สวัสดีคะ เพื่อนๆชาว pantip ที่น่ารักทุกคน ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเราเป็นสมาชิกใหม่ และนี่เป็นกระทู้แรกของเรานะคะ(ถ้าทำอะไรผิดขอโทษล่วงหน้านะคะ) และก็ซุ่มอ่านกระทู้ต่างๆในพันทิปมานานพอสมควร แต่ไม่ได้สมัครสมาชิกซักที อิอิ วันนี้เลยได้ฤกษ์งามยามดีตั้งกระทู้คะ คือมีประเด็นสงสัยอยากจะขอถามเพื่อนๆหรือผู้รู้ในนี้คะ ขอท้าวความให้ฟังก่อนนะคะ
คือช่วงนี้เรากำลังควบคุมน้ำหนักอยู่หลังจากที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวตัวเองมาหลายปีดีดัก ตั้งแต่ปี 1-4 อ้วนพุงหลามเลย(มัธยมอยู่ที่ 43-45) ปัจจุบันทำงานแล้ว และเพิ่งผ่านพ้นการรับปริญญาไปหมาดๆ แต่ก็เป็นคนที่ชอบแต่งตัวสวยๆนะคะ คือทุกคนมักจะบอกว่าอวบๆยังไม่อ้วนหรอก กำลังดี น่ารักดี เรียนจบน้ำหนักอยู่ที่ 49 พอมาถึงช่วงระหว่างที่อยู่บ้านรองาน น้ำหนักเด้งมา 54 ขึ้นมา 5 กิโล และด้วยส่วนสูงเพียง 157 ทำให้จากเดิมที่อวบๆกลายเป็นอวบระยะสุดท้าย เสื้อผ้าคับหมดคะ ชุดสวยๆที่เคยใส่ได้ ใส่ไม่ได้เลย
มาทำงานได้สักพักนึกว่าน้ำหนักจะลด แต่พอเหยียบที่ตาชั่ง ปรากฏว่า 56 สุดๆแล้วชีวิตนี้ กลับบ้านทีคนทักตรึม ว่าอ้วน ขาใหญ่ เซลลูไลท์เพียบ จากเดิมแฟนเคยเรียกที่รักๆๆ ทุกวันนี้เรียกไอ้อ้วนบ้างหละ ตูดหมึกบ้างหละ คากิ บลาๆๆๆ สารพัดสรรหามาเปรียบเทียบ แล้วก็บอกให้เราลดความอ้วนให้เท่าเดิมเหมือนตอนคบกันแรกๆ (อยู่ที่ประมาณ 47) เค้าบอกตอนนั้นน่ารักดี กำลังดี หรือเป็นเพราะช่วงแรกเริ่มรักด้วยป่าวก็ไม่รู้ อะไรๆเลยดูดีไปหมด 55 และนั่นมันก็เลยเป็นจุดประสงค์ที่ทำให้เราอยากลกความอ้วน อยากใส่เสื้อผ้าสวยๆ อยากดูดี สุขภาพดี อยากทำให้แฟนดีใจ เวลาควงเราไปไหนจะได้ไม่อายใคร เพราะเพื่อนๆเค้ามีแฟนสวยๆ หุ่นดี เป็นนางแบบด้วยก็มี แต่หันมาดูตัวเองแล้วแบบว่า เอิ่มมม !!!นั่นจึงเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้เราอยากจะหันมาดูแลตนเอง ก่อนที่มันจะสายเกินไป
และตอนนี้เราลดน้ำหนักมาได้ 1 เดือนแล้ว เริ่มตั้งแต่ 1 พ.ค เดือนที่แล้ว จากก่อนลดน้ำหนักอยู่ประมาณ 53 ป่วยจากกรวยไตอักเสบไปประมาณ 1 อาทิตย์ เหลือ 52 มันเลยรู้สึกว่าเบาตัวดี และคนก็ทักว่าซูบ ย้ำ ซูบ โทรม แต่ไม่ใช่ผอม จึงคิดว่าไม่ได้การณ์เราต้องไปออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักและเพื่อสุขภาพได้แล้ว จึงไปวิ่ง พอวิ่งแรกๆมันก็สนุก ก็ไปเกือบทุกวัน ยกเว้นวันไหนมีประชุมหรือติดธุระก็จะไม่ได้ไป เราทำงาน 08.00 เลิก 16.00 น.
โปรแกรมการออกกำลังกายของเรามีดังนี้คะ
-หลังเลิกงานประมาณ 5 โมงเย็นเราจะไปออกกำลังกาย โดยใช้เครื่องเล่นที่ที่ทำงานมีให้ เราพักที่ที่ทำงาน (มันเป็นสวัสดิการให้เจ้าหน้าที่) ก็จะเล่น weight ใช้ที่มันเป็น weight machine เล่นท่าต่างๆตามรูปที่มันมีให้ดูแล้วก็แล้วแต่อารมณ์อยากจะเล่นท่าไหน ได้ประมาณ 15-20 นาที
-ต่อด้วย เดินเร็วบน Treadmill ปรับระดับความชันบ้าง ระดับ 1-5 speed อยู่ที่ 6 Km/hr เดินเร็วประมาณ 30-45 นาที แล้วแต่วัน บางวันถ้าเบื่อก็เล่นเครื่อง Eleptical ใช้เวลาเท่าๆกัน ถ้าวันไหนฟิต ก็เล่นทั้งสองอย่าง
-ใช้เครื่อง vibrator ที่มันสั่นๆอีก 15 นาที
จบการออกกำลังกายในแต่ละวัน จะทำอยู่ประมาณนี้
ส่วนเรื่องการควบคุมอาหาร คือ
-เช้า ทานปกติ ตื่นมาดื่มน้ำอุณหภูมิห้อง 1 แก้ว ชาเขียวร้อนไม่ใส่น้ำตาล 1 แก้ว บางวันต่อด้วยกล้วยหอม 1 ลูก ส่วนข้าว ข้าวขาวไม่ทาน ทานข้าวกล้อง กับข้าวทำทานเอง เน้นผัก ปลา อกไก่ เมนูเช่น ต้มจืดอกไก่ใส่ผักโขม ปลาทูนึ่ง แซนวิตปังโฮลวีตปลาทู อกไก่ต้ม เป็นต้น แล้วแต่ว่าวันๆนั้นมีอะไรในตู้เย็นก็จะคิดเมนูทำ ทำแปลกๆใส่มั่วๆไปให้ตัวเองไม่เบื่ออาหาร
-กลางวัน ต้องทานที่ที่ทำงาน ก็หนีไม่พ้นตามสั่ง แต่ก็จะพยายามทานพวกเกี๋ยวเตี๋ยว เกาเหลา ใส่ผักเยอะๆ หรือถ้าเป็นข้าวก็จะทานข้าวน้อยๆ ประมาณครึ่งหนึ่งของข้าวที่มี
-บ่าย ประมาณบ่ายสามโมง ทานแอปเปิ้ลเขียว/กล้วย ดื่มน้ำเยอะๆ กันไว้ก่อนออกกำลังกาย กันหิวโหย
-เย็นหลังจากออกกำลังกาย ก็จะทานกล้วยหอม 1-2 ลูก และน้ำเปล่า
-ก่อนนอน น้ำเปล่า 1 แก้ว
** ไม่ดื่มน้ำอัดลม ชาใส่น้ำตาล กาแฟ แอลกอฮอล์ แต่บางครั้งมีหลุดทานขนมบ้าง แต่ไม่บ่อย
"อยากจะถามว่า"
-สิ่งที่เราทำมานั้นถูกทางมั้ย ??
-ควรเพิ่มอะไรอีกหรือเปล่า??
-เราเป็นคนที่มีพุงและเอวหนาเอามากๆ ต้นแขน ต้นขาใหญ่มาก ควรจะทำยังไงเพื่อลดตรงสัดส่วนนี้ ??ขอคำแนะนำเรื่องท่าที่ทำแล้วได้ผลจริง
-บางวันออกกำลังกาย รู้สึกว่ามันเหนื่อยเอามากๆ ทำยังไงให้ออกได้ตลอดรอดฝั่ง
-เราชั่งน้ำหนักเมื่อ 14 พ.ค ได้ 50.5 วัดสัดส่วนลงอย่างละ 0.5 นิ้ว เมื่อ 31 พ.ค ชั่ง ปรากฏว่าเท่าเดิม สัดส่วนก็เด้งกลับมาเพิ่มเท่าเดิม แต่ก็ดีใจที่มันไม่เด้งขึ้นมากกว่าเดิมเหมือนหลายๆคนที่ประสบมา แต่ งง ทำไมมันไม่ลงเพิ่มอีก บางทีก็คิด หรือเราจะใจร้อนเกินไป
บางครั้งก็รู้สึกเหนื่อย จนทำให้ไม่อยากไปออกกำลังกาย แต่พอจินตนาการว่าตัวเองได้ใส่ชุดสวยๆ หุ่นดีๆ หรือดูรูปพวกสาวๆเกิร์ลเจน. ดู Before after ของหลายๆคน มันก็ทำให้มีกำลังใจฮึดขึ้นมา เราควรทำต่อไปใช่มั้ย มาถูกทางแล้วหรือยัง เลยมาขอแรงสนับสนุนหรือข้อชี้แนะเพื่อนำไปปรับใช้กับตัวเอง
สุดท้ายขอบคุณมากๆสำหรับใครที่อ่านจนจบ ซึ่งยาวมาก แต่เราก็รุ้สึกดีที่ได้ระบาย 55 เพราะส่วนใหญ่จะเก็บความคิดและคำถามไว้ในหัวเพียงคนเดียว และท้ายสุดจริงๆขอกำลังใจและขอเป็นกำลังใจให้ใครก็ตามที่กำลังลดน้ำหนักเหมือนกัน ขอฟังเสียงคนที่กำลังพยายามทำเพื่อตัวเองหน่อยนะคะ ^______________^
ออกกำลังกายและควบคุมอาหารแบบนี้ ถือว่าเดินมาถูกทางแล้วหรือเปล่าคะ
คือช่วงนี้เรากำลังควบคุมน้ำหนักอยู่หลังจากที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวตัวเองมาหลายปีดีดัก ตั้งแต่ปี 1-4 อ้วนพุงหลามเลย(มัธยมอยู่ที่ 43-45) ปัจจุบันทำงานแล้ว และเพิ่งผ่านพ้นการรับปริญญาไปหมาดๆ แต่ก็เป็นคนที่ชอบแต่งตัวสวยๆนะคะ คือทุกคนมักจะบอกว่าอวบๆยังไม่อ้วนหรอก กำลังดี น่ารักดี เรียนจบน้ำหนักอยู่ที่ 49 พอมาถึงช่วงระหว่างที่อยู่บ้านรองาน น้ำหนักเด้งมา 54 ขึ้นมา 5 กิโล และด้วยส่วนสูงเพียง 157 ทำให้จากเดิมที่อวบๆกลายเป็นอวบระยะสุดท้าย เสื้อผ้าคับหมดคะ ชุดสวยๆที่เคยใส่ได้ ใส่ไม่ได้เลย
มาทำงานได้สักพักนึกว่าน้ำหนักจะลด แต่พอเหยียบที่ตาชั่ง ปรากฏว่า 56 สุดๆแล้วชีวิตนี้ กลับบ้านทีคนทักตรึม ว่าอ้วน ขาใหญ่ เซลลูไลท์เพียบ จากเดิมแฟนเคยเรียกที่รักๆๆ ทุกวันนี้เรียกไอ้อ้วนบ้างหละ ตูดหมึกบ้างหละ คากิ บลาๆๆๆ สารพัดสรรหามาเปรียบเทียบ แล้วก็บอกให้เราลดความอ้วนให้เท่าเดิมเหมือนตอนคบกันแรกๆ (อยู่ที่ประมาณ 47) เค้าบอกตอนนั้นน่ารักดี กำลังดี หรือเป็นเพราะช่วงแรกเริ่มรักด้วยป่าวก็ไม่รู้ อะไรๆเลยดูดีไปหมด 55 และนั่นมันก็เลยเป็นจุดประสงค์ที่ทำให้เราอยากลกความอ้วน อยากใส่เสื้อผ้าสวยๆ อยากดูดี สุขภาพดี อยากทำให้แฟนดีใจ เวลาควงเราไปไหนจะได้ไม่อายใคร เพราะเพื่อนๆเค้ามีแฟนสวยๆ หุ่นดี เป็นนางแบบด้วยก็มี แต่หันมาดูตัวเองแล้วแบบว่า เอิ่มมม !!!นั่นจึงเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้เราอยากจะหันมาดูแลตนเอง ก่อนที่มันจะสายเกินไป
และตอนนี้เราลดน้ำหนักมาได้ 1 เดือนแล้ว เริ่มตั้งแต่ 1 พ.ค เดือนที่แล้ว จากก่อนลดน้ำหนักอยู่ประมาณ 53 ป่วยจากกรวยไตอักเสบไปประมาณ 1 อาทิตย์ เหลือ 52 มันเลยรู้สึกว่าเบาตัวดี และคนก็ทักว่าซูบ ย้ำ ซูบ โทรม แต่ไม่ใช่ผอม จึงคิดว่าไม่ได้การณ์เราต้องไปออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักและเพื่อสุขภาพได้แล้ว จึงไปวิ่ง พอวิ่งแรกๆมันก็สนุก ก็ไปเกือบทุกวัน ยกเว้นวันไหนมีประชุมหรือติดธุระก็จะไม่ได้ไป เราทำงาน 08.00 เลิก 16.00 น.
โปรแกรมการออกกำลังกายของเรามีดังนี้คะ
-หลังเลิกงานประมาณ 5 โมงเย็นเราจะไปออกกำลังกาย โดยใช้เครื่องเล่นที่ที่ทำงานมีให้ เราพักที่ที่ทำงาน (มันเป็นสวัสดิการให้เจ้าหน้าที่) ก็จะเล่น weight ใช้ที่มันเป็น weight machine เล่นท่าต่างๆตามรูปที่มันมีให้ดูแล้วก็แล้วแต่อารมณ์อยากจะเล่นท่าไหน ได้ประมาณ 15-20 นาที
-ต่อด้วย เดินเร็วบน Treadmill ปรับระดับความชันบ้าง ระดับ 1-5 speed อยู่ที่ 6 Km/hr เดินเร็วประมาณ 30-45 นาที แล้วแต่วัน บางวันถ้าเบื่อก็เล่นเครื่อง Eleptical ใช้เวลาเท่าๆกัน ถ้าวันไหนฟิต ก็เล่นทั้งสองอย่าง
-ใช้เครื่อง vibrator ที่มันสั่นๆอีก 15 นาที
จบการออกกำลังกายในแต่ละวัน จะทำอยู่ประมาณนี้
ส่วนเรื่องการควบคุมอาหาร คือ
-เช้า ทานปกติ ตื่นมาดื่มน้ำอุณหภูมิห้อง 1 แก้ว ชาเขียวร้อนไม่ใส่น้ำตาล 1 แก้ว บางวันต่อด้วยกล้วยหอม 1 ลูก ส่วนข้าว ข้าวขาวไม่ทาน ทานข้าวกล้อง กับข้าวทำทานเอง เน้นผัก ปลา อกไก่ เมนูเช่น ต้มจืดอกไก่ใส่ผักโขม ปลาทูนึ่ง แซนวิตปังโฮลวีตปลาทู อกไก่ต้ม เป็นต้น แล้วแต่ว่าวันๆนั้นมีอะไรในตู้เย็นก็จะคิดเมนูทำ ทำแปลกๆใส่มั่วๆไปให้ตัวเองไม่เบื่ออาหาร
-กลางวัน ต้องทานที่ที่ทำงาน ก็หนีไม่พ้นตามสั่ง แต่ก็จะพยายามทานพวกเกี๋ยวเตี๋ยว เกาเหลา ใส่ผักเยอะๆ หรือถ้าเป็นข้าวก็จะทานข้าวน้อยๆ ประมาณครึ่งหนึ่งของข้าวที่มี
-บ่าย ประมาณบ่ายสามโมง ทานแอปเปิ้ลเขียว/กล้วย ดื่มน้ำเยอะๆ กันไว้ก่อนออกกำลังกาย กันหิวโหย
-เย็นหลังจากออกกำลังกาย ก็จะทานกล้วยหอม 1-2 ลูก และน้ำเปล่า
-ก่อนนอน น้ำเปล่า 1 แก้ว
** ไม่ดื่มน้ำอัดลม ชาใส่น้ำตาล กาแฟ แอลกอฮอล์ แต่บางครั้งมีหลุดทานขนมบ้าง แต่ไม่บ่อย
"อยากจะถามว่า"
-สิ่งที่เราทำมานั้นถูกทางมั้ย ??
-ควรเพิ่มอะไรอีกหรือเปล่า??
-เราเป็นคนที่มีพุงและเอวหนาเอามากๆ ต้นแขน ต้นขาใหญ่มาก ควรจะทำยังไงเพื่อลดตรงสัดส่วนนี้ ??ขอคำแนะนำเรื่องท่าที่ทำแล้วได้ผลจริง
-บางวันออกกำลังกาย รู้สึกว่ามันเหนื่อยเอามากๆ ทำยังไงให้ออกได้ตลอดรอดฝั่ง
-เราชั่งน้ำหนักเมื่อ 14 พ.ค ได้ 50.5 วัดสัดส่วนลงอย่างละ 0.5 นิ้ว เมื่อ 31 พ.ค ชั่ง ปรากฏว่าเท่าเดิม สัดส่วนก็เด้งกลับมาเพิ่มเท่าเดิม แต่ก็ดีใจที่มันไม่เด้งขึ้นมากกว่าเดิมเหมือนหลายๆคนที่ประสบมา แต่ งง ทำไมมันไม่ลงเพิ่มอีก บางทีก็คิด หรือเราจะใจร้อนเกินไป
บางครั้งก็รู้สึกเหนื่อย จนทำให้ไม่อยากไปออกกำลังกาย แต่พอจินตนาการว่าตัวเองได้ใส่ชุดสวยๆ หุ่นดีๆ หรือดูรูปพวกสาวๆเกิร์ลเจน. ดู Before after ของหลายๆคน มันก็ทำให้มีกำลังใจฮึดขึ้นมา เราควรทำต่อไปใช่มั้ย มาถูกทางแล้วหรือยัง เลยมาขอแรงสนับสนุนหรือข้อชี้แนะเพื่อนำไปปรับใช้กับตัวเอง
สุดท้ายขอบคุณมากๆสำหรับใครที่อ่านจนจบ ซึ่งยาวมาก แต่เราก็รุ้สึกดีที่ได้ระบาย 55 เพราะส่วนใหญ่จะเก็บความคิดและคำถามไว้ในหัวเพียงคนเดียว และท้ายสุดจริงๆขอกำลังใจและขอเป็นกำลังใจให้ใครก็ตามที่กำลังลดน้ำหนักเหมือนกัน ขอฟังเสียงคนที่กำลังพยายามทำเพื่อตัวเองหน่อยนะคะ ^______________^