💦🌺❄️หอรักริมไรน์ ชีวิตนักเรียนไทยในเยอรมัน (อยู่เมืองฝรั่ง) 8 ❄️🌺💦



Credit Cologne Cathedral - Wikipedia
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สวัสดีค่ะ คราวนี้สองหนุ่มชาวหอก็มาปะกบแพ็คคู่อย่างเดิม ทำให้ไม่มีโอกาสชายหญิงได้อยู่สองต่อสอง โอกาสทำคะแนนจึงล่าช้าหน่อย มีกิจกรรมนอกหอพักให้ได้อ่านกันบ้าง ก่อนจะเรื่อยเปื่อยออกนอกหอไปเรื่อยๆค่ะ ขอให้อ่านสนุกและขอบคุณทุกท่านที่ได้มาวางชื่อและเม้นต์ไว้นะคะ
เปลวอัคคี หลงรัก, มัศยวีร์ หลงรัก, แปดดิน ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 868666 หลงรัก, GTW หลงรัก, ชุนเทียน หลงรัก, Eien Akai Debiru ซึ้ง, Na(นะ) ถูกใจ, turtle_cheesecake หลงรัก
💖 💖

วันนี้วันอังคารศิรินทร์กลับจากทำงานก็รีบทำธุระส่วนตัว เพราะเดี๋ยวธีระจะมาที่นี่ตามนัด หล่อนหาแก้วบางๆได้สองใบ มันไม่ใช่แก้วใส่ไวน์หรอก ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า น่าจะลองถามนายถังดูว่าจะขอยืมได้ไหม พักนี้ก็ไม่เจอนายถังเลย จึงออกไปที่ระเบียงชะโงกดูว่าม่านปิด
หรือเปล่า จะไปเคาะห้องก็กระไรอยู่ คิดอยู่นั่นจนมีเสียงเคาะห้อง

“สวัสดีครับ” ธีระกล่าวเมื่อหล่อนเปิดประตู หอบของมาสองถุง

“ สวัสดีค่ะ งานวันนี้คงแกรนด์แน่ๆเลย” หล่อนทักทายให้งานเริ่มแจ่มใส

“ มันอยู่ที่ใจครับ” ธีระบอกยิ้มๆ

“ อ้าว ไม่ใช่อยู่ที่วัน วันเกิดหรือคะ” หล่อนเดินนำเข้ามานั่ง

“ ครับ ถ้าสบายใจทำอะไรก็ดีหมดแหละครับ อารมณ์ก็จะดีตามมาด้วย”

“ งั้นวันนี้ก็คงอารมณ์ดีนะคะ งานจะได้ดีด้วย อาหารอร่อยแน่”

“ ผมจะต้มยำกุ้งครับ” พูดพลางควักแพ็คพลาสติกกุ้งออกมาอวดเมื่อนั่งลง

“ คุณธีระไปได้มาจากไหนคะ”

“ ผมติดรถคุณจ้ำไปเมโทรมาครับ เขาจะไปจ่ายของพอดี” ธีระหมายถึงสโตร์ขายส่งทุกอย่าง

“ แล้วเครื่องปรุงมีครบไหมคะ ศิมีตะไคร้แห้งอยู่ค่ะ”

“ มีครบครับ ผมได้ตะไคร้มาจากร้านอินโด อ้อ มีข้าวโพดต้มอย่างชนิดดี ไม่ใช่อย่างที่ปลูกให้ม้ากินข้างหอนี่นะครับ”

“ ถ้าคนกินได้เดี๋ยวก็หมดไร่หรอกค่ะ”

“ ตำรวจจับนะครับ”

“ จะทำอาหารเลยไหมคะ หรือเก็บก่อน เกือบหกโมงแล้วค่ะ”

“ คุณศิทานกี่โมง ทำครึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้ว จะทานค่อยทำดีกว่า”

“ งั้นเอาไปใส่ตู้เย็นไว้ก่อนนะคะ”

“ อ้อ ต้องแช่ไวน์ด้วยครับ เกือบลืมแน่ะ เดี๋ยวผมไปเก็บเอง” เขาลุกเดินไปศิรินทร์ลุกตามไปด้วย หล่อนเอาน้ำแร่ให้ธีระดื่ม รูดม่านให้เปิดหมด ยกเก้าอี้มานั่งตรงข้ามโซฟาเมื่อธีระกลับเข้าห้องมา

“ นั่งสบายหรือเปล่าครับ” เขามองหล่อนพลางขยับไปนั่งชิดผนัง

“ ไม่เป็นไรค่ะ อ้อ เมโทรอยูไกลไหมคะ” หล่อนอยากรู้

“ ไม่ไกลครับ ทางใต้ด้านเรานี่แหละ ต้องมีบัตร ส่วนมากเป็นพวกร้านอาหาร สถานทูต ร้านค้า โรงเรียน ส่วนมากจะซื้อเป็นโหล ยกกล่องยกลังครับ”

“ มีทุกอย่างใช่ไหมคะ”

“ ครับมีหมด แต่พวกอาหารเนื้อแช่แข็งทั้งหมดนะครับ”

“ เมื่อไรจะมีโอกาสไปอีกคะ ศิอาจจะฝากซื้อของบ้าง ราคาคงถูก”

“ ก็ถูกครับถ้าซื้อของมูลค่ามาก เสียภาษีแวทบวกอีก สิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ก็ยังถูกอยู่ คุณศิอยากได้อะไรครับ”

“ ศิอยากได้วิทยุกับที่เล่นดิสก์ ค่ะ ก่อนนี้ฟังของแม่บ้าน ตอนนี้ย้ายมาจะสามเดือนแล้วยังไม่ได้ฟังเพลงเลยค่ะ”

“ อยากได้ใหญ่แค่ไหนครับ”

“ อยากได้ใหญ่ตามเงินค่ะ สักแปดสิบถึงร้อยยูโร ในนั้นราคาอาจถูกกว่านี้ก็ยิ่งดีค่ะ ตายละศิก็พูดยังกับจะได้ไปซื้ออย่างนั้นแหละ”

“ ซื้อได้ครับ ถ้าคุณศิไม่เกี่ยงยี่ห้อกับราคานัก เอาที่พอมีชื่อแล้วก็รุ่นใหม่ๆหน่อย”

“ ค่ะ ตามที่พูดก็โอเคแล้ว ราคาก็มาตรฐานอยู่แล้ว ศิไม่ห่วงหรอกค่ะ”

“ถ้างั้นเที่ยวหน้า ผมจัดการให้ครับ”

“ อีกสองสามวันศิไปแบ้งค์เบิกเงินมาให้นะคะ”

“ ไม่เป็นไรหรอกครับ ทีหลังก็ได้”

“ ให้เงินจะได้ของแน่ๆไงคะ”

“ ไม่พลาดหรอกครับ”

“ จะทานเบียร์ก่อนไหมคะ” หล่อนถามเอาใจ

” เดี๋ยวดื่มไวน์ดีกว่า งดเบียร์ครับ”

“ อ้อ จริงสินะ อดได้หรือคะ” หล่อนแกล้งถาม ธีระจ้องตาหล่อน

“ ถ้าผมอดได้ล่ะ” ธีระพูดน้อยกว่าคำถามจากแววตา ศิรินทร์ยิ้มหลบตาทันที

“ แน่ะ มันไม่เกี่ยวกับศิหรอก ความเป็นไปของคุณธีระน่ะ”

“ คุณศิไม่ชอบหรือครับ”

“ ไม่ชินน่ะค่ะ อย่ามาใส่ใจเลย ไปทำกับข้าวดีกว่านะคะ” หล่อนหาทางตัดบท ลุกขึ้น

“เดี๋ยวศิหุงข้าวเอง” หล่อนเปิดตู้หยิบข้าวออกมาหนึ่งถุง แล้วเดินนำออกจากห้อง ธีระมองตามแล้วจึงเดินตามออกมา

ธีระทำต้มยำกุ้งได้คล่องแคล่วใส่เห็ดเป็นลำดับสุดท้ายใส่กุ้งต้มพอสุกรีบยกขึ้นปิดฝาหม้อ มาปรุงรสในชามก่อนตักจากหม้อมาใส่ หอมฟุ้งเชียว เขาผัดผักหลากสีกับกุ้ง ดูสดสวยทั้งแครอท กะหล่ำม่วง หัวรูทบีช ข้าวสุกแล้ว ข้าวโพดต้มแล้ว ทุกอย่างวางเตรียมบนโต๊ะ

ศิรินทร์ยืนมองการผัดผักของเขา ชมในใจและชมออกมา หล่อนลังเลว่าจะทานอาหารที่ครัวดีกว่าแล้วดื่มในห้องจะกลายเป็นชักชวนเข้าห้องหรือเปล่านะ ไม่ใช่น่า จะมาดื่มอยู่ในครัวได้ยังไงกัน คนอื่นก็จะใช้ครัวใช้โต๊ะอาหาร ใครก็คงรู้ว่า ‘ พิเศษ’ เพราะมีการดื่มด้วย

“ คุณธีระ ข้าวโพดไว้ทานหลังอาหารดีไหมคะ ทานข้าวอร่อยคงอิ่มแน่ๆ จะเอาไวน์มาดื่มเลยไหมคะ”

“ ไวน์ขาวดื่มทีหลังก็ได้ เราไม่ดื่มตอนทานอาหารแบบฝรั่ง เดี๋ยวอาจจะต้องชวนคนอื่นด้วย จะกลายเป็นงานใหญ่ไป” ธีระยกต้มยำกุ้งที่ปรุงในถ้วยแล้วมาวาง ศิรินทร์ตักข้าวเตรียมพร้อมวางเช่นกัน มีน้ำสองแก้ว หล่อนทรุดตัวนั่งหันหน้าเข้าด้านในด้วยไม่อยากทักทายผู้ใด
โดยให้ธีระหันหน้าออกสู่ประตูทางเข้าส่วนทานอาหาร น่าจะใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมงหรอกหล่อนบอกตนเองในใจ

“ เชิญครับ” ธีระพูดหลังจากนั่งมองอาหารว่าครบแล้ว

“ ที่จริงศิเป็นเจ้าของสถานที่นะคะ แต่กลับไม่ใช่เจ้าภาพ แปลกดี”

“ ก็ให้มันแปลกๆก็จะดีเหมือนกันนะครับ จะได้ไม่จำเจ”

“ อร่อยค่ะ” ศิรินทร์รู้สึกอร่อยจริงๆ เมื่อตักต้มยำกุ้งคำแรกเข้าปากเคี้ยว

“ อร่อยจริงนะครับ”

“ แหมศิไม่ยอหรอก ตั้งแต่ศิมาอยู่ที่นี่ ยังไม่เคยได้ทานเลยค่ะ”

“ ที่ร้านอาหารไทยก็มีครับ”

“ แต่ศิยังไม่ได้ไปเลยค่ะ เพราะยังไม่มีโอกาสที่จะต้องไป แล้วคุณธีระว่าอร่อยหรือเปล่าล่ะคะ ฝีมือตัวเอง”

“ ก็อร่อยเพราะกุ้งหรอกครับ ถ้าเป็นไปได้ผมอยากหาโอกาสพาคุณศิไปเมโทร เผื่อเลือกวิทยุด้วยตัวเอง แต่เขาให้เข้าแค่สองคนต่อบัตร

เท่านั้น แล้วต้องนึกว่าจะซื้ออะไรถึงจะคุ้มไหนๆก็ไปทั้งทีแล้วนะครับ”

“ ของศิไม่รีบหรอกค่ะ อย่ากังวลนักเลย”

“ ไม่มีอะไรกังวลหรอกครับ ผมก็ว่างๆอยู่แล้ว”

เมื่อทานอาหารเสร็จ ศิรินทร์ล้างจาน ชาม ธีระเช็ดโต๊ะกับเช็ดจานที่ศิรินทร์ล้างเสร็จ ธีระคิดในใจว่า ใกล้ชิดสนิทเข้ามาอีกนิดหนึ่งแล้ว

เมื่อเข้ามาในห้อง เก้าอี้ถูกดึงออกมาวางแก้ว และมีข้าวโพดต้มสามฝักราดน้ำเกลือเรียบร้อยแล้ววางในจาน ศิรินทร์มองดูแล้วรู้สึกว่ามันไม่เข้ากันเลย จึงย้ายข้าวโพดไปวางที่บนเคาน์เตอร์

“ ทำไมล่ะครับ”

“ ศิว่ามันไม่เข้ากันค่ะ ดื่มก่อนดีกว่า ข้าวโพดไม่เกี่ยว หรือคุณธีระจะทานก่อน”

“ ผมว่าเรามาชิมคนละครึ่งฝักดีกว่า ฝักมันใหญ่เอาการ นะครับ”

ศิรินทร์ยกจานข้าวโพดมาธีระหยิบมาหนึ่งฝักหักสองท่อน ส่งให้หล่อนๆอุบอิบขอบคุณเขา รู้ว่าธีระมองอยู่จึงเสเดินไปที่ระเบียงแทะข้าวโพดในความมืดที่นั่น ธีระตามออกมา หล่อนอดนึกถึงผู้ชายคนที่เคยยืนกุมมือหล่อนที่นี่ไม่ได้

“ มืดๆคุณศิทานเห็นหรือครับ”

“ แหมของอยู่กับปาก” พูดแล้วก็ขำเองหล่อนหัวเราะขึ้นมา

“ ผมรู้สึกอิ่มจัง” ธีระพูดเมื่อทานข้าวโพดหมด

“ ท้องฟ้าโปร่งจังนะครับ” ธีระชวนคุยอย่างรู้สึกรื่นรมย์

“ หน้าร้อนที่นี่ร้อนมากไหมคะ ปีที่แล้วน่ะค่ะ”

“ ก็ราวยี่สิบถึงยี่สิบห้าองศาแหละครับ กำลังพอดี แดดก็แยะด้วย”

ทั้งสองกลับเอาซังข้าวโพดมาวางไว้ ล้างมือแล้วนั่งลงที่โซฟา แต่ธีระออกไปเอาไวน์มารินใส่แก้ว เย็นน้อยๆกำลังพอดี

“ เชิญดื่มเลยครับ ผมต้องมานึกทวนว่า ต้องวนไวน์ก่อน จิบแล้วอมสัมผัสกลิ่น รส ก่อนค่อยกลืน “

“ ดื่มบ่อยหรือคะ”

“ไม่บ่อยหรอกครับ ไม่ค่อยมีโอกาสดื่ม เป็นเบียร์ซะมากกว่าครับ นอกจากอยากพิเศษสักหน่อยครับ”

“ เข้าใจทำอะไรให้ตัวเองนะคะ ศิ บางทีก็ลืมนึกถึงความพิเศษไม่พิเศษไปเลยค่ะ”

“ บางทีเราก็อยากทำให้คนอื่นด้วย ถ้ามีโอกาส”

“ เอ ศิน่าจะลองเอาอย่างบ้าง เพื่อตัวเอง” หางเสียงเหมือน หมายมั่น

“ ผมคงต้องหาเวลาไปดูวิทยุให้คุณศิเร็วๆนี้ เพราะอย่างวันนี้ถ้ามีเพลงด้วยก็น่าจะดีนะครับ” เขาออกความเห็น

“ จริงค่ะ เผอิญศิไม่เคยมีของตัวเองมาก่อน เลยไม่รู้สึกขาด ทำงานมาเหนื่อย อยู่เงียบๆก็ชินแล้วค่ะ”

“ เงียบอย่างเดียวก็พอทน ถ้าเหงาด้วยก็ลำบากหน่อยนะครับ”

“ ก็มีพวกจดหมาย โทรศัพท์บ้าง แล้วก็พวกเราอีกศิว่าแค่นี้ก็ดีแล้วค่ะ”

“ คุณศิรู้สึกจะปรับตัวไม่ยากนะครับ ยังไม่เคยเห็นคุณศิบ่นอะไรเลย”

“ ศิยังคงไม่บ่นแบบผู้หญิงอื่นๆในตอนนี้ แต่ถ้าแก่อีกหน่อยก็คงเหมือนๆกันละค่ะ นี่หน้าชักร้อนๆเพราะไวน์แล้วซิ” หล่อนเอามือลูบแก้มที่แดงขึ้น

“ ผมว่าไม่น่าเป็นแบบนั้นนะครับ เพราะคุณศิดูจะเป็นอีกแบบหนึ่ง ซึ่งคงจะไม่ค่อยเหมือนใคร คงเป็นแบบของคุณเอง” เขาพูด
พลางมองดูหล่อนลูบแก้มแดง

“ เอ.. แล้วมันดีหรือเปล่าคะ”

“ ผมก็กำลังดูอยู่ครับ”ธีระกล่าวอย่างจะบอกให้รู้

“ แล้วถ้าผลออกมาเมื่อไร ก็กรุณาบอกเจ้าตัวด้วยนะคะ”

“ ครับแน่นอนถ้ามีโอกาส” เขากล่าวเป็นนัย

ไวน์ยังไม่หมดขวดหรอก แต่เจ้าของห้องรู้สึกง่วงจากการดื่มและเวลาอันยาวนาน ทำให้แขกต้องขอตัวกลับ เมื่อหล่อนเผลอปิดปากหาวขึ้นมา ตาก็เริ่มปรือเหมือนคนง่วง หล่อนขอร้องให้ธีระหิ้วขวดไวน์ไปด้วย แต่เขาเกี่ยงว่าเหลือไม่มาก แช่ตู้ไว้ให้หล่อนดื่มต่อเมื่อไม่รู้จะทำอะไร อย่างน้อยคงช่วยให้หลับสบาย

(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่