เส้นทางสร้างรถไฟฟ้าหัวลำโพง-มหาชัยมีอยู่ 5 แนวเส้นทางให้เลือก ขอเลือกแนวทางที่ 2 ซึ่งคนเลือกน้อย เพราะมองอยู่ 3 ข้อ
1.สามารถใช้หลักคมนาคมนำหน้าเมืองได้ แต่ต้องมีทั้งรถไฟและรถ feeder ที่มีประสิทธิภาพจริง เรื่องการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจจึงจะไปต่อสบาย
2.เป็นรถไฟชานเมือง มีหน้าที่เน้นขนส่งคนออกนอกเมือง ไม่ใช่ทำหน้าที่แบบสายสีเขียวกับสีน้ำเงินที่เน้นส่งคนตามเส้นทางในเมือง จึงไม่ต้องเน้นแนวเส้นทางที่ 5 ที่วิ่งบนถนนเอกชัย ควรเน้นการส่งคนออกนอกเมืองได้เร็วที่สุด กระจายคนออกนอกเมืองได้ดี ตอบโจทย์คนเดินทางระหว่างเมืองมากที่สุด
3.เส้นทางเดิมได้ผู้โดยสารแน่ๆ เพราะมีฐานลูกค้าเดิมจากกลุ่มคนที่ชอบใช้ขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟมาใช้บริการเส้นทางนัอยู่แล้ว ให้เบี่ยงไปเอกชัยที่มองดูว่าน่าจะมีลูกค้าเยอะเพราะผ่านชุมชนหนาแน่น แต่เอาเข้าจริงก็ไม่แน่ว่าจะมีคนมาใช้บริการมากก็อย่างที่คาดมั้ย ให้ดูสายสีเหลืองลาดพร้าว คนไม่ได้ใช้บริการมากอย่าง
ที่คิดไว้ ทั้งที่ถนนนี้รถติดมากสุดในกรุงเทพ มันอยู่ที่พฤติกรรมคนด้วยว่า ชอบใช้ขนส่งสาธารณะหรือเปล่า
เปิด 5 แนวเส้นทางต้องเลือก รถไฟฟ้าสายสีแดงใหม่ ‘วงเวียนใหญ่-มหาชัย’
https://www.isranews.org/article/isranews-news/143384-transport-221.html
ถึงแม้คนส่วนมากจะเลือกแนวเส้นทางทางที่ 5 เพราะเห็นว่าผ่านชุมชนที่มีคนอาศัยหนาแน่นบนถนนเอกชัย เป็นประโยชน์ต่อคนจำนวนมาก ดีกว่าแนวทางอื่น เพราะแนวทาง 1-4 น่าจะได้ผู้โดยสารน้อยกว่า เนื่องจากไม่ผ่านชุมชนใหญ่อย่างถนนเอกชัย แต่ถ้าแนวทาง 1-4 ทำรถ feeder รับส่งคนจากสถานีรถไฟฟ้าให้เขาถึงถนนเอกชัยและพระราม 2 ก็ช่วยให้ทั้งคนที่อยู่โซนถนนเอกชัยและพระราม 2 เข้าถึงรถไฟฟ้าได้มากเหมือนกัน
และถึงแนวทางที่ 5 จะเป็นแนวทางที่ตอบโจทย์คนจำนวนมาก เพราะผ่านชุมชนใหญ่ ทำให้คนเข้าถึงรถไฟฟ้าได้มาก แต่ขอให้คิดถึงความเป็นจริง เวลาเราลงจากสถานีรถไฟฟ้าเพื่อเดินไปที่หมาย เช่น บ้าน,ที่ทำงาน เราก็มักเดินไปได้ไม่ไกลเท่าไรจากสถานีรถไฟฟ้า ถ้าบริษัทหรือคอนโดที่อยู่อาศัยไม่ได้อยู่ในรัศมี 400 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้า ทำให้ต้องเดินไกลเพื่อถึงที่หมาย หลายคนขอเลือกขึ้นรถเมล์ไปต่อดีกว่า การวางแผนฟีดเดอร์จึงสำคัญมากๆ
ถ้าเลือกแนวทางที่ 2 ซึ่งลงทุนต่ำกว่าแนวทางที่ 5 มาก แล้ววางแผนให้รถ feeder คอยวิ่งรับส่งคนจากสถานีรถไฟฟ้า สามารถส่งผู้คนตามเส้นทางถนนเอกชัยและพระราม 2 ทั้งหมด เท่ากับว่าลงทุนต่ำแต่ได้กำไรมาก เพราะมีรถ feeder ที่สามารถตอบโจทย์ทั้งคนที่เดินทางบนถนนเอกชัยและถนนพระราม 2
จำไว้หลักการนึงว่า
ถ้ามีสถานีรถไฟฟ้าที่ตั้งบนทำเลดีมาก แต่ไม่มีรถ feeder ให้บริการ ก็จะสามารถพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้แค่ระยะประมาณ 300-500 เมตรจากตัวสถานีรถไฟฟ้า
แต่ถ้ามีสถานีรถไฟฟ้าที่ทำเลดูไม่โดดเด่น แต่มีรถ feeeder ที่มีประสิทธิภาพ วิ่งครอบคลุมทั่ว ก็จะสามารถพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้อย่างน้อย 3-5 กิโลจากตัวสถานีรถไฟฟ้า
เหตุเพราะว่าคนส่วนมากไม่ชอบเดินเท้าไกลๆหรอก เดินไปไม่ค่อยจะเกิน 400 เมตร หลายคนก็มักเดินไม่เกิน 300 เมตร หากไม่มีรถ feeder หรือระบบ feeder ไม่ดี ก็จะส่งผลให้การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบสถานีรถไฟฟ้าอยู่ได้แค่ประมาณ 400 เมตรจากตัวสถานีรถไฟฟ้า เพราะคนนิยมเดินไปไกลได้แค่ไหน พื้นที่เชิงพาณิชย์ก็ไปได้ไม่เกินนั้นนั่นแหละ
กลายเป็นว่าการลงทุนสร้างตามแนวที่ 2 สามารถสร้างความคุ้มค่ากว่าการลงทุนสร้างตามแนวที่ 5 ได้ ถ้ามีแผนบริหารจัดการที่ดี ลงทุนน้อย ได้ผลตอบแทนมาก
ปัญหาที่บอกว่าแนวทางที่ 2 จะต่อขยายเส้นทางรถไฟไปอีกฝั่งของแม่น้ำท่าจีนยาก เพราะมีชุมชนหนาแน่น ดูแล้วน่าจะโจทย์เดียวกับหัวลำโพง-คลองสาน ไม่สามารถทำสะพานให้รถไฟข้ามได้เพราะติดชุมชนที่มีคนหนาแน่น ต้องทำอุโมงค์ให้รถไฟลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาเท่านั้น ซึ่งพื้นที่มหาชัยก็คงต้องแก้ปัญหาแบบเดียวกันกับหัวลำโพง-คลองสาน คือจากสถานีมหาชัยไปสถานีบ้านแหลม ต้องทำอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำท่าจีนไป
ปัญหาอีกเรื่องของแนวทางที่ 2 ก็คือสถานีตั้งอยู่ในชุมชนแออัด ค่อนข้างพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจรอบสถานีรถไฟได้ยาก เรื่องนี้ขอบอกว่า ยานพาหนะที่สามารถพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจได้ ไม่ได้มีแค่รถไฟอย่างเดียว ไม่ว่าเครื่องบิน,รถไฟ,เรือ,รถยนต์ ก็สามารถพัฒนาพื้นที่โดยรอบจากจุดที่ยานพาหนะจอดรับส่งคนได้หมด
เครื่องบินก็สามารถทำให้รอบสนามบินเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้
รถไฟก็สามารถทำพื้นที่รอบสถานีรถไฟเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้
เรือก็สามารถทำให้พื้นที่รอบท่าเรือเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้
รถบัส,รถสองแถวก็สามารถทำให้พื้นที่ย่านป้ายจอดรถเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้
การทำระบบ feeder ให้ดี วิ่งจอดรับส่งคนตามจุดต่างๆในมหาชัย จุดที่รถ feeder จอดรับส่งคนนี่แหละ สามารถพัฒนาเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้
เรื่อง feeder นี้ จะต้องคิดตั้งแต่ก่อนจะเซ็นต์สัญญาสร้างสายสีแดงเส้นนี้ จะให้รถ feeder ของแต่ละสถานีรถไฟฟ้าวิ่งไปเส้นทางไหนบ้าง สำรวจดูว่าพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจอยู่ตรงไหนบ้าง เลือกมาซัก 5-6 พื้นที่จากตัวสถานีรถไฟฟ้า แล้วให้รถ feeder วิ่งไปรับส่งคน 5-6 จุดตามแผนที่เขียนไว้ เช่น จากสถานีมหาชัย เราก็เลือกดูทำเลที่น่าพัฒนาเศรษฐกิจรอบสถานีมหาชัยไว้ แล้วเขียนไว้ซัก 5 ทำเล เช่น บิ๊กซีมหาชัย เซ็นทรัลมหาชัย แม็คโครมหาชัย โรงพยาบาลสมุทรสาคร วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร ก็ให้รถ feeder ไปส่งคนยัง 5 จุดตามที่ได้เขียนไว้แล้ว จะช่วยให้พื้นที่นั้นเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้ง่าย เพราะเป็นจุดมีการสัญจรสะดวก
ถ้ารถไฟฟ้าวิ่งมาทุก 15 นาที รถ feeder ก็ต้องวิ่งออกจากสถานีทุก 15 นาที ถ้ารถไฟฟ้าวิ่งมาทุก 10 นาที รถ feeder ก็ต้องวิ่งออกจากตัวสถานีทุก 10 นาที รถ feeder ต้องมีประสิทธิภาพสัมพันธ์กับรถไฟฟ้ามากที่สุด feeder จึงจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจได้เต็มที่
ถ้าเราคิดสร้างแต่รถไฟฟ้า ไม่มีรถ feeder หรือมีรถ feeder ที่ไม่มีประสิทธิภาพ ทางเลือกที่ 5 ก็น่าจะดูดีกว่าแนวทางอื่น ซึ่งความจริงแล้ว ไม่ว่าจะเลือกแนวทางอะไรใน 1-5 ก็ควรมีรถ feeder ที่มีประสิทธิภาพไว้รับส่งผู้โดยสารหมด รถ feeder วิ่งถี่ ไม่ต้องรอนาน มาตามเวลาที่กำหนดไว้
ถ้าจะทำจุดรอรถ feeder รับส่งคนให้ดี ก็ทำจุดจอดรับส่งคนของรถ feeder ให้ดูสวย เก๋ ทันสมัย ขึ้นป้ายว่า
สถานีขนส่งรถ feeder สายสีแดง และมีป้ายโลโก้สีแดง-ขาว มีเก้าอี้สีแดงกับสีขาวให้คนรอรถ feeder ลักษณะนี้ก็จะทำให้เกิดพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณจุดรอรถ feeder ทั้งร้านค้า บริษัท คอนโดก็จะผุดขึ้นเองในจุดที่มีการสัญจรสะดวก
ที่เราดูข้อมูลต่างๆ หากมีสถานีที่น่าจะตัดออก ก็มีสถานีตลาดพลู ข้อมูลใน google บอกว่า ห่างจากสถานีวุฒากาศ 670 เมตร แต่ที่ดูจาก google map น่าจะราวๆ 1.2 กิโล ไม่แน่ใจว่าวัดจากจุดไหนไปจุดไหน
ขอพูดในกรณีที่สถานีตลาดพลูอยู่ห่างจากวุฒากาศ 670 เมตรก่อน
ควรตัดสถานีตลาดพลูออก คือระยะทางจากสถานีตลาดพลูไปสถานีวุฒากาศ มีระยะแค่ 670 เมตร บางคนขยันเดินหน่อย เดินไปก็ยังได้ ระยะทางใกล้กว่าแอร์พอร์ตลิงค์พญาไทกับราชปรารภอีก ที่เราคิดคือ จากสถานีวุฒากาศมีรถ feeeder ดีๆ วิ่งครอบคลุมย่านนั้น ก็รับคนจากแถวสถานีตลาดพลูมาขึ้นรถไฟฟ้าที่วุฒากาศได้สบายๆ หรือจะทำ sky walk +บันไดเลื่อนทางตรงจากตลาดพลูมาวุฒากาศก็ได้ แต่ก็ต้องฟังเสียงคนในชุมชนย่านสถานีตลาดพลูด้วยว่า จะยอมตัดสถานีตลาดพลูมั้ย นี่คือกรณีที่ตั้งสถานีตลาดพลูกับวุฒากาศห่างกันแค่ 670 เมตร
แต่เราก็เชื่อว่ารฟท.จะตังให้ 2 สถานีนี้ ห่างกันอยู่ราวๆ 1.2 กิโลได้ ที่ตั้งสถานีมีเยอะ เลือกให้ดีก็ไม่มีปัญหา
พอมาดูพิกัดแล้วสถานที่ตั้งของสถานีสายสีแดงวุฒากาศจะอยู่ห่างจากสถานีสายสีเขียววุฒากาศไม่เกิน 400 เมตร และอยู่ห่างจากสถานีสีเขียวตลาดพลูไม่เกิน 450 เมตร จึงควรทำ skywalk เชื่อมให้ถึงกันทั้งหมด อย่าให้ลำบากแบบหัวหมากที่ arl กับสายสีเหลืองเชื่อมต่อกันลำบาก ไม่ยอมทำ sky walk ซักที อีกอย่างนึงคือ bts ตลาดพลูก็จะเป็นสถานีที่มีรถไฟฟ้าสายสีเทาพระโขนง-ท่าพระเชื่อมต่อมาถึงในอนาคตด้วย ก็ควรทำ sky walk+บันไดเลื่อนทางตรงจากสถานีสายสีแเดงวุฒากาศให้ถึงสถานี bts ตลาดพลู
และออกแบบให้สถานีสายสีน้ำเงินหัวลำโพงกับสายสีแดงหัวลำโพงเชื่อมต่อกันได้ง่ายที่สุด ถ้าสามารถวางตำแหน่งให้ชั้นชานชาลาสายสีแดงอยู่ใต้ชั้นชานชาลาสายสีน้ำเงินได้ยิ่งดี แต่เท่าที่มองแนวอาจจะทำไม่ได้ แนวทางวิ่ง 2 สายนี้ ดูจะเบี่ยงกันหน่อย ไม่เหมือนสายสีม่วงวงเวียนใหญ่ที่สายสีแดงลอดใต้ตรงๆ แต่ก็คงเบี่ยงกันไม่น่าเกิน 200 เมตรสำหรับน้ำเงินหัวลำโพงกับแดงหัวลำโพง ก็อาจจะทำทางเดินลงไปชั้นใต้ดินจากสายสีน้ำเงินแล้วทำทางเดินไปหาสายสีแดงซึ่งอยู่ใต้ดินด้วยกัน สถานีของสายสีแดงก็ไม่ต้องสร้างใหม่ ขอใช้สถานีร่วมกับสายสีน้ำเงินไปเลย ผู้บริหารสายสีแดงก็จ่ายเงินค่าสร้างสถานีให้ผู้บริหารสายสีน้ำเงินไป ประชาชนจะได้สะดวกในการเปลี่ยนขบวนรถระหว่างสายสีแดงกับสายสีน้ำเงิน
โครงการนี้มีเวลาศึกษาอีกพอสมควรจนถึงปีหน้า ก็ควรวางแผนให้ดี ทั้งที่ตั้งสถานีรถไฟฟ้า,sky walk เชื่อมต่อไปรถไฟฟ้าอีกสายนึง,ระบบ feeder ที่นำมาใช้กับรถไฟฟ้า,การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจรอบรัศมีจากตัวสถานีรถไฟฟ้าและจุดที่รถ feeder รับส่งคน
รถไฟฟ้าหัวลำโพง-มหาชัย มีแนวเส้นทางให้เลือกถึง 5 ทาง แต่ถ้าบริหารด้วยรถไฟ+feeder ให้ดี เแนวทางที่ 2 ก็สำเร็จได้
1.สามารถใช้หลักคมนาคมนำหน้าเมืองได้ แต่ต้องมีทั้งรถไฟและรถ feeder ที่มีประสิทธิภาพจริง เรื่องการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจจึงจะไปต่อสบาย
2.เป็นรถไฟชานเมือง มีหน้าที่เน้นขนส่งคนออกนอกเมือง ไม่ใช่ทำหน้าที่แบบสายสีเขียวกับสีน้ำเงินที่เน้นส่งคนตามเส้นทางในเมือง จึงไม่ต้องเน้นแนวเส้นทางที่ 5 ที่วิ่งบนถนนเอกชัย ควรเน้นการส่งคนออกนอกเมืองได้เร็วที่สุด กระจายคนออกนอกเมืองได้ดี ตอบโจทย์คนเดินทางระหว่างเมืองมากที่สุด
3.เส้นทางเดิมได้ผู้โดยสารแน่ๆ เพราะมีฐานลูกค้าเดิมจากกลุ่มคนที่ชอบใช้ขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟมาใช้บริการเส้นทางนัอยู่แล้ว ให้เบี่ยงไปเอกชัยที่มองดูว่าน่าจะมีลูกค้าเยอะเพราะผ่านชุมชนหนาแน่น แต่เอาเข้าจริงก็ไม่แน่ว่าจะมีคนมาใช้บริการมากก็อย่างที่คาดมั้ย ให้ดูสายสีเหลืองลาดพร้าว คนไม่ได้ใช้บริการมากอย่างที่คิดไว้ ทั้งที่ถนนนี้รถติดมากสุดในกรุงเทพ มันอยู่ที่พฤติกรรมคนด้วยว่า ชอบใช้ขนส่งสาธารณะหรือเปล่า
เปิด 5 แนวเส้นทางต้องเลือก รถไฟฟ้าสายสีแดงใหม่ ‘วงเวียนใหญ่-มหาชัย’
https://www.isranews.org/article/isranews-news/143384-transport-221.html
ถึงแม้คนส่วนมากจะเลือกแนวเส้นทางทางที่ 5 เพราะเห็นว่าผ่านชุมชนที่มีคนอาศัยหนาแน่นบนถนนเอกชัย เป็นประโยชน์ต่อคนจำนวนมาก ดีกว่าแนวทางอื่น เพราะแนวทาง 1-4 น่าจะได้ผู้โดยสารน้อยกว่า เนื่องจากไม่ผ่านชุมชนใหญ่อย่างถนนเอกชัย แต่ถ้าแนวทาง 1-4 ทำรถ feeder รับส่งคนจากสถานีรถไฟฟ้าให้เขาถึงถนนเอกชัยและพระราม 2 ก็ช่วยให้ทั้งคนที่อยู่โซนถนนเอกชัยและพระราม 2 เข้าถึงรถไฟฟ้าได้มากเหมือนกัน
และถึงแนวทางที่ 5 จะเป็นแนวทางที่ตอบโจทย์คนจำนวนมาก เพราะผ่านชุมชนใหญ่ ทำให้คนเข้าถึงรถไฟฟ้าได้มาก แต่ขอให้คิดถึงความเป็นจริง เวลาเราลงจากสถานีรถไฟฟ้าเพื่อเดินไปที่หมาย เช่น บ้าน,ที่ทำงาน เราก็มักเดินไปได้ไม่ไกลเท่าไรจากสถานีรถไฟฟ้า ถ้าบริษัทหรือคอนโดที่อยู่อาศัยไม่ได้อยู่ในรัศมี 400 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้า ทำให้ต้องเดินไกลเพื่อถึงที่หมาย หลายคนขอเลือกขึ้นรถเมล์ไปต่อดีกว่า การวางแผนฟีดเดอร์จึงสำคัญมากๆ
ถ้าเลือกแนวทางที่ 2 ซึ่งลงทุนต่ำกว่าแนวทางที่ 5 มาก แล้ววางแผนให้รถ feeder คอยวิ่งรับส่งคนจากสถานีรถไฟฟ้า สามารถส่งผู้คนตามเส้นทางถนนเอกชัยและพระราม 2 ทั้งหมด เท่ากับว่าลงทุนต่ำแต่ได้กำไรมาก เพราะมีรถ feeder ที่สามารถตอบโจทย์ทั้งคนที่เดินทางบนถนนเอกชัยและถนนพระราม 2
จำไว้หลักการนึงว่า
ถ้ามีสถานีรถไฟฟ้าที่ตั้งบนทำเลดีมาก แต่ไม่มีรถ feeder ให้บริการ ก็จะสามารถพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้แค่ระยะประมาณ 300-500 เมตรจากตัวสถานีรถไฟฟ้า
แต่ถ้ามีสถานีรถไฟฟ้าที่ทำเลดูไม่โดดเด่น แต่มีรถ feeeder ที่มีประสิทธิภาพ วิ่งครอบคลุมทั่ว ก็จะสามารถพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้อย่างน้อย 3-5 กิโลจากตัวสถานีรถไฟฟ้า
เหตุเพราะว่าคนส่วนมากไม่ชอบเดินเท้าไกลๆหรอก เดินไปไม่ค่อยจะเกิน 400 เมตร หลายคนก็มักเดินไม่เกิน 300 เมตร หากไม่มีรถ feeder หรือระบบ feeder ไม่ดี ก็จะส่งผลให้การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบสถานีรถไฟฟ้าอยู่ได้แค่ประมาณ 400 เมตรจากตัวสถานีรถไฟฟ้า เพราะคนนิยมเดินไปไกลได้แค่ไหน พื้นที่เชิงพาณิชย์ก็ไปได้ไม่เกินนั้นนั่นแหละ
กลายเป็นว่าการลงทุนสร้างตามแนวที่ 2 สามารถสร้างความคุ้มค่ากว่าการลงทุนสร้างตามแนวที่ 5 ได้ ถ้ามีแผนบริหารจัดการที่ดี ลงทุนน้อย ได้ผลตอบแทนมาก
ปัญหาที่บอกว่าแนวทางที่ 2 จะต่อขยายเส้นทางรถไฟไปอีกฝั่งของแม่น้ำท่าจีนยาก เพราะมีชุมชนหนาแน่น ดูแล้วน่าจะโจทย์เดียวกับหัวลำโพง-คลองสาน ไม่สามารถทำสะพานให้รถไฟข้ามได้เพราะติดชุมชนที่มีคนหนาแน่น ต้องทำอุโมงค์ให้รถไฟลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาเท่านั้น ซึ่งพื้นที่มหาชัยก็คงต้องแก้ปัญหาแบบเดียวกันกับหัวลำโพง-คลองสาน คือจากสถานีมหาชัยไปสถานีบ้านแหลม ต้องทำอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำท่าจีนไป
ปัญหาอีกเรื่องของแนวทางที่ 2 ก็คือสถานีตั้งอยู่ในชุมชนแออัด ค่อนข้างพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจรอบสถานีรถไฟได้ยาก เรื่องนี้ขอบอกว่า ยานพาหนะที่สามารถพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจได้ ไม่ได้มีแค่รถไฟอย่างเดียว ไม่ว่าเครื่องบิน,รถไฟ,เรือ,รถยนต์ ก็สามารถพัฒนาพื้นที่โดยรอบจากจุดที่ยานพาหนะจอดรับส่งคนได้หมด
เครื่องบินก็สามารถทำให้รอบสนามบินเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้
รถไฟก็สามารถทำพื้นที่รอบสถานีรถไฟเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้
เรือก็สามารถทำให้พื้นที่รอบท่าเรือเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้
รถบัส,รถสองแถวก็สามารถทำให้พื้นที่ย่านป้ายจอดรถเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้
การทำระบบ feeder ให้ดี วิ่งจอดรับส่งคนตามจุดต่างๆในมหาชัย จุดที่รถ feeder จอดรับส่งคนนี่แหละ สามารถพัฒนาเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้
เรื่อง feeder นี้ จะต้องคิดตั้งแต่ก่อนจะเซ็นต์สัญญาสร้างสายสีแดงเส้นนี้ จะให้รถ feeder ของแต่ละสถานีรถไฟฟ้าวิ่งไปเส้นทางไหนบ้าง สำรวจดูว่าพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจอยู่ตรงไหนบ้าง เลือกมาซัก 5-6 พื้นที่จากตัวสถานีรถไฟฟ้า แล้วให้รถ feeder วิ่งไปรับส่งคน 5-6 จุดตามแผนที่เขียนไว้ เช่น จากสถานีมหาชัย เราก็เลือกดูทำเลที่น่าพัฒนาเศรษฐกิจรอบสถานีมหาชัยไว้ แล้วเขียนไว้ซัก 5 ทำเล เช่น บิ๊กซีมหาชัย เซ็นทรัลมหาชัย แม็คโครมหาชัย โรงพยาบาลสมุทรสาคร วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร ก็ให้รถ feeder ไปส่งคนยัง 5 จุดตามที่ได้เขียนไว้แล้ว จะช่วยให้พื้นที่นั้นเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้ง่าย เพราะเป็นจุดมีการสัญจรสะดวก
ถ้ารถไฟฟ้าวิ่งมาทุก 15 นาที รถ feeder ก็ต้องวิ่งออกจากสถานีทุก 15 นาที ถ้ารถไฟฟ้าวิ่งมาทุก 10 นาที รถ feeder ก็ต้องวิ่งออกจากตัวสถานีทุก 10 นาที รถ feeder ต้องมีประสิทธิภาพสัมพันธ์กับรถไฟฟ้ามากที่สุด feeder จึงจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจได้เต็มที่
ถ้าเราคิดสร้างแต่รถไฟฟ้า ไม่มีรถ feeder หรือมีรถ feeder ที่ไม่มีประสิทธิภาพ ทางเลือกที่ 5 ก็น่าจะดูดีกว่าแนวทางอื่น ซึ่งความจริงแล้ว ไม่ว่าจะเลือกแนวทางอะไรใน 1-5 ก็ควรมีรถ feeder ที่มีประสิทธิภาพไว้รับส่งผู้โดยสารหมด รถ feeder วิ่งถี่ ไม่ต้องรอนาน มาตามเวลาที่กำหนดไว้
ถ้าจะทำจุดรอรถ feeder รับส่งคนให้ดี ก็ทำจุดจอดรับส่งคนของรถ feeder ให้ดูสวย เก๋ ทันสมัย ขึ้นป้ายว่า
สถานีขนส่งรถ feeder สายสีแดง และมีป้ายโลโก้สีแดง-ขาว มีเก้าอี้สีแดงกับสีขาวให้คนรอรถ feeder ลักษณะนี้ก็จะทำให้เกิดพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณจุดรอรถ feeder ทั้งร้านค้า บริษัท คอนโดก็จะผุดขึ้นเองในจุดที่มีการสัญจรสะดวก
ที่เราดูข้อมูลต่างๆ หากมีสถานีที่น่าจะตัดออก ก็มีสถานีตลาดพลู ข้อมูลใน google บอกว่า ห่างจากสถานีวุฒากาศ 670 เมตร แต่ที่ดูจาก google map น่าจะราวๆ 1.2 กิโล ไม่แน่ใจว่าวัดจากจุดไหนไปจุดไหน
ขอพูดในกรณีที่สถานีตลาดพลูอยู่ห่างจากวุฒากาศ 670 เมตรก่อน
ควรตัดสถานีตลาดพลูออก คือระยะทางจากสถานีตลาดพลูไปสถานีวุฒากาศ มีระยะแค่ 670 เมตร บางคนขยันเดินหน่อย เดินไปก็ยังได้ ระยะทางใกล้กว่าแอร์พอร์ตลิงค์พญาไทกับราชปรารภอีก ที่เราคิดคือ จากสถานีวุฒากาศมีรถ feeeder ดีๆ วิ่งครอบคลุมย่านนั้น ก็รับคนจากแถวสถานีตลาดพลูมาขึ้นรถไฟฟ้าที่วุฒากาศได้สบายๆ หรือจะทำ sky walk +บันไดเลื่อนทางตรงจากตลาดพลูมาวุฒากาศก็ได้ แต่ก็ต้องฟังเสียงคนในชุมชนย่านสถานีตลาดพลูด้วยว่า จะยอมตัดสถานีตลาดพลูมั้ย นี่คือกรณีที่ตั้งสถานีตลาดพลูกับวุฒากาศห่างกันแค่ 670 เมตร
แต่เราก็เชื่อว่ารฟท.จะตังให้ 2 สถานีนี้ ห่างกันอยู่ราวๆ 1.2 กิโลได้ ที่ตั้งสถานีมีเยอะ เลือกให้ดีก็ไม่มีปัญหา
พอมาดูพิกัดแล้วสถานที่ตั้งของสถานีสายสีแดงวุฒากาศจะอยู่ห่างจากสถานีสายสีเขียววุฒากาศไม่เกิน 400 เมตร และอยู่ห่างจากสถานีสีเขียวตลาดพลูไม่เกิน 450 เมตร จึงควรทำ skywalk เชื่อมให้ถึงกันทั้งหมด อย่าให้ลำบากแบบหัวหมากที่ arl กับสายสีเหลืองเชื่อมต่อกันลำบาก ไม่ยอมทำ sky walk ซักที อีกอย่างนึงคือ bts ตลาดพลูก็จะเป็นสถานีที่มีรถไฟฟ้าสายสีเทาพระโขนง-ท่าพระเชื่อมต่อมาถึงในอนาคตด้วย ก็ควรทำ sky walk+บันไดเลื่อนทางตรงจากสถานีสายสีแเดงวุฒากาศให้ถึงสถานี bts ตลาดพลู
และออกแบบให้สถานีสายสีน้ำเงินหัวลำโพงกับสายสีแดงหัวลำโพงเชื่อมต่อกันได้ง่ายที่สุด ถ้าสามารถวางตำแหน่งให้ชั้นชานชาลาสายสีแดงอยู่ใต้ชั้นชานชาลาสายสีน้ำเงินได้ยิ่งดี แต่เท่าที่มองแนวอาจจะทำไม่ได้ แนวทางวิ่ง 2 สายนี้ ดูจะเบี่ยงกันหน่อย ไม่เหมือนสายสีม่วงวงเวียนใหญ่ที่สายสีแดงลอดใต้ตรงๆ แต่ก็คงเบี่ยงกันไม่น่าเกิน 200 เมตรสำหรับน้ำเงินหัวลำโพงกับแดงหัวลำโพง ก็อาจจะทำทางเดินลงไปชั้นใต้ดินจากสายสีน้ำเงินแล้วทำทางเดินไปหาสายสีแดงซึ่งอยู่ใต้ดินด้วยกัน สถานีของสายสีแดงก็ไม่ต้องสร้างใหม่ ขอใช้สถานีร่วมกับสายสีน้ำเงินไปเลย ผู้บริหารสายสีแดงก็จ่ายเงินค่าสร้างสถานีให้ผู้บริหารสายสีน้ำเงินไป ประชาชนจะได้สะดวกในการเปลี่ยนขบวนรถระหว่างสายสีแดงกับสายสีน้ำเงิน
โครงการนี้มีเวลาศึกษาอีกพอสมควรจนถึงปีหน้า ก็ควรวางแผนให้ดี ทั้งที่ตั้งสถานีรถไฟฟ้า,sky walk เชื่อมต่อไปรถไฟฟ้าอีกสายนึง,ระบบ feeder ที่นำมาใช้กับรถไฟฟ้า,การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจรอบรัศมีจากตัวสถานีรถไฟฟ้าและจุดที่รถ feeder รับส่งคน