ขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่พยายามลดความอ้วนทุกคนครับ

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับชาวพันทิป จริงๆแล้วผมไม่ได้กะตั้งกระทู้หรือว่าเขียนเรื่องราวของตัวเองนะครับเพราะผมคิดว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรกับการที่ลดความอ้วนได้ แต่พอได้เห็นเพื่อนๆที่ประสบความสำเร็จและได้แบ่งปันประสบการณ์ให้คนอื่นๆได้นำไปเป็นกำลังใจและแรงบันดาลใจ มันเลยทำให้ผมตัดสินใจลงเรื่องราวการลดน้ำหนักของตัวเองบ้าง เผื่อมีใครคิดท้อหรือคิดว่าทำไม่ได้ จะได้มีแรงฮึดสู้ต่อไป

ก่อนอื่นต้องบอกว่าผมเป็นคนอ้วนมาตั้งแต่เด็กๆ เป็นเด็กจ้ำหม้ำในครอบครัวคนจีน อีกทั้งยังเป็นหลานชายคนโตอีก จึงทำให้พ่อแม่ภูมิใจที่มีลูกชายที่อ้วนท้วนสมบูรณ์ ตอนเด็กๆ ผมกวาดรางวัลมาเพียบ ซึ่งคุณแม่บอกว่าผมเป็นเด็กที่แฮ้ปปี้มากๆ แต่พอโตขึ้นเท่านั้นแหละ ...

สมัยประถม ผมจำได้ว่าเกลียดการตรวจสุขภาพประจำปีมากๆ ครูจะมาวัดส่วนสูง ชั่งน้ำหนัก ฯลฯ ผมจำได้ว่าตอน ป.1-2 นั้นผมก็หนักประมาณ 40+ โลได้แล้ว

พอโตมาน้ำหนักก็เป็นเงาตามตัวผมมาตลอด รู้ตัวอีกทีก็หนัก 107 โลเข้าไปแล้ว


ผมลองมาทุกอย่างแล้วจริงๆ ยานั้นดี วิธีนี้ได้ผล ไปๆมาๆก็โยโย่กลับมาที่เดิมบวกอีก 5-6 โล ไม่มีอะไรที่ได้ผลในระยะยาวเลย จนกระทั่ง...

เคล็ดลับแห่งความสำเร็จ
ผมได้อ่านวิธีของหลายๆคนแล้ว บางคนกินหนมปัง 2 แผ่น โยเกริธ กล้วย 1 ลูก อะไรประมานนี้ ซึ่งผมว่าถ้ากินอย่างนั้นจริงๆต้องลดได้แน่ๆ แต่มันยากมากๆสำหรับคนที่เคยกินเยอะๆ ผมทำไม่ได้แน่ๆ

ในปี 2008 มีวิธีลดน้ำหนักที่ดังมากในช่วงนั้น ซึ่งก็คือ Atkins Diet หลักการก็คือการตัดคารโบไฮเดรทออกจากชีวิต หรือเรียกอีกอย่างว่า Low-Carb Diet
ตอนแรกผมคิดว่ามันจะเป็นไปได้หรือ แค่ตัดแป้งและน้ำตาลออกเนี่ยนะ แต่กินเท่าไหร่ก็ได้ตามใจชอบ ตอนนั้นผมแค่คิดว่าไหนๆก็ลองมาทุกวิธีละ ลองอีกสักครั้งจะเป็นไร ซึ่งก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกที่สุดในชีวิตละครับ

ผมเริ่มด้วยการไม่กินข้าว ไม่กินน้ำตาล ดูฉลากข้างถุงข้างกล่องเพื่อดูเปอร์เซนต์คารโบไฮเดรทมากขึ้น 2 อาทิตย์แรกนี่นรกมากๆ เพราะเพิ่งรู้ว่าเมื่อก่อนตัวเองกินแต่ของพวกนี้เยอะมาก แต่พ้น 2 อาทิตย์ไปแล้วร่างกายก็เริ่มชิน เวลากินข้าวก็กินแต่กับ กินถั่วทุกชนิด กินผักเยอะขึ้น กินผลไม้ แต่ก็ยังกินในจำนวนที่เยอะอยู่ แค่ไม่มีแป้งไม่มีน้ำตาล ตอนแรกๆยังไม่ออกกำลังกายเพราะตัวใหญ่ ทำให้เจ็บหัวเข่า กินแบบนี้ประมาน 3 เดือน น้ำหนักลดลง 10 กิโล

ตอนนั้นกำลังใจเริ่มมาละ เพราะเราไม่โหย ไม่หิว ตัวเริ่มเบาขึ้นเลยออกกำลังกายได้บ้าง ส่วนมากจะวิ่งซะส่วนใหญ่ ได้เหงื่อดีมากเพราะเป็นคนอ้วน เหงื่อออกง่ายอยู่แล้ว พอเริ่มออกกำลังกายก็เริ่มติดใจ วันไหนไม่ได้วิ่งจะรู้สึกอึดอัด เลยวิ่งเป็นประจำวันละ 30 นาที

จากนั้นน้ำหนักก็ลดลงเรื่อยๆ เดือนละ 5 โล จนตอนนี้น่าจะคงที่ที่ 70 โลแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ผอม แต่ก็เป็นจุดที่ตัวเองพอใจ จากใส่กางเกงเอว 40 ก็ใส่เอว 32 ได้ จากต้องใส่เสื้อ XXXL ตอนนี้ใส่ M ได้ ที่สำคัญได้ความมั่นใจขึ้นมาก

เรื่องราวของผมก็ประมานนี้ครับ เขียนเล่าเรื่องไม่เก่งก็ขออภัยด้วยครับ อยากบอกให้ทุกคนที่กำลังพยายามลดน้ำหนักอยู่ว่าอย่าท้อนะครับ เมื่อคุณทำสำเร็จแล้วผลที่ได้มันคุ้มมากๆ เงินทองก็หาซื้อไม่ได้ ขอให้เพื่อนๆโชคดีในการคืนสุขภาพกายและใจให้เป็นสุขให้ได้นะครับ สู้ๆ


รูปปัจจุบันครับ

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่