTT stationพระราม4-แยกกล้วยน้
Lady_Simplicity
เปิดประสบการณ์ ทาน Sunday Brunch บุฟเฟ่ต์อาหารอินเดีย Michelin 6 ปีซ้อน กันที่ Punjab Grill Bangkok
สวัสดีค่ะวันนี้พามาเปิดประสบการณ์ ทาน Sunday Brunch บุฟเฟ่ต์อาหารอินเดีย Michelin 6 ปีซ้อน กันที่ Punjab Grill ที่ช่วงนี้มีโปรโมชั่นพิเศษตลอดเดือนตุลาคม Sunday Brunch มา 4 จ่าย 3 ท่ามกลางบรรยากาศหรูหร
พี่ผัก
Michelin Guide ริมปิง! รีวิวทับปิง by Anjakinn อร่อยจริงไหม?
ทริปนี้มีโอกาสไปเชียงใหม่ เลยตั้งใจลองร้าน “ทับปิง by anjakinn” ที่ได้ติด Michelin Guide อยู่ริมแม่น้ำปิง ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ครับ 🚗 ที่จอดรถ สะดวกมาก มีทั้งหน้าร้านและด้านข้าง หลายส
SarinPoom
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ชาบู/สุกี้ยากี้
อาหารบุฟเฟ่ต์
อาหารคาว
ร้านอาหาร
อาหาร
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิว"มานีมีเฟ่ต์ปี 3"ลุยบุฟเฟ่ต์สุกี้ซอสมันปูกว่า 80เมนู ที่"มานี มี หม้อ"ตลอด 2 ชม.เริ่มเพียง399฿!
บรรยากาศและ Theme ของที่ร้านมีเป็นสีเหลืองตัดด้วยสีเขียวและลายไม้ ทำให้รู้สึกเหมือนกับว่านั่งทานอยู่ในสวนสนุก โดย concept ของแต่ละสาขาก็จะไม่เหมือนกันด้วย (บางคนพูดติดตลกว่าเหมือนนั่งทานในท้องสัตว์ประหลาด) อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความคิดของแต่ละคนนะครับ แต่ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าร้านนี้ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ชัดเจนไม่เหมือนใครดี คือมองมาจากไกลๆก็รู้ว่าร้านนี้แน่นอน ลูกค้าภายในร้านตอนนี้ก็ถือว่าเยอะอยู่ (หลังจากที่ผมนั่งไปสักพักก็ยังมีคนมารอทานเยอะจนต่อคิวกันเป็นแถวยาว) แปลว่ารสชาติน่าจะไม่ธรรมดา เราเริ่มสั่งอาหารกันเลยครับ
โดยบุฟเฟ่ต์ปีนี้ถ้าสั่งราคาเริ่มต้นที่ 399 บาทจะสามารถเลือกได้ทั้งหมด 55 รายการ แต่ถ้าเพิ่มเงินอีก 100 บาทจะสามารถสั่งอาหารได้มากถึง 80 รายการ (ซีฟู้ดและเนื้อพรีเมี่ยมต่างๆก็รวมอยู่ในราคานี้ด้วย) ที่สำคัญทั้ง2 ราคารวมเครื่องดื่มแล้วอีกด้วย พูดถึงว่าต่างกันแค่ร้อยเดียว แถมปีหนึ่งจัดบุฟเฟ่ต์เพียง 1 ครั้งจัดเต็มเลยดีกว่า วันนี้พวกผม 2 คนลุยกันเป็นชุด 499 บาทครับ วิธีการสั่งอาหารคือ เขียนจำนวนที่ต้องการลงในใบเมนูที่วางไว้บนโต๊ะ ด้านล่างสุดมีเขียนเงื่อนไข/กติกา การทานบุฟเฟ่ต์มื้อนี้ไว้ด้วย อย่าลืมอ่านเงื่อนไขก่อนการทานทุกครั้งด้วยนะครับ
โดยเครื่องดื่มของที่ร้านนี้ก็ถือว่าเป็น Signature เหมือนกัน เพราะว่าใช้ชื่อที่แปลกประหลาดไม่เหมือนใคร มีให้เลือกละลานตากันทั้งหมด 10 อย่างคือ ชามะลิเตยหอม/น้ำดื่มธรรมดา/วอชิงตันแอปเปิ้ลกับลาเวนเดอร์/ทับทิมแดงเจ้าพระยา/เก๊กฮวยน้ำตาลอ้อยกับดอกคำฝอย/มะนาวน้ำหอมทูลเกล้ากับคลอโรฟิลล์สกัดจากสมุนไพรโขลก/ มะขามงานเกษตรแฟร์กับเกสรบัวหลวง/มะพร้าวบ้านแพ้วกับกลีบดอกอัญชันและน้ำอัดลมเป็นโคล่ากับมะนาว โดยทางร้านจะให้แก้วกระดาษที่มีรูปการ์ตูนและคำปริศนามาให้ทายด้วย (เอาจริงๆนะนั่งทานไปคิดไป 2 คนยังนึกไม่ออกเลยว่าคำที่อยู่ข้างแก้วคืออะไรกันแน่) โดยจากการชิม 10 น้ำทั้งหมด (กดชิมหน้าตู้อย่างละนืดหน่อย) ผมขอแนะนำน้ำมะพร้าวบ้านแพ้วกับกลีบดอกอัญชัน อันนี้หอมอร่อยเหมือนดื่มน้ำมะพร้าวจริงๆแต่มีความเป็นสีม่วงของอัญชันเล็กน้อย ทานแล้วสดชื่นดีครับ ใครที่เคยทานมานีมีหม้อมาก่อนก็จะรู้ว่าน้ำจิ้มที่นี่เป็นแบบ 2 ชนิด นำมาผสมกัน เป็นน้ำจิ้มสูตรหวาน/เค็มคล้ายกับซอสฮอยซินของเวียดนาม นำมาผสมกับน้ำจิ้มพริกตำรสเปรี้ยว/เผ็ด ผสมกันเองจนกว่าจะลงตัว เพิ่มความแซ่บด้วยพริกสดและกระเทียมสับ (แต่รู้สึกว่าตอนนี้ซอสสูตรต้นตำรับนั้นค่อนข้างหวานไปหน่อยสำหรับผม) แต่ตอนนี้เขามีซอสใหม่มาเพิ่มเป็นซอสสุกี้ยากี้ที่สีดูหม่นๆ แต่รสชาติดีคล้ายน้ำจิ้มสุกี้ MK ใส่แค่พริกกระเทียมเพิ่มอีกเล็กน้อยก็อร่อยแซ่บแล้วครับ (ชอบน้ำจิ้มตัวใหม่มากกว่า หอมซอสพริก/หวานกำลังดี)
น้ำซุปที่ร้านก็มีให้เลือกเยอะถึง 9 แบบ(ที่สำคัญชื่อแปลกๆทั้งนั้น) เริ่มต้นจากต้มจืดสาหร่ายใส่หมูสับ / ซุปใสใส่ไข่"อาสาเรน" / หาดใหญ่บะกุ๊ดเต๋ / ต้มยำน้ำข้นมันกุ้งหก / แจ่วฮ้อนสารคาม / ซุปมะหล่าสีสันแห่งสิบสองปันนา / ตุ๋นไก่รุ่นกับกระดูกหมู / แกงเห็ดกับสมุนไพรเผาและซุปที่อยู่ในราคาบุฟเฟ่ต์ที่แพงที่สุดมีอย่างเดียวคือ ซุปน้ำแดงบรั่นดีต้นตำรับหูฉลามเยาวราช วันนี้ผมเลือกมา 2 ซุปคือ ซุปซุปมะหล่าสีสันแห่งสิบสองปันนากับหาดใหญ่บะกุ๊ดเต๋ โดยรสชาติน้ำซุปทั้ง 2 แบบขอบอกเลยว่ารสชาติเหมือนจะไม่ค่อยสุดทางสักเท่าไร มันอยู่แบบก้ำกึ่ง จะบักกุ๊ดเต๋ก็ไม่ใช่ (กลิ่นสมุนไพรบางๆ) หมาล่าก็ไม่เชิง (มีแต่กลิ่นพริก ไม่ค่อยรู้สึกเผ็ดชา) ถ้าทางร้านปรับปรุงให้รสชาติเข้มข้นชัดเจนกว่านี้อีกนิดน่าจะดีเลยครับ และของทั้งหมดที่เราสั่งไปก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะแล้ว มีอะไรให้ทานบ้างมาดูกันเลย
จานแรกเป็นเมนูชื่อแปลกลูกชิ้นเห็ดโคนป่าของหมออินเทวดากับลูกชิ้นกุ้งมหาชัย ลูกชิ้นของที่ร้านนี้เนื้อค่อนข้างแน่น รสชาติเข้มข้นแต่ที่แปลกใจคือลูกชิ้นเห็ดโคนถ้าปิดตาแล้วให้ชิมก็นึกว่าเป็นลูกชิ้นไก่ธรรมดา ไม่บอกไม่รู้เหมือนกัน เกี๊ยวปลาระยองลุงล้องห่อฮิอันนี้มีกลิ่นคล้ายกับเกี๊ยวปลาร้านอื่นอยู่แต่มีความเนื้อแน่นเคี้ยวเต็มปากเต็มคำมากกว่า ไข่ปลาหมึกถือว่าเป็นเมนูขึ้นชื่อของที่นี่มาอย่างยาวนานนำไปต้มจนสุกแล้วเคี้ยว นุ่มหนึบหนับในปาก ต่อกันด้วยเมนูอาหารทานเล่นอย่างขนมปังหน้าหมูไข่กุ้ง เป็นขนมปังที่โปะด้านบนมาด้วยเนื้อหมูผสมกับไข่กุ้งปรุงรส (จากที่ชิมน่าจะผสมเนื้อกุ้งเอาไปด้วยเพราะมีความเด้ง) ใส่ไข่กุ้งให้ค่อนข้างน้อยกว่าเดิม(เคยทานเมื่อหลายปีก่อน) มีความอมน้ำมันเล็กน้อย แต่ก็ไม่ค่อยรู้สึกเลี่ยนเท่าไหร่นัก น่าจะเป็นการเลือกใช้น้ำมันที่ดีกว่าน้ำมันปาล์มปกติ ทานกับอาจาดรสเปรี้ยวหวานและพริกชี้ฟ้าเขียวกรอบๆ ขนมปังร้อนๆกับซอสเย็นๆ ถือว่ารสชาติยังอยู่ในระดับใช้ได้ครับ
ต่อกันด้วย 4 เมนูในบุฟเฟ่ต์ราคาสูงที่สุดของทางร้าน 499 บาท เริ่มจากเนื้อน่องลายโคขุน ปกติเนื้อน่องลายถ้าไม่ตุ๋นมาจะค่อนข้างเหนียว แต่ที่นี่เอ็นของเนื้อวัวเคี้ยวหนึบกำลังอร่อยไปซะงั้น ไม่รู้ว่าเอาไปหมักอะไรทำไมถึงนุ่ม ไม่ได้เคี้ยวยากอย่างที่ตอนแรกพะวงไว้ ต่อกันด้วยเนื้อสันสายพันธุ์ออสซี่ถึงแม้ว่าจะมีไขมันแทรกน้อย แต่ก็ถือว่าค่อนข้างนุ่ม และมีกลิ่นหอมตามแบบฉบับเนื้อออสซี่อยู่เหมือนกัน ต่อไปด้วยเนื้อสันคอที่แทบจะเป็นเนื้อแดง 100% ตอนแรกคิดว่าต้องเหนียวแน่ๆ แต่พอได้ชิมจริงๆก็ไม่ได้เหนียวอย่างที่คิด ถือว่าพอทานได้ แต่ส่วนตัวแล้วชอบเนื้อวัวติดมันมากกว่าครับ เมนูทานเล่นที่อยู่ในชุดนี้เป็นยำกะพรุนแก้วน้ำมันพริก ที่ต้องขอบอกเลยว่า เหมือนตอนเอาแมงกะพรุนไปลวกแล้วสะบัดน้ำยังไม่หมด ทำให้น้ำยำที่คลุกลงไปกลายเป็นว่าจืดเกินไป ไม่ประทับใจเท่าไหร่ครับ
หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวใหญ่เนื้อเยอะตามมาตรฐานร้านชาบูปกติ ชาชูจัมโบ้จิ๊กโก๋พร้อมพงษ์ เป็นหมูชาชูต้มสไตล์ญี่ปุ่น รสชาติหวานเค็ม เนื้อนุ่ม หอมกลิ่นคล้ายโชยุและขิง อันนี้อร่อยมากครับสั่งมาทานหลายถาด กุ้งเกี่ยวอวนเป็นกุ้งขาวคุณภาพกลางๆตัวใสขนาดไม่ใหญ่มาก ทานได้เพลินๆ หมึกกรอบแช่น้ำด่างฉบับภูมิปัญญาบ้านไร่ อันนี้ชื่อแปลก แต่มันก็คือหมึกกรอบธรรมดา ที่เสิร์ฟมาชิ้นใหญ่กว่าปกติ เรียงมาเต็มถาด เคี้ยวเต็มปากเต็มคำดีครับ
หมูยอโฮมเมด หมูยอเนื้อนุ่มมันน้อยหอมกลิ่นพริกไทยดำ ฟองเต้าหู้ห่อกุ้งแชงกรีลา อันนี้ตามชื่อเลยเป็นฟองเต้าหู้ห่อด้วยกุ้งปรุงรสกับมันแกวสับ อัดไส้แน่นอยู่ด้านในทานแล้วกุ้งเนื้อเด้งกรอบมันแกวผมน้ำมันงาอร่อยดี หมูส่วนสันคอเนื้อนุ่มแทรกไขมันคุณภาพดี เป็ดนาอบควันอ้อย เป็นส่วนอกเป็ดติดหนัง นำไปรมควันทานคล้ายอกเป็ดที่เสิร์ฟในโรงแรม แต่เอามาทานแบบชาบูเป็นเมนูที่ไม่เหมือนร้านไหนอีกแล้ว อร่อยแต่ทานได้ไม่เยอะ(เพราะเป็นเก๊าท์)
เนื้อหมูติดมันที่ค่อนข้างจะติดมันเยอะเกินไปหน่อย(แต่สำหรับเราไม่ซีเรียสอยู่แล้วยิ่งมันเยอะ ยิ่งนุ่ม) เต้าหู้ออแกนิคเนื้อเหนียวนุ่มหอมกลิ่นน้ำเต้าหู้เวลาเคี้ยว หมูเทวดาเป็นหมูสับ ผสมกับน้ำมันหมูกากหมูและกระเทียมเจียว เวลาใส่ลงไปในหม้อจะกระจายตัวเหมือนกับหมูสับในก๋วยเตี๋ยว เวลาซดซุปแล้วเจอเนื้อหมูชิ้นเล็กๆ ซดไปด้วยเคี้ยวไปด้วยอร่อยดีครับ และ Signature อย่างมันกุ้งก็ไม่ได้หายไปไหน สามารถสั่งเพิ่ม เติมได้เรื่อยๆเช่นเดียวกันครับ
เมนูต่อไปเป็นปลาหมึกสด ที่ค่อนข้างจะจกตาไปหน่อยเพราะดูก็รู้ว่ามันคือหมึกแช่แข็งนำมาละลายน้ำแข็งให้ทาน เมนูต่อไปหน้าตาเหมือนเนื้อไก่แต่ไม่ใช่ มันคือเห็ดปุยฝ้ายตากหลายแดง สัมผัสเคี้ยวก็เหมือนเนื้อไก่จริงๆ แต่ไม่มีกลิ่นของความเป็นไก่อร่อยดีครับคนที่ทานเจน่าจะชอบเลย ต่อกันด้วยลูกชิ้นมันกุ้งหนึ่งเดียวในใจมานี อันนี้รสชาติธรรมดาไม่ได้รู้สึกพิเศษในชามเดียวกันสีชมพูเป็นลูกชิ้นซากุระสอดไส้ชีสนมสด อันนี้ค่อนข้างผิดหวังกับมาตรฐานที่ลดลงเล็กน้อย เพราะจำได้ว่าก่อนหน้านี้ใช้เป็นลูกชิ้นชีสฮอกไกโด หอมมันกว่านี้เยอะมาก และหมูมะหล่า เป็นหมูหมักเนื้อนุ่มใส่สมุนไพรหมาล่าแต่ไม่ค่อยเผ็ดเท่าไหร่มีแต่กลิ่นกับรู้สึกชาที่ลิ้นนิดๆ ค่อนข้างผิดหวังครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น