6 ผลไม้ต้องห้าม ไม่ควรเก็บในตู้เย็น เสี่ยงเสียรส-สูญคุณค่าทางโภชนาการ

     เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 รายงานจากสื่อต่างประเทศ หลายคนมักเข้าใจผิด คิดว่าผลไม้ทุกชนิดสามารถเก็บในตู้เย็นได้ แต่ความจริงแล้วการเก็บผลไม้บางชนิดไว้ในตู้เย็นกลับสร้างความเสียหายมากกว่าประโยชน์

     แม้ตู้เย็นจะเป็นอุปกรณ์สำคัญในการถนอมอาหาร ช่วยป้องกันเชื้อโรคและยืดอายุการเก็บรักษา แต่ผลไม้บางประเภทไม่เหมาะกับการเก็บในอุณหภูมิต่ำ เพราะอาจสูญเสียรสชาติธรรมชาติและอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้

ต่อไปนี้คือผลไม้ 6 ชนิดที่ไม่ควรเก็บในตู้เย็นโดยเด็ดขาด

1. กล้วย

     กล้วยเป็นผลไม้เขตร้อนที่ไวต่ออุณหภูมิต่ำอย่างมาก เมื่อนำเข้าตู้เย็นจะทำให้เปลือกด้านนอกเปลี่ยนเป็นสีดำอย่างรวดเร็ว เนื้อกล้วยค่อย ๆ นิ่มเละและสูญเสียความหวานที่เป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในตู้เย็นอีกด้วย

วิธีที่ดีที่สุด คือ เก็บกล้วยไว้ในที่อากาศถ่ายเท หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง และบริโภคภายในไม่กี่วันหลังจากซื้อ

2. อะโวคาโด

     อะโวคาโดที่ยังไม่สุก ถ้านำไปเก็บในตู้เย็นจะหยุดกระบวนการสุกตามธรรมชาติ ทำให้เนื้อแข็งเป็นเส้นใยและรสชาติจืด

ในขณะที่อะโวคาโดสุกแล้ว ถ้าเก็บในช่องเย็นนานจะเน่าเสีย บุบและสูญเสียไขมันดีอย่างรวดเร็ว

ดังนั้นควรเก็บอะโวคาโดในอุณหภูมิห้องจนกว่าจะสุก แล้วจึงบริโภคทันทีหรือนำไปแปรรูป หากต้องการเก็บไว้นานควรปั่นให้ละเอียดแล้วเก็บในช่องแช่แข็ง

3. มะเขือเทศ

     หลายคนมักเก็บมะเขือเทศในตู้เย็น แต่นี่เป็นข้อผิดพลาดที่พบได้บ่อย เพราะในอุณหภูมิต่ำ ผลึกน้ำในมะเขือเทศจะถูกทำลาย ทำให้ผลเน่า นิ่มและเปลือกย่น รสชาติก็สูญเสียความหวานตามธรรมชาติ

นอกจากนี้มะเขือเทศเย็นเมื่อนำไปปรุงอาหารจะสร้างสีสันสวยงามในอาหารได้ยาก สถานที่เก็บที่เหมาะคือชั้นครัวที่อากาศถ่ายเทดี หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง

4. แอปเปิล

     แอปเปิลเมื่อเก็บในตู้เย็นเป็นเวลานานมักจะสูญเสียกลิ่นหอมและความกรอบ นอกจากนี้การศึกษาบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าแก๊สเอธิลีนที่แอปเปิลปล่อยออกมาในสภาพแวดล้อมปิดสามารถทำให้ผลไม้อื่นเสียเร็วขึ้น

ดังนั้นหากต้องการรักษาแอปเปิลให้สดใหม่อร่อย ควรวางไว้ในตะกร้าโปร่งในที่อากาศเย็น หากจำเป็นต้องเก็บไว้นาน ให้ใช้ถุงกระดาษและเก็บในช่องเย็นในระดับปานกลาง

5. มะละกอ

     มะละกอเป็นผลไม้ที่เปลี่ยนแปลงคุณภาพง่ายเมื่อเจอความเย็น การเก็บในตู้เย็นทำให้เอนไซม์ในผลทำงานผิดปกติ จึงสูญเสียรสชาติหวานเย็นที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่เพียงเท่านั้น มะละกอเย็นยังเน่านิ่มและสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการ โดยเฉพาะวิตามินซี

แทนที่จะเก็บในตู้เย็น ให้วางมะละกอไว้ในที่อากาศถ่ายเทจนสุกนิ่ม แล้วรับประทานทันทีเพื่อใช้ประโยชน์จากสารอาหารได้สูงสุด

6. มะม่วง

     มะม่วงก็อยู่ในกลุ่มผลไม้เขตร้อนที่ "ไม่ถูก" กับความเย็นอย่างมาก การเก็บมะม่วงในตู้เย็นทำให้เปลือกผลคล้ำดำ เนื้อจืด หรือแม้กระทั่งมีน้ำไหลออกมา นอกจากนี้ความเย็นยังป้องกันไม่ให้มะม่วงสุกสม่ำเสมอ ทำให้คุณภาพไม่เท่ากัน

วิธีที่ดีที่สุดคือปล่อยให้มะม่วงสุกตามธรรมชาติภายนอก หากรับประทานไม่หมดสามารถหั่นเป็นชิ้นเล็ก ห่อให้มิดชิด แล้วจึงเก็บในช่องแช่แข็ง

     ดังนั้นจงจำไว้ว่า ไม่ใช่อาหารทุกชนิดจะปลอดภัยในตู้เย็น การเก็บผลไม้ประเภทดังกล่าวข้างต้นผิดวิธีไม่เพียงแต่ทำให้รสชาติลดลง แต่ยังทำให้สูญเสียคุณค่าทางโภชนาการ หรือแม้กระทั่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อหากเก็บไว้นานเกินไป

     เพื่อให้ผลไม้สดใหม่อร่อยเสมอ ต้องเข้าใจลักษณะเฉพาะของแต่ละชนิดและเลือกวิธีการเก็บรักษาที่เหมาะสม การใส่ใจเล็กน้อยจะช่วยให้มื้ออาหารของครอบครัวทั้งอร่อยและปลอดภัยยิ่งขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_9932645?utm_source=msn_news&utm_medium=footer_click