♥ ♥ .. จอมใจเจ้าบัลลังก์ .. ♥ ♥ [ 7 : คืนดี ]

กระทู้สนทนา

☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼


☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼

อ่านตอนก่อนหน้านี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[ขอบคุณ :ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต]



☼ ☼ 7 :: คืนดี ☼ ☼


                 

                 คำขอร้องของเฉินชงหมิง ทำให้เหวินฮั่นกุนรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง คืนนั้นนอนลืมตาโพลงในความมืด ไม่อาจข่มตาหลับได้ ต้องลุกขึ้นนั่ง จุดโคมไฟขึ้น เอาผ้าแพรผูกผมผืนนั้นออกมานั่งมองต่างหน้าเจ้าของ

                 อีกด้านหนึ่ง..หลันเหลยตื่นขึ้นกลางดึก ลอบโผกายออกทางหน้าต่าง รุดมายังดงไม่ข้างสุสานร้างแห่งหนึ่ง เพื่อฝึกพลังสุริยันจันทราขั้นที่หก และในคืนนั้นเอง นางก็สามารถฝึกสำเร็จอีกขั้นหนึ่ง !

                 เมื่อหลันเหลยกลับถึงบ้านเทพเจ้าก็เป็นเวลาตีสองกว่า ขณะเดินผ่านสวนด้านหลัง เห็นคนผู้หนึ่ง นั่งฟุบอยู่บนโต๊ะหินบนศาลา จึงอดเดินเข้าไปดูมิได้

                 คนผู้นี้ถึงกับเป็นเฉินชงหมิง ทั้งร่างของเขามีกลิ่นสุราคละคลุ้ง.. คนเมามายจนไม่ได้สติ

                 หลันเหลยรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ช่วยประคองพาเขากลับห้อง ชงชาแก่ๆ ให้เขาดื่ม จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าให้ เพื่อบรรเทาอาการเมามาย เรียกสติของเขา

                 ยามนั้นเฉินชงหมิงลืมตาตื่นขึ้น พอเห็นหลันเหลยก็พูดอ้อแอ้ออกมาด้วยฤทธิ์สุราที่ยังไม่สร่าง

                 “ หลันเหลย...ที่แท้เป็นเจ้าเอง.... ”

                 “ ใช่...เป็นข้าเอง.... ”

                 “ อืม..เจ้ารู้ไหม...อาหยุนน่ะชอบเจ้ามาก...มันขอร้องข้า สู่ขอเจ้ากับฮั่นกุน ฮั่นกุนเขาไม่มีความเห็นใด ....แล้วเจ้าล่ะ... เจ้าเห็นด้วยหรือเปล่า.... ”

                 หลันเหลยอ้าปากค้างตะลึงลานกับที่ เฉินชงหมิงหลับตาอย่างปวดร้าว พึมพำต่อไป

                 “ ...ข้ามีน้องชายเพียงคนเดียว แล้วข้าก็รักมันมาก... อยากเห็นมันมีความสุข... ”

                 หลันเหลยยกมือปิดหูตนเอง ร้องว่า

                 “ เหลวไหลที่สุด...ข้าไม่ฟังแล้ว ”

                 หลั่งน้ำตาผุดลุกขึ้นวิ่งออกจากห้องไป

                 ................................................

                 

                 เมื่อเฉินชงหมิงตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาสายมากแล้ว พบว่าตนนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนของตนเอง อดรู้สึกแปลกใจมิได้ เซี่ยวเถาสาวใช้ต้นห้องของเขา ยกกาน้ำชาเข้ามาเปลี่ยน เฉินชงหมิงจึงเรียกเข้ามาถาม

                 “ นี่...ข้าเข้ามานอนในนี้ได้อย่างไร.... ”

                 “ เมื่อคืน คุณชายท่านเมามายมาก แม่นางซิมประคองพาท่านเข้ามา และเฝ้าดูแลท่านอยู่พักหนึ่ง... ”

                 “ แล้วนางกลับไปตอนไหน ? ”

                 “ ตอนแม่นางซิมเช็ดหน้าให้ท่าน บ่าวเอาน้ำไปเปลี่ยน พอกลับมาอีกครั้ง ก็เห็นนางร้องไห้วิ่งออกจากห้องไป.... ”

                 เฉินชงหมิงใจหายวาบ ผุดลุกขึ้นโพล่งว่า

                 “ แล้วตอนนั้น ข้าทำอะไรนาง ? ”

                 “ ตอนนั้น คุณชายท่านเมามาย เพ้อแทบไม่ได้สติ บ่าวไม่ทราบว่าเกิดเรื่องใดขึ้น... ”

                 เฉินชงหมิงโบกมือให้นางออกไป แล้วลุกขึ้นนั่งกุมขมับ ถอนใจอย่างกลัดกลุ้ม

                 

                 …………………………….

                 

                 หลันเหลยนั่งมองกระต่ายซึมเซาอยู่ในห้อง เหวินฮั่นกุนเคาะประตูแล้วผลักเข้ามา

                 “ วันนี้เป็นไรไป ไม่ออกไปเที่ยวข้างนอกหรือ ? ”

                 “ รู้สึกเบื่อๆน่ะ…ท่านล่ะมาทำไม ใช่มาเรื่องสู่ขอข้าให้พี่ชิงหยุนหรือไม่ ? ”

                 “ เจ้าก็รู้เรื่องนี้แล้ว ? ”

                 เมื่อเห็นนางนั่งนิ่งไม่พูดไม่อะไร จึงฝืนยิ้มกล่าวว่า

                 “ ที่แท้เจ้ากับชิงหยุนเคยทำความตกลงกันมาก่อน…งั้นก็ขอแสดงความยินดีด้วย… ”

                 หลันเหลยหันหน้ามาถาม

                 “ นี่ท่านไม่มีความคิดเห็นอันใดจริง ๆหรือ ? ”

                 เหวินฮั่นกุนรู้สึกเจ็บปวดแปลบในใจเหมือนโดนเข็มทิ่มแทง หากยังคงฝืนสีหน้ายิ้มพลางกล่าวว่า

                 “ เรื่องส่วนตัวของเจ้า ข้าไม่มีความเห็นอันใด หากเจ้ารู้สึกพอใจ ก็ตัดสินใจเองได้เลย ”

                 หลันเหลยแค่นเสียงประชดอย่างขมขื่น

                 “ ข้ารู้…ตลอดเวลาที่ท่านอยู่ดูแลข้าคงอึดอัดใจมากใช่ไหม  หลายวันมานี้คงเฝ้าภาวนาให้ข้ารีบๆแต่งออกไป เพื่อภาระหน้าที่ของท่านจะได้สิ้นสุดลง   แล้วท่านก็จะได้เป็นอิสระเสียที ใช่หรือไม่ ….. ”

                 “ ก็คงจะใช่… เมื่อมีคนมาคุ้มครองดูแลเจ้าต่อ.. ข้าเองก็คงถึงเวลาต้องไป… ”

                 หลันเหลยแค้นใจจนน้ำตาคลอ ร้องดัง ๆ ว่า

                 “ ความจริง ตอนนี้ข้าก็หาได้ต้องการท่านไม่….ท่านอยากไปก็ไปได้เลยทุกเมื่อ… ”

                 เหวินฮั่นกุนมองหน้าหลันเหลย

                 “ แต่ข้ารับปากท่านแม่ไว้ ภาระของข้าจะสุดสิ้นลง เมื่อเจ้าได้แต่งงานไปแล้วเท่านั้น… ”

                 “ ก็ได้ๆ….งั้นข้าจะรีบแต่งงานไว ๆ ท่านจะได้สบายใจเสียที ดีหรือไม่ … ”

                 เด็กสาวร้องประชด..เอ่ยถึงตอนนี้ เฉินชิงหยุนก็เคาะประตูแล้วผลักเข้ามาแย้มยิ้มทักทาย

                 “ หลันเหลยอยู่หรือเปล่า…อ้อ ฮั่นกุน ท่านก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ… ”

                 กล่าวถึงตอนท้ายพลันพบว่า บรรยากาศในห้องมึนตึงอึมครึม ชายหนุ่มจึงยิ้มเก้อ ๆ กล่าวคำขอโทษ หันกายคิดจะกลับ หลันเหลยพลันร้องว่า

                 “ พี่ชิงหยุน ท่านมาก็ดีแล้ว…. ”

                 เฉินชิงหยุนหันมาฝืนยิ้มถาม “ มีเรื่องใดกับข้าหรือ ? ”

                 “ ท่านให้พี่ชงหมิงมาสู่ขอข้าใช่มั้ย ? ”

                 “ ใช่…ใช่..พี่ใหญ่พูดกับเจ้าแล้วหรือ… ? ”

                 “ ข้าตกลงรับปากท่าน… ”

                 " หา...."

                 เฉินชิงหยุนงงงันวูบ ถามอย่างไม่แน่ใจ “ เจ้าว่าอะไรนะ… ”

                 หลันเหลยแย้มยิ้มกล่าวว่า

                 “ ข้าตกลงตามที่ท่านสู่ขอ…. ”

                 “ เป็นความจริง ? ”

                 “ ย่อมเป็นความจริง…วันนี้อากาศดียิ่ง เราไปเดินเล่นกันข้างนอกเถอะ จะได้คิดปรึกษาเรื่องนี้กัน… ”

                 เฉินชิงหยุนปลาบปลื้มปิติจนยิ้มระรื่น คว้ากุมข้อมือหลันเหลยอย่างลืมตัว พริบตานั้นถึงกับลืมไปว่า ในห้องยังมีเหวินฮั่นกุนอยู่ด้วย หลันเหลยหัวร่อทุบมือใส่แขนเขาเบา ๆ ร้องว่า

                 “ คนอะไรหน้าไม่อาย เราไปกันเถอะ… ”

                 กล่าวจบจูงมือเฉินชิงหยุนพาวิ่งออกไปข้างนอก โดยมิแยแสสนใจเหวินฮั่นกุนที่ยืนซึมกับอยู่ที่ !


                 ………………………………………….



ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่