💚❤💜หอรักริมไรน์ ชีวิตนักเรียนไทยในเยอรมัน (อยู่เมืองฝรั่ง) 19 💜❤💚



[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สวัสดีค่ะ หอรักตอนที่ 19 นี้เป็นตอนที่ท่านผู้อ่านสามารถลำดับความรักของศิรินทร์ได้ด้วยตนเอง สิ่งบางอย่างที่เราไม่รู้
บางครั้งก็ดูสวยงามและให้ความเชื่อใจในสายตา แต่จะมีกี่คนจะรู้ว่าสิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่ สิ่งที่ต้องติดตามว่าใช่ คือนิยายเรื่องนี้ค่ะ
ขอขอบคุณท่านผู้อ่านด้วยใจจริง เพราะเรื่องเดินมาครึ่งหนึ่งแล้วค่ะ: WANG JIE หลงรัก, เสาวรส17 ถูกใจ, tedta หลงรัก,
เอ็นทูโอ หลงรัก, Na(นะ) ถูกใจ, GTW หลงรัก, ชุนเทียน หลงรัก, แก้วกรกช หลงรัก, เปลวอัคคี หลงรัก, มัศยวีร์ หลงรัก,
turtle_cheesecake หลงรัก, The Mario หลงรัก

💖💕💘

เมื่อนิธิเปิดประตูออก หล่อนยืนอยู่ที่นั่น

“ ศิ อ้อ ..เชิญ” เขานึกไม่ถึง

“ ซอรี่ ขอตัวเดี๋ยว” เขากลับเข้าห้องน้ำไป

ศิรินทร์ดึงประตูปิดเดินวนอยู่หน้ากระจกใสไม่ไกลจากประตู ถอนใจนิดหนึ่งนิธิเดินออกมา ผ้าเช็ดตัวพาดอยู่ที่ไหล่ ยังขาดเสื้อ

เขาหยิบในกระเป๋ากอกแกก เดินกลับไปใส่ในห้องน้ำโดยไม่ได้ปิดประตู กลับออกมา ผมหวีเรียบ

“ ศิ กลับมาเมื่อไร” ถามเสียงเรียบ

เขารู้ รู้ถาม หล่อนนึกอึดใจหนึ่ง

“ เมื่อคืน” หล่อนไม่ได้หันหน้ามา เขาก็หยุดมองอยู่ตรงนั้น

“ มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปหรือ”

"……….

“ คุณมาถึงเมื่อไหร่”

“ ผมบอกวันไหนก็วันนั้น” เขาตอบเสียงรวน

“ แต่ศิก็มา....”

“ กว่าจะมา รู้ไหมว่าผมเป็นอย่างไรบ้างในชั่วโมงที่ผ่านมา....” เสียงเริ่มที่ดังลดลงมา

ศิรินทร์หันขวับเดินผ่านเขาตรงไปที่ประตู หล่อนแปลบปลาบที่ใจจนทนไม่ได้

“ ศิ เดี๋ยว” เขาหันมาคว้าแขนหล่อนไว้

หล่อนถูกหยุดมิได้หันมาสักนิด เขาก็หยุด นิ่งไปนาน เกือบชาติน้อยๆทีเดียว

“ ศิไม่ควรมาใช่ไหม” ฝืนถาม ขณะที่ขอบตาร้อนผ่าว

“ ผมขอโทษ ศิทำให้ผมว้าวุ่นไปหมด อยู่ๆศิก็หายไป สั่งอะไรไว้ให้รู้สักนิดก็ไม่มี ศิเคยทำนี่ไม่ใช่ไม่เคยทำ”

“ คุณยังไม่ได้ถามเลยว่าศิมาทำไม เพราะอะไร นึกถึงแต่ตัวเองเท่านั้น”

นิธิมึนในคำพูดของหล่อน แขนทั้งสองข้างตกลงข้างตัว

“ ศิขอโทษ ศิคงทำอะไรไม่ถูก ศิกลับก่อนละ”

“ ศิจะทิ้งผมไปแบบนี้ได้อย่างไร” เขาผวาตาม

“ แค่นี้ผมก็แย่แล้ว” เขาคว้าไหล่หล่อนมาโอบ แนบหน้าที่ผมของหล่อนหยุดนิ่ง จับหน้าหล่อนหันมามองด้วยรู้สึกเปียกที่แขน

“ ศิ ผมขอโทษ ผมเห็นแก่ตัวจริงๆ ผมทำไปได้อย่างไร ศิอุตส่าห์มาหาผม”

หล่อนนึกน้อยใจวิบๆขึ้นมาอีกตามคำพูดเขา พยายามฝืนอารมณ์

“ ไปนั่งก่อน” เขาคว้ากระเป๋าหล่อนเอามาวาง หล่อนไม่นั่งหรอก...

“ ผมให้ศิพูดก่อน” ถ้าเขาเริ่มเขาคงจะพูดเหมือนที่อยากพูดนั่นแหละ หล่อนไม่อยากพูดขึ้นมาเฉยๆ มองเขาแล้วเดินไปมอง
ผ่านกระจกออกไป แล้วก็กลับมาก้มมองมือมองเล็บที่เอามากดกันจนเจ็บ...เจ็บดังใจ เขาหันมาเมื่อเห็นหล่อนเงียบไป หล่อนก้มหน้า

“ ผมรู้ว่าผมทำไม่ถูก จะเพราะความคิดถึงแค่ไหนก็ตาม ความรู้สึกที่ทรมานเป็นวัน เป็นชั่วโมง” เขาเอามือลูบหน้า เหมือนจะลูบให้มันออกไป

หล่อนยังนิ่ง

“ ผมไม่อยากตกอยู่ในสภาพนี้เลย....”

“ คุณก็พยายามลืมมันเสียซี่” หล่อนส่งเสียงมา

“ ศิ ทำได้เหรอ” เขาปลาบแปลบขึ้นมามั่ง หล่อนคงนึกสินะ ว่าใจใครก็รักษากันเอง มันเร็วเกินไปเขาคงทำไม่ทัน

เขารู้ว่าใจเขาเป็นอย่างไร แล้วใจเราล่ะ มันร้อนรนขนาดไหนที่ไกลจากเขา แล้วก็ต้องซมซานกลับมา ในที่ที่มันอยากมา แล้วเป็นไง สงสารหัวใจน้อยๆของตัวเองขึ้นมา ไม่น่าจะเจ็บได้เร็วขนาดนี้เลย

หล่อนหันกลับมา รู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที เชิดหน้า

“ ศิ ห้ามไปนะ” เขาเดินมาใกล้

“ เราคงแย่เหมือนๆกันใช่ไหมศิ” เขาโอบหล่อนไว้ มองหน้าหล่อนด้วยดวงตาที่ปวดร้าว ศิรินทร์สะอื้นขึ้นมาทันที

“ ศิ ไม่นะ ผมรักศิมากจนไม่รู้จะพูดอย่างไร” เขากอดหล่อนแน่นเข้าไปอีก ประคองพาหล่อนมานั่งปลายเตียง ปัดเส้นผมยาวให้ไปด้านหลัง

“ ผมไม่ว่าแล้วละ” กอดด้วยแขนข้างเดียว แนบแก้มบนศีรษะหล่อนนิ่ง

“ ตัวร้อนไปหมดแล้ว” เขาพูด หล่อนส่ายหน้านิดหนึ่ง ยังหายใจแรงอยู่

เขาผลักหล่อนนอนราบลงไป ลุกไปหยิบหมอนมาหนุนศีรษะให้ แล้วนอนตะแคงตนเองท้าวศอกยันศีรษะไว้ มองดูหล่อนพักใหญ่

ศิรินทร์ขยับตัวเมื่อเขาเอนใกล้หล่อน

“ ผมไม่ทำอะไรหรอก นอนให้สบายเถอะ” ถ้าเขารู้สึกดีขึ้น หล่อนก็น่าจะดีขึ้นบ้าง

“ ดื่มอะไรไหม น้ำส้มไหม” เขาพยายามสบตาหล่อน หล่อนถอนใจหลับตาลง

นิธิมองรูปหน้าใกล้ๆของหล่อน จมูกแดงเรื่อ ปากบางๆเชิดเช่นคนร้องไห้ ขนตายังชื้นอยู่เลย เขาอยากให้หล่อนดีขึ้นเร็วกว่านี้

หล่อนขยับตัวนิดหนึ่งแล้วถอนใจ เขามองหล่อนอยู่นาน

“ ศิ ลืมตาซิ” เขาเห็นแววดีขึ้น หล่อนรู้สึกว่าให้เขามาเฝ้าอย่างนี้ กระไรอยู่ เลยขยับลุกขึ้น

“ นอนเถอะนะ ศิอยู่อย่างนี้ก็ดีแล้วใช่ไหม” เขาเอาแขนที่เมื่อยลงหนุนศีรษะนอนราบดูเพดานเงียบอยู่อย่างนั้น

ศิรินทร์มีความรู้สึกคุ้นเคยกับที่นอนนี้ คนข้างๆนี่ก็ใช่ ความรู้สึกก็ค่อยๆกลับมาเหมือนสามสี่วันโน้น เราคุยกันสนุก
เราไปนั่งเรือ ดูวิว ดูดาว ดูไฟ แล้ววันนี้เป็นอะไรถึงได้เกิดเหตุการณ์อย่างเมื่อกี้นี้ ตนเองยังปรับอารมณ์ไม่ทันเลย แล้วคนข้างๆนี่ล่ะ หล่อนเอามือไปแตะแขนเขาเบาๆ

นิธิหันมามอง ตาหลบต่ำมองตามมือที่วางไว้ เขาจับมือหล่อนมาถูแถวๆปากเบาๆสองสามที ตา ก็มองเพดานอย่างครุ่นคิด

เขารับหล่อนเข้ามาไว้ในใจจนหมด แบกไว้ด้วยความยินดีเป็นหนักหนาเพียงชั่ว...ชั่วสถานการณ์เปลี่ยนไป ใช้คำนี้แหละ มันจะทำให้อะไรเปลี่ยนไปขนาดนี้เชียวหรือ หล่อนไปไหน? แล้วก็มาอยู่ตรงนี้ ตรงหน้านี้ไง วันนั้นหล่อนยังบอกเขาเป็นนัยๆเลยว่าหล่อนก็รักเขา ก็ด้วยลูกตาของหล่อนนี่ไง ไม่ต้องนึกถึงความรู้สึกที่มีต่อกันหรอก หรือว่ามันไม่จริง ต้องถามแล้ว...

“ ศิ..” เขาหันตะแคงมา เอาฝ่ามือค้ำศีรษะไว้อีก

“ ผมจะไม่ถามอะไรศิอีกเลย แต่ศิต้องตอบผมอย่างหนึ่ง”

เขาเอามือข้างซ้ายเชยคางหล่อนให้สบตาเขา มองจ้องเข้าไปในดวงตาหล่อน

“ ศิรักผมไหม?”

หล่อนสะดุดนิด แล้วแววตาแกมน้อยใจก็ปรากฏชัด

แค่นี้ก็พอแล้ว นิธิบอกตัวเอง กอดหล่อนอย่างดีใจลึกๆกับคำตอบที่ค้นพบ ใช่ ต้องค้นหาเอาเองเขาจูบหล่อนเนิ่นนานเท่าที่หล่อนยอมให้

ฟ้ามืดแล้ว จิตใจมืดหม่นกลับสว่างแจ้ง เหมือนเขาทั้งสองได้รื่นรมย์ด้วยเสียงเพลงรักวันก่อนบรรเลงอย่างแผ่วเบาดั่งได้ยินจากที่ไกลเร้นลับมาเคล้าคลอทำนองอ้อยอิ่งจนกระชั้นดั่งคลื่นไล่ลูกแล้วลูกเล่าเลาะไปตามสายน้ำที่หลากไหลไม่หยุดหย่อน จากที่สูงลงคล้อยเคลื่อนลงมาจนถึงที่สุดเสียงอารมณ์ที่ทอดถอนก็สงบลง

ห้องมืดมิดมานานแล้ว มือที่ลูบท้องนิธิเบาๆทำให้เขาขยับกายมากอดร่างเกลี้ยงเกลาข้างๆอย่างไม่อยากคลาย เขาเชื่อเหลือเกินว่าความรักของหล่อนมากเท่าๆกับเขาทีเดียว เขาได้รู้ไปเสียทุกสิ่งทุกอย่างทุกซอกทุกมุมที่หัวใจอยากรู้ ความอยากรู้ของหล่อนก็ไม่น้อยไปกว่าเขา นั่นไงหล่อนยังไม่เบื่อที่จะวนจมูกกับต้นแขนเขาอยู่เลย

“ หอมหวานไปทั้งตัวเชียวศิ “ เขาบอกข้างหู

“ คุณก็เหมือนกัน”

“ เหมือนตรงไหนจ๊ะ”

“ ท้องแห้งไม่มีไขมัน” หล่อนบอกใกล้หูบ้าง

“ เห็นเมื่อไหร่” ทำเสียงแปลกใจ

“ ตอนศิเพิ่งมาถึงไง”

“ ไม่น่าเชื่อ ศิโกรธผม ไม่ใช่เหรอ “

“ ก็ตาเห็นนี่”

“ มิน่า” เขายิ้มด้วยตาด้วยหัวใจ ศิรินทร์ซุกหน้าเข้าไปอีก เสียงหัวเราะเบาๆสองคนก็ดังขึ้น

“ ศิจ๊ะ ผมอยากบอกศิตรงนี้เดี๋ยวนี้ว่า ขอเวลาผมสองเดือนที่เมืองไทยนะจ๊ะ รอเปิดเทอมใหม่ เรื่องเรียนต่อคงเรียบร้อยพอดี และผมจะเคลียร์งานทางบ้านด้วย ศิรอได้นะจ๊ะ เรื่องย้ายไปลอนดอนกับผม ศิต้องบอกทาง กพ แล้วหละ หรือจะให้ผมไปติดต่อทางกรุงเทพให้ก็ได้ ถ้าไม่ทันค่อยคิดค่อยไปก็ได้ ใช่ไหมจ๊ะศิ”

“ ตั้งสองเดือนเชียวหรือคะ สองสามวันก็แย่แล้ว”

“ ใช่จ้ะ สองสามวันก็แย่แล้ว” เขาถอนหายใจแรง

“ เอางี้มั้ย ศิลาไปเมืองไทยกับผมเลย แล้วไปเริ่มที่ลอนดอนใหม่พร้อมกัน”

“ ศิก็มีเรื่อง" หล่อนเว้นคำว่าเคลียร์ "ต้องทำเพราะไม่รู้ตัวล่วงหน้าว่าจะเปลี่ยนแปลงมากขนาดนี้”

“ เหมือนที่เราพูดเล่นกันใช่ไหมจ๊ะ ว่าสถานการณ์เปลี่ยนคนได้"

“ พูดเล่นไม่น่าจะเป็นจริงนะคะ”

“ เราเกือบจะไม่เข้าใจกันแล้วใช่ไหม หือ”

“ คนเห็นแก่ตัว” หล่อนพึมพำ

“ แต่เมื่อกี้ผมเปล่านา “ เขาล้อเลียนความนัย หน้าหล่อนเข้มขึ้นซุกเข้ามาอีก

“ เพราะศิมาวันนี้เชียว คิดอย่างไรจ๊ะ ถึงมาไม่โทรก่อนด้วย”

“ ของหาย..”

“ อะไรหายจ๊ะ”

“ ของรักหายไป ศิก็หาอยู่นั่นแหละ นานเท่าไรก็ต้องตาม วันนี้ไม่ตาม พรุ่งนี้ก็ต้องตาม”

“ ศินึกภาพคนหัวใจเว้าๆแหว่งๆวิ่งพล่านแถวตู้โทรศัพท์ในลอนดอนออกไหมจ๊ะ จะขาดใจตายเสียเมื่อไรไม่รู้”

“ ตอนนั้นศิถามใจตัวเองอยู่”

“ ได้ความว่าไงจ๊ะ”

“ ก็ต้องตามมานี่ไง ยังจะมาถามอีก” เสียงห้วนนิด

“ ผมพูดผิดหูอีกแล้วเหรอ ศิดุจัง”

“ ศิขอโทษ ขอศิกลับนะคะ กี่โมงแล้วไม่ทราบ” หล่อนรีบลุกขึ้นในความมืด

“ ศิยังไม่กลับได้ไหม”

“ ให้ศิกลับเถอะ”

“ ผมยังไม่ให้ศิกลับหรอก” เขาคว้าหล่อนไว้

“ ศิจะอยู่ได้อย่างไร”

“ พรุ่งนี้วันเสาร์ไม่ใช่เหรอ ศิรู้ไหมว่าผมจะไปเมื่อไร”

หล่อนใจหาย

“ ศิจะไม่ถามหรือจ๊ะ” เขาโอบร่างที่ซุกข้างๆ

“ อยู่นะจ๊ะ เดี๋ยวเราไปทานอาหารกันก่อนค่อยคุยกันนะ”

หล่อนค่อยๆลุกขึ้นดูความเรียบร้อยของตนเอง เข้าไปในห้องน้ำ เมื่อออกมาเห็นนิธิยืนมองดูทิวทัศน์เช่นเคย
(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่