วันนี้มาเรื่องเบาสมองมั้งนะคะ หลังจากกระทู้ก่อนๆหน้า มีเรื่องหนักสมองมาให้หลายคนได้อ่านไป
วันนี้เป็นเรื่องของภาษาค่ะ และ แนะนำวิธีการเรียนภาษา
เราพูดได้ 3 ภาษาค่ะ : ไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส (ยังไม่เยอะค่ะคนหมู่นี้พูดได้ 4-5 ภาษาขึ้นทั้งนั้น โดยเฉพาะคนยุโรป)
- ภาษาอังกฤษได้เรียนมาแต่เด็กอยู่แล้ว พูดได้จิงจังตอนคุณพ่อคูรแม่ส่งไป summer school ที่อังกฤษ บวกกะโตมาใช้ภาษาอังกฤษตลอด
- ภาษาฝรั่งเศสเพิ่งมาได้เมื่อ 3 ปีให้หลังมานี้เอง ได้จากการมาเรียนต่อที่สวิสแล้วเรียนโรงเรียนภาษาก่อนเข้ามหาลัย
ปัญหาคือ
- งง บางทีก้คิดคำที่จะใช้พูดไม่ออกซักภาษาเดียวในหัว
- ด้วยความที่ฝรั่งเศส หลายคำเขียนเหมือนภาษาอังกฤษเลย แต่ออกเสียงต่าง ทำให้เวลาพูดอังกฤษมีหลุดการออกเสียงเเบบฝรั่งเศส
หมู่นี้เวลาเห็นตัว "R" หรือ "-tion" นี่ออกเสียงเปนแบบฝรั่งเศสตลอด และรู้สึกว่ากระทบกับการออกเสียงภาษาอังกฤษตัวเองมากค่ะ
สรุป ปัจจุบันนี้รู้สึกเหมือนจะพูดอะไรไม่ได้ดีสักภาษา ยกเว้น mother tongue ที่เป็น ไทย ฮ่าๆๆๆๆ
รู้สึกหงุดหงิดตัวเองมากค่ะ เวลาอ้าปากพูดหมู่นี้รู้สึกว่าคิดมากกว่าเมื่อก่อนเยอะมาก
วิธีที่ใช้กับการเรียนภาษาของตัวเองแล้วรู้สึกว่าได้ผล คือ......
1) หักดิบ คือเข้าไปในสังคมนั้นๆแล้ว เรียนรู้ภาษาใหม่เหมือนเป็นเด็ก คือ คนพูดต้องพูดภาษานั้นๆแล้วทำท่าใบ้ให้เรารู้ หรือโชว์ภาพให้เราดูว่าคำนั้นๆแปลว่าอะไร แล้วจำ
2) เริ่มเรียนรู้จดจำจากการฟัง แล้วตามด้วยการอ่าน จดจำคำต่างๆ รูปประโยคต่างๆจากการฟังและการอ่าน แล้วนำไปสู่การเขียน
3) พยายามพูดประโยคเลียนแบบที่ได้ยินบ่อยๆ แล้วลองพูดบ่อยๆถึงจะผิดถูก แต่เวลามีคนแก้ที่เราพูดผิดให้จำและพูดซ้ำๆบ่อยๆ
4) อ่านเยอะๆ ช่วยเรื่องการพูดมากค่ะ เพราะเราจะได้ประโยคที่ถูก และมีคลังคำศัพท์เพิ่ม
5) Focus ที่ pronunciation (การออกเสียงคำให้ถูก) ไม่ใช่ accent (สำเนียง)
*** เราคิดว่าการที่เราพูดภาษาอื่นได้นั้น pronunciation สำคัญมากๆๆๆๆ เพราะถ้าออกเสียงผิดความหมายอาจเปลี่ยนหรือทำให้คนฟังไม่เข้าใจไปเลย accent เป็นเรื่องที่ไม่สำคัญเท่าการออกเสียงให้ถูกต้อง
แล้ว accent เราไม่มีทางพูดได้เหมือน native speaker อยู่แล้ว นอกจากว่าไปเติบโตอยู่ในสังคมนั้นมาแต่แรก
เพราะคนเราภาษา mother tongue จะแข็งแรงสุด แล้วไม่ว่าจะพูดภาษาอะไร mother tongue จะเป็นตัว influence ต่อ accent ไม่มากก้น้อย
ไม่อยากให้คนไทยจำผิดกันเองเรื่องสำเนียง แต่ให้มองที่การออกเสียงที่ถูกต้อง รูปประโยคที่ถูกต้อง สื่อสารได้ใจความเป็นพอ ***
การติสำเนียงเป็นการติไม่สร้างสรรค์ เพราะคนเราอยู่ที่ไหน ได้ยินอะไรบ่อยๆ เราจะ pick up accent จากที่นั้นๆ
ขอให้ทุกคนมีกำลังใจในการพูดภาษาต่างชาติโดยไม่กังวลผิดจุด และกล้าที่จะพูดและเรียนรู้มันนะคะ 
*************************************************************************************************************
ส่วนตัวรู้สึกว่าคนสวิสนับว่าเป็นชาติที่คนเป็น polyglot มาก พูดได้อย่างน้อยตั้งแต่เด็กก็ 3 ภาษา คือ German, French, Swiss-German (มีแต่ภาษาพูดไม่มีภาษาเขียน ตัวเขียนคือ German) นอกจากนี้คนสวิสส่วนใหญ่ชอบและคิดที่อยากจะเรียนเพิ่มเติมภาษา Italian อีกด้วย
เด็กสวิสโตขึ้นมาทุกคนที่มีการศึกษาสูงกว่าระดับการศึกษาภาคบังคับได้ภาษาอังกฤษทุกคน
แต่คนแถบยุโรปอาจจะได้เปรียบเรื่องภาษาอยู่แล้วเพราะรากภาษามันมาจากที่เดียวกัน ทำให้ต่อยอดได้ง่าย
ผังคร่าวๆง่ายๆเลยคือ.....
ใหญ่ๆมี 6 แขนง: Indo-Iranian, Hellenic, Celtic,
Italic, Balto-Slavic,
Germanic
ซึ่ง Italic แตกเป็น Latin
Latin พอแตกยอดออกมาะได้เป็น French, Spanish, Portuguese, Italian, English (แต่อังกฤษนี่ได้มาแบบอ้อมๆ)
ส่วน
Germanic จะแตกออกเป็นพวก Norwegian, Icelandic, Dutch, German, English
*************************************************************************************************************
ปัญหาของคนพูดได้หลายภาษา มีอะไรกันบ้างคะ
วันนี้เป็นเรื่องของภาษาค่ะ และ แนะนำวิธีการเรียนภาษา
เราพูดได้ 3 ภาษาค่ะ : ไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส (ยังไม่เยอะค่ะคนหมู่นี้พูดได้ 4-5 ภาษาขึ้นทั้งนั้น โดยเฉพาะคนยุโรป)
- ภาษาอังกฤษได้เรียนมาแต่เด็กอยู่แล้ว พูดได้จิงจังตอนคุณพ่อคูรแม่ส่งไป summer school ที่อังกฤษ บวกกะโตมาใช้ภาษาอังกฤษตลอด
- ภาษาฝรั่งเศสเพิ่งมาได้เมื่อ 3 ปีให้หลังมานี้เอง ได้จากการมาเรียนต่อที่สวิสแล้วเรียนโรงเรียนภาษาก่อนเข้ามหาลัย
ปัญหาคือ
- งง บางทีก้คิดคำที่จะใช้พูดไม่ออกซักภาษาเดียวในหัว
- ด้วยความที่ฝรั่งเศส หลายคำเขียนเหมือนภาษาอังกฤษเลย แต่ออกเสียงต่าง ทำให้เวลาพูดอังกฤษมีหลุดการออกเสียงเเบบฝรั่งเศส
หมู่นี้เวลาเห็นตัว "R" หรือ "-tion" นี่ออกเสียงเปนแบบฝรั่งเศสตลอด และรู้สึกว่ากระทบกับการออกเสียงภาษาอังกฤษตัวเองมากค่ะ
สรุป ปัจจุบันนี้รู้สึกเหมือนจะพูดอะไรไม่ได้ดีสักภาษา ยกเว้น mother tongue ที่เป็น ไทย ฮ่าๆๆๆๆ
รู้สึกหงุดหงิดตัวเองมากค่ะ เวลาอ้าปากพูดหมู่นี้รู้สึกว่าคิดมากกว่าเมื่อก่อนเยอะมาก
วิธีที่ใช้กับการเรียนภาษาของตัวเองแล้วรู้สึกว่าได้ผล คือ......
1) หักดิบ คือเข้าไปในสังคมนั้นๆแล้ว เรียนรู้ภาษาใหม่เหมือนเป็นเด็ก คือ คนพูดต้องพูดภาษานั้นๆแล้วทำท่าใบ้ให้เรารู้ หรือโชว์ภาพให้เราดูว่าคำนั้นๆแปลว่าอะไร แล้วจำ
2) เริ่มเรียนรู้จดจำจากการฟัง แล้วตามด้วยการอ่าน จดจำคำต่างๆ รูปประโยคต่างๆจากการฟังและการอ่าน แล้วนำไปสู่การเขียน
3) พยายามพูดประโยคเลียนแบบที่ได้ยินบ่อยๆ แล้วลองพูดบ่อยๆถึงจะผิดถูก แต่เวลามีคนแก้ที่เราพูดผิดให้จำและพูดซ้ำๆบ่อยๆ
4) อ่านเยอะๆ ช่วยเรื่องการพูดมากค่ะ เพราะเราจะได้ประโยคที่ถูก และมีคลังคำศัพท์เพิ่ม
5) Focus ที่ pronunciation (การออกเสียงคำให้ถูก) ไม่ใช่ accent (สำเนียง)
*** เราคิดว่าการที่เราพูดภาษาอื่นได้นั้น pronunciation สำคัญมากๆๆๆๆ เพราะถ้าออกเสียงผิดความหมายอาจเปลี่ยนหรือทำให้คนฟังไม่เข้าใจไปเลย accent เป็นเรื่องที่ไม่สำคัญเท่าการออกเสียงให้ถูกต้อง
แล้ว accent เราไม่มีทางพูดได้เหมือน native speaker อยู่แล้ว นอกจากว่าไปเติบโตอยู่ในสังคมนั้นมาแต่แรก
เพราะคนเราภาษา mother tongue จะแข็งแรงสุด แล้วไม่ว่าจะพูดภาษาอะไร mother tongue จะเป็นตัว influence ต่อ accent ไม่มากก้น้อย
ไม่อยากให้คนไทยจำผิดกันเองเรื่องสำเนียง แต่ให้มองที่การออกเสียงที่ถูกต้อง รูปประโยคที่ถูกต้อง สื่อสารได้ใจความเป็นพอ ***
การติสำเนียงเป็นการติไม่สร้างสรรค์ เพราะคนเราอยู่ที่ไหน ได้ยินอะไรบ่อยๆ เราจะ pick up accent จากที่นั้นๆ
ขอให้ทุกคนมีกำลังใจในการพูดภาษาต่างชาติโดยไม่กังวลผิดจุด และกล้าที่จะพูดและเรียนรู้มันนะคะ
*************************************************************************************************************
ส่วนตัวรู้สึกว่าคนสวิสนับว่าเป็นชาติที่คนเป็น polyglot มาก พูดได้อย่างน้อยตั้งแต่เด็กก็ 3 ภาษา คือ German, French, Swiss-German (มีแต่ภาษาพูดไม่มีภาษาเขียน ตัวเขียนคือ German) นอกจากนี้คนสวิสส่วนใหญ่ชอบและคิดที่อยากจะเรียนเพิ่มเติมภาษา Italian อีกด้วย
เด็กสวิสโตขึ้นมาทุกคนที่มีการศึกษาสูงกว่าระดับการศึกษาภาคบังคับได้ภาษาอังกฤษทุกคน
แต่คนแถบยุโรปอาจจะได้เปรียบเรื่องภาษาอยู่แล้วเพราะรากภาษามันมาจากที่เดียวกัน ทำให้ต่อยอดได้ง่าย
ผังคร่าวๆง่ายๆเลยคือ.....
ใหญ่ๆมี 6 แขนง: Indo-Iranian, Hellenic, Celtic, Italic, Balto-Slavic, Germanic
ซึ่ง Italic แตกเป็น Latin
Latin พอแตกยอดออกมาะได้เป็น French, Spanish, Portuguese, Italian, English (แต่อังกฤษนี่ได้มาแบบอ้อมๆ)
ส่วน Germanic จะแตกออกเป็นพวก Norwegian, Icelandic, Dutch, German, English
*************************************************************************************************************