☼ ☼ 9 :: แผนใส่ร้ายป้ายสี ☼ ☼
นับตั้งแต่หลันเหลยจากไป อารมณ์ของเฉินชิงหยุนก็หงุดหงิดบ่อยครั้ง ยิ่งไม่มีข่าวคราวของนาง จิตใจเขาก็ยิ่งกลัดกลุ้ม หันหน้าเข้ามาหาสุราดื่มดับทุกข์ วันนี้เฉินชิงหมิงเดินผ่านหน้าห้องของเฉินชิงหยุน เห็นน้องชายนั่งดื่มสุรา จึงผลักประตูเข้าไปกล่าวตักเตือน
" อาหยุน ข้ารู้ว่าเจ้าไม่สบายใจ แต่อย่าทำร้ายตนเองแบบนี้ได้ไหม "
" ข้าพอใจจะทำ อย่ามายุ่งกับข้า ! "
" เพราะผู้หญิงคนเดียวแค่นั้นเองหรือ ถึงทำให้เจ้าเปลี่ยนแปลงไปได้ถึงขนาดนี้ หมู่บ้านเทพเจ้ากำลังอยู่ในช่วงวิกฤติ ต้องการผู้มีความเข้มแข็ง เจ้าทำแบบนี้ไม่เพียงตัดทอนกำลังตนเอง ทั้งยังอาจเป็นการเผยจุดอ่อนให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตีเราได้… "
เฉินชิงหยุนหัวร่ออย่างเจ็บแค้น แค่นเสียงอ้อแอ้ด้วยความมึนเมา
"เฮอะ…ไม่ต้องมาสนใจข้าหรอก ข้ารู้.. คนอย่างข้ามันอ่อนแอ ไร้ความสามารถ หมู่บ้านเทพเจ้ามีท่านอยู่แล้ว ข้าเฉินชิงหยุนยังมีความหมายใดอีก… "
" อาหยุน นี่...เจ้า…ทำไมถึงพูดแบบนี้…. "
" เฮอะ..นับตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นในบ้าน ท่านพ่อก็เรียกหาแต่ท่าน วัน ๆ ท่านได้ไปขลุกอยู่กับท่านพ่อในห้องลับ แล้วข้าล่ะ...? ซึ่งความจริงข้าไม่สนใจหรอก …ตำแหน่งประมุขหมู่บ้านเทพเจ้า ข้าเฉินชิงหยุนล้วนไม่ต้องการ ที่ข้าต้องการ มีเพียงหลันเหลยคนเดียวเท่านั้น…หลันเหลย หลันเหลยเจ้าอยู่ที่ไหน… "
รำพึงถึงตอนสุดท้าย ยกสุราทั้งกาขึ้นเทรินใส่ปาก เฉินชิงหมิงสุดจะอดกลั้นอารมณ์ไว้ได้ ชิงกาสุราจากมือน้องชาย กระแทกวางลงบนโต๊ะกระชากเสียงว่า
" อาหยุน พอทีเถอะ …เจ้าทำตัวเหลวไหลใหญ่แล้ว รู้มั้ย...! "
เฉินชิงหยุนยืดกายยืนขึ้นร่างโงนเงนส่ายไปมา พร่ำเพ้อเรียกหาแต่สุรากับหลันเหลย เฉินชิงหยุนส่ายหน้าด้วยความสังเวชใจ ประคองน้องชายมานอนที่เตียง ยามนั้นบังเกิดเสียงเรียก " คุณชายใหญ่ " บุรุษหนุ่มชุดน้ำตาลผู้หนึ่งผลักประตูเข้ามารายงาน
" คุณชายใหญ่ ห้าสำนักใหญ่ส่งตัวแทนมาถึง เวลานี้รอขอพบท่านเจ้าบ้านอยู่ที่ห้องโถง… "
เฉินชงหมิงรับฟังจนขมวดคิ้ว พึมพำ “ ตัวแทนหรือ..? มาทำไมกันนะ” ค่อยกล่าวว่า
" ข้าจะไปพบพวกเขาเอง อาเซียะ ..งั้นเจ้าช่วยดูแลอาหยุนแทนข้าหน่อยก็แล้วกัน "
ชายหนุ่มชุดน้ำตาลผู้นี้ที่แท้เป็นศิษย์ของเจี่ยคุนนามฉีเซียะ พอลับกายเฉินชงหมิงออกไปฉีเซียะค่อยยกอ่างน้ำเข้ามาที่ข้างเตียง นั่งลงเช็ดหน้าให้กับเฉินชิงหยุน
………………………..
ทางด้านห้องโถงใหญ่ เฉินชงหมิงต้องพบกับความผิดหวังอย่างยิ่ง เมื่อตัวแทนของห้าสำนักใหญ่ที่ส่งมาต่างก็บอกว่าเจ้าสำนักของตนมิอาจเดินทางมาร่วมงานชุมนุมได้ เพราะติดภารกิจยุ่งเหยิงภายในสำนัก อีกทั้งยังต้องเตรียมรับมือพวกพรรคบัวขาวที่มักลอบเข้ามาก่อกวน มิอาจไว้วางใจทิ้งสำนักมาได้
จากนั้นเหล่าตัวแทนของห้าสำนักก็ขอเข้าพบคารวะต่อประมุขบ้านเทพเจ้า
เฉินชงหมิงแก้ตัวว่า บิดาของตนอยู่ในระหว่างฝึกวิชา ไม่สามารถออกมาพบ แต่เหล่าตัวแทนจากสำนักใหญ่ทั้งห้ากลับไม่เชื่อ ตัวแทนสำนักคุนลุ้นกล่าวอย่างไม่พอใจ
" นับตั้งแต่ท่านประมุขเฉินถูกลอบทำร้าย ก็เก็บตัวไม่ยอมออกมาพบผู้คน เจ้าสำนักของเรารู้สึกห่วงใยท่านประมุขเฉิน กำชับให้เราต้องเข้าพบเยี่ยมคารวะท่านให้ได้ คุณชายใหญ่..นี่ท่านจะปฏิเสธน้ำใจของเจ้าสำนักเราได้ลงคอหรือ… ? "
เฉินชงหมิงอึ้งไปครู่ใหญ่ ขณะขบคิดหาทางหลบเลี่ยง ทันใดพลันบังเกิดสุ้มเสียงหัวร่อดังกังวาน
" น้ำใจของท่านเจ้าสำนักทั้งหลาย ข้าเฉินเซ่าเทียน รู้สึกซาบซึ้งตื้นตันยิ่งนัก… "
ในเสียงกล่าวเจี่ยคุนภายใต้หน้ากากแปลงโฉมเป็นเฉินเซ่าเทียน ก็เดินเข้ามาในห้องโถง เหล่าตัวแทนของสำนักใหญ่ทั้งห้าสบตากันวูบ สีหน้าค่อยผ่อนคลายความวิตกกังวลลง
………………………………….
เมื่อตัวแทนสำนักใหญ่ทั้งห้าอำลาจากไป เฉินชงหมิงกับเจี่ยคุนค่อยกลับเข้ามาสนทนากันอยู่ในห้องลับ ชายหนุ่มกล่าวอย่างคับแค้นใจ
" คิดไม่ถึงแม้ห้าสำนักใหญ่ยังรักตัวกลัวตาย กริ่งเกรงอิทธิพลพรรคบัวขาว กลัวเภทภัยมาถึงตน ถึงกับไม่ยอมเห็นแก่ส่วนรวมช่วยกันต่อต้านพรรคมาร หากเป็นเช่นนี้ต่อไป มีหวังพรรคมารได้ครองยุทธภพเป็นแน่ …. "
เจี่ยคุนถอนใจกล่าวว่า
" นี่มิอาจโทษตำหนิพวกเขา พรรคมารบัวขาวก่ออิทธิพลในบู๊ลิ้ม สยบค่ายสำนักต่าง ๆ ไว้ในอำนาจ ค่ายสำนักใดไม่มีกำลังมั่นคงจริง ก็มิกล้าแสดงตัวเป็นปฏิปักษ์กับพรรคบัวขาวซึ่ง ๆ หน้า สัญชาติญาณของมนุษย์ต่างต้องปกป้องตนเองก่อน เจ้าสำนักทั้งหลายคงกริ่งเกรงว่า ถ้าเดินทางมาที่นี้แล้วพรรคบัวขาวจะฉวยโอกาสเข้าโจมตีสำนักของตน หากเป็นเช่นนั้นจริง พวกเราเองก็ช่วยพวกเขาไม่ได้ ดังนั้นเราไม่ควรไปตำหนิพวกเขา… "
" วันนี้ตัวแทนของสำนักใหญ่ทั้งห้ายืนยันขอพบท่านพ่อให้ได้ หรือว่าพวกเขาระแวงสงสัยเรื่องท่านพ่อ ? "
เจี่ยคุนกล่าวพลางส่ายหน้า
" ไม่น่าเป็นไปได้ เรื่องการตายของพ่อเจ้า เราทราบกันเพียงสองคนเท่านั้น และเรื่องนี้ยังมิอาจเปิดเผยออกไปได้เด็ดขาด ดีแล้วที่วันนี้ข้าออกไปแสดงตัวต่อตัวแทนเจ้าสำนักใหญ่ทั้งห้า เพื่อยืนยันว่าพ่อเจ้ายังมีชีวิตอยู่ เท่ากับเป็นการปลอบขวัญแก่พวกเขาไปสักระยะหนึ่ง…. "
" แต่ว่า… เรื่องนี้คงไม่สามารถปกปิดเป็นความลับได้ตลอดไป …สักวันหนึ่งมันก็ต้องถูกเปิดเผยออกมาอยู่ดี… "
" เจ้าพูดถูกต้อง.. เพราะเหตุนี้เจ้าถึงต้องพยายามรีบฝึกปรือพลังเทวะสยบฟ้าให้สำเร็จ เพื่อที่จะได้เป็นตัวแทนของพ่อเจ้าคนต่อไป….! "
เฉินชงหมิงส่งเสียงรับคำ กล่าวว่า " ข้าจะพยายาม... จะไม่ทำให้ท่านพ่อต้องผิดหวัง !"
เจี่ยคุนผงกศีรษะอย่างพึงพอใจ
" ถ้าเช่นนั้น วันนี้ก็เริ่มฝึกกันต่อเถอะ.. "
…………………………………



♥ ♥ .. จอมใจเจ้าบัลลังก์ .. ♥ ♥ [ 9 : แผนใส่ร้ายป้ายสี ]
☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼
☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼
อ่านตอนก่อนหน้านี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[ขอบคุณ :ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต]
นับตั้งแต่หลันเหลยจากไป อารมณ์ของเฉินชิงหยุนก็หงุดหงิดบ่อยครั้ง ยิ่งไม่มีข่าวคราวของนาง จิตใจเขาก็ยิ่งกลัดกลุ้ม หันหน้าเข้ามาหาสุราดื่มดับทุกข์ วันนี้เฉินชิงหมิงเดินผ่านหน้าห้องของเฉินชิงหยุน เห็นน้องชายนั่งดื่มสุรา จึงผลักประตูเข้าไปกล่าวตักเตือน
" อาหยุน ข้ารู้ว่าเจ้าไม่สบายใจ แต่อย่าทำร้ายตนเองแบบนี้ได้ไหม "
" ข้าพอใจจะทำ อย่ามายุ่งกับข้า ! "
" เพราะผู้หญิงคนเดียวแค่นั้นเองหรือ ถึงทำให้เจ้าเปลี่ยนแปลงไปได้ถึงขนาดนี้ หมู่บ้านเทพเจ้ากำลังอยู่ในช่วงวิกฤติ ต้องการผู้มีความเข้มแข็ง เจ้าทำแบบนี้ไม่เพียงตัดทอนกำลังตนเอง ทั้งยังอาจเป็นการเผยจุดอ่อนให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตีเราได้… "
เฉินชิงหยุนหัวร่ออย่างเจ็บแค้น แค่นเสียงอ้อแอ้ด้วยความมึนเมา
"เฮอะ…ไม่ต้องมาสนใจข้าหรอก ข้ารู้.. คนอย่างข้ามันอ่อนแอ ไร้ความสามารถ หมู่บ้านเทพเจ้ามีท่านอยู่แล้ว ข้าเฉินชิงหยุนยังมีความหมายใดอีก… "
" อาหยุน นี่...เจ้า…ทำไมถึงพูดแบบนี้…. "
" เฮอะ..นับตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นในบ้าน ท่านพ่อก็เรียกหาแต่ท่าน วัน ๆ ท่านได้ไปขลุกอยู่กับท่านพ่อในห้องลับ แล้วข้าล่ะ...? ซึ่งความจริงข้าไม่สนใจหรอก …ตำแหน่งประมุขหมู่บ้านเทพเจ้า ข้าเฉินชิงหยุนล้วนไม่ต้องการ ที่ข้าต้องการ มีเพียงหลันเหลยคนเดียวเท่านั้น…หลันเหลย หลันเหลยเจ้าอยู่ที่ไหน… "
รำพึงถึงตอนสุดท้าย ยกสุราทั้งกาขึ้นเทรินใส่ปาก เฉินชิงหมิงสุดจะอดกลั้นอารมณ์ไว้ได้ ชิงกาสุราจากมือน้องชาย กระแทกวางลงบนโต๊ะกระชากเสียงว่า
" อาหยุน พอทีเถอะ …เจ้าทำตัวเหลวไหลใหญ่แล้ว รู้มั้ย...! "
เฉินชิงหยุนยืดกายยืนขึ้นร่างโงนเงนส่ายไปมา พร่ำเพ้อเรียกหาแต่สุรากับหลันเหลย เฉินชิงหยุนส่ายหน้าด้วยความสังเวชใจ ประคองน้องชายมานอนที่เตียง ยามนั้นบังเกิดเสียงเรียก " คุณชายใหญ่ " บุรุษหนุ่มชุดน้ำตาลผู้หนึ่งผลักประตูเข้ามารายงาน
" คุณชายใหญ่ ห้าสำนักใหญ่ส่งตัวแทนมาถึง เวลานี้รอขอพบท่านเจ้าบ้านอยู่ที่ห้องโถง… "
เฉินชงหมิงรับฟังจนขมวดคิ้ว พึมพำ “ ตัวแทนหรือ..? มาทำไมกันนะ” ค่อยกล่าวว่า
" ข้าจะไปพบพวกเขาเอง อาเซียะ ..งั้นเจ้าช่วยดูแลอาหยุนแทนข้าหน่อยก็แล้วกัน "
ชายหนุ่มชุดน้ำตาลผู้นี้ที่แท้เป็นศิษย์ของเจี่ยคุนนามฉีเซียะ พอลับกายเฉินชงหมิงออกไปฉีเซียะค่อยยกอ่างน้ำเข้ามาที่ข้างเตียง นั่งลงเช็ดหน้าให้กับเฉินชิงหยุน
………………………..
ทางด้านห้องโถงใหญ่ เฉินชงหมิงต้องพบกับความผิดหวังอย่างยิ่ง เมื่อตัวแทนของห้าสำนักใหญ่ที่ส่งมาต่างก็บอกว่าเจ้าสำนักของตนมิอาจเดินทางมาร่วมงานชุมนุมได้ เพราะติดภารกิจยุ่งเหยิงภายในสำนัก อีกทั้งยังต้องเตรียมรับมือพวกพรรคบัวขาวที่มักลอบเข้ามาก่อกวน มิอาจไว้วางใจทิ้งสำนักมาได้
จากนั้นเหล่าตัวแทนของห้าสำนักก็ขอเข้าพบคารวะต่อประมุขบ้านเทพเจ้า
เฉินชงหมิงแก้ตัวว่า บิดาของตนอยู่ในระหว่างฝึกวิชา ไม่สามารถออกมาพบ แต่เหล่าตัวแทนจากสำนักใหญ่ทั้งห้ากลับไม่เชื่อ ตัวแทนสำนักคุนลุ้นกล่าวอย่างไม่พอใจ
" นับตั้งแต่ท่านประมุขเฉินถูกลอบทำร้าย ก็เก็บตัวไม่ยอมออกมาพบผู้คน เจ้าสำนักของเรารู้สึกห่วงใยท่านประมุขเฉิน กำชับให้เราต้องเข้าพบเยี่ยมคารวะท่านให้ได้ คุณชายใหญ่..นี่ท่านจะปฏิเสธน้ำใจของเจ้าสำนักเราได้ลงคอหรือ… ? "
เฉินชงหมิงอึ้งไปครู่ใหญ่ ขณะขบคิดหาทางหลบเลี่ยง ทันใดพลันบังเกิดสุ้มเสียงหัวร่อดังกังวาน
" น้ำใจของท่านเจ้าสำนักทั้งหลาย ข้าเฉินเซ่าเทียน รู้สึกซาบซึ้งตื้นตันยิ่งนัก… "
ในเสียงกล่าวเจี่ยคุนภายใต้หน้ากากแปลงโฉมเป็นเฉินเซ่าเทียน ก็เดินเข้ามาในห้องโถง เหล่าตัวแทนของสำนักใหญ่ทั้งห้าสบตากันวูบ สีหน้าค่อยผ่อนคลายความวิตกกังวลลง
………………………………….
เมื่อตัวแทนสำนักใหญ่ทั้งห้าอำลาจากไป เฉินชงหมิงกับเจี่ยคุนค่อยกลับเข้ามาสนทนากันอยู่ในห้องลับ ชายหนุ่มกล่าวอย่างคับแค้นใจ
" คิดไม่ถึงแม้ห้าสำนักใหญ่ยังรักตัวกลัวตาย กริ่งเกรงอิทธิพลพรรคบัวขาว กลัวเภทภัยมาถึงตน ถึงกับไม่ยอมเห็นแก่ส่วนรวมช่วยกันต่อต้านพรรคมาร หากเป็นเช่นนี้ต่อไป มีหวังพรรคมารได้ครองยุทธภพเป็นแน่ …. "
เจี่ยคุนถอนใจกล่าวว่า
" นี่มิอาจโทษตำหนิพวกเขา พรรคมารบัวขาวก่ออิทธิพลในบู๊ลิ้ม สยบค่ายสำนักต่าง ๆ ไว้ในอำนาจ ค่ายสำนักใดไม่มีกำลังมั่นคงจริง ก็มิกล้าแสดงตัวเป็นปฏิปักษ์กับพรรคบัวขาวซึ่ง ๆ หน้า สัญชาติญาณของมนุษย์ต่างต้องปกป้องตนเองก่อน เจ้าสำนักทั้งหลายคงกริ่งเกรงว่า ถ้าเดินทางมาที่นี้แล้วพรรคบัวขาวจะฉวยโอกาสเข้าโจมตีสำนักของตน หากเป็นเช่นนั้นจริง พวกเราเองก็ช่วยพวกเขาไม่ได้ ดังนั้นเราไม่ควรไปตำหนิพวกเขา… "
" วันนี้ตัวแทนของสำนักใหญ่ทั้งห้ายืนยันขอพบท่านพ่อให้ได้ หรือว่าพวกเขาระแวงสงสัยเรื่องท่านพ่อ ? "
เจี่ยคุนกล่าวพลางส่ายหน้า
" ไม่น่าเป็นไปได้ เรื่องการตายของพ่อเจ้า เราทราบกันเพียงสองคนเท่านั้น และเรื่องนี้ยังมิอาจเปิดเผยออกไปได้เด็ดขาด ดีแล้วที่วันนี้ข้าออกไปแสดงตัวต่อตัวแทนเจ้าสำนักใหญ่ทั้งห้า เพื่อยืนยันว่าพ่อเจ้ายังมีชีวิตอยู่ เท่ากับเป็นการปลอบขวัญแก่พวกเขาไปสักระยะหนึ่ง…. "
" แต่ว่า… เรื่องนี้คงไม่สามารถปกปิดเป็นความลับได้ตลอดไป …สักวันหนึ่งมันก็ต้องถูกเปิดเผยออกมาอยู่ดี… "
" เจ้าพูดถูกต้อง.. เพราะเหตุนี้เจ้าถึงต้องพยายามรีบฝึกปรือพลังเทวะสยบฟ้าให้สำเร็จ เพื่อที่จะได้เป็นตัวแทนของพ่อเจ้าคนต่อไป….! "
เฉินชงหมิงส่งเสียงรับคำ กล่าวว่า " ข้าจะพยายาม... จะไม่ทำให้ท่านพ่อต้องผิดหวัง !"
เจี่ยคุนผงกศีรษะอย่างพึงพอใจ
" ถ้าเช่นนั้น วันนี้ก็เริ่มฝึกกันต่อเถอะ.. "
…………………………………