“อรูปฌาน” แปลว่า “สมาธิที่ไม่อิงรูป”
เป็นภาวะที่จิตละเอียดจนไม่รับรู้ร่างกาย รูป เสียง กลิ่น รส หรือสัมผัสอีกต่อไป
อรูปฌาน 4 คือ ผู้มีจิตตั้งมั่นในสมาธิขั้นสูงสุด จนไม่มีร่างกาย ไม่อาศัยธาตุ ๔ (ดิน น้ำ ลม ไฟ) อีกต่อไป
มีแต่ “นามขันธ์” คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
ไม่มี “รูปขันธ์” แล้ว ประกอบไปด้วย
1.อากาสานัญจายตนะ คือ “ผู้เข้าถึงอากาศอันไม่สิ้นสุด” จิตรู้เฉพาะอวกาศกว้างไพศาล ไม่มีที่สิ้นสุด
2.วิญญาณัญจายตนะ คือ “ผู้เข้าถึงวิญญาณอันไม่สิ้นสุด” เห็นแต่กระแสจิตไร้ขอบเขต ไม่มีรูป ไม่มีที่อยู่
3. อากิญจัญญายตนะ คือ “ผู้เข้าถึงความไม่มีอะไรเลย“ จิตดับความรับรู้ทั้งสิ้น เหลือแต่ความว่าง
4. เนวสัญญานาสัญญายตนะ คือ “ผู้เข้าถึงสภาวะที่ไม่ใช่สัญญา และไม่ใช่ไม่สัญญา” ละเอียดสุดจนจิตอยู่กึ่งระหว่างมีและไม่มี
“อรูปฌานนั้นเหมือนจิตหลุดจากร่าง เหลือแต่ความรู้บริสุทธิ์ สว่างอยู่ในตัว”
เป็น ฐานให้เกิดปัญญาเห็นไตรลักษณ์ ได้ง่ายขึ้น
เพราะเมื่อจิตไม่ถูกรูปเสียงกลิ่นรสหลอก จิตจะเห็น “ความว่าง ความไม่มีตัวตน” ชัด เป็น ขั้นสุดท้ายของสมาธิฝ่ายโลกีย์ ก่อนเข้าสู่ “โลกุตรธรรม” ลดการยึดมั่นในร่างกาย ซึ่งเป็นก้าวแรกของการปล่อยอุปาทานขันธ์ ๕
“อรูปฌาน คือ สมาธิขั้นละเอียดสุดที่ดับรูปกาย เหลือเพียงจิตบริสุทธิ์ มีพลังแผ่ไปไร้ขอบเขต
เป็นฐานของปัญญาอันจะนำไปสู่นิพพาน
ผู้ถึงอรูปฌานจิตย่อมสงบ สว่าง เย็น และหลุดจากความทุกข์ทางโลกโดยสิ้นเชิง
“อรูปฌาน” แปลว่า “สมาธิที่ไม่อิงรูป”
เป็นภาวะที่จิตละเอียดจนไม่รับรู้ร่างกาย รูป เสียง กลิ่น รส หรือสัมผัสอีกต่อไป
อรูปฌาน 4 คือ ผู้มีจิตตั้งมั่นในสมาธิขั้นสูงสุด จนไม่มีร่างกาย ไม่อาศัยธาตุ ๔ (ดิน น้ำ ลม ไฟ) อีกต่อไป
มีแต่ “นามขันธ์” คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
ไม่มี “รูปขันธ์” แล้ว ประกอบไปด้วย
1.อากาสานัญจายตนะ คือ “ผู้เข้าถึงอากาศอันไม่สิ้นสุด” จิตรู้เฉพาะอวกาศกว้างไพศาล ไม่มีที่สิ้นสุด
2.วิญญาณัญจายตนะ คือ “ผู้เข้าถึงวิญญาณอันไม่สิ้นสุด” เห็นแต่กระแสจิตไร้ขอบเขต ไม่มีรูป ไม่มีที่อยู่
3. อากิญจัญญายตนะ คือ “ผู้เข้าถึงความไม่มีอะไรเลย“ จิตดับความรับรู้ทั้งสิ้น เหลือแต่ความว่าง
4. เนวสัญญานาสัญญายตนะ คือ “ผู้เข้าถึงสภาวะที่ไม่ใช่สัญญา และไม่ใช่ไม่สัญญา” ละเอียดสุดจนจิตอยู่กึ่งระหว่างมีและไม่มี
“อรูปฌานนั้นเหมือนจิตหลุดจากร่าง เหลือแต่ความรู้บริสุทธิ์ สว่างอยู่ในตัว”
เป็น ฐานให้เกิดปัญญาเห็นไตรลักษณ์ ได้ง่ายขึ้น
เพราะเมื่อจิตไม่ถูกรูปเสียงกลิ่นรสหลอก จิตจะเห็น “ความว่าง ความไม่มีตัวตน” ชัด เป็น ขั้นสุดท้ายของสมาธิฝ่ายโลกีย์ ก่อนเข้าสู่ “โลกุตรธรรม” ลดการยึดมั่นในร่างกาย ซึ่งเป็นก้าวแรกของการปล่อยอุปาทานขันธ์ ๕
“อรูปฌาน คือ สมาธิขั้นละเอียดสุดที่ดับรูปกาย เหลือเพียงจิตบริสุทธิ์ มีพลังแผ่ไปไร้ขอบเขต
เป็นฐานของปัญญาอันจะนำไปสู่นิพพาน
ผู้ถึงอรูปฌานจิตย่อมสงบ สว่าง เย็น และหลุดจากความทุกข์ทางโลกโดยสิ้นเชิง