ผลไม้ 4 ชนิด ห้ามซื้อเด็ดขาด ไม่ว่าราคาจะถูกแค่ไหน แจกฟรียังไม่ควรกิน เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ
การเลือกซื้อผลไม้ในตลาดหรือซูเปอร์มาร์เก็ตจำเป็นต้องสังเกตให้ดี เพราะมีสัญญาณหลายอย่างที่บ่งชี้ว่าผลไม้เหล่านั้นอาจเน่าเสีย หรือถูกบ่มด้วยสารเคมี แม้จะราคาถูกแค่ไหน หรือได้มาฟรี ก็ไม่ควรรับประทาน เพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
1. มะม่วงที่นิ่มเละ เปลือกช้ำ และมีกลิ่นเปรี้ยว
หากพบมะม่วงที่มีจุดด่างดำขนาดใหญ่ เปลือกช้ำ และมีกลิ่นเปรี้ยวฉุน นั่นคือสัญญาณชัดเจนว่าเน่าเสียแล้ว เมื่อลองกดดูจะรู้สึกนิ่มมากผิดปกติ ผิวลื่น หรือมีของเหลวไหลออกมา ไม่ควรซื้อมารับประทานเด็ดขาด
มะม่วงที่เน่าเสียอาจเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียและเชื้อรา ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดท้อง ท้องร่วง หรืออาหารเป็นพิษ นอกจากนี้ สารพิษจากเชื้อราที่มองไม่เห็นอาจสะสมและทำลายตับในระยะยาวได้
วิธีเลือก: ควรเลือกมะม่วงที่เปลือกเต่งตึง สีสันสดใส และมีกลิ่นหอมหวานตามธรรมชาติ หากมีจุดดำเล็กๆ ขนาดเท่าเมล็ดงา ถือว่ายังปกติ แต่ควรรับประทานให้หมดโดยเร็ว ถ้าปอกเปลือกมะม่วงผลนั้นออกมา แล้วเนื้อมะม่วงยังปกติดีไม่มีจุดดำใดๆ ก็สามารถที่จะรับประทานได้ แต่ถ้าเราปอกเปลือกแล้ว พบจุดดำเกิดขึ้นบนเนื้อของมะม่วง ควรที่จะทิ้งทั้งลูก เพราะไม่สามารถทราบได้เลยว่าพิษจากเชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรียที่แฝงเข้ามาจากจุดที่ขยายใหญ่ขึ้นนั้น ได้แทรกซึมเข้าไปมากกว่าที่ตาเราเห็นหรือไม่ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยควรทิ้งทั้งลูกจะดีกว่า
2. กล้วยที่ถูกบ่มด้วยสารเคมี
กล้วยที่ถูกบ่มด้วยสารเคมี มักมีลักษณะผิดธรรมชาติ คือ เปลือกจะมีสีเหลืองสวยสม่ำเสมอทั่วทั้งผล แต่บริเวณขั้วจะยังคงแข็งและมีสีเขียวสด เมื่อบีบดูจะรู้สึกแข็งทั้งที่เปลือกเหลืองแล้ว และเนื้อข้างในมักมีรสฝาดหรือจืดชืด
กล้วยที่สุกตามธรรมชาติจะเริ่มสุกจากส่วนขั้วไล่ลงมา เปลือกจะมีสีเหลืองเข้มสม่ำเสมอ หรือมีจุดสีน้ำตาลดำ (เรียกว่า "ตกกระ") ซึ่งแสดงว่ากล้วยหวานและเนื้อนิ่มทั่วทั้งผลแล้ว
วิธีเลือก: หากต้องการซื้อเก็บไว้ ควรเลือกหวีที่มีสีเหลืองอ่อน และยังมีสีเขียวปนที่ขั้วเล็กน้อย กล้วยจะค่อยๆ สุกต่อเองตามธรรมชาติที่บ้าน ทำให้ได้รสชาติที่หวานอร่อยและปลอดภัยกว่า
3. อะโวคาโดที่มีกลิ่นแปลก
สัญญาณแรกของอะโวคาโดที่เน่าเสีย คือเปลือกที่เปลี่ยนจากสีเขียวเข้มเป็นสีดำคล้ำ และเมื่อดมดูจะมีกลิ่นเหม็นฉุน เหม็นเปรี้ยว หรือกลิ่นผิดปกติ แทนที่จะเป็นกลิ่นหอมมันอ่อนๆ
เมื่อผ่าดู เนื้ออะโวคาโดที่สุกกำลังดีควรมีสีเขียวอมเหลืองอ่อน แต่ถ้าพบว่าเนื้อมีจุดสีดำหรือสีน้ำตาลเป็นเส้นๆ มีเนื้อสัมผัสลื่นเละ หรือมีรสเปรี้ยว แสดงว่าเน่าเสียแล้ว ไม่ควรรับประทาน
ข้อควรระวัง: หากพบว่าอะโวคาโดมีส่วนใดส่วนหนึ่งเสียหรือขึ้นรา ควรทิ้งทั้งลูก ไม่ควรตัดแค่ส่วนที่เสียทิ้ง เพราะในผลไม้เนื้อนิ่ม สารพิษจากเชื้อราสามารถแพร่กระจายไปทั่วทั้งผลได้ แม้จะมองไม่เห็นก็ตาม
4. องุ่นที่เปลือกเหี่ยวและมีกลิ่นเปรี้ยว
องุ่นที่เน่าเสียสังเกตได้ง่ายจากกลิ่นเปรี้ยวคล้ายน้ำส้มสายชู เปลือกจะเริ่มเหี่ยวย่น ไม่เต่งตึง อาจเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลหรือดำผิดปกติ และผลจะนิ่มเละ หรือมีน้ำไหลออกมา
อีกจุดที่ควรสังเกตคือขั้วองุ่น หากยังสด ขั้วต้องเป็นสีเขียวและยังยืดหยุ่นได้ แต่ถ้าขั้วแห้งเหี่ยวและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลดำ แสดงว่าองุ่นเริ่มเก่าและใกล้เสียแล้ว ควรมองหาเชื้อราสีขาวหรือสีเทาแกมเขียวด้วย
วิธีเลือก: ควรเลือกองุ่นที่เปลือกยังคงมันเงา เต่งตึง ผลแน่นติดขั้ว และไม่มีรอยช้ำ
ที่มา :
https://www.sanook.com/news/9855942/
ผลไม้ 4 ชนิด ห้ามซื้อเด็ดขาด ไม่ว่าราคาจะถูกแค่ไหน แจกฟรียังไม่ควรกิน!
ผลไม้ 4 ชนิด ห้ามซื้อเด็ดขาด ไม่ว่าราคาจะถูกแค่ไหน แจกฟรียังไม่ควรกิน เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ
การเลือกซื้อผลไม้ในตลาดหรือซูเปอร์มาร์เก็ตจำเป็นต้องสังเกตให้ดี เพราะมีสัญญาณหลายอย่างที่บ่งชี้ว่าผลไม้เหล่านั้นอาจเน่าเสีย หรือถูกบ่มด้วยสารเคมี แม้จะราคาถูกแค่ไหน หรือได้มาฟรี ก็ไม่ควรรับประทาน เพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
1. มะม่วงที่นิ่มเละ เปลือกช้ำ และมีกลิ่นเปรี้ยว
หากพบมะม่วงที่มีจุดด่างดำขนาดใหญ่ เปลือกช้ำ และมีกลิ่นเปรี้ยวฉุน นั่นคือสัญญาณชัดเจนว่าเน่าเสียแล้ว เมื่อลองกดดูจะรู้สึกนิ่มมากผิดปกติ ผิวลื่น หรือมีของเหลวไหลออกมา ไม่ควรซื้อมารับประทานเด็ดขาด
มะม่วงที่เน่าเสียอาจเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียและเชื้อรา ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดท้อง ท้องร่วง หรืออาหารเป็นพิษ นอกจากนี้ สารพิษจากเชื้อราที่มองไม่เห็นอาจสะสมและทำลายตับในระยะยาวได้
วิธีเลือก: ควรเลือกมะม่วงที่เปลือกเต่งตึง สีสันสดใส และมีกลิ่นหอมหวานตามธรรมชาติ หากมีจุดดำเล็กๆ ขนาดเท่าเมล็ดงา ถือว่ายังปกติ แต่ควรรับประทานให้หมดโดยเร็ว ถ้าปอกเปลือกมะม่วงผลนั้นออกมา แล้วเนื้อมะม่วงยังปกติดีไม่มีจุดดำใดๆ ก็สามารถที่จะรับประทานได้ แต่ถ้าเราปอกเปลือกแล้ว พบจุดดำเกิดขึ้นบนเนื้อของมะม่วง ควรที่จะทิ้งทั้งลูก เพราะไม่สามารถทราบได้เลยว่าพิษจากเชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรียที่แฝงเข้ามาจากจุดที่ขยายใหญ่ขึ้นนั้น ได้แทรกซึมเข้าไปมากกว่าที่ตาเราเห็นหรือไม่ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยควรทิ้งทั้งลูกจะดีกว่า
2. กล้วยที่ถูกบ่มด้วยสารเคมี
กล้วยที่ถูกบ่มด้วยสารเคมี มักมีลักษณะผิดธรรมชาติ คือ เปลือกจะมีสีเหลืองสวยสม่ำเสมอทั่วทั้งผล แต่บริเวณขั้วจะยังคงแข็งและมีสีเขียวสด เมื่อบีบดูจะรู้สึกแข็งทั้งที่เปลือกเหลืองแล้ว และเนื้อข้างในมักมีรสฝาดหรือจืดชืด
กล้วยที่สุกตามธรรมชาติจะเริ่มสุกจากส่วนขั้วไล่ลงมา เปลือกจะมีสีเหลืองเข้มสม่ำเสมอ หรือมีจุดสีน้ำตาลดำ (เรียกว่า "ตกกระ") ซึ่งแสดงว่ากล้วยหวานและเนื้อนิ่มทั่วทั้งผลแล้ว
วิธีเลือก: หากต้องการซื้อเก็บไว้ ควรเลือกหวีที่มีสีเหลืองอ่อน และยังมีสีเขียวปนที่ขั้วเล็กน้อย กล้วยจะค่อยๆ สุกต่อเองตามธรรมชาติที่บ้าน ทำให้ได้รสชาติที่หวานอร่อยและปลอดภัยกว่า
3. อะโวคาโดที่มีกลิ่นแปลก
สัญญาณแรกของอะโวคาโดที่เน่าเสีย คือเปลือกที่เปลี่ยนจากสีเขียวเข้มเป็นสีดำคล้ำ และเมื่อดมดูจะมีกลิ่นเหม็นฉุน เหม็นเปรี้ยว หรือกลิ่นผิดปกติ แทนที่จะเป็นกลิ่นหอมมันอ่อนๆ
เมื่อผ่าดู เนื้ออะโวคาโดที่สุกกำลังดีควรมีสีเขียวอมเหลืองอ่อน แต่ถ้าพบว่าเนื้อมีจุดสีดำหรือสีน้ำตาลเป็นเส้นๆ มีเนื้อสัมผัสลื่นเละ หรือมีรสเปรี้ยว แสดงว่าเน่าเสียแล้ว ไม่ควรรับประทาน
ข้อควรระวัง: หากพบว่าอะโวคาโดมีส่วนใดส่วนหนึ่งเสียหรือขึ้นรา ควรทิ้งทั้งลูก ไม่ควรตัดแค่ส่วนที่เสียทิ้ง เพราะในผลไม้เนื้อนิ่ม สารพิษจากเชื้อราสามารถแพร่กระจายไปทั่วทั้งผลได้ แม้จะมองไม่เห็นก็ตาม
4. องุ่นที่เปลือกเหี่ยวและมีกลิ่นเปรี้ยว
องุ่นที่เน่าเสียสังเกตได้ง่ายจากกลิ่นเปรี้ยวคล้ายน้ำส้มสายชู เปลือกจะเริ่มเหี่ยวย่น ไม่เต่งตึง อาจเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลหรือดำผิดปกติ และผลจะนิ่มเละ หรือมีน้ำไหลออกมา
อีกจุดที่ควรสังเกตคือขั้วองุ่น หากยังสด ขั้วต้องเป็นสีเขียวและยังยืดหยุ่นได้ แต่ถ้าขั้วแห้งเหี่ยวและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลดำ แสดงว่าองุ่นเริ่มเก่าและใกล้เสียแล้ว ควรมองหาเชื้อราสีขาวหรือสีเทาแกมเขียวด้วย
วิธีเลือก: ควรเลือกองุ่นที่เปลือกยังคงมันเงา เต่งตึง ผลแน่นติดขั้ว และไม่มีรอยช้ำ
ที่มา : https://www.sanook.com/news/9855942/