♥ ♥ .. จอมใจเจ้าบัลลังก์ .. ♥ ♥ [ 15: หนีตายกลางวงล้อม ]

กระทู้สนทนา

☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼

อ่านตอนก่อนหน้านี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[ขอบคุณคลิปประดับกระทู้จากยูทู้ป ]



☼ ☼ 15:: หนีตายกลางวงล้อม ☼ ☼




                   หลังจากโดนแย่งงานไปทำ หลันเหลยก็กลับเข้าบ้าน หันรีหันขวาง ไม่รู้จะทำอะไรดี สุดท้ายเห็นกองเสื้อผ้าใช้แล้ววางพาดอยู่ จึงหอบทั้งหมดไปซักที่ลานข้างบ่อน้ำ   ซักไปได้สักพักองค์ชายก่วงหยางก็ทรงแบกจอบเดินผ่านมา พอเห็นเข้าก็ต้องชะงัก รีบสาวพระบาทเข้ามาร้องถาม

                   “  อาเหลย.. ทำไมถึงซักผ้าเองล่ะ ? “

                   หลันเหลยงงงันวูบ เงยหน้าขึ้นกล่าวอย่างรำคาญ

                   “  พวกท่านแย่งงานข้าไปทำเองเกือบทุกอย่าง จนข้าไม่รู้จะทำอะไรแล้ว  งานถางหญ้าขุดดินท่านบอกว่าเป็นงานของผู้ชาย ข้าไม่ทำก็ได้ แต่งานซักผ้าเป็นงานของผู้หญิง  อย่าบอกนะว่าท่านจะทำเองอีก ? “

                   “ แต่เสื้อผ้าของข้ากับฮั่นกุน เราซักกันเองก็ได้ “

                   “  งั้นเสื้อผ้าของข้า.. ข้าก็ต้องซักเองนะ “

                   กล่าวจบก็ก้มหน้าก้มตาซักผ้าของตนเองต่อ ไม่สนใจเขาอีก

                   องค์ชายก่วงหยางประทับยืนนิ่ง ราวจมอยู่ใต้ภวังค์ครุ่นคิดจนเซื่องซึม ครู่หนึ่งก็วางจอบลงแล้วยอบพระวรกายลงข้างๆนาง พริบตานั้นคล้ายมองเห็นใบหน้าน้อยๆที่ลอยอยู่ใกล้ๆ คือองค์หญิงเซียงหัว ถึงกับระงับพระทัยไว้ไม่อยู่ ยื่นพระหัตถ์ออกไปกุมมือของหลันเหลยไว้ เพ้อเรียกหาอย่างลืมพระองค์

                   “  หัวเอ๋อ... นี่เจ้าจริงๆใช่ไหม ? “

                   หลันเหลยเคยได้ยินเขาชอบเพ้อเรียกหานางมาก่อน ดังนั้นจึงไม่ได้รู้สึกแปลกใจอีก สะบัดมือเบาๆ แล้วกวักน้ำเปล่าในถังใส่หน้าเขา หัวร่อพลางร้องว่า

                   “  นี่.. พี่เยี่ย... สติสตังท่านยังดีอยู่รึเปล่า หรือว่าหลับกลางวันอีกแล้ว ? ข้าหลันเหลยนะ ไม่ใช่หัวเอ๋ออะไรของพี่.. ตื่นได้แล้ว  “

                   องค์ชายก่วงหยางค่อยตื่นจากภวังค์ ถอนพระทัยอย่างหดหู่ รับสั่งด้วยสีพระพักตร์หม่นหมอง

                   “ ข้าขอโทษ ”

                   หลันเหลยส่ายหน้าอย่างขำๆไม่ถือสา ผุดลุกขึ้นเอาผ้าไปตาก เมื่อเดินกลับมาอีกครั้งก็เห็นเขายังนั่งอยู่ที่เดิม จึงเดินเข้ามาใกล้ๆส่งเสียงเรียกหาอย่างเป็นห่วง

                   “  พี่เยี่ย... เป็นอะไรไปรึเปล่า ? “

                   บุรุษหนุ่มสั่นศีรษะกล่าวปฏิเสธว่า “ไม่มีอะไร” พลางยืดพระวรกายประทับยืนขึ้น

                   หลันเหลยเอียงหน้ามองเขา ขบคิดเล็กน้อย เอ่ยปากถามอย่างระมัดระวัง

                   “  คิดถึงน้องสาวของท่านคนนั้นอีกแล้วสิใช่ไหม ? “

                   องค์ชายก่วงหยางขมวดพระขนง ถามอย่างแปลกพระทัย

                   “  น้องสาว... คนไหนหรือ ? “

                   “ ก้อ.... คนที่ท่านเคยบอกว่านางเพิ่งเสียชีวิตจากไปเมื่อไม่นานมานี้..ดูเหมือน.. นางจะชื่อหัวเอ๋อ..สินะ วันก่อนตอนที่ท่านเมามายไม่ได้สติ ท่านก็เอาแต่เพ้อเรียกหานาง แม้แต่ตอนนอนหลับ ก็ยังละเมอเรียกชื่อนางออกมาตั้งหลายครั้ง  “

                   “  งั้นหรือ ? “

                   หลันเหลยพยักหน้าร้อง “ฮื่อ” เป็นการยืนยัน พอเห็นเขายืนนิ่งซึมไปอีกครั้ง จึงวางมือแตะบนแขนของเขาเบาๆ กล่าวปลอบโยน

                   “  คนตายไปแล้วไม่อาจฟื้นคืน  หากเอาแต่คิดถึงก็มีแต่ปวดร้าวใจ  ชีวิตคนยังมีวันข้างหน้าอีกยาวไกล ท่านอย่ามัวเอาตัวเองไปจมอยู่แต่อดีตให้เสียเวลาเลย.. เชื่อข้าเถอะ.. อะไรที่พอจะลืมได้ ก็ลืมไปเสียบ้าง “

                   องค์ชายก่วงหยางทอดถอนพระทัย รับสั่งอย่างเลื่อนลอย

                   “  ข้าพยายามแล้ว แต่คงไม่สามารถลืมนางได้..”

                   “  พวกท่านสองพี่น้อง คงสนิทสนมผูกพันกันมาก “

                   “  อืม...”

                   “  ท่านรักนางมากใช่ไหม ? “

                   ทรงจับจ้องมองดวงตาของนาง ราวจะมองลึกลงไปค้นหาดวงเนตรคู่งามของใครอีกคน ก่อนจะรับสั่งเบาๆ  “  ใช่.. ข้ารักนางมาก  หากข้าสามารถตายแทนนางได้ ข้าก็ยินดี “

                   หลันเหลยกล่าวอย่างตื้นตัน

                   “  น้องสาวของท่าน มีพี่ชายที่ดีเช่นท่าน  ข้ารู้สึกอิจฉาจริงๆ “

                   องค์ชายก่วงหยางแย้มสรวลอย่างฝืนๆ ตรัสว่า

                   “ แต่ศิษย์พี่ของเจ้า ก็เป็นพี่ชายที่ดีคนหนึ่งเหมือนกัน  “

                   หลันเหลยไม่พูดอะไรต่อ  ในใจกลับจมอยู่ในภวังค์ครุ่นคิดอย่างเงียบๆ

                   

                   ............................

                   

                   เย็นวันนั้นหลัยเหลยอาสาเข้ามาช่วยเหวินฮั่นกุนหั่นผักในครัว เบือนหน้าไปทางชายหนุ่มที่กำลังวางหม้อหุงข้าวอยู่บนเตาไฟ ขบคิดเล็กน้อย ค่อยส่งเสียงเรียกหา

                   “  พี่ฮั่นกุน  ? “

                   “  อืม...”

                   “  ถามอะไรหน่อยได้มั้ย ? “

                   “  ก็ถามมาสิ...”

                   “  เอ่อ... นี่พี่.. ถ้าสมมุติว่ามีสักวัน ที่ข้าเกิดมีอันเป็นไป ท่านจะทำอย่างไร ? “

                   “  เป็นอะไรไปอีกล่ะ ? “

                   เหวินฮั่นกุนนั่งยองๆลงเขี่ยถ่านในเตาไฟ พลางย้อนถามด้วยน้ำเสียงไม่ใคร่สนใจนัก

                   หลันเหลยตะกุกตะกักเล็กน้อย กล่าวเสียงอ้อยอิ่ง

                   “  ก็.. เช่นถ้าเกิดว่า ข้าต้องตายไป หรือว่ามีอันต้องพลัดพรากจากท่านไปไกล...ท่าน....”

                   ชายหนุ่มรับฟังจนงุนงง เบือนหน้าไปมองนางแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปดูไฟในเตาต่อพลางแค่นเสียงหัวเราะหึหึในลำคอเบาๆ  หลันเหลยชมดูจนขุ่นเคือง ร้องอย่างงอนๆ

                   “  ทำไม.. คำถามของผู้อื่นน่าขำนักหรือ ? “

                   คราวนี้คนถูกถามพลันหัวเราะดังขึ้นกว่าเดิม กล่าวว่า

                   “  ก็ใช่น่ะสิ ถามอะไรแปลกๆ ถ้าเจ้าเกิดตายไป แล้วข้าจะทำอย่างไร “

                   “  ก็ข้าอยากรู้นี่นา.. ว่าท่านจะทำยังไง “

                   “  แล้วจะให้ข้าทำยังไงล่ะ ? “  เขาตอบไปก็เขี่ยไฟในเตาไป  กล่าวอย่างไม่ใส่ใจนัก “ ข้าไม่ใช่เทวดาที่ชุบชีวิตใครได้ ดังนั้นถ้าเจ้าตาย ข้าทำได้ก็แค่เอาไปฝัง ไม่ก็เอาไปเผา .. หรือเจ้าอยากจะให้ข้าจัดการยังไง ? “

                   กล่าวไม่ทันจบประโยคสุดท้าย ได้ยินเสียงกระแทกมีดกับเขียงไม้ดังปัง

                   เหวินฮั่นกุนสะดุ้ง เหลียวหน้ากลับมา  ก็เห็นหลันเหลยทำหน้าหงิกงอ แยกเขี้ยวขึงตาใส่เขาราวจะกินเลือดกินเนื้อ ก่อนจะสะบัดหน้างอนตุ๊บป่องเดินออกไป

                   ชายหนุ่มหัวร่อหึหึเสียงเบาในลำคอ ลุกเข้ามาหั่นผักต่อจากนาง  พอหวนนึกถึงคำถามของหลันเหลยเมื่อสักครู่อีกครั้ง อากัปกิริยาทั้งหมดก็ชะงักค้างไปอย่างลืมตัว  ฝืนยิ้มพึมพำกับตนเอง

                   “  เด็กโง่เอ๊ย..ถามมาได้ ถ้าเกิดเจ้าเป็นอะไรไป แล้วชีวิตข้าจะอยู่ต่อโดยไม่มีเจ้าได้อย่างไรกันเล่า ? “

                   รำพึงถึงตอนท้าย  ค่อยทอดถอนใจยาวๆออกมา

                   

                   .......................................

                   


ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่