
เมื่อมาเที่ยวจังหวัดทางฝั่ง ปทุมธานี อยุธยา สุพรรณ สิงห์บุรี ก็คงหนีมื้ออาหารแม่น้ำไม่ได้ ไม่ว่าจะปลาแม่น้ำ กุ้งแม่น้ำ ผมเป็นอีกคนที่ชอบอาหารแม่น้ำมาก เพราะเวลาที่เราได้กินอาหารเหล่านี้เราจะได้ชมวิวริมแม่น้ำไปในตัวด้วย เหมือนได้ไปพักผ่อนจริง ๆ และวันนี้ไม่ได้พาไปไหนไกลครับมากันที่จังหวัดปทุมธานี ใกล้ ๆ เมืองกรุงนี่เอง ร้านที่จะพามาชมกันวันนี้ชื่อร้าน “ครัวบุษบัน กุ้งเผา วอเตอร์วิว”

ครัวบุษบัน กุ้งเผา วอเตอร์วิว เป็นร้านอาหารไทยพื้นบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงเชิงสะพานปทุมธานี(ฝั่งขาออก) ที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นมาปรุง พวกปลา กุ้ง แน่นอนว่าก็ต้องเป็น ปลาแม่น้ำ กุ้งแม่น้ำ ครับ และทีมบริหารของร้านเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของร้านบ้านชิดกรุงกุ้งเผา (สามโคก-ปทุมธานี)

การเดินทางไม่ยากครับ ให้ใช้เส้นรังสิต-ปทุมธานี ตรงมาเรื่อย ๆ มุ่งหน้า รพ.เซนต์คาลอส พอถึงสามแยก รพ.เซนต์คาลอส ก็ให้เลี้ยวขวามุ่งหน้าปทุมธานี ตรงไปสัก 5-6 กิโลเมตร จะเจอสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาชื่อสะพานปทุมธานี ให้เราออกซ้ายก่อนขึ้นสะพาน เลี้ยวเข้าซอยท่าน้ำหัวถนนติวานนท์ แล้วก็ตรงเข้าไปตามป้ายร้านเลย อีกประมาณสัก 300 เมตร ก็ถึงร้านแล้วครับ

บรรยากาศดีมาก หน้าร้านมีต้นไม้ใหญ่อยู่ ตัวร้านก็เป็นพื้นไม้ยื่นไปจนเกือบถึงแม่น้ำเลย ให้อารมณ์เหมือนมาต่างจังหวัดเลย (แต่จริง ๆ ก็เป็นต่างจังหวัดแล้วนะ แต่ขับมาไม่ไกลเลยรู้สึกว่าเหมือนยังอยู่ในกรุงเทพฯอยู่)

โต๊ะนั่งมีทั้งโซนที่เป็นชานยื่นออกไปริมแม่น้ำโซนนี้ไม่มีหลังคา เวลาฝนตกก็อดนะครับ และโซนที่อยู่ในหลังคาก็มีทั้งห้องแอร์ และไม่แอร์ จัดโต๊ะแบบโล่ง ๆ สบาย ๆ ไม่แออัดครับ เลือกใช้ของเก่า ๆ แบบชาวบ้าน ๆ มาตกแต่งให้ได้บรรยากาศ อยู่ต่างจังหวัดครับ และภาพตอนหัวค่ำเป็นแบบนี้ครับ

มาดูในเรื่องเมนูอาหารกันบ้าง เด็ดไม่แพ้บรรยากาศเลยครับ มีเมนูที่หายากแทบจะไม่เคยเห็นเลยก็มี หรือจะเป็นเมนูกุ้งเผาไซต์ใหญ่ยักษ์ก็มี ซึ่งเท่าที่ผมได้ชิมรสชาติอาหารของที่ครัวบุษบันนี่ถือว่าแซ่บครับ ไม่ได้หมายถึงเผ็ดนะครับ แต่หมายถึงว่ามันครบรส รสชาติของแต่ละเมนูก็เป็นไปตามรสที่มันควรจะเป็นครับ เช่น เมนูยำก็ควรจะเผ็ดเปรี้ยวนำ, เมนูผัดก็ควรจะไม่เค็มมากหอมกลมกล่อม, เมนูเครื่องแกงก็เข้มข้นถึงรสถึงชาติ เป็นต้น ถือว่าเป็นร้านอาหารริมน้ำที่ทำอาหารออกมาได้อร่อยเลยทีเดียว งั้นลองไปดูเมนูที่รีวิวในวันนี้กันครับ
กุ้งแม่น้ำเผาเตาถ่าน – ราคาตามน้ำหนักและไซต์ของกุ้ง
กุ้งที่นี่ขนาดใหญ่มาก มีหลายราคาตั้งแต่ 4 ตัวโล / 3 ตัวโล / 2 ตัวโล และตัวละ 6 ขีด – 1 กิโล ราคาตามรูปเลยครับ ซึ่งกุ้งทุกตัวทางเจ้าของร้านเครมว่าเป็นกุ้งที่รับจากชาวบ้านโดยตรง รับมาใหม่ ๆ ทุกวัน ขนาดและปริมาณอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละวัน ถ้าอยากกินยังไงควรโทรมาสอบถามหรือจองก่อนล่วงหน้า

วันนี้ผมได้ลองกุ้งแม่น้ำขนาด 8 ขีด (ตัวละ 1,500 บาท) ถ้าดูราคาอย่างเดียวถือว่าแพงนะ แต่ดูจากไซส์สิครับ นึกถึงขวดชาลิปตันไอซ์ทีได้ไหมครับ เราเอามือกำไว้ 2 มือ ยังเหลือ ๆ ใช่ไหมครับ แต่กุ้งนี่ตัวใหญ่กว่าขวดนั้นเยอะเลยครับ ให้น้องพนักงานถือให้ดูความยาวพอ ๆ กับลำตัวของน้องเค้าเลยครับ

และนี่คือเมนูกุ้งแม่น้ำเผา ที่เผามาแล้วครับ เนื้อนี่ขาวฟู เด้ง และแน่นมาก เนื้อจะแน่นกว่ากุ้งปกตินิดนึงครับเวลาตักอาจจะลำบากหน่อย

เรื่องความสดนี่สดมาก ๆ สุดยอดจริง ๆ น้ำจิ้มก็แซ่บมาก และยิ่งกินกับมันตรงหัวที่มาแบบตูม ๆ ตัก 3-4 ช้อนพูน ๆ ก็ยังไม่หมดเลย กินกันให้สะใจไปเลยครับ ความมันและความหอมอร่อยของจานนี้ประทับใจยิ่งนัก
ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน – ราคาตามน้ำหนัก
เมนูนี้ก็ต้องเช็คราคาครับ เพราะแต่ละวันที่ปลาเข้ามาก็จะมีขนาดที่แตกต่างกันออกไป เมนูนี้ที่ร้านจะใช้ปลาเนื้ออ่อนแบบนึ่ง ไม่นำไปทอดให้เสียเนื้อสัมผัส ผมเห็นบางร้านเอาไปทอด ซึ่งปลาชนิดนี้เนื้อละเอียดและอ่อนนุ่มสมชื่อ พอนำไปทอดแล้วแทบไม่เหลืออะไรให้กิน ผมว่าฉู่ฉี่ต้องเนื้อปลาสด ๆ แบบนี้แหล่ะครับ เรื่องน้ำฉู่ฉี่ก็กลมกล่อมดี มีครบรส ทั้งเผ็ด หวาน เค็ม และความหอมกลมกล่อมของเครื่องพริกแกงครับ
กุ้งกระเบื้องหลังคาโบสถ์ – 150 บาท
เห็นเมนูแบบนี้นึกว่าทางร้านรับมาทอดเสิร์ฟให้ลูกค้า แต่จริง ๆ แล้วทำเองครับ เป็นเมนูไทยจีน ที่อร่อยมาก ผิวกรอบ เนื้อนุ่มเด้ง กินกับน้ำจิ้มบ๊วย เพิ่มความหวานลงไปเข้าไป เป็นจานเรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี
ปลาตาเดียวทอดเกลือ – 360 บาท
เมนูปลาตาเดียวทอดนี้ ปกติผมจะไม่ค่อยสั่งเท่าไหร่เพราะว่าเนื้อปลาจะแน่นและกระด้าง ถ้ากินก็จะกินเป็นแบบนึ่งบ๊วย นึ่งซีอิ้ว สะมากกว่า และหลัง ๆ ก็กินเป็นเต๋าเต้ยสะมาก เพราะเนื้อจะฟูละเอียดกว่า ไม่แน่นเท่าปลาตาเดียว แต่ที่นี่ทอดปลาตาเดียวไดได้ครับ ยังคงแห้งเหมือนที่คิด แต่ผิวกรอบเลยทำให้กินง่ายขึ้นหน่อย แต่แนะนำว่าให้กินตอนร้อน ๆ เลยนะครับ ไม่งั้นแข็งครับ เสียรสครับ
ยำดอกชมจันทร์ – 150 บาท
เมนูนี้คงเป็นสัญลักษณ์ถึงความเป็นอาหารไทยท้องถิ่นเป็นอย่างดี เพราะวัตถุดิบคือเจ้าดอกชมจันทร์เนี่ยเป็นดอกของต้นชมจันทร์ที่ปีนึงจะออกมาแค่ช่วงฤดูกาลเดียว หาทานยากมาก และเวลาปรุงถ้าใครปรุงไม่เป็นก็จะขมเพราะเกษรด้านใน แต่นี่เค้าเอาออกให้แล้ว และนำดอกสด ๆ มายำกับเครื่องยำรสจัดจ้าน รสสัมผัสออกมาดีมากครับ
แกงรัญจวน – 180 บาท
เมนูนี้ส่วนตัวผมเคยลองกินมาหลายร้าน ซึ่งจะพบเจอได้จากร้านอาหารไทยพื้นบ้านทั้งสิ้น และที่นี่ทำออกมาได้รสชาติดี แต่ส่วนตัวคิดว่ากลิ่นของกะปิชัดเจนเกินไป เนื้อยังไม่นุ่ม ซึ่งถ้าทำให้กลิ่นมันละมุนกว่านี้ และเนื้อเปื่อยนุ่มกว่านี้จะดีมาก ๆ เพราะว่ารสชาติใช้ได้แล้ว
ผัดสายบัวกุ้งสด – 150 บาท
เมนูนี้ใครที่ไม่เคยลอง อยากแนะนำให้ลอง เพราะผัดสายบัวที่นี่ไม่ได้เน้นเรื่องซอสที่ปรุงลงไปเท่าไหร่ แต่เน้นเรื่องความเป็นธรรมชาติ ที่เห็นสีแดง ๆ นั่นคือมันกุ้งที่ใส่เข้าไปเพิ่มความกลมกล่อม แล้วก็ปรุงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สายบัวก็นุ่ม ๆ แต่มีความกรุบนิด ๆ เวลากินกับข้าวสวยร้อน ๆ ก็อร่อยเลยครับ
ข้าวผัดกากหมู – 180 บาท
หน้าตาดูธรรมดา ถ้าเห็นหน้าตาโดยที่ไม่รู้ชื่อเมนูคงเดาได้ยาก เพราะสีและเครื่องปรุงแทบจะไม่มีอะไรเลย เป็นเมนูที่เบสิคมาก ๆ แต่อยากบอกว่าความรู้สึกที่ได้กินไม่เบสิคเหมือนหน้าตานะครับ มันมีความนุ่มหอมของน้ำมันกากหมูเจียว ความเค็มก็กำลังดี ใส่กากหมูเจียวเสริมรสชาติมาอีกด้วย คล้าย ๆ กับเรากินข้าวผัดเกลือที่หอม ๆ อะไรประมาณนั้น ชอบมากครับ
ลูกชิ้นกุ้งราดซอสมันปูกงลี่ – 250 บาท
เป็นเมนูสไตล์ไทย-จีน ที่ทางร้านปรุงออกมาได้สมบูรณ์แบบมาก ตัวลูกชิ้นกุ้งก็หอมอร่อยมีกลิ่นน้ำมันงานิด ๆ การเซ็ทตัวของลูกชิ้นพอดีมาก ทั้งมันหมู เนื้อหมู เนื้อกุ้งและส่วนผสมอื่น ๆ ลงตัวมาก น้ำราดก็มีกลิ่นหอม และความข้นหนืดกำลังดี ถือเป็นอาหารไทย-จีนที่อร่อยไม่แพ้เหลาหรือภัตตาคารอาหารจีนเลยครับ
Ice cream cake roll – ทุกรส 95 บาท
พออิ่มจากของคาวแล้วก็คงต้องตบท้ายด้วยของหวานซึ่งที่นี่ก็มีทั้งพวกผลไม้ลอยแก้ว และไอศกรีม และไอศกรีมที่นี่ก็มีทั้งที่เป็นแบบถ้วยธรรมดา และที่เป็นแบบเค้กโรล คือจะมีไอศกรีมอยู่ด้านในที่ม้วนด้วยเนื้อเค้ก แล้วก็ตกแต่งด้วยส่วนผสมต่าง ๆ ตามแต่ละหน้าเค้ก เท่าที่ผมได้ลองมี 2 รสชาติ คือ ช็อคโกแล็ตบราวนี่ และสตอเบอร์รี่ ซึ่งมันอร่อยมากครับ แนะนำว่าให้ลอง
สละลอยแก้ว – 65 บาท
เมนูนี้ทางร้านทำเองเลยนะครับ ชื่อแบรนด์ว่า “ลอยละมุน” รสชาติหอมหวาน เปรี้ยวแบบธรรมชาติ แบบไม่เหมือนที่ไหน อร่อยสดชื่นดีครับ กินล้างปากหลังจบมื้ออาหารนี่ถือว่าเหมาะมาก ๆ

สรุป ร้านครัวบุษบัน กุ้งเผา วอเตอร์วิว ผมถือว่าเป็นร้านอาหารริมน้ำที่บรรยากาศดี อาหารรสแซ่บเลิศ ราคาก็คุ้มค่าคุ้มราคา แต่ถ้าใครที่อยากกุ้งแม่น้ำเผาตัวใหญ่ ๆ มันกุ้งทะลักหัวออกมาก็ต้องควักกระเป๋าเพิ่มเติมกันสักหน่อย แต่รับรองว่าสะใจครับ ผมแนะนำครับ และกุ้งทุกตัวทางเจ้าของร้านเครมว่าเป็นกุ้งที่รับจากชาวบ้านโดยตรง รับมาใหม่ ๆ ทุกวัน และอาหารของที่นี่ไม่มีผงชูรสครับ ใครที่ตระหนักถึงเรื่องเหล่านี้ก็สบายใจได้ครับ สำหรับผมมื้อนี้ผมได้เห็นอะไรที่หาตามร้านทั่วไปไม่ได้หลาย ๆ อย่าง อย่างเช่น ดอกชมจันทร์, แกงรัญจวน, กุ้งแม่น้ำตัวเขื่อง และแสงแดดอ่อน ๆ จากพระอาทิตย์ที่ค่อย ๆ ลดระดับ จนลับขอบฟ้าเปลี่ยนเป็นพระจันทร์ขึ้นมาท่ามกลางท้องฟ้าทีมืดลงตัดกับไฟสะพานที่ทอดยาวข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา มันช่างเป็นการเสพมื้ออาหารที่ได้ครบทุกรสจริง ๆ ใครที่อยากพาครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงาน หรือคนที่เรารักมาร้านอาหารริมน้ำดี ๆ สักร้าน ลองมาที่ร้านครัวบุษบัน กุ้งเผา วอเตอร์วิว นี้ดูครับ ไม่น่าผิดหวังครับ
ข้อมูลร้าน :
http://www.bumres.com/th/restaurant/Busaban-Water-View-restaurant/35018
[SR] กินกุ้งแม่น้ำเผาตัวเท่าแขน มันกุ้งทะลักตักกินอย่างหนำใจ กับบรรยากาศชิลล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
เมื่อมาเที่ยวจังหวัดทางฝั่ง ปทุมธานี อยุธยา สุพรรณ สิงห์บุรี ก็คงหนีมื้ออาหารแม่น้ำไม่ได้ ไม่ว่าจะปลาแม่น้ำ กุ้งแม่น้ำ ผมเป็นอีกคนที่ชอบอาหารแม่น้ำมาก เพราะเวลาที่เราได้กินอาหารเหล่านี้เราจะได้ชมวิวริมแม่น้ำไปในตัวด้วย เหมือนได้ไปพักผ่อนจริง ๆ และวันนี้ไม่ได้พาไปไหนไกลครับมากันที่จังหวัดปทุมธานี ใกล้ ๆ เมืองกรุงนี่เอง ร้านที่จะพามาชมกันวันนี้ชื่อร้าน “ครัวบุษบัน กุ้งเผา วอเตอร์วิว”
ครัวบุษบัน กุ้งเผา วอเตอร์วิว เป็นร้านอาหารไทยพื้นบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงเชิงสะพานปทุมธานี(ฝั่งขาออก) ที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นมาปรุง พวกปลา กุ้ง แน่นอนว่าก็ต้องเป็น ปลาแม่น้ำ กุ้งแม่น้ำ ครับ และทีมบริหารของร้านเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของร้านบ้านชิดกรุงกุ้งเผา (สามโคก-ปทุมธานี)
การเดินทางไม่ยากครับ ให้ใช้เส้นรังสิต-ปทุมธานี ตรงมาเรื่อย ๆ มุ่งหน้า รพ.เซนต์คาลอส พอถึงสามแยก รพ.เซนต์คาลอส ก็ให้เลี้ยวขวามุ่งหน้าปทุมธานี ตรงไปสัก 5-6 กิโลเมตร จะเจอสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาชื่อสะพานปทุมธานี ให้เราออกซ้ายก่อนขึ้นสะพาน เลี้ยวเข้าซอยท่าน้ำหัวถนนติวานนท์ แล้วก็ตรงเข้าไปตามป้ายร้านเลย อีกประมาณสัก 300 เมตร ก็ถึงร้านแล้วครับ
บรรยากาศดีมาก หน้าร้านมีต้นไม้ใหญ่อยู่ ตัวร้านก็เป็นพื้นไม้ยื่นไปจนเกือบถึงแม่น้ำเลย ให้อารมณ์เหมือนมาต่างจังหวัดเลย (แต่จริง ๆ ก็เป็นต่างจังหวัดแล้วนะ แต่ขับมาไม่ไกลเลยรู้สึกว่าเหมือนยังอยู่ในกรุงเทพฯอยู่)
โต๊ะนั่งมีทั้งโซนที่เป็นชานยื่นออกไปริมแม่น้ำโซนนี้ไม่มีหลังคา เวลาฝนตกก็อดนะครับ และโซนที่อยู่ในหลังคาก็มีทั้งห้องแอร์ และไม่แอร์ จัดโต๊ะแบบโล่ง ๆ สบาย ๆ ไม่แออัดครับ เลือกใช้ของเก่า ๆ แบบชาวบ้าน ๆ มาตกแต่งให้ได้บรรยากาศ อยู่ต่างจังหวัดครับ และภาพตอนหัวค่ำเป็นแบบนี้ครับ
มาดูในเรื่องเมนูอาหารกันบ้าง เด็ดไม่แพ้บรรยากาศเลยครับ มีเมนูที่หายากแทบจะไม่เคยเห็นเลยก็มี หรือจะเป็นเมนูกุ้งเผาไซต์ใหญ่ยักษ์ก็มี ซึ่งเท่าที่ผมได้ชิมรสชาติอาหารของที่ครัวบุษบันนี่ถือว่าแซ่บครับ ไม่ได้หมายถึงเผ็ดนะครับ แต่หมายถึงว่ามันครบรส รสชาติของแต่ละเมนูก็เป็นไปตามรสที่มันควรจะเป็นครับ เช่น เมนูยำก็ควรจะเผ็ดเปรี้ยวนำ, เมนูผัดก็ควรจะไม่เค็มมากหอมกลมกล่อม, เมนูเครื่องแกงก็เข้มข้นถึงรสถึงชาติ เป็นต้น ถือว่าเป็นร้านอาหารริมน้ำที่ทำอาหารออกมาได้อร่อยเลยทีเดียว งั้นลองไปดูเมนูที่รีวิวในวันนี้กันครับ
กุ้งแม่น้ำเผาเตาถ่าน – ราคาตามน้ำหนักและไซต์ของกุ้ง
กุ้งที่นี่ขนาดใหญ่มาก มีหลายราคาตั้งแต่ 4 ตัวโล / 3 ตัวโล / 2 ตัวโล และตัวละ 6 ขีด – 1 กิโล ราคาตามรูปเลยครับ ซึ่งกุ้งทุกตัวทางเจ้าของร้านเครมว่าเป็นกุ้งที่รับจากชาวบ้านโดยตรง รับมาใหม่ ๆ ทุกวัน ขนาดและปริมาณอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละวัน ถ้าอยากกินยังไงควรโทรมาสอบถามหรือจองก่อนล่วงหน้า
วันนี้ผมได้ลองกุ้งแม่น้ำขนาด 8 ขีด (ตัวละ 1,500 บาท) ถ้าดูราคาอย่างเดียวถือว่าแพงนะ แต่ดูจากไซส์สิครับ นึกถึงขวดชาลิปตันไอซ์ทีได้ไหมครับ เราเอามือกำไว้ 2 มือ ยังเหลือ ๆ ใช่ไหมครับ แต่กุ้งนี่ตัวใหญ่กว่าขวดนั้นเยอะเลยครับ ให้น้องพนักงานถือให้ดูความยาวพอ ๆ กับลำตัวของน้องเค้าเลยครับ
และนี่คือเมนูกุ้งแม่น้ำเผา ที่เผามาแล้วครับ เนื้อนี่ขาวฟู เด้ง และแน่นมาก เนื้อจะแน่นกว่ากุ้งปกตินิดนึงครับเวลาตักอาจจะลำบากหน่อย
เรื่องความสดนี่สดมาก ๆ สุดยอดจริง ๆ น้ำจิ้มก็แซ่บมาก และยิ่งกินกับมันตรงหัวที่มาแบบตูม ๆ ตัก 3-4 ช้อนพูน ๆ ก็ยังไม่หมดเลย กินกันให้สะใจไปเลยครับ ความมันและความหอมอร่อยของจานนี้ประทับใจยิ่งนัก
ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน – ราคาตามน้ำหนัก
เมนูนี้ก็ต้องเช็คราคาครับ เพราะแต่ละวันที่ปลาเข้ามาก็จะมีขนาดที่แตกต่างกันออกไป เมนูนี้ที่ร้านจะใช้ปลาเนื้ออ่อนแบบนึ่ง ไม่นำไปทอดให้เสียเนื้อสัมผัส ผมเห็นบางร้านเอาไปทอด ซึ่งปลาชนิดนี้เนื้อละเอียดและอ่อนนุ่มสมชื่อ พอนำไปทอดแล้วแทบไม่เหลืออะไรให้กิน ผมว่าฉู่ฉี่ต้องเนื้อปลาสด ๆ แบบนี้แหล่ะครับ เรื่องน้ำฉู่ฉี่ก็กลมกล่อมดี มีครบรส ทั้งเผ็ด หวาน เค็ม และความหอมกลมกล่อมของเครื่องพริกแกงครับ
กุ้งกระเบื้องหลังคาโบสถ์ – 150 บาท
เห็นเมนูแบบนี้นึกว่าทางร้านรับมาทอดเสิร์ฟให้ลูกค้า แต่จริง ๆ แล้วทำเองครับ เป็นเมนูไทยจีน ที่อร่อยมาก ผิวกรอบ เนื้อนุ่มเด้ง กินกับน้ำจิ้มบ๊วย เพิ่มความหวานลงไปเข้าไป เป็นจานเรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี
ปลาตาเดียวทอดเกลือ – 360 บาท
เมนูปลาตาเดียวทอดนี้ ปกติผมจะไม่ค่อยสั่งเท่าไหร่เพราะว่าเนื้อปลาจะแน่นและกระด้าง ถ้ากินก็จะกินเป็นแบบนึ่งบ๊วย นึ่งซีอิ้ว สะมากกว่า และหลัง ๆ ก็กินเป็นเต๋าเต้ยสะมาก เพราะเนื้อจะฟูละเอียดกว่า ไม่แน่นเท่าปลาตาเดียว แต่ที่นี่ทอดปลาตาเดียวไดได้ครับ ยังคงแห้งเหมือนที่คิด แต่ผิวกรอบเลยทำให้กินง่ายขึ้นหน่อย แต่แนะนำว่าให้กินตอนร้อน ๆ เลยนะครับ ไม่งั้นแข็งครับ เสียรสครับ
ยำดอกชมจันทร์ – 150 บาท
เมนูนี้คงเป็นสัญลักษณ์ถึงความเป็นอาหารไทยท้องถิ่นเป็นอย่างดี เพราะวัตถุดิบคือเจ้าดอกชมจันทร์เนี่ยเป็นดอกของต้นชมจันทร์ที่ปีนึงจะออกมาแค่ช่วงฤดูกาลเดียว หาทานยากมาก และเวลาปรุงถ้าใครปรุงไม่เป็นก็จะขมเพราะเกษรด้านใน แต่นี่เค้าเอาออกให้แล้ว และนำดอกสด ๆ มายำกับเครื่องยำรสจัดจ้าน รสสัมผัสออกมาดีมากครับ
แกงรัญจวน – 180 บาท
เมนูนี้ส่วนตัวผมเคยลองกินมาหลายร้าน ซึ่งจะพบเจอได้จากร้านอาหารไทยพื้นบ้านทั้งสิ้น และที่นี่ทำออกมาได้รสชาติดี แต่ส่วนตัวคิดว่ากลิ่นของกะปิชัดเจนเกินไป เนื้อยังไม่นุ่ม ซึ่งถ้าทำให้กลิ่นมันละมุนกว่านี้ และเนื้อเปื่อยนุ่มกว่านี้จะดีมาก ๆ เพราะว่ารสชาติใช้ได้แล้ว
ผัดสายบัวกุ้งสด – 150 บาท
เมนูนี้ใครที่ไม่เคยลอง อยากแนะนำให้ลอง เพราะผัดสายบัวที่นี่ไม่ได้เน้นเรื่องซอสที่ปรุงลงไปเท่าไหร่ แต่เน้นเรื่องความเป็นธรรมชาติ ที่เห็นสีแดง ๆ นั่นคือมันกุ้งที่ใส่เข้าไปเพิ่มความกลมกล่อม แล้วก็ปรุงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สายบัวก็นุ่ม ๆ แต่มีความกรุบนิด ๆ เวลากินกับข้าวสวยร้อน ๆ ก็อร่อยเลยครับ
ข้าวผัดกากหมู – 180 บาท
หน้าตาดูธรรมดา ถ้าเห็นหน้าตาโดยที่ไม่รู้ชื่อเมนูคงเดาได้ยาก เพราะสีและเครื่องปรุงแทบจะไม่มีอะไรเลย เป็นเมนูที่เบสิคมาก ๆ แต่อยากบอกว่าความรู้สึกที่ได้กินไม่เบสิคเหมือนหน้าตานะครับ มันมีความนุ่มหอมของน้ำมันกากหมูเจียว ความเค็มก็กำลังดี ใส่กากหมูเจียวเสริมรสชาติมาอีกด้วย คล้าย ๆ กับเรากินข้าวผัดเกลือที่หอม ๆ อะไรประมาณนั้น ชอบมากครับ
ลูกชิ้นกุ้งราดซอสมันปูกงลี่ – 250 บาท
เป็นเมนูสไตล์ไทย-จีน ที่ทางร้านปรุงออกมาได้สมบูรณ์แบบมาก ตัวลูกชิ้นกุ้งก็หอมอร่อยมีกลิ่นน้ำมันงานิด ๆ การเซ็ทตัวของลูกชิ้นพอดีมาก ทั้งมันหมู เนื้อหมู เนื้อกุ้งและส่วนผสมอื่น ๆ ลงตัวมาก น้ำราดก็มีกลิ่นหอม และความข้นหนืดกำลังดี ถือเป็นอาหารไทย-จีนที่อร่อยไม่แพ้เหลาหรือภัตตาคารอาหารจีนเลยครับ
Ice cream cake roll – ทุกรส 95 บาท
พออิ่มจากของคาวแล้วก็คงต้องตบท้ายด้วยของหวานซึ่งที่นี่ก็มีทั้งพวกผลไม้ลอยแก้ว และไอศกรีม และไอศกรีมที่นี่ก็มีทั้งที่เป็นแบบถ้วยธรรมดา และที่เป็นแบบเค้กโรล คือจะมีไอศกรีมอยู่ด้านในที่ม้วนด้วยเนื้อเค้ก แล้วก็ตกแต่งด้วยส่วนผสมต่าง ๆ ตามแต่ละหน้าเค้ก เท่าที่ผมได้ลองมี 2 รสชาติ คือ ช็อคโกแล็ตบราวนี่ และสตอเบอร์รี่ ซึ่งมันอร่อยมากครับ แนะนำว่าให้ลอง
สละลอยแก้ว – 65 บาท
เมนูนี้ทางร้านทำเองเลยนะครับ ชื่อแบรนด์ว่า “ลอยละมุน” รสชาติหอมหวาน เปรี้ยวแบบธรรมชาติ แบบไม่เหมือนที่ไหน อร่อยสดชื่นดีครับ กินล้างปากหลังจบมื้ออาหารนี่ถือว่าเหมาะมาก ๆ
สรุป ร้านครัวบุษบัน กุ้งเผา วอเตอร์วิว ผมถือว่าเป็นร้านอาหารริมน้ำที่บรรยากาศดี อาหารรสแซ่บเลิศ ราคาก็คุ้มค่าคุ้มราคา แต่ถ้าใครที่อยากกุ้งแม่น้ำเผาตัวใหญ่ ๆ มันกุ้งทะลักหัวออกมาก็ต้องควักกระเป๋าเพิ่มเติมกันสักหน่อย แต่รับรองว่าสะใจครับ ผมแนะนำครับ และกุ้งทุกตัวทางเจ้าของร้านเครมว่าเป็นกุ้งที่รับจากชาวบ้านโดยตรง รับมาใหม่ ๆ ทุกวัน และอาหารของที่นี่ไม่มีผงชูรสครับ ใครที่ตระหนักถึงเรื่องเหล่านี้ก็สบายใจได้ครับ สำหรับผมมื้อนี้ผมได้เห็นอะไรที่หาตามร้านทั่วไปไม่ได้หลาย ๆ อย่าง อย่างเช่น ดอกชมจันทร์, แกงรัญจวน, กุ้งแม่น้ำตัวเขื่อง และแสงแดดอ่อน ๆ จากพระอาทิตย์ที่ค่อย ๆ ลดระดับ จนลับขอบฟ้าเปลี่ยนเป็นพระจันทร์ขึ้นมาท่ามกลางท้องฟ้าทีมืดลงตัดกับไฟสะพานที่ทอดยาวข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา มันช่างเป็นการเสพมื้ออาหารที่ได้ครบทุกรสจริง ๆ ใครที่อยากพาครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงาน หรือคนที่เรารักมาร้านอาหารริมน้ำดี ๆ สักร้าน ลองมาที่ร้านครัวบุษบัน กุ้งเผา วอเตอร์วิว นี้ดูครับ ไม่น่าผิดหวังครับ
ข้อมูลร้าน : http://www.bumres.com/th/restaurant/Busaban-Water-View-restaurant/35018
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น